DE755 : โปรแกรมทัวร์รัสเซีย เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ล่องเรือแม่น้ำมอสโคว์ [Moskva Cruise] 8 วัน 5 คืน (EY)

ขอเชิญทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูทางเข้าหมายเลข 9 เคาน์เตอร์ T สายการบิน Etihad Airways โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ อำนวยความสะดวกตลอดขั้นตอนการเช็คอิน และ หัวหน้าทัวร์ให้คำแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง

นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติอาบู ดาบี เมืองอาบู ดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบิน Etihad Airways เที่ยวบินที่ EY405

** ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 30 นาที บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน **

เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอาบู ดาบี เมืองอาบู ดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ** เพื่อเปลี่ยนเครื่อง **

นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติโดโมเดโดโว เมืองมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย โดยสายการบิน Etihad Airways เที่ยวบินที่ EY65 ** ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน ** 

เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติโดโมเดโดโว เมืองมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย 

นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร ** เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 4 ชั่วโมง **

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมอสโคว์ (Moscow) เป็นเมืองหลวงของประเทศรัสเซีย มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 850 ปี เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน การศึกษา และ การเดินทางของประเทศ โดยตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำมัสกวา ซึ่งในตัวเมืองมีประชากรอยู่อาศัยกว่า 1 ใน 10 ของประเทศ ทำให้เป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในยุโรป และเมื่อสมัยครั้งที่สหภาพโซเวียตยังไม่ล่มสลาย เมืองมอสโกก็ยังเป็นเมืองหลวงของสหภาพโซเวียตอีกด้วย

นำท่านแวะถ่ายรูปด้านหน้า สวนโคโลเมนสโกเย ภายในบริเวณนี้ เป็นที่ตั้งของพระราชวังไม้พระเจ้าซาร์ไมเคิล โรมานอฟ ซึ่งอดีตได้เคยเป็นพระราชวังที่พระเจ้าซาร์อเล็กเซย์แปรพระราชฐานประทับในฤดูร้อน อีกทั้งพระเจ้าปีเตอร์มหาราชเคยประทับที่นี่ในวัยเด็กและพระนางเอลิซาเบธได้ประสูติที่วังแห่งนี้ บริเวณรอบนอกมีพื่นที่กว้างขวางและมีสวนต้นไม้และดอกไม้ที่ร่มรื่น ท่านสามารถถ่ายรูปเก็บภาพความสวยงามโดยรอบบริเวณสวนและด้านนอกตัวอาคารได้ตามอัธยาศัย

นำท่านแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้านหน้า มหาวิหารเซนต์ซาเวียร์ (Cathedral of Christ the Saviour) หรือที่เรียกกันว่า มหาวิหารโดมทอง (ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปด้านใน) สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะในสงครามนโปเลียน เมื่อปี ค.ศ.1812 โดยพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 45 ปี เป็นวิหารที่สำคัญของนิกายรัสเซียนออธอดอกซ์ ใช้ประกอบพิธีกรรมที่สำคัญระดับชาติ ** หากมีพิธีกรรมทางศาสนา มหาวิหารเซนต์ซาเวียร์ จะไม่อนุญาตให้เข้าชมด้านใน *

นำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟใต้ดินเมืองมอสโคว์ (Moscow Metro) ถือได้ว่ามีความสวยงามมากที่สุดในโลก ด้วยความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมการตกแต่งภายในสถานี ความสวยงามของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินมีจุดเริ่มต้นมาจากช่วงแรกสุดที่สตาลิน ขึ้นมาเป็นผู้นำสหภาพโซเวียต ลักษณะของสถาปัตยกรรมที่นำมาตกแต่งภายในสถานีนั้นเป็นลักษณะของงานศิลปะที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงคุณความดีของวีรบุรุษ (Monumental Art) ซึ่งจะสื่อออกมาในรูปของงานปั้น รูปหล่อ ภาพสลักนูนต่ำ ภาพวาดประดับลวดลายแบบโมเสก

นำท่านเดินทางสู่ ถนนอารบัต (Arbat Street) เป็นถนนคนเดินยาวประมาณ 1 ก.ม. เป็นทั้งย่านการค้า แหล่งรวมวัยรุ่น ร้านค้าของที่ระลึก ร้านนั่งเล่น และยังมีศิลปินมานั่งวาดรูปเหมือน รูปล้อเลียน และศิลปินเล่นดนตรีเปิดหมวกอีกด้วย 

นำท่านเดินทางสู่ ล่องเรือแม่น้ำมอสกาว่า (Moskva Cruise) แม่น้ำสายหลักใจกลางเมืองมอสโคว์ เพื่อชมความสวยงามยามเย็นของสองฝั่งของเมืองมอสโคว์ที่อันสง่างาม ** ขอสงวนสิทธิ์ในกรณีที่เรือไม่สามารถล่องได้ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม ทางบริษัททำการคืนค่าล่องเรือให้กับผู้เดินทางทุกท่าน ท่านละ 8 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (USD.) **

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟความเร็วสูง (Sapsan Fast Train) หรือเทียบเท่า เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากเยอรมัน หรือที่เรียกว่า Velaro RUS EVS เป็นรถไฟความเร็วสูงของประเทศรัสเซีย การออกแบบเป็นส่วนหนึ่งของตระกูล Siemens Velaro มีความเร็วสูงสุด โดยประมาณ 250 กม. ต่อ ชม. (155 ไมล์ต่อชั่วโมง) 

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (Saint Petersburg) โดยรถไฟความเร็วสูง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) 

** รอบของรถไฟ อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ **

เดินทางถึง เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (Saint Petersburg) เมืองที่สวยงามจนได้รับสมญานามว่า “ราชินีแห่งยุโรปเหนือ” เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สร้างโดยพระเจ้าซาร์ ปีเตอร์มหาราช เมื่อ พ.ศ. 2246 โดยตัวเมืองเริ่มสร้างด้วยการถมทรายและหินเป็นจำนวนมากเพราะว่าพื้นที่เดิมของเมืองนั้นเป็นดินเลนของทะเล พระองค์ทรงเลือกที่จะสร้างเมืองที่บริเวณนี้เพราะว่าตัวเมืองมีทางออกทะเลบอลติกและสามารถติดต่อไปทางยุโรปและประเทศอื่นๆได้ง่าย เพื่อการปฏิรูปรัสเซียให้ทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ ในยุโรปได้โดยง่าย ต่อมาเมืองเซนต์ ปีเตอร์เบิร์กจึงได้รับสมญานามว่าหน้าต่างแห่งยุโรป และได้เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิรัสเซียเป็นเวลา 206 ปี (หลังจากนั้นได้ย้ายเมืองหลวงไปที่เมืองมอสโคว์ เมื่อ พ.ศ. 2461) ชื่อเดิมของเมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก คือ เปโตรกราด (Petrograd ใช้ในช่วง พ.ศ. 2457-2467) และ เลนินกราด (Leningrad ใช้ในช่วง พ.ศ. 2467-2534) 

นำท่านเดินทางสู่ เมืองพุชกิน (Pushkin) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ซาโก เซโล ซึ่งเป็นที่พักในฤดูร้อนของราชวงศ์ที่สวยงามและเป็นบ้านที่รักและโปรดปรานของสมาชิกครอบครัวโรมานอฟทุกพระองค์ 

นำท่านเดินทางสู่ พระราชวังแคทเทอรีน (Catherine Palace) ที่สวยงามมากแห่งหนึ่งในรัสเซีย มีห้องต่างๆให้ชมนับร้อยห้อง แต่ห้องที่ทุกท่านต้องไม่พลาดชมก็คือ ห้องอำพัน  หรือ ห้องแอมเบอร์รูม (The Amber Room) ที่เป็นสุดยอดงานศิลป์ยุคศตวรรษที่ 18 อันประมาณค่ามิได้ ที่ช่างจากเยอรมันสร้างให้แก่ปราสาทของกษัตริย์ฟรีดริชที่ 1 แห่งรัสเซีย ประกอบด้วยไม้โอ๊คขนาดใหญ่หกชิ้นเนื้อที่ 100 ตารางเมตร ประดับด้วยอำพัน 6 ต้น พร้อมกระจกผนังและโมเสก อัญมณีล้ำค้าจากอิตาลี ห้องอำพันถูกสร้างขึ้นใหม่ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันราคาประเมินคร่าวๆ มากกว่า 142 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ พระราชวังฤดูร้อน หรือ พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ (Peterhof Palace) หรือ เปโตรควาเรสต์ ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลบอลติค สร้างในปี ค.ศ. 1705 ในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราชซึ่งพระองค์ใช้เป็นที่ประทับพักผ่อนสำหรับล่าสัตว์ในช่วงฤดูร้อน โดยมีความประสงค์จะให้พระราชวังแห่งนี้มีความงดงามยิ่งกว่าพระราชวังแวร์ซายส์ ประเทศฝรั่งเศส เพื่อแสดงถึงอำนาจ ความเจริญรุ่งเรืองของประเทศรัสเซีย จึงได้รวบรวมสถาปนิกและช่างฝีมือจากทั่วทุกมุมโลกมากมาย เพื่อเนรมิตสิ่งก่อสร้างและสถาปัตยกรรมที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค และนีโอคลาสิค ประดาห้องต่างๆ เช่น ห้องบอลรูม ห้องท้องพระโรง เป็นต้น สัมผัสความสวยงาม ตื่นตาตื่นใจกับประติมากรรมน้ำพุอันโดดเด่นอลังการสีทองเหลืองอร่าม และ ร่มรื่นลงตัวกับอุทยานพฤกษานานาพันธุ์ด้านหน้าพระราชวังริมฝั่งทะเลบอลติค

** น้ำพุในสวนจะไม่สามารถเปิดให้ชมความสวยงามได้ในฤดูหนาว ประมาณช่วงเดือนตุลาคม ถึง เดือนพฤษภาคม และ พระราชวังฤดูร้อนฯ อาจปิดทำการทุกวันจันทร์สิ้นเดือน หรือ วันจันทร์และวันอังคารสิ้นเดือน (2 วัน ติดต่อกัน) โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ซึ่งเป็นธรรมเนียมวันหยุดของชาวพื้นเมืองรัสเซีย ที่จะเพิ่มวันหยุดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และ ฤดูหนาว ประมาณช่วงเดือนตุลาคม ถึง เดือนพฤษภาคม กรณีที่พระราชวังฤดูร้อนฯ ปิดทำการ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ปรับเปลี่ยนโปรแกรมได้ตามความเหมาะสม และ สถานการณ์ โดยนำท่านชมความสวยงามของ พระราชวังยูสซูปอฟ หรือ พระราชวังพาฟลอฟส์ พระราชวังใด พระราชวังหนึ่งเป็นการทดแทน ทั้งนี้ การปิดทำการของแต่ละพระราชวัง จะไม่ตรงกันทุกพระราชวัง ** 

นำท่านเดินทางสู่ พระราชวังฤดูหนาว (Winter Palace) ที่ประกอบด้วยห้องต่างๆ มากกว่า 1,050 ห้อง สถานที่แห่งนี้เคยใช้เป็นที่รับรองการเสด็จเยือนประเทศรัสเซียของพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 5 ในการเจริญสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทยกับประเทศรัสเซีย พร้อมทั้งทรงร่วมฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ของประเทศรัสเซียเพื่อเป็นที่ระบึกอีกด้วย

นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ (The State Hermitage Museum) บริเวณเดียวกันกับพระราชวังฤดูหนาว เป็นสถานที่เก็บรวบรวมงานศิลปะล้ำค่าของโลกกว่า 8 ล้านชิ้น รวมทั้งภาพเขียนของจิตรกรเอกระดับโลก เช่น ลีโอนาโด ดาวินซี่ ,ปีกัสโซ , แรมบรันด์ , แวนโก๊ะ ฯลฯ จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่สวยที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

นำท่านเดินทางสู่ ถนนเนฟสกี้ (Nevsky Prospekt) สร้างในปี ค.ศ. 1710 ในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช โดยมีความยาว 4.5 กิโลเมตร เริ่มต้นที่หน้าพระราชวังฤดูหนาวและสิ้นสุดที่สถานีรถไฟ จุดเด่นอยู่ที่สถาปัตยกรรมสมัยศตวรรษที่ 18-20 ที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง ปัจจุบันเป็นถนนสายหลักของเมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งเป็นทั้งย่านการค้า ย่านที่อยู่อาศัย ที่ตั้งของพระราชวัง โรงละคร โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกมากมาย

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ มหาวิหารเซนต์ ไอแซค (Saint Isaac’s Cathedral) เป็นมหาวิหารซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1818-1858 รวมแล้วใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 40 ปี มหาวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นโดยดำริของพระเจ้าซาร์ อเล็กซานเดอร์ที่ 1 (Tsar Alexander I) เพื่อถวายให้กับ Saint Isaac of Dalmatia ผู้ซึ่งเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช (Peter the Great) ในอดีตมหารวิหารแห่งนี้ถือว่าเป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซีย แต่ปัจจุบันตำแหน่งมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียตกเป็นของมหาวิหารเซนต์ซาเวียร์ (Church of Christ the Savior) ซึ่งสร้างเสร็จเมื่อปีค.ศ.2000 ภายในมีรูปภาพที่สร้างด้วยโมเสควิจิตรสวยงาม รูปเขียนไอคอนต่างๆ และหินแกรนิตขนาดใหญ่พิเศษ มหาวิหารแห่งนี้เป็นที่นับถือของชาวเมืองเป็นอย่างมาก เนื่องจากครั้งหนึ่งตัวเมืองถูกถล่มด้วยระเบิดของทหารนาซีจนราบคาบไปทั้งเมือง แต่มหาวิหารเซ็นต์ไอแซคแห่งนี้ ได้รับความเสียหายเพียงเล้กน้อยเท่านั้น

นำท่านเดินทางสู่ โบสถ์หยดเลือด (Church of the Savior on Spilled Blood) ซึ่งพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 ทรงสร้างขึ้นบนบริเวณที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 พระบิดาถูกลอบปลงพระชนม์ เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระบิดา ทรงนำรูปแบบสถาปัตยกรรมของรัสเซียในคริสต์ศตวรรษที่ 16-17 มาใช้ในการก่อสร้าง มีลักษณะรูปร่างคล้ายวิหารเซนต์บาซิลที่เมืองมอสโคว์

นำท่านเดินทางสู่ ป้อมปีเตอร์และปอล (Peter and Paul Fortress) สิ่งก่อสร้างอันดับแรกสุดของเมือง เพื่อเป็นอนุสรณ์ต่อชัยชนะสงครามเหนือสวีเดน เป็นศิลปะแบบบารอก ตั้งอยู่บนเกาะวาซิลเยฟสกี้ ชมด้านในซึ่งเป็นที่เก็บพระศพของราชวงศ์โรมานอฟ เริ่มจากพระเจ้าปีเตอร์มหาราชจนกระทั่งกษัตริย์พระองค์สุดท้ายของราชวงศ์ พระเจ้านิโคลัสที่ 2 และครอบครัว

เดินทางถึง เมืองมอสโคว์ (Moscow) 

** รอบของรถไฟ อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ **

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ พระราชวังเครมลิน (Grand Kremlin Palace) ที่ประทับของพระเจ้าซาร์ทุกพระองค์ จนกระทั่งพระเจ้าซาร์ปีเตอร์มหาราชทรงย้ายไปประทับที่เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ปัจจุบันเป็นที่ประชุมของรัฐบาลและที่รับรองแขกระดับประมุขของประเทศ บริเวณเดียวกันจะเป็นจัตุรัสวิหาร เป็นที่ตั้งของ มหาวิหารอัสสัมชัญ (Assumption Cathedral) สร้างโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียนเป็นสถาปัตยกรรมแบบยอดโดม 9 ยอด เป็นสถานที่ ที่พระเจ้าซาร์ใช้ทำพิธีบรมราชาภิเษก

** หากมีพิธีกรรมทางศาสนามหาวิหารอัสสัมชัญ จะไม่อนุญาตให้เข้าชมด้านใน

** ชม มหาวิหารอาร์คแอนด์เกิล มิคาเอล (The Archangel Michael) ที่สร้างอุทิศให้กับนักบุญอาร์คแอนด์เกิล มิคาเอล ปัจจุบันเป็นที่เก็บพระศพของพระเจ้าซาร์ก่อนยุคพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ผ่านชม ระฆังยักษ์แห่งพระเจ้าซาร์ (Big Bell of Tsar) สร้างในปี ค.ศ. 1733-1735 สมัยพระนางแอนนาที่ทรงประสงค์จะสร้างระฆังใบใหญ่ที่สุดในโลก แต่เกิดความผิดพลาดระหว่างหล่อทำให้ระฆังแตก ปัจจุบันตั้งอยู่ภายในพระราชวังเครมลินแห่งนี้

ผ่านชม ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ (Cannons of Tsar) สร้างในปี ค.ศ. 1586 ต้องการให้เป็นปืนใหญ่ที่สุดในโลก ที่ยังไม่เคยมีการใช้ยิงเลย ทำด้วยบรอนซ์น้ำหนัก 40 ตัน และลูกกระสุนหนัก ลูกละ 1 ตัน  

นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์อาร์เมอรี่ แชมเบอร์ (State Armoury Chamber Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศรัสเซีย เป็นที่เก็บสะสมทรัพย์สมบัติล้ำค่าของเจ้าชายมัสโควี่ ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14-15 พิพิธภัณฑ์อาร์เมอรี่ แชมเบอร์เป็นหนึ่งในสามพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมทรัพย์สมบัติของพระเจ้าแผ่นดินที่สมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งอีก 2 ที่อยู่ที่ ประเทศอังกฤษ และ ประเทศอิหร่าน

นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสแดง (Red Square) ลานกว้างใจกลางเมืองที่เป็นเวทีของเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของรัสเซียไม่ว่าจะเป็นงานเฉลิมฉลองทางศาสนาหรือการประท้วงทางการเมือง สร้างในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ใช้จัดงานในช่วงเทศกาลสำคัญๆ เช่น วันปีใหม่ วันชาติ วันแรงงาน และวันที่ระลึกสงครามโลกครั้งที่ 2 บริเวณโดยรอบของจัตุรัสแดงเป็นที่ตั้งของกลุ่มสถาปัตยกรรมที่สวยงาม อันได้แก่ มหาวิหารเซนต์ บาซิล (Saint Basil's Cathedral) สัญลักษณ์แห่งความงามของเมืองมอสโคว์ ประกอบด้วยยอดโดม 9 ยอดที่มีสีสันสวยงามสดใส สร้างด้วยศิลปะรัสเซียโบราณโดยสถาปนิกชาวรัสเซีย Postnik Yakovlev ด้วยรูปทรงที่มีลักษณะเป็นโดมรูปหัวหอม สีสันสดใส ตั้งตระหง่านสง่างาม ขนาบข้างด้วยกำแพงของพระราชวังเครมลิน ดึงดูดให้คนจำนวนไม่น้อยที่เดินทางสู่จัตุรัสแดงแล้วจะต้องถ่ายรูปเป็นที่ระลึกคู่กับมหาวิหารแห่งนี้ พร้อมกับการเรียนรู้ความเป็นมาอันยาวนานของสถานที่สำคัญนี้ควบคู่กันไป

มหาวิหารเซนต์ บาซิล สร้างขึ้นโดยพระเจ้าอีวานที่ 4 (Ivan the Terrible) เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานในการรบชนะเหนือกองทัพของมองโกลที่เมืองคาซาน (Kazan) ในปี พ.ศ. 2095 หลังจากถูกปกครองกดขี่มานานหลายร้อยปี ออกแบบโดยสถาปนิก ปอสนิก ยาคอฟเลฟ (Postnik Yakovlev) และด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมจึงทำให้มีเรื่องเล่าสืบต่อกันว่า พระเจ้าอีวานที่ 4 ทรงพอพระทัยในความงดงามของมหาวิหารแห่งนี้มาก จึงมีคำสั่งให้ปูนบำเหน็จแก่สถาปนิก ผู้ออกแบบด้วยการควักดวงตาทั้งสอง เพื่อไม่ให้สถาปนิกผู้นั้นสามารถสร้างสิ่งที่สวยงามกว่านี้ได้อีก การกระทำในครั้งนั้นของพระเจ้าอีวานที่ 4 จึงเป็นที่มาของสมญานาม Ivan The Terrible หรืออีวานมหาโหด นั่นเอง

ชม  หอนาฬิกาซาวิเออร์ (Saviour Clock Tower) ตั้งอยู่บนป้อมสปาสสกายา เป็นศิลปะโกธิก บนยอดมีดาวแดง 5 แฉกที่ทำมาจากทับทิม น้ำหนัก 20 ตัน ซึ่งพรรคคอมมิวนิสต์นำมาประดับไว้เมื่อปี ค.ศ. 1995

ชม ห้างสรรพสินค้ากุม (GUM Department store) สถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ของเมืองมอสโคว์ สร้างในปี ค.ศ.1895 ปัจจุบันเป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำ จำหน่ายสินค้าแบรนด์เนม เสื้อผ้า เครื่องสำอาง น้ำหอม แบรนด์ดังที่มีชื่อเสียงที่เป็นรุ่นล่าสุด (New Collection)

ชม อนุสรณ์สถานเลนิน (Lenin Memorial) สร้างเพื่อรำลึกถึงผู้นำคอมมิวนิสต์คนแรกของรัสเซีย ภายในคือสถานที่พักพิงเมื่อท่านสิ้นใจในจัตุรัสสีแดงที่เคร่งขรึมแต่ยังคงความยิ่งใหญ่ เยี่ยมชมที่นี่ด้วยความสงบเพื่อชมร่างของบุรุษผู้กล้าในอดีตซึ่งเปิดให้ประชาชนเข้าชมแม้ท่านจะเสียชีวิตไปถึง 90 กว่าปีแล้วก็ตาม ที่เก็บศพสร้างด้วยหินอ่อนสีแดงภายในมีศพเลนินนอนอยู่บนแท่นหินมีโลงแก้วครอบอยู่

บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (อาหารพื้นเมือง)

นำท่านชม การแสดงละครสัตว์ (Circus Show) เป็นการแสดงของสัตว์แสนรู้ เช่น สุนัข ลิง นก ฯลฯ รวมทั้งมายากล กายกรรมไต่ลวด และการแสดงผาดโผนจากนักแสดงมืออาชีพ หลังจากจบการแสดงท่านสามารถถ่ายรูปกับสัตว์ต่างๆเพื่อเป็นที่ระลึกอีกด้วย ** กรณีที่ไม่สามารถชมโชว์ละครสัตว์ได้ ซึ่งบางกรณีงดการแสดง โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า หรือไม่สามารถหารอบโชว์ที่ตรงกับช่วงเวลาที่อยู่ในเมืองมอสโคว์ได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่าบริการส่วนนี้ให้ท่านละ 20 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (USD.) **

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติโดโมเดโดโว เมืองมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย

นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติอาบู ดาบี เมืองอาบู ดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบิน Etihad Airways เที่ยวบินที่ EY68

** ใช้เวลาบินประมาณ 4 ชั่วโมง 55 นาที บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน **

นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดย สายการบิน Etihad Airways เที่ยวบินที่ EY402

** ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 20 นาที บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน **