ทัวร์ปากีสถาน อิสลามาบัด คาราโครัมไฮเวย์ เที่ยวปากีสถาน

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE764 : ทัวร์ปากีสถาน อิสลามาบัด คาราโครัมไฮเวย์ 12 วัน 10 คืน (TG)

DE764 : ทัวร์ปากีสถาน อิสลามาบัด คาราโครัมไฮเวย์ 12 วัน 10 คืน (TG)
Thai Airways (TG)

Darbar Hotel
Kalisto Hotel
Legend Hotel Skardu
Ramada by Wyndham Islamabad Hotel
Serai Silk Route Hotel
Shangrila Resort Murree

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1กรุงเทพฯ - อิสลามาบัด
16.00 น.

คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู4 หรือ 5 เคาน์เตอร์ การบินไทย พบเจ้าหน้าที่บริษัทคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน

หมายเหตุ : โปรดแสดงวัคซีนพาสปอร์ตหรือเอกสารการได้รับวัคซีน Covid 19 (International Vaccine Certificate) ขณะเช็คอิน 

19.00น. ออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ สู่กรุงอิสลามาบัด โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 349 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
22.10 น.

 เดินทางถึง อิสลามาบัด (Islamabad) เวลาท้องถิ่น (ช้ากว่าไทย 2 ชั่วโมง) หลังจากผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองตามเวลาท้องถิ่นปากีสถาน นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก

ที่พักRamada by Wyndham Islamabad Hotel โรงแรมระดับ 5 ดาวหรือเทียบเท่า ที่กรุงอิสลามาบัด
วันที่ 2อิสลามาบัด – ตักศิลา – เบชาม
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

 

นำท่านชม กรุงอิสลามาบัด (Islamabad) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศปากีสถาน มีพื้นที่ 802,900 ตร.กม. สร้างขึ้นในปี 1960 เพื่อเป็นเมืองหลวงของประเทศแทนนครการาจี โดยได้มีการวางแผนก่อสร้างอย่างเป็นระเบียบและรอบคอบ แบ่งเป็นสัดส่วนด้วยถนนสายต่างๆ เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศปากีสถานเป็นอันดับที่ 9

นำท่านชม มัสยิดไฟซาล (Fisal Mosque) เป็นจุดศูนย์กลางของเมืองอิสลามาบัด ชาวมุสลิมจะเข้ามาใช้เพื่อประกอบศาสนกิจ มัสยิดแห่งนี้เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 1987 สร้างโดยกษัตริย์ซาอุดิอาระเบีย King Faisal จึงนำพระนามของพระองค์ใช้เป็นชื่อมัสยิดแห่งนี้ มัสยิดไฟซาลสามารถจุจุคนได้ถึง 100,000 คน และบริเวณรอบนอกจุได้อีกกว่า 200,000 คน และมีเสามินาเร็ท (หอขาน) 4 ต้น ขนาบสี่มุม สูงต้นละ 79 เมตร (การเข้าชมควรแต่งกายสุภาพ มิดชิด ไม่ส่งเสียงดัง และก่อนถ่ายภาพควรขอขออนุญาตก่อนทุกครั้ง)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองตักศิลา (Taxila) ตั้งอยู่ในรัฐปันจาบของประเทศปากีสถาน ห่างจากเมืองหลวงไปโดยประมาณ 1 ชั่วโมง ปัจจุบันเหลือแต่ซากเมืองให้เห็นในเมืองมีสถานที่สำคัญคือพิพิธภัณฑ์ โบสถ์และเจดีย์อยู่เป็นจำนวนมาก องค์กรยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี 1980เมืองตักศิลายังมีชื่อเสียงในการที่เป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ศิลปะแบบคันธาระ ประติมากรรม สถาปัตยกรรม การศึกษา และพระพุทธศาสนา มีแหล่งโบราณคดีกว่า 50 แห่งกระจายอยู่ในบริเวณ 30 กม. รอบเมือง จุดชมเมืองที่สำคัญๆ นั้นแบ่งได้ดังนี้คือ พิพิธภัณฑ์ตักศิลา , เจดีย์ธรรมราสิกา,เมืองเก่าชีร์กัป, อารามจูเลี่ยน , เทวาลัยจันเดียล

ชม อารามจูเลี่ยน (Jaulian Monastery) ซึ่งรุ่งเรืองมากในช่วงปี ค.ศ. 2-5 เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง 92 เมตร เพื่อให้ห่างไกลจากการรบกวนของเรื่องวุ่นวายทางโลก เป็นวัดที่มีสภาพสมบูรณ์ที่สุดรอดจากการทำลายโดยพวกฮั่น ศิลปะคันธาระที่ต้องนำความเป็นกรีกเข้ามาผสมด้วยเสมอวัดจูเลี่ยนมี 2 ชั้น รายรอบด้วยกุฎิพระจำนวนมาก รวมถึงห้องสวดมนต์ ห้องเก็บเสบียง ห้องฉันอาหาร รวมถึงป้อมยาม

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

 

ชม พิพิธภัณฑ์ตักศิลา (Taxila Museum) ซึ่งเปิดในปี พ.ศ.2471 พิพิธภัณฑ์โบราณคดีตักศิลา สะท้อนถึงความรุ่มรวยอารยธรรมของเมืองโบราณแห่งนี้ด้วยการจัดแสดงวัตถุทางวัฒนธรรมที่ครอบคลุมช่วงเวลาตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาลจนถึงประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 6 (หรือในราวพุทธศตวรรษที่ 10-11) ซึ่งส่วนมากขุดพบในสมัยที่อังกฤษเป็นเจ้าอาณานิคมในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20

ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางไปยัง เมืองเบชาม (Basham)

ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำสินธุ เป็นทางแยกหลักบนทางหลวง Karakoram ที่เชื่อมต่อ Khyber Pakhtunkhwa และ Punjab กับ Gilgit-Baltistan ในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่อยู่ของฤาษีชาวพุทธจำนวนมาก รวมถึงชุมชนชาวฮินดู 

ค่ำนำท่านเข้าโรงแรมที่พัก รับประทานอาหารค่ำ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
ที่พัก โรงแรมระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า ในเมืองเบชาม 
วันที่ 3เบชาม – ชีราส – จุดชมวิว นันการ์ พาบัด – กิลกิต
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองชีราส (Chilas) ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขต Gilgit-Baltistan บนเส้นทางสายไหมที่เชื่อมต่อโดยทางหลวง Karakoram 

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น ที่เมืองชีราส

 

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองกิลกิต (Gilgit) ซึ่งเป็นเมืองสำคัญในอดีตเพราะเคยเป็นเมืองที่มีเส้นทางสายไหมตัดผ่านและเป็นเส้นทางเผยแพร่พุทธศาสนาไปยังเมืองต่าง ๆ ปัจจุบันกลายเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญไปตามทางหลวงโคราคารัม (KARAKORAM) ที่มีเส้นทางเชื่อมต่อไปยังเมืองสการ์ดู, เมืองจิตราล, เมืองเปศวาร์อิสลามาบัด และประเทศจีน เราจะเดินทางไปตามถนนหลวงคาราโครัม ท่านจะได้พบกับความสวยงามของแม่น้ำฮุนซ่ารวมถึงหมู่บ้านต่างๆ ริมทางขนานกับเส้นทางสายไหมเก่า (OLD SILK ROAD) ซึ่งในอดีตเป็นเส้นทางการค้าและวัฒนธรรม

ระหว่างทาง แวะถ่ายภาพจุดชมวิว นันการ์ พาบัด (Nanga Parbat) (8,125เมตร), ราคาโปชิ (Rakaposhi) (7,788เมตร) และ ฮาราโมช (Haramosh) (7,409เมตร) แวะถ่ายรูป ชมวิวสวยงามอลังการของจุดบรรจบของเทือกเขา 3 เทือกที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในโลก คือเทือกเขาฮินดูกูช เทือกเขาหิมาลัย และเทือกเขาคาราโครัม และยังเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำ 2 สาย คือ แม่น้ำกิลกิต (Gilgit River) และแม่น้ำสินธุไหลมาบรรจบกันก่อเกิดเป็นแม่น้ำสินธุ

ค่ำ นำท่านเข้าโรงแรมที่พัก รับประทานอาหารค่ำ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
พักที่Kalisto Hotel โรงแรมระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า ในเมืองกิลกิต 
วันที่ 4กิลกิต –พระพุทธรูปคาร์กาห์ – จุดชมวิวราคาโปชิ – ป้อมบัลทิต – ฮุนซ่า
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

 

นำท่านชม พระพุทธรูปคาร์กาห์ (Kargah Buddha) มรดกแห่งพุทธศาสนาที่ยังคงเหลืออยู่ใน “ปากีสถาน” พระพุทธรูปยืนถูกแกะสลักไว้บนหน้าผาในหุบเขาคาร์กาห์ ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 7 พระพุทธรูปมีลักษณะเป็นองค์พระยืน ในลักษณะแบบนูนต่ำ องค์พระมีความสูง 50 ฟุต ปรากฏเด่นอยู่บนหน้าผาหินตั้งชัน (จากจุดจอดรถจะต้องเดินเข้าไปประมาณ 15 นาที) นำท่านเดินชมตัวเมืองกิลกิต ผ่านย่านร้านค้า ตลาดพื้นเมืองสุเหร่า รวมทั้งสนามแข่งโปโล ซึ่งเป็นกีฬาที่นิยมมากในทางเหนือของปากีสถาน

อิสระช็อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึกที่ตลาดพื้นเมืองกิลกิต (Gilgit Bazaar)

จากนั้นนำท่านชม สะพานแขวนกิลกิต (Gilgit Suspension Bridge) ซึ่งเป็นสะพานแขวนในสมัยโบราณที่ยังคงใช้งานอยู่ในปัจจุบัน เป็นสะพานแขวนที่รถสามารถวิ่งผ่านได้ สร้างโดยกองทัพอังกฤษในช่วงค.ศ.ที่ 19

เที่ยง 

พาท่านแวะทานอาหารกลางวันที่จุดชมวิว ราคาโพชิ (Rakaposhi View Point) เป็นภูเขาที่ได้ฉายาว่า “ราชินีแห่งปากีสถาน” มีความสูงถึง7,788 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลและถูกจัดอันดับความสูงอยู่ในอันดับที่ 27 ของโลก ได้ชื่อว่าเป็นภูเขาหิมะที่สวยสง่างดงามมาก ทิวทัศน์ที่นี่สวยงามและตรึงตาตรึงใจ

จากนั้น นำท่านเข้าสู่ ฮุนซ่า (Hunza) ที่ได้ชื่อว่าเป็น ดินแดนที่มีประชากรอายุยืนยาวที่สุดในโลก เนื่องจากมีโอโซนในปริมาณสูง จากความมหัศจรรย์แห่งเทือกเขาหิมาลัย ทำให้อากาศบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก อีกทั้งโอโซนยังมีผลต่อพืชและผักที่ปลูกในบริเวณนี้ และวิถีแห่งธรรมชาติดั้งเดิมของชาวฮุนซ่า ทำให้ประชากรมีสุขภาพดี เมืองฮุนซ่า อยู่สูงจากระดับนํ้าทะเล 2,438 เมตร และมีพื้นที่ประมาณ 7,900 ตารางกิโลเมตร

เมืองคาริมาบัด (Karimabad) เป็นเมืองหลวงของฮุนซ่า บนเส้นทางคาราโครัม ในอดีตฮุนซ่าเป็นรัฐอิสระที่มีอำนาจปกครองตนเองเป็นเวลากว่า 900 ปี ชาวฮุนซ่าส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามนิกาย อิสไมลี่ (Ismaili) ภาษา Brushuski เป็นภาษาท้องถิ่นเฉพาะ พูดกันเฉพาะในเขตพื้นที่ฮุนซ่า

นำท่านนั่งรถจี๊บไปชม ป้อมปราการบัลทิต (Baltit Fort) ตั้งอยู่ในหุบเขาฮุนซ่าใกล้เมืองคาริมาบัดทางตอนเหนือของปากีสถาน โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 ป้อมปราการมีความเก่าแก่ถึง 700 ปี ในอดีตเคยเป็นพระราชวังหลวงที่มีสถาปัตยกรรมรูปแบบผสมผสาน ระหว่างแคชเมียร์กับทิเบต พระราชวังได้มีการปรับปรุงและต่อเติมในส่วนต่าง ๆ

หลังจากนั้น นำท่านสู่เมืองคาริมาบัดซึ่งอยู่ด้านล่างของป้อมบัลทิตชาวบ้านในเมืองนี้ส่วนใหญ่จะมีอาชีพปลูกผลไม้เมืองหนาวเช่น แอปเปิ้ล และแอปริคอท เนื่องจากอากาศในหุบเขาแห่งนี้จะมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี นำท่านกลับสู่เมืองฮุนซ่า

ค่ำ นำท่านเข้าโรงแรมที่พัก รับประทานอาหารค่ำ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
ที่พัก Darbar Hotel โรงแรมระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า ที่ดีที่สุดในเมืองฮุนซ่า
วันที่ 5ฮุนซ่า – จุดชมวิว เลดี้ ฟิงเกอร์ – ฮอปเปอร์ วัลเล่ย์ – พาสสุ – ทะเลสาบอัตตาบัท
เช้าตรู่นำท่านไปชมแสงแรกของวันที่ ยอดเขา เลดี้ ฟิงเกอร์ (Lady finger) หรือ ยอดเขาทะลุทะเลเมฆ ยอดเขารูปทรงประหลาด สะกดทุกสายตาที่ได้พบเห็น ให้ท่านได้เก็บภาพบรรยากาศแสงพระอาทิตย์กระทบยอดเขาหิมะ ชมทัศนียภาพของหมู่บ้านฮุนช่า ที่อยู่เบื้องล่าง สีชมพูขาว มีแม่นํ้าฮุนช่าขนาบรายล้อมด้วยยอดเขาสูงเสียดฟ้าตระหง่านโดยรอบ ณ จุดนี้ท่านจะได้เห็นยอดเขาที่มีรูปร่างโดดเด่นแปลกตา จนถูกขนานนามว่างามเหมือน นิ้วมือของหญิงสาว ที่เรียกว่า Lady finger รวมทั้งได้เห็นยอดเขาระดับโลกถึงห้าเขาด้วยกัน ทั้ง Rakaposhi (7788M), Diran (7265M), Golden Peak (7028M) ,Ulter Peak (7388M) และ Mountain Peak 
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

 

จากนั้น นำท่านนั่งรถจี๊ปเดินทางสู่ หุบเขานากา (Nagar Valley) ในฮอปเปอร์วัลเล่ย์ Hoper Valley หุบเขานากาเคยเป็นเมืองหลวงของอดีตรัฐนากา ในอดีตเคยเป็นรัฐที่ปกครองพื้นที่โดยรอบยาวนานถึง1,200 ปีจนกระทั่งล่มสลายลงใน ค.ศ.1974 เป็นสถานที่นิยมสำหรับชื่นชมทัศนียภาพของยอดเขาโดยรอบทั้งยอดเขา ราคาโปชิ Rakaposhi ยอดเขาดิราน Diran และอื่น ๆ กว่า 30 ยอดเขาและ Hoper Valley

นำท่านชม ธารน้ำแข็งฮอปเปอร์ (Hopper Glacier) เป็นธารน้ำแข็งที่มีความเก่าแก่จากการทับถมของหิมะที่มีมาอย่างยาวนาน จากหิมะจนกลายเป็นหิน

เที่ยง  

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านสู่ หมู่บ้านกานิช (Ganish Village) หมู่บ้านโบราณ ซึ่งในอดีตนั้นมีความเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นทางผ่านของเส้นทางสายไหมจึงทำให้คนจากหลายเมืองผ่านมาพักที่หมู่บ้านแห่งนี้ หมู่บ้านกานิชได้รับรางวัล Unesco’s Asia–Pacific Heritage Award ในฐานะเป็นหมู่บ้านที่อนุรักษ์ความเก่าแก่โบราณไว้ได้เป็นอย่างดี บ้านส่วนใหญ่สร้างด้วยหิน และดินเหนียวผสมซีเมนต์ ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้แบบดั้งเดิม

จากนั้น นำท่านชม ป้อมอัลติท (Altit Fort) เป็นป้อมปราการโบราณในหุบเขาฮุ่นซ่า เดิมเป็นบ้านของผู้ปกครองในตระกูล Hunza ซึ่งได้รับฉายาว่า Mir แม้ว่าพวกเขาจะย้ายไปอยู่ที่ป้อม Baltit ที่อายุน้อยกว่าในอีก 3 ศตวรรษต่อมา ผ่านชมหมู่บ้านอายุกว่า 1,000 ปี ชนเผ่าที่มีอายุยืนมากที่สุดในโลก ซึ่งถือได้ว่าเป็นชุมชนแรกๆ ในแคว้นกิลกิต- บัลติสถาน ลักษณะโดยทั่วไปจะเป็นคนผิวขาวมีในตาสีฟ้า หน้าคม เหมือนคนชาวยุโรป เพราะเป็นลูกหลานของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่กรีฑาทัพไปตีชมพูทวีป

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองพาสสุ (Passu) เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขา Gojal ตอนเหนือของฮุนซ่า บนทางหลวงคาราโครัม เมืองพาสสุเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในปากีสถานและทั่วโลก เนื่องจากมีภูมิประเทศที่สวยงามและเดินทางสะดวก

ระหว่างทาง ผ่านหุบเขาพาสสุ (Passu Valley) ท่านจะได้พบกับ Passu Cathedral หรือเทือกเขาพาสสุอันยิ่งใหญ่ตระการตา รับรองว่าภาพนี้จะถูกจดจำไปอีกนาน

 

นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือ เพื่อ นั่งเรือชมทะเลสาบอัตตาบัต (Attabad Lake) (จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที) ท่านจะได้ชมความงดงามของทะเลสาบสีฟ้าราวกับเทอร์ควอยซ์ตัดกับเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุม ทะเลสาบตั้งอยู่ในหุบเขาฮุนซ่า เกิดจากดินถล่มเพราะแผ่นดินไหวเมื่อปี 2010 ลงมาปิดกั้นการไหลของน้ำในแม่น้ำฮุนซ่าจึงเกิดเป็นทะเลสาบแห่งนี้ ทะเลสาบมีความยาว 21 กิโลเมตร และลึก 103 เมตร

ค่ำนำท่านเข้าโรงแรมที่พัก รับประทานอาหารค่ำ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
ที่พัก Serai Silk Route Hotel โรงแรมระดับ 3 ดาวหรือเทียบเท่า ที่ดีที่สุดในหมู่บ้านพาสสุ 
วันที่ 6พาสสุ – ช่องเขาคุนจีราบ – ฮุนซ่า
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

 

นำท่านเดินทาง ช่องเขาคุนจีราบ (Khunjerab Pass) ใส่เสื้อกันหนาวหนาๆ วันนี้เราจะขึ้นไปที่คุนจีราบพาส ความสูงระดับ 4,693 เมตร จากระดับน้ำทะเล.เป็นจุดยุทธศาสตร์บนพรมแดนตอนเหนือของประเทศปากีสถาน ตลอดเส้นทางเป็นเทือกเขาหิมะสลับซับซ้อนบรรยากาศราวสวิสเซอร์แลนด์

ช่องเขาคุนจีราบ (Khunjerab Pass) ตั้งอยู่ในช่วงเขตพรมแดนระหว่างปากีสถานและจีน จุดบรรจบแห่งอารยธรรมโบราณบนเส้นทางสายไหมที่เชื่อมเอเชียกลางสู่ยุโรป และสามารถพบเห็นสัตว์หายาก เช่นตัว Ibex หรือ แพะภูเขา Yak ที่อาศัยอยู่ตามไหล่เขาสูง และในบางพื้นที่ท่านจะได้พบกับ แกะพันธ์มาโคโปโล เป็นแกะพันธุ์ที่มีเขางอโค้งสวยงาม จนถึงจุดสุดท้ายที่ด่านพรมแดนที่สูงที่สุดในโลก เป็นจุดที่มีความสูงที่สุดของถนนหลวงลอยฟ้าคาราโครัมย์ไฮเวย์ ในสมัยก่อนเป็นเส้นทางสายไหมระหว่างประเทศจีน อินเดีย และอัฟกานิสถานเพื่อทำการค้าขาย ให้ทุกท่านเก็บภาพถ่ายวิวสวยๆกับ ชายแดนปากีสถาน – จีน สร้างประวัติศาสตร์ให้ตัวท่านเองว่าได้มายืนอยู่ ณ เส้นทางประวัติศาสตร์โลก ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับเมืองฮุนซ่า

(หมายเหตุ: การขึ้นสู่จุดด่านพรมแดนคุนจีราบขึ้นอยู่กับสภาพอากาศวันนั้นด้วยเช่นกัน บริษัทฯของสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนรายการตามความเหมาะสม)

เที่ยง 

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่นที่เมืองซอลส์ (Sust)

 

ระหว่างทาง นำท่านชม สะพานวัดใจ หรือ สะพานฮุซซานี (Hussaini Suspension Bridge) แห่งทะเลสาบบอริท สะพานแขวนมีอายุนับร้อยปีที่ใช้ข้ามแม่น้ำของคนท้องถิ่น ถูกจัดให้เป็นสะพานที่น่ากลัวที่สุดในโลก สะพานมีลักษะเป็นสะพานถูกขึงด้วยสลิงพาดด้วยไม้แบบห่างๆ ดังนั้นเวลาข้ามเราจะมองเห็นแม่น้ำที่ไหลอยู่ด้านล่าง ท่านสามารถวัดใจกับความเสียวในการทดลองข้ามสะพานแห่งนี้ได้

ชม ทะเลสาบบอริท (Borit Lake) ทะเลสาบน้ำจืดสีเขียวใสที่หลบซ่อนตัวอยู่อย่างสงบท่ามกลางหุบเขาสวย ผ่าน หมู่บ้านกุลมิท (Gulmit Village) นำท่านเดินชม หมู่บ้านเล็กๆ แล้วท่านจะประทับใจกับเสน่ห์ของพวกเขา อิสระให้ท่านถ่ายภาพและชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ใช้ชีวิตประจำวันบริเวณใกล้เคียง ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางต่อกลับสู่หุบเขาฮุนซ่า

ค่ำนำท่านเข้าโรงแรมที่พัก รับประทานอาหารค่ำ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
ที่พัก Darbar Hotel โรงแรมระดับ 3 ดาวหรือเทียบเท่า ที่ดีที่สุดในเมืองฮุนซ่า 
วันที่ 7ฮุนซ่า – สการ์ดู – ทะเลสาบแชงการีล่า 
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

 

นำท่านเดินทางสู่ เมืองสการ์ดู (Skardu) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและศูนย์กลางของนักท่องเที่ยวที่นิยมปีนเขาเดินป่าในภาคเหนือของปากีสถาน มีภูเขาที่มีความสูงเกินกว่า 8,000 เมตรถึง14 ยอด รวมถึงยอดเขา K2 ที่สูงเป็นอันดับสองของโลกที่ความสูง 8,611 เมตร รองจากยอดเขาเอเวอร์เรสต์ (สูง 8,840 เมตร) จึงเป็นที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวและนักปีนเขาจากทั่วโลก ฤดูท่องเที่ยวหลักเริ่มต้นระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม

ระหว่างทาง ท่านจะตื่นตาตื่นใจกับทิวทัศน์สองข้างทางที่สวยงาม โอบล้อมด้วยขุนเขาปกคลุมด้วยหิมะตระการตา ผ่านทุ่งหญ้าที่มีต้นเชอรี่บานอยู่ตามหุบเขา เพลิดเพลินจนหลับไม่ลงทีเดียว

เที่ยง 

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

 

นำท่านเยือน ทะเลสาบแชงกรีลา (Shangrila) ห่างจากสการ์ดูประมาณ 32 กม. ทะเลสาบแชง กรีลาเงียบสงบส่องประกายระยิบระยับ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ทะเลสาบคาชูรา (Kachura lake) ซึ่งเต็มไปด้วยปลาเทราต์สีน้ำตาล ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้จะผลิดอกหลากสีสันประดับประดาริมฝั่ง ในขณะที่ต้นพีช แอปริคอท และต้นแอปเปิลจะบานสะพรั่งในเดือนเมษายน และในฤดูร้อนจะได้ชิมแอปเปิลซึ่งมีรสชาติอร่อยหลากหลาย

ค่ำนำท่านเข้าโรงแรมที่พัก รับประทานอาหารค่ำ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
ที่พัก

Legend Hotel Skardu โรงแรมระดับ 3 ดาวหรือเทียบเท่าในเมืองสการ์ดู

วันที่ 8สการ์ดู – น้ำตกมันโทคา – ป้อมชิกาห์ – สการ์ดู 
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

 

นำท่านไปชม น้ำตกมันโทคา (Manthokha) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ยาวที่สุดในปากีสถาน ตั้งอยู่ในหุบเขาคาร์มัง เมืองสการ์ดู ทางตอนเหนือสุดของปากีสถาน น้ำตกนี้สูงจากพื้นดินประมาณ 180 ฟุต และอยู่ห่างจากตัวเมืองสการ์ดูเกือบ 80 กิโลเมตร เป็นสถานที่ลึกลับที่สวยงามในท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวขจี สายน้ำไหลเชี่ยวกราก ภูเขาหินที่สูงตระหง่านของคาราโครัม ท่านจะตื่นตะลึงและสดชื่นกับธรรมชาติที่งดงามหาดูยาก อิสระให้ท่านเล่นน้ำและเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านชิกาห์

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

 

นำท่านชม ป้อมชิกาห์ (Shigar Fort Palace) สร้างขึ้นโดย ข่าน ฮัสซันที่ปกครองในช่วงต้นศตวรรษที่17 สร้างอยู่บนเนินที่สูง 5 เมตรจากพื้นดินและส่วนหนึ่งล้อมรอบด้วยหินรูปทรงกรวยขนาดยักษ์ (จึงเป็นที่มาของชื่อ Fong-Khar หรือ “Palace on Rock”) ส่วนที่เป็นโครงสร้างเก่าแก่ที่สุดมีอายุกว่า 400 ปี ชมห้องโถงใหญ่ ห้องพักอาศัยที่ได้รับการบูรณะโครงสร้างให้ยังคงเป็น สถาปัตยกรรมแบบเดิมให้มากที่สุด

จากนั้น นำท่านเดินเล่นในหมู่บ้านชิกาห์ ให้ท่านได้ชื่นชมดอกไม้นานาพันธุ์ที่แข่งกันผลิบาน อาทิ แอปริคอต, เชอรี่, อัลมอลล์ ที่บานสะพรั่งสวยงามในหมู่บ้านและหุบเขา

 

ได้เวลาสมควร นำท่านกลับโรงแรมที่พัก

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
ที่พักLegend Hotel Skardu โรงแรมระดับ 3 ดาวหรือเทียบเท่าในเมืองสการ์ดู
วันที่ 9สการ์ดู – ทะเลสาบแซตพารา – ทุ่งหญ้าดิโอซาย – สการ์ดู
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

 

นำท่านชม ทะเลสาบแซตพารา (Satpara Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาบหลักของหุบเขาสการ์ดู เป็นแหล่งกักเก็บน้ำสำหรับเมือง และมีชื่อเสียงในเรื่องเป็นหนึ่งในทะเลสาบงดงามที่สุดในปากีสถาน และเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ทุ่งหญ้าดิโอซาย (Deosai Plain) ในอุทยานแห่งชาติดิโอซาย (Deosai National Park) เป็นที่ราบสูงที่มีความสูงเฉลี่ย 4,114 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้เป็นที่ราบสูงที่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากที่ราบสูงทิเบตฉางถัง อุทยานแห่งชาตินี้ครอบคลุมพื้นที่ 843 ตร.กม. เป็นแหล่งของพืชและสัตว์ที่อุดมสมบูรณ์ในเชิงนิเวศของที่ราบสูงอัลไพน์ 

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน แบบกล่อง ในท่ามกลางธรรมชาติของทุ่งหญ้าดิโอซาย

อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย เก็บภาพสวยงามท่ามกลางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ สูดโอโซนให้ชื่นใจเต็มปอด ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางกลับโรงแรมที่พัก

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
ที่พักLegend Hotel Skardu โรงแรมระดับ 3 ดาวหรือเทียบเท่าในเมืองสการ์ดู
วันที่ 10สการ์ดู – อิสลามาบัด – มูร์รี
เช้า

รับประทานอาหารเช้า แบบกล่อง

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อขึ้นเครื่องไปยัง เมืองอิสลามาบัด เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านก่อนขึ้นเครื่อง

08.45 น.ออกเดินทางสู่ เมืองอิสลามบัด โดย ปากีสถาน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ PK606
09.50 น. 

เดินทางถึงเมืองอิสลามาบัด

 

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมูร์รี (Murree) เป็นเมืองตากอากาศบนภูเขา ตั้งอยู่ในภูมิภาค Galyat ของเทือกเขา Pir Panjal เป็นเขตชานเมืองของเมืองหลวงอิสลามาบัด-ราวัลปินดี อยู่ห่างจากอิสลามาบัดไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 30 กม. มีความสูงเฉลี่ย 2,291 เมตร ชาวอังกฤษสร้างเมืองนี้ระหว่างการปกครองเพื่อหนีความร้อนที่แผดเผาในที่ราบปัญจาบในช่วงฤดูร้อน การก่อสร้างเมืองเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2394 บนเนินเขามูรี (Murree Hill) เพื่อใช้เป็นสถานที่พักฟื้นสำหรับกองทหารอังกฤษ

นำท่านชม โบสถ์มูร์รี โฮลี่ ทรินิตี้ (Murree Holy Trinity Church) ตั้งอยู่ในเมืองมูร์รี ก่อสร้างโดยชาวอังกฤษในปี พ.ศ. 2391 เมื่อฝ่ายบริหารของอังกฤษเข้ายึดครองรัฐปัญจาบ สร้างเสร็จภายใน 7 ปีต่อมา โบสถ์แห่งนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของสถาปัตยกรรมโกธิคที่มีการดัดแปลงผสมผสานกับศิลปะท้องถิ่น เดิมเป็นอาคารอิฐสีแดง และในระหว่างการบูรณะจึงใช้อิฐสีเทา เครื่องเรือนในโบสถ์ ในปี พ.ศ. 2540 สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้เสด็จมาเยี่ยมเยียนและอธิษฐานที่นี่เช่นกัน

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

 

นำท่านเดินทางสู่ เมืองนาเทียกาลี (Nathiagali) ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ใจกลางเทือกเขา Galyat ในเขต Abbottabad ของรัฐไคเบอร์ ปัคตูนควา เป็นที่รู้จักจากทัศนียภาพอันงดงาม และสภาพอากาศที่เย็นสบาย เนื่องจากอยู่บนระดับความสูงที่สูงกว่า ตั้งอยู่ห่างจากทั้ง Murree และ Abbottabad ประมาณ 32 กิโลเมตร

นำท่านชม โบสถ์เซนต์แมทธิว (St. Matthew’s Church / Nathiagali Church) เป็นโบสถ์ที่ตั้งอยู่ในเมืองนาเทียกาลี โบสถ์แห่งนี้ได้รับการดูแลโดยครอบครัวมุสลิมเป็นเวลาสามชั่วอายุคน สร้างด้วยไม้ซีดาร์ทั้งหลัง ในปี พ.ศ. 2457 ออกแบบโดยพันเอกโฮป แวดเดลล์ เคลซอลล์ (Colonel Hope Waddell Kelsall)

อิสระให้ท่านช๊อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึก และผลไม้สด ที่ ตลาดพื้นเมือง Nathiagali Bazaar ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางกลับเมืองมูร์รี

ค่ำ​นำท่านเข้าโรงแรมที่พัก รับประทานอาหารค่ำ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
ที่พัก

Shangrila Resort Murree โรงแรมระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่าที่ดีที่สุด ในเมืองมูร์รี


***ในกรณีที่เที่ยวบินภายในยกเลิก จะนำท่านนั่งรถกลับมาตามเส้นทางคาราโครัม และพักที่เมืองบารากอต*** 

วันที่ 11มูร์รี – อิสลามาบัท – กรุงเทพฯ
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

 

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสลามาบัท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.

นำท่านไปยัง อนุสาวรีย์ปากีสถาน (Pakistan Monument) เป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติและพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาชาการ์ปาเรียนทางตะวันตก ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีของชาวปากีสถาน อนุสาวรีย์นั้นถูกสร้างให้เหมือนรูปกลีบดอกไม้สี่กลีบ สร้างขึ้นจากหินแกรนิต โดยแต่ละกลีบนั้นเป็นตัวแทนแคว้นสำคัญของปากีสถานทั้ง 4 แห่งได้แก่ แคว้นบาลูจิสถาน,แคว้นสินธ์,แคว้นปัญจาบ และแคว้นไคเบอร์ปัคตูนควา โดยแต่ละกลีบจะมีภาพแกะสลักของ สถานที่สำคัญของประเทศทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ มัสยิดแบดชาฮิ, ป้อมเมืองลาฮอร์, ช่องเขาไคเบอร์ และมินาร์ เอ ปากีสถาน ในใจกลางของอนุสาวรีย์จะมีประติมากรรมรูปสามเหลี่ยมที่มีฐานเป็นดาวห้าแฉก ล้อมรอบไปด้วยน้ำ ที่แสดงถึงบุคคลสำคัญอย่าง มูฮัมหมัด อาลี จินนาห์ บิดาแห่งปากีสถานและมูฮัมมัด อิกบาล กวีและนักปรัชญาที่มีชื่อเสียงแห่งปากีสถาน ซึ่งดวงดาวและพระจันทร์ยังเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลามอีกด้วย

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

 

นำท่านชม พิพิธภัณฑ์มรดกพื้นบ้าน (Folk Heritage Museum) หรือที่รู้จักในชื่อ Lok Virsa Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่บริหารและจัดการโดย Lok Virsa – สถาบันมรดกพื้นบ้านและประเพณีแห่งชาติ เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในอิสลามาบัด ตั้งอยู่บนเนินเขาชาการ์ปาเรียน จัดแสดงวัฒนธรรมที่มีชีวิตของปากีสถาน พิพิธภัณฑ์เปิดในปีค.ศ. 1974 พิพิธภัณฑ์ประกอบด้วยอาคารหลายหลังรวมถึงพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่สามารถรองรับผู้เข้าชมได้ถึง 3,000 คน

เย็น

รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติ อิสลามาบัต เพื่อเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ

23.20 น.ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG-350
วันที่ 12กรุงเทพฯ
06.25น. ​เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

เงื่อนไขในการจอง

1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ โดยสายการบิน TG ชั้นประหยัด

2. ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง

3. ค่าห้องพักในโรงแรมระดับ 3-4 ดาว ตามที่ระบุในรายการหรือระดับเดียวกัน รวมทั้งสิ้น 9 คืน

4. ค่าอาหารทุกมื้อที่ระบุตามรายการพร้อมน้ำดื่มระหว่างมื้อ และระหว่างวัน 2 ขวด ต่อวัน

5. ค่าบัตรเข้าชมสถานที่และการแสดงทุกแห่งที่ระบุตามรายการ

6. ไกด์ท้องถิ่นประเทศปากีสถานภาษาอังกฤษ และหัวหน้าทัวร์ไทยในกรณีผู้เดินทาง 14 ท่านขึ้นไป

7. ค่าวีซ่านักท่องเที่ยว

8. ค่าประกันอุบัติเหตุแบบหมู่คณะรายละเอียดกรรมธรรม์

1. ค่าจัดทำหนังสือเดินทาง

2. ภาษีต่าง ๆ เช่น ภาษี 7% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% ฯลฯ

3. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ

4. ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษ

5. ค่าทิปขี่ม้า, ค่าขี่ลา, ขี่อูฐ, รถม้า ฯลฯ , ค่าทิปรถม้าที่เมืองเพตรา และค่าทิปคนขับรถในทะเลทรายวาดิรัม

6. ค่าทิปไกด์ 3USD/ ท่าน/วัน และพนักงานขับรถโดยเฉลี่ย 2USD/ท่าน/ วัน คือ ทั้งทริปจำนวน 5 USDX10 วัน =50 USD สำหรับหัวหน้าทัวร์ไทยทิปตามความพอใจ (วันละ3USDขึ้นต่ำ) X 12 วัน

1.จองพร้อมชำระงวดแรก 40,000 บาท / ท่าน และส่งมอบเอกสารการเตรียมการยื่นขอวีซ่าตามที่กำหนด

2.ส่วนที่เหลือชำระภายใน 3 สัปดาห์ ก่อนเดินทาง หรือตามวันกำหนดที่ระบุในใบยืนยันการจองทัวร์

3.กรณียกเลิกทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์หักเงินตามค่าบริการและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามจริง

- หนังสือเดินทาง ต้องมีอายุเหลือการใช้งานอย่างน้อย 6 เดือน นับจากวันเดินทาง และต้องมีหน้าว่างเหลือสำหรับประทับตราวีซ่า และตราประทับเข้า-ออกอย่างน้อย 2 หน้าเต็ม สแกนหรือถ่ายรูปส่งทางอีเมล์หรือส่งทางไลน์

-รูปถ่ายพี้นหลังสีขาวชัดเจน

-ประวัติส่วนตัว เช่น การศีกษา / ชื่อบิดา-มารดา / กรุ๊ปเลือด / ที่อยู่ในไทย

1.ในกรณีที่ไม่ครบ 14 ท่าน จะไม่มีหัวหน้าทัวร์เดินทางด้วย หรือปรับราคาขึ้นตามผู้เดินทางจริง

2.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้และจะไม่รับผิดชอบใดๆในกรณีที่สูญหาย สูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บที่นอกเหนือความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์และเหตุสุดวิสัยบางประการ เช่น การนัดหยุดงาน ภัยธรรมชาติ การจลาจล ต่างๆ

3.เนื่องจากรายการทัวร์นี้เป็นแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จ หากท่านสละสิทธิ์การใช้บริการใดๆตามรายการ หรือ ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี

4. กรณียกเลิกการเดินทางภายหลังจากได้วีซ่าแล้ว ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการแจ้งสถานทูตฯเพื่อให้อยู่ในดุลพินิจของสถานทูตฯ เรื่องวีซ่าของท่าน เนื่องจากการขอวีซ่าในแต่ละประเทศจะถูกบันทึกไว้เป็นสถิติในนามของบริษัทฯ เมื่อท่านได้ชำระเงินมัดจำหรือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของบริษัทฯ หรือชำระโดยตรง ทางบริษัทฯ จะขอถือว่าท่านรับทราบและยอมรับในเงื่อนไขต่างๆของเอกสารวีซ่า

5.กำหนดการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เพื่อความเหมาะสม ทั้งนี้ทางบริษัทฯ จะยึดถือผลประโยชน์ ตลอดจนความปลอดภัยของคณะผู้เดินทางเป็นสำคัญ

6. หากสายการบินมีการยกเลิกเที่ยวบินหรือหากมีเหตุการณ์ประการใดที่เกิดขึ้นจากสายการบินทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์หน้างานที่เกิดขึ้นจริง

7. หากสายการบินมีการยกเลิกเที่ยวบิน, เที่ยวบินล่าช้า หรือหากมีเหตุการณ์ประการใดที่เกิดขึ้นจากสายการบิน ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบกับท่านผู้มีบินเที่ยวภายในประเทศ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นใดๆ

7. ในกรณีที่ผลตรวจเป็นติดเชื้อโควิด ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกิดขึ้น

8. ตั๋วกรุ๊ปไม่สามารถระบุที่นั่งได้ กรณีขอที่นั่งพิเศษ บริษัทฯจะทำการขอที่กับทางสายการบินให้ ทั้งนี้บริษัทฯไม่ยืนยันจะได้ตามคำขอซึ่งขึ้นอยู่กับสายการบินและจำนวนที่นั่งผู้โดยสารในแต่ละเที่ยวบิน


Address

53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240

จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566099-191-9288 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy