ทัวร์ยุโรป เนเธอร์แลนด์ เทศกาลดอกไม้เคอเคนฮอฟ 2567/2024 เที่ยวยุโรป

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE597 : ทัวร์ยุโรป ฝรั่งเศส เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี เทศกาลดอกไม้เคอเคนฮอฟ 9 วัน 6 คืน (TG)

DE597 : ทัวร์ยุโรป ฝรั่งเศส เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี เทศกาลดอกไม้เคอเคนฮอฟ 9 วัน 6 คืน (TG)
Thai Airways (TG)

HOLIDAY INN LILLE OUEST ENGLOS
HOLIDAY INN PORTE DE CLICHY
HUSA PRESIDENT PARK
MERCURE AMSTERDAM

 

รายละเอียดการเดินทาง

11 เม.ย. 62กรุงเทพ 
21.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เชคอิน D (แถว D) ประตูทางเข้าที่ 1- 4 อาคารผู้โดยสาร สายการบินไทย ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
12 เม.ย.62ปารีส 
00.05 น.

ออกเดินทางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดย สายการบินไทย เที่ยวบิน TG930 (ใช้เวลาบินประมาณ 12 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์และจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง ทั้งนี้สายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำ และอาหารเช้า บนเครื่องบิน

07.05 น.

เดินทางถึง สนามบินชาลส์เดอโกว์ (CDG) นครปารีส ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ มหาวิหารนอร์เทอร์ดาม (Notre Dame Cathedral) โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีอายุกว่า 800 ปี ตั้งอยู่บนเกาะอิลเดอลาซิเต้ ซึ่งตั้งอยู่กลางแม่น้ำแซนต์ สร้างขึ้นในราวปลายคริสต์ศตวรรษที่ 11 ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 ของฝรั่งเศส เป็นมหาวิหารเด่นกลางแม่น้ำแซนต์ภายในวิหารหลังใหญ่ประดับด้วยความสวยงามของกระจกสี บ่งบอกเรื่องราวของพระคริสต์การแสวงหาและการต่อสู้เพื่อการไถ่บาปให้แก่มวลมนุษย์ อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่บริเวณ จตุรัสทรอคาเดโร ซึ่งเป็นจุดชมหอไอเฟลที่สวยที่สุด สัญลักษณ์ของนครหลวงปารีส หอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนชองป์เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส หอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจกับหอไอเฟลตามอัธยาศัย

จากนั้นจากนั้นนำท่านสู่ ย่านถนนแฟชั่นชั้นนำของปารีส ถนนชองป์ส เอลิเซ่ส์ (Champs Elysee) ย่านการค้าที่ประกอบด้วยโรงละคร คาเฟ่ และร้านค้าหรูหรา สองข้างทางมีต้นเชสต์นัตที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงาม และปลูกเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ทำให้กลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมา ถนนสายนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลก (The most beautiful avenue in the world) ท่านสามารถเดินตามเส้นทางถนนสายนี้ไปสู่ประตูชัยนโปเลียนซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญในกรุงปารีส อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย 

นำท่านเข้าชม พระราชวังแวร์ซายส์ (Verseille Palace) อันเป็นพระราชวังหลวงแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่งของโลก เดิมทีเป็นพระตำหนักของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ช่วงปี ค.ศ.1682 ซึ่งภายหลังมีการบูรณะก่อสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวทั้งหมดจนเปลี่ยนเป็นพระราชวังที่มีความอลังการและสวยงาม โดยใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้นราว 30 ปี ด้วยงบประมาณกว่า 500 ล้านฟรังก์ แต่งเติมด้วยงานสถาปัตยกรรมชั้นยอด ทั้งรูปปั้น งานแกะสลัก ตลอดจนการจัดเรียงเฟอร์นิเจอร์และรูปวาดต่างๆได้อย่างลงตัวและประณีต พระราชวังแวร์ซายส์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO เมื่อปี ค.ศ.1979 และปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมราว 7.7 ล้านคนต่อปี

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก HOLIDAY INN PORTE DE CLICHY / MERCURE VELIZY **** หรือเทียบเท่า
13 เม.ย.62อามีแย็งส์ - ลีลล์ 
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอามีแย็งส์ (Amiens) (ระยะทาง 155 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ช.ม.) เมืองหลวงของแคว้นปีการ์ดี ดินแดนแห่งชนเผ่าฟร็องก์ ชนเผ่าที่สำคัญของประเทศฝรั่งเศสโบราณนั่นเอง และยังเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยศิลปะต่างๆ รวมไปถึงมหาวิหารโกธิคที่งดงามมากแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ มหาวิหารโนเทรอดามแห่งอามีแย็ง หรือที่เรียกกันว่า มหาวิหาร   อามีแย็งส์ (Amiens Cathedral) มหาวิหารที่สร้างในสไตล์โกธิคแบบคลาสสิค ที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 13 ภายใน มหาวิหารได้รับการตกแต่งอย่างอลังการ ตื่นตาไปกับความกลมกลืนของผังอาคาร ความงามของรูปด้านภายในที่ทำเป็น ๓ ชั้น และความงามพิเศษของประติมากรรมบนผนังด้านหน้าอาคารและปีกทิศใต้ นอกจากนี้ยังมีหอระฆังที่ตกแต่งด้วยประติมากรรมหินแกะสลักอย่างงดงาม มหาวิหารแห่งนี้ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1981

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองลีลล์ (Lille) (ระยะทาง 122 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ช.ม.) เมืองที่อยู่ใกล้พรมแดนระหว่างประเทศเบลเยี่ยมและประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศฝรั่งเศส รองจากปารีส, ลียง, และมาร์กเซย์

นำท่านชม จตุรัสกรองด์ปลาซ (Grand Place of Lille) อีกหนึ่งย่านเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งลีลล์ (Palais des Beaux Arts) หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศฝรั่งเศส และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งด้วย โดยสร้างขึ้นสมัยนโปเลียนที่ 1 ช่วงศตวรรษที่ 19 เพื่อเก็บสะสมงานศิลปะอันล้ำค่าจากโบสถ์ต่างๆในฝรั่งเศสในช่วงกลียุคเพื่อป้องกันการเสียหายของงานศิลปะเหล่านั้น

จากนั้นนำท่านผ่านชม ความงานภายนอกของ โบสถ์แซงต์มอริสแห่งลีลล์ (Eglise Saint Maurice) โบสถ์ร่วมสมัยกลางใจกลางเมืองลีลล์ที่ใช้เวลาก่อสร้างร่วม 500 ปี นับแต่ศตวรรษที่ 14 จนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี ค.ศ.1914

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก HOLIDAY INN LILLE OUEST ENGLOS **** หรือเทียบเท่า
14 เม.ย.62บรูจส์ - เกนท์ - บรัสเซลล์
เช้า 

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองบรูจส์ (Bruges) (ระยะทาง 77 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ช.ม.)  เมืองที่ได้รับการรับรองขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2000 เมืองบรูจจ์เป็นเมืองริมชายฝั่งทะเลที่โด่งดังเมืองหนึ่งของประเทศเบลเยี่ยม เมืองนี้ถูกล้อมรอบด้วยคูเมืองถึงสองชั้น ซึ่งเป็นการป้องกันข้าศึกศัตรูในสมัยก่อน ปัจจุบันบ้านเรือน, อาคาร, และโบสถ์ยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเดิมคือสถาปัตยกรรมเฟลมมิชและเรเนซองส์ที่ดูวิจิตรสวยงามดุจดั่งมนต์ขลังตึกรามบ้านช่องดูเป็นระเบียบ ถนนหนทางก็ดูสะอาดตา

นำท่านเดินชม จัตุรัสใจกลางเมือง (Burg Square) หอระฆังเก่าแก่ ที่มีประวัติอันยาวนาน และมีประติมากรรมที่งดงาม อิสระให้ท่านเก็บภาพเมืองที่มีสีสันและความสวยงามตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ The Basilica of the Holy Blood ซึ่งเป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 12 โบสถ์แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบรูจส์

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเกนท์ (Ghent) (ระยะทาง 56 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ช.ม.) เมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นเมืองหลวงของจังหวัดในฟลานเดอร์สตะวันออก ในบริเวณเฟล็มมิชในเบลเยี่ยม  เดิมตัวเมืองเริ่มจากการตั้งถิ่นฐานที่ปากแม่น้ำเชลดท์และแม่น้ำลิส ในยุคกลาง เกนท์ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมั่งคั่งที่สุดในตอนเหนือของยุโรป 

นำท่านแวะถ่ายรูปกับอาคารบ้านเรือนสีสันหลากหลายที่รายล้อมรอบจัตุรัสใจกลางเมือง

นำท่านถ่ายรูปกับ ศาลาว่าการเมือง และกลุ่มอาคารบ้านเรือนที่สร้างเรียบริมคลอง บ่งบอกถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองเกนท์

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ มหาวิหารเซนต์ บราโว (St. Bravo Cathedral) สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชาร์ลส ที่ 5 เป็นศิลปะแบบโกธิค ภายในมหาวิหารประดับประดาด้วยกระจกสีและแท่นบูชารวมไปถึงงานจิตรกรรมและประติมากรรมที่มีค่าหลายชิ้น ทั้งผลงานประติมากรรมหินอ่อนแบบบาโรค และธรรมาสน์หรือแท่นสำหรับเทศนาสั่งสอนของนักบวช ศิลปะแบบร็อกโคโค่ งดงามมาก

จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ ปราสาท กราเวนสตีน (Gravensteen) หนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญใจกลางเมืองเกนท์ ปราสาทหินที่มีความสวยงาม ตั้งอยู่ริมคลองใจกลางเมือง สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1180 โดยเคาน์ทฟิลลิปแห่งแคว้นอัลซาส เพื่อเป็นที่พำนักของเหล่าอัศวินในช่วงสงครามครูเซด ต่อมาถูกซื้อขึ้นโดยสภาเมืองเกนท์ และถูกแปลงเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ประจำเมืองในที่สุด

ได้เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงบรัสเซลส์ (Brussels) (ระยะทาง 57 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ช.ม.) เมืองหลวงของเบลเยี่ยม และยังเป็นศูนย์กลางด้านการเมืองนานาชาติแห่งสหภาพยุโรป อีกทั้งยังเป็นศูนย์บัญชาการกลางขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO อีกด้วย

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ จตุรัสกรองด์ปลาซ (Grand Place of Brussels) ถือเป็นหัวใจสำคัญของเมืองบรัสเซลส์ (Brussels) ซึ่งชาวเบลเยี่ยมยกย่องให้ว่าเป็น จตุรัสที่งดงามที่สุดในโลก เป็นกลุ่มอาคารที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมทั้งบาโรก โกธิค นีโอ-โกธิค และเป็นสถานที่ซึ่งองค์กรยูเนสโก้ยกย่องให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี ค.ศ.1983

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ แมนเนคิน พิส (Manneken Pis) หรือหนูน้อยยืนฉี่ คือ น้ำพุเล็กๆที่ตั้งอยู่ตรงหัวมุมตึกร้านขายช็อกโกแลต มีรูปปั้นทองแดงของเด็กผู้ชายกำลังยืนฉี่ พ่นเป็นสายน้ำพุออกมา หน้าตาสบายอกสบายใจ ตำนานมีอยู่ว่า เมื่อครั้งที่กรุงบรัสเซลส์ยังตกอยู่ในการทำสงคราม และถูกฝ่ายตรงข้ามแอบนำระเบิดมาวางไว้ที่กำแพงเมือง เพื่อการโจมตี แต่มีเด็กน้อยนามว่า จูเลียนสกี (Julianske) ไปพบสายชนวนระเบิดที่กำลังติดไฟ จึงปัสสาวะรดทำให้สามารถป้องกันเมืองบรัสเซลส์ทั้งเมืองไว้ได้ ชาวเมืองจึงแกะสลักรูปปั้นไว้เพื่อเป็นตัวแทนในการยกย่องและระลึกถึงความกล้าหาญ อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความสวยงามตามอัธยาศัยหรือจะเลือกซื้อชอคโกเลตอันเลื่องชื่อแห่งบรัสเซลส์

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก 

GRESHAM BELSON /OR RAMADA BRUSSELS WOLUWE **** หรือเทียบเท่า

***หากโรงแรมไม่สามารถรองรับคณะได้เนื่องจากติดงาน Trade Fair บริษัทจะจัดโรงแรมที่เมืองใกล้เคียงให้แทน*** 

15 เม.ย. 62รอตเตอร์ดัม - สวนดอกไม้เคอเคนฮอฟ - อัมสเตอร์ดัม
เช้า 

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองรอตเทอร์ดาม (Rotterdam) (ระยะทาง 142 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ช.ม.)  เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมาส นับเป็นเมืองท่าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งมีความยาวของพื้นที่เทียบท่าเรือยาวถึง 40 กิโลเมตร รอตเทอร์ดามมีลักษณะต่างจากเมืองอื่นๆในเนเธอร์แลนด์คือเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมยุคใหม่ และในปี ค.ศ. 2007 ได้รับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็น "เมืองแห่งสถาปัตยกรรม"

นำท่านเข้าชม บ้านลูกเต๋า ไคก์คูมูส (Kijk Kubus The Cubic Houses)  กลุ่มอาคารเหลืองขาวทรงลูกเต๋า  39 หลัง ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศการออกแบบสาขาประหยัดพลังงานโดยสถาปนิกนาม Piet Bloem  แวะถ่ายรูปกับ สะพานขาว อีราสมูส (Erasmus Bridge) และสะพานแดง วิลเลมส์บรูก์ (Willems Bridge) สองในสามสะพานซึ่งเชื่อมเมืองสองฝั่งที่ถูกคั่นกลางด้วยแม่น้ำมาสเข้าด้วยกัน แวะถ่ายรูปกับ  ศาลาว่าการประจำเมืองรอตเทอร์ดาม (City Hall of Rotterdam) อาคารซึ่งรอดพ้นจากการโดนถล่มเมืองโดยกองทัพของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ สวนดอกไม้เคอเคนฮอฟ (Keukenhof) (ระยะทาง 35 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ตั้งอยู่ที่ชานเมืองลิซเซ่ซึ่งเป็นแหล่งปลูกทิวลิปที่ใหญ่และสำคัญยิ่งของฮอลแลนด์ เดิมเป็นสวนสาธารณะมาก่อน ต่อมาสมาคมผู้ส่งเสริมการปลูกดอกไม้ประเภทไม้หัวแห่งเมืองลิซเซ่ ได้ใช้สวนแห่งนี้ส่งเสริมการปลูกไม้หัวพันธุ์ใหม่ๆ โดยแบ่งที่ให้กับบริษัทผู้ผลิตไม้หัวเป็นผู้ปลูกและเข้าบำรุงรักษา ซึ่งก็ทำให้เกิดพันธุ์ใหม่ๆ ขึ้นทุกปี ผู้ซื้อทิวลิปจากทั่วโลกจะมาชมและคัดเลือกทิวลิปที่ต้องการจากแปลงสาธิต ในสวนเคอเคนฮอฟแห่งนี้ นับเป็นสวนที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยทิวลิปที่มีมากกว่า 7 ล้านต้นในแต่ละปี รวมทั้งไม้หัวอื่นๆ เช่น ลิลลี่ แดฟโฟดิล หรือนาซิสซัส ไฮยาซินธ์ ออกดอกบานสะพรั่งอยู่ดูละลานตา สวนได้ถูกออกแบบไว้อย่างสวยงาม ประกอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีทางเดินร่มรื่น บางตอนก็มีงานประติมากรรมประดับสวนอยู่เป็นระยะ มีสระน้ำและน้ำพุ มีศาลาจัดแสดงกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับดอกไม้มากมาย มีการจัดสวนตัวอย่าง การวางแผนจัดปลูกไม้ดอกไม้ใบ รวมทั้งคอฟฟี่ช็อปและร้านขายอาหาร เปิดให้เข้าชมประมาณกลางเดือนมีนาคม ไปจนถึงปลายเดือนพฤษภาคมของทุกปี อิสระให้ท่านเดินชมสวนดอกไม้ตามอัธยาศัย 

ได้เวลานำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) (ระยะทาง 61 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอัมสเทล (Amstel) ซึ่งได้ชื่อว่ามีลำคลองลดเลี้ยวไปรอบเมืองถึง 165 คลองด้วยกัน เมืองนี้เริ่มก่อตั้งประมาณคริสตศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์

นำท่าน ล่องเรือกระจก ชม ชีวิตความเป็นอยู่ชาวดัชต์ ที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 มีเอกลักษณ์พิเศษจะเป็นอาคารทรงแคบ ที่มีตะขออยู่ชั้นบนสุดของตัวอาคารเอาไว้ขนเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน ระหว่างเส้นทางล่องเรือ ผ่านบ้านเรือนที่อยู่ ริมคลองที่มีอยู่มากถึง 2,500

หลัง จากนั้นนำท่านเข้าชม โรงงานเจียระไนเพชรและอัญมณี อุตสาหกรรมจากวิทยากรผู้ชำนาญตลอดจนขั้นตอนการเจียระไนเพชรให้เป็นอัญมณีที่มีค่าสุดและมีชื่อเสียงที่สุดในโลก 

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
ที่พัก 

VAN DER VALK SCHIPHOL AIRPORT / VAN DER VALK HAARLEM **** หรือเทียบเท่า

***หากโรงแรมไม่สามารถรองรับคณะได้เนื่องจากติดงาน Trade Fair บริษัทจะจัดโรงแรมที่เมืองใกล้เคียงให้แทน***

16 เม.ย. 62กีธูร์น - ดุซเซลดอร์ฟ
เช้า 

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองกีธูร์น (Giethoorn) (ระยะทาง 141 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ช.ม.)  เมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดังแบบก้าวกระโดดสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวจีนตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.2017 เป็นต้นมา โดยสถิติที่ถูกบันทึกไว้คือมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนหมุนเวียนราว 2 แสนคนต่อปี

ได้เวลานำท่านล่องเรือชม ความสวยงามของหมู่บ้านกีธูร์น ชมภูมิทัศน์อันสวยงามและความเงียบสงบของหมู่บ้านที่ล้อมรอบด้วยลำคลอง เมืองกีธูร์นเป็นเมืองไร้มลภาวะ เนื่องจากเป็นเมืองคาร์ฟรี ซึ่งชาวเมืองสัญจรด้วยเรือเท่านั้น จนได้รับขนานนามว่าเป็นนครเวนิสแห่งแดนเหนือ หรือนครเวนิสแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ มีประชากรอาศัยเพียงราว 2600 คน (***การให้บริการล่องเรือชมหมู่บ้านมีจำนวนจำกัดในแต่ละวัน หากบริษัทเรือไม่สามารถให้บริการกับคณะได้ จะทำการคืนค่าล่องเรือให้กับทุกท่านและนำท่านเดินชมหมู่บ้านแทน)

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น 
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองดุซเซลดอร์ฟ (Dusseldorf) (ระยะทาง 234 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม.) หนึ่งในเมืองสมัยใหม่ของประเทศเยอรมนี แต่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิม และเทศกาลต่างๆมากมายที่ยังคงรักษาไว้ในภูมิภาค รวมถึงสถาปัตยกรรมและสิ่งก่อสร้างต่างๆที่ยังคงความสวยงามในอดีตไม่เสื่อมคลาย

นำท่านเดินชม ย่าน Königsalle หรือที่ชาวเมืองเรียกว่า “Kö” หนึ่งในย่านที่มีสวยงามเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีการวางผังเมืองไว้อย่างลงตัวตั้งแต่ปี ค.ศ.1802 รอบข้างล้อมด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม คั่นกลางด้วยคูน้ำ และรอบนอกยังถนนช้อปปิ้งไฮเอนด์ชื่อดังมากมาย ซึ่งชาวเมืองดุซเซลดอร์ฟนิยมมาพักผ่อนบริเวณนี้ช่วงวันหยุด

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก RENAISSANCE DUSSELDORF/ OR MERCURE DUSSELDORF **** หรือเทียบเท่า
17 เม.ย.62โคโลญจน์ - แฟร้งค์เฟิร์ต
เช้า 

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโลญจน์ (Cologne) (ระยะทาง 43 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโซนตะวันตกของเยอรมนีซึ่งถูกสร้างโดยชาวโรมัน และเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศเยอรมนี รองจากเบอร์ลิน ฮัมบวร์ก และมิวนิค อีกหนึ่งความสำคัญของชื่อเมืองนี้ยังมีที่มาจาก น้ำหอมโคโลญจน์ชื่อดังหมายเลข 4711 ซึ่งเปิดทำการผลิตน้ำหอมมายาวนานกว่า 300 ปีอีกด้วย

นำท่านเข้าชม มหาวิหารโคโลญจน์ หรือที่รู้จักในนาม เคิล์นโดม (Cologne Cathedral) เป็นมหาวิหารโคโลญจน์แห่งเดียวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี 2536 จัดเป็นไฮไลท์ของเมืองที่นักเที่ยวไปเที่ยวชมมากที่สุด วิหารแห่งนี้ ใช้เวลาสร้างยาวนานถึง 600 ปี และปัจจุบันก็ยังมีการบูรณะซ่อมแซมอยู่ตลอด บริเวณใกล้กับวิหาร จะมีสะพานสายสำคัญทอดยาวข้ามแม่น้ำไรน์ เชื่อมตัวเมืองโคโลญจน์ทั้งสองฝั่งเข้าด้วยกัน นั่นคือ สะพานโฮเฮนโซลแลร์นบรุคเคอ (Hohenzollernbrucke) บริเวณราวสะพานจะเต็มไปด้วยกุญแจของเหล่าคู่รักนักท่องเที่ยวที่นำมาติดไว้มากมาย เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของการมาเยือนโคโลญจน์

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย

นำท่านเข้าชม ปราสาทบรูห์ (Bruhl Castle) หรือพระราชวังออกัสตาสเบิร์ก (Augustusburg Palace) พระราชวังร่วมสมัยที่สร้างขึ้นช่วงศตวรรษที่ 18 อยู่ในเมืองเล็กๆทางตอนใต้ของเมืองโคโลญจน์  ตั้งอยู่ใจกลางสวนขนาดใหญ่ ในอดีตถูกใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อนสำหรับพำนักของเจ้าชายและอาร์คบิชอปแห่งโคโลญจน์ยามฤดูล่าสัตว์ พระราชวังแห่งนี้ถูกขนานนามว่าเป็นสถาปัตยกรรมแบบรอคโคโคชั้นยอดแห่งประเทศเยอรมนี (Rococo Masterpiece) และยังถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ตั้งแต่ปี ค.ศ.1984

จากนั้นท่านเดินทางสู่ เมืองโคเบลนซ์ (Koblenz) (ระยะทาง 99 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศเยอรมนี โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ในเขตไรน์แลนด์-พาลาทิเนต (Rhineland-Palatinate) รัฐที่ตั้งอยู่ตรงใจกลางเทือกเขาซีเฟอร์เกเบียร์เก อีกหนึ่งดินแดนของเยอรมนีที่ถูกห้อมล้อมด้วยนิยายปรัมปราอันน่าหลงใหล สำหรับเมืองโคเบลนซ์ เป็นเมืองโบราณที่ถูกสร้างขึ้น 8 ปีก่อนคริสตกาล โดยจักรพรรดินีโร หรือที่รู้จักในชื่อ นีโรจอมโหด สำหรับตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ตรงปากแม่น้ำซึ่งเป็นที่บรรจบกันของแม่น้ำ 2 สาย คือแม่โมเซล (Moselle River) และแม่น้ำไรน์ (Rhine River) ซึ่งต่อมาในปี ค.ศ.1992 เมืองโคเบลนซ์ได้ฉลองครบรอบอายุ 2000 ปีของเมืองอีกด้วย

นำท่านแวะถ่ายรูปด้านล่างกับ ปราสาทสโตลเซนเฟล (Stozenfel Castle) ป้อมปราการโบราณยุคศตวรรษที่ 13 ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาไม่ไกลจากตัวเมืองโคเบลนซ์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อกำหนดกฎหมาย สำหรับสินค้าที่มีการหยุดและการจ่ายเงินค่าผ่านทางแม่นํ้าไรน์ ต่อมาถูกครอบครองโดยกองทหารฝรั่งเศสและสวีเดนในสงครามสามสิบปี และสุดท้ายในปี1689 ถูกทำลายโดยชาวฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่เก้าปีของ 150 ปี ในปี ค.ศ.1815 ถูกสร้างขึ้นมาใหม่โดย William IV of Prussia และถูกนับเป็นส่วนหนึ่งของหุบเขาแห่งแม่น้ำไรน์ใจกลางตอนบน (Upper Middle Rhine Valley) ซึ่งถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก UNESCO ตั้งแต่ปี ค.ศ.2000

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองแฟร้งค์เฟิร์ต (Frankfurt) (ระยะทาง 126 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก MARITIM FRANKFURT **** หรือเทียบเท่า
18 เม.ย.62แฟร้งค์เฟิร์ต
เช้า 

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเที่ยวชมเมือง แฟร้งค์เฟิร์ต (Frankfurt) เมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐเฮสส์และใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไมน์ (Main river) และเป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์แฟร้งค์เฟิร์ตและธนาคารกลางยุโรป แฟร้งค์เฟิร์ตเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในกลุ่มสหภาพยุโรป โดยในเขตเมืองและปริมณฑลมีประชากรประมาณ 5 ล้านคน

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ วิหารแห่งแฟร้งค์เฟิร์ต (Frankfurt Cathedral) สร้างขึ้นอุทิศน์แก่นักบุญเซนต์บาโธโลมิว หนึ่งในสิบสองอัครสาวกของพระเยซูคริสต์ เป็นโบสถ์โรมันคาธอลิคสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1550 ตั้งอยู่ในกลางตัวเมืองแฟร้งค์เฟิร์ต มาความสูงรวมยอดหอคอยราว 95 เมตร

จากนั้นนำท่านเที่ยวชม จัตุรัสโรเมอร์เบิร์ก (Romerberg) อันเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง บริเวณกลางจัตุรัสมี น้ำพุแห่งความยุติธรรม ตั้งตระหง่านด้านหน้าอาคารไม้ลวดลายสวยงาม ซึ่งนับว่าเป็นอีกสถาปัตยกรรมอีกแห่งหนึ่งที่สวยงามกลางกรุงแฟรงก์เฟิร์ต

ได้เวลานำท่านสู่ ย่านช้อปปิ้งอิสระ ให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมตามอัธยาศัย ท่านสามารถช้อปปิ้งสินค้ามากมายจากห้างขนาดใหญ่และตลาดในเมือง

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น 
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองไมนทซ์ (Mainz) (ระยะทาง 41 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที) ชมเมืองที่ประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่าสองพันปี ที่ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไรน์ (Rhine River) โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ทางของตะวันตกเฉียงใต้ประเทศเยอรมนี  เมืองไมนทซ์ เป็นเมืองหลวงของรัฐไรน์ลันด์-พฟัลซ์                 (Rheinland-Pfalz) หรือ ไรน์แลนด์-พาลาทิเนต (Rhineland-Palatinate) รัฐที่ตั้งอยู่ตรงใจกลางเทือกเขาซีเฟอร์เกเบียร์เก อีกหนึ่งดินแดนของเยอรมนีที่ถูกห้อมล้อมด้วยนิยายปรัมปราอันน่าหลงใหล

17.30 น. นำท่านสู่ สนามบินแฟรงก์เฟิร์ต เพื่อเชคอิน และทำ Tax Refund
20.40 น.

ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ เที่ยวบินที่ TG923 (ใช้เวลาในการเดินทาง 10.40 ชั่วโมง) สายการบินบริการอาหารสองมื้อระหว่างเที่ยวบินกลับสู่กรุงเทพฯ

19 เม.ย.62กรุงเทพมหานคร
12.30 น เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

เงื่อนไขในการจอง

  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน TG (กระเป๋าเดินทาง นน. ไม่เกิน 30 กก./ท่าน)
  • ค่าภาษีสนามบิน,ค่าภาษีน้ำมัน,ค่าประกันภัยทางอากาศ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท / ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท
  • ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี)
  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่
  • เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ค่าทิปพนักงานขับรถ ท่านละ 2 ยูโร / ท่าน / วัน (คิดเป็น 6 วัน เท่ากับ 12 ยูโร) 
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ ท่านละ 2 ยูโร / ท่าน / วัน (คิดเป็น 8 วัน เท่ากับ 16 ยูโร) 
  • ค่าทิปพนักงานยกกระเป๋า ซึ่งท่านต้องดูแลกระเป๋าของท่านเอง
  • ค่าวีซ่าเชงเก้น (ประมาณ 3,500 บาท)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์-แฟกซ์ ค่าเครื่องดื่มมินิบาร์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุ
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 35,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปเดินทางแน่นอน
  • งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 30 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45 วัน ไม่เก็บค่าใช้จ่าย (หากไม่ได้มีค่าใช้จ่ายใดๆเกิดขึ้น) (เมษายน-ธันวาคม ปีใหม่ 60 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30-44 วัน หักค่ามัดจำ 35,000 บาท + ค่าวีซ่า (ถ้ามี) (เมษายน-ธันวาคม ปีใหม่ 44-59 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 10-29 วัน หักค่ามัดจำ 35,000 บาท + ค่าใช้จ่ายอื่น (ถ้ามี) (เมษายน-ธันวาคม ปีใหม่ 20-43 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 1-9 วัน หักค่าใช้จ่าย 100% ของค่าทัวร์ (เมษายน-ธันวาคม ปีใหม่ 4-19วัน)
  • ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100% 
    ***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 20 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 20 วัน ก่อนการเดินทาง(หากจำนวนลูกค้าในคณะไม่ถึง 20 ท่าน ราคาทัวร์ เพิ่มท่านละ 4,000 บาท)
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน  การประท้วง  ภัยธรรมชาติ  การก่อจราจล  อุบัติเหตุ  ปัญหาการจราจร ฯลฯ   ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด
  • เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ  ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฎิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฎิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว  หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง อันเนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือหลบหนีเข้าเมือง 
  • ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ  บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู

กรณีเดินทางโดยลูกค้าจัดการตั๋วเครื่องบินเอง (Land Only)

  • ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม

ตั๋วเครื่องบิน

  • ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
  • ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น

โรงแรมและห้อง

  • ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ ( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง ( TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
  • โรงแรมหลายแห่งในยุโรป จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
  • ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ ( TRADE FAIR ) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
    กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน
  • กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
  • วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตราการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
  • หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด

    สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ
  • สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฎิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  • สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 7.5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)
  • ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
  • กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)
    การชดเชยค่ากระเป๋าในกรณีเกิดการสูญหาย
  • ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
  • กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย 
  • กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน

1. หนังสือเดินทาง อายุใช้งานได้ เกิน 6 เดือนขึ้นไป และ มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 แผ่น
2. รูปถ่ายสีหน้าตรง จำนวน 2 รูป มีรายละเอียดดังนี้ 
- พื้นหลังสีขาว
- ขนาด 3.5 ซม. x 4.5 ซม.
- ถ่ายจากด้านหน้าโดยไม่สวมใส่สิ่งต่างๆบนใบหน้าหรือศีรษะ
- ภาพถ่ายปัจจุบัน (ไม่เกิน 6 เดือน)
- ใบหูและคิ้วจะต้องปรากฏบนภาพถ่าย
- ภาพถ่ายจะต้องครอบคลุมถึงศีรษะ และด้านบนของหัวไหล่ โดยต้องเห็นใบหน้า 70-80% ของภาพอย่างชัดเจนสำเนาบัตรประชาชน 
3. สำเนาบัตรประชาชน 
4. สำเนาทะเบียนบ้าน (กรุณาถ่ายหน้าแรกที่มีรายละเอียดบ้านเลขที่มาด้วย)
5. สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีผู้หญิง.....หากมีการเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น ...นาง... ต้องแนบมา)
6. สำเนาทะเบียนหย่า (กรณีผู้หญิง.....ถ้าหย่าและหากมีการใช้คำนำหน้าเป็น ....นาง...ต้องแนบมา)
7. สูติบัตร (กรณีเด็กต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ต้องแนบสูติบัตรมา) 
8. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์: (หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อม พ่อและแม่) ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ 
- เด็ก เดินทางกับบุคคลอื่น บิดาและมารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอม ซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เด็กเดินทางกับใคร (ระบุชื่อ) มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว
- เด็ก เดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เด็กเดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา) 
- เด็ก เดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เด็กเดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา)  
9. หลักฐานการทำงาน (จดหมายรับรองการทำงาน) ทำเป็นภาษาอังกฤษ
จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูตและประเทศ)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า
- กรณีพนักงานบริษัท : ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการว่าจ้าง เงินเดือน 
- กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน 
- กรณีเกษียณอายุราชการ: ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
- กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษา นั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ ระบุชั้นปีที่ศึกษา 
10. หลักฐานการเงิน :  (กรุณาเตรียมให้ถูกต้อง ใช้ทั้ง Bank guarantee และ สำเนาบัญชี เล่มเดียวกัน)
- หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank guarantee) ของบัญชีออมทรัพย์ (Saving account) ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 15 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า
- สำเนาสมุดบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน นับขึ้นไปจากเดือนที่จะยื่นวีซ่า มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน และยอดแสดงในบัญชีต้องไม่ก้าวข้ามเดือน (ปรับสมุดและสำเนา 15 วันก่อนยื่นวีซ่า)
************* ข้อ 1 และ ข้อ 2 ต้องเป็นสมุดบัญชีออมทรัพย์เล่มเดียวกันเท่านั้น **************
หมายเหตุ : หากสมุดบัญชีแสดงยอดรวมที่มีการกระโดดข้ามเดือน (ยอดไม่ต่อเนื่อง) เช่นจากเดือน 1 ข้ามไปเป็นยอดของ เดือน 3 (เดือน 2 ไม่มี) ท่านต้องไปขอ Bank statement จากทางธนาคารแทนการถ่ายสำเนาสมุดบัญชี
- บัญชีฝากประจำ (Fixed) สามารถแนบประกอบได้ แต่ท่านต้องแนบบัญชีออมทรัพย์ (Saving) มาด้วย
หากต้องการใช้บัญชีฝากประจำ ต้องเตรียมดังนี้
- หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank guarantee) ของบัญชีฝากประจำ (Fixed account) ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 20 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า
- สำเนาสมุดบัญชีฝากประจำ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน 
หมายเหตุ หากต้องการรับรองการเงินให้คนภายในครอบครัว ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Guarantee) ต้องระบุชื่อเจ้าของบัญชี รับรองค่าใช้จ่ายให้ใคร (ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองในจดหมายด้วย) 
- กรุณาแนบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส หรือหลักฐาน เพื่อแสดงสถานะ และความสัมพันธ์ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
กรณีนายจ้างรับรองค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้าง
- จดหมายรับรองจากนายจ้างระบุว่าเป็นผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
- หนังสือรับรองเงินฝาก ดังข้อ 11.1 และ 11.2 
 (สถานฑูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ไม่ต้องแนบมา)


Address

53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240

จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566099-191-9288 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy