ทัวร์แสวงบุญอินเดีย ปี 2567/2024 ทัวร์อินเดียไหว้พระ ทัวร์อินเดีย เนปาล สังเวชนียสถาน 4 ตำบล เที่ยวเนปาล

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE374 : ทัวร์แสวงบุญ อินเดีย เนปาล สังเวชนียสถาน ทัชมาฮาล 9 วัน 7 คืน (9W)

DE374 : ทัวร์แสวงบุญ อินเดีย เนปาล สังเวชนียสถาน ทัชมาฮาล 9 วัน 7 คืน (9W)
JET AIRWAYS (9W)

HOTEL BUDDHMAYA GARDEN
HOTEL IMPERIAL
HOTEL PAWAN
HOTEL TAJ DARBER
S HOTEL
Sarovar Premium Crystal Inn

“ดูก่อนอานนท์ สังเวชนียสถาน 4 แห่ง เป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธา ด้วยระลึกว่า”
พระตถาคตประสูติในที่นี้ ๑ เมืองลุมพินีวัน 
พระตถาคตตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญานในที่นี้ ๑ เมืองพุทธคยา 
พระตถาคตยังธรรมจักรให้เป็นไปแล้วในที่นี้ ๑ เมืองพาราณสี
** พักโรงแรมทุกคืน มีพระวิทยากร +เสริมอาหารไทยทุกมื้อ **

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1 ::กรุงเทพฯ - เดลลี - อัครา
06.00 น.

คณะเดินทางพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 10 แถว P เคาน์เตอร์ สายการบิน JET AIRWAYS โดยเจ้าหน้าที่บริษัทฯ  คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้กับ ทุกท่าน พิเศษ!! บริการอาหารว่าง + น้ำดื่ม 1 ขวดเล็ก ก่อนขึ้นเครื่อง

กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน
* กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บเป็นต้นกรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นเครื่องบิน
* วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลวอาทิ ครีมโลชั่นน้ำหอมยาสีฟัน เจลสเปรย์ และเหล้าเป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งโดยจะอนุญาตให้ไม่เกิน10 ชิ้นในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. 

08.55 น.เดินทางสู่ เมืองเดลลี โดยสายการบิน JET AIRWAYS เที่ยวบินที่ 9W63 (บริการอาหารบนเครื่อง) (ใช้เวลาบิน 4 ชั่วโมง) 
12.00 น.ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี เมืองเดลลี (New Delhi) ตามเวลาท้องถิ่น ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว 
กลางวัน

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำเดินทางสู่ เมืองอัครา (Agra)

เมืองอัครา (Agra) อดีตเมืองหลวงของอินเดียในสมัยที่ยังเรียกว่า "ฮินดูสถาน" เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมนาทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ในรัฐอุตตรประเทศตั้งอยู่ห่างจากเมืองลัคเนาซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐอุตตรประเทศเคยเป็นเมืองหลวงสำคัญของอินเดียในยุคศตวรรษที่ 16 ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยมุนาเมืองอัครายังเป็นที่ตั้งของป้อมอักราและทัชมาฮาล ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1983

20.00 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมพักผ่อนตามอัธยาศัย  
ที่พักSarovar Premium Crystal Inn (Agra)***หรือเทียบเท่า 
วันที่ 2 ::เมืองอัครา  (ทัชมาฮาล - อัคราฟอร์ท ) - ลัคเนาว์ - สารวัตถี
06.30 น.รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม  
07.30 น.

นำท่านชมทัชมาฮาล

ทัชมาฮาล สิ่งมหัศจรรย์ของโลก สุสานหินอ่อนที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลกสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุลผู้มีรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์....ทัชมาฮาลถูกพิจารณาให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ในเมืองอาครา ส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ หลุมศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล ซึ่งถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมราและเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ได้รับคำรับรองว่าสร้างขึ้นด้วยสัดส่วนที่วิจิตรและงดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 100 เมตร สูง 60 เมตร มีผู้สร้างและออกแบบร่วม 20,000 คน การก่อสร้างกินเวลานานถึง 22 ปี ทัชมาฮาลมีเนื้อที่ประมาณ 42 เอเคอร์ เป็นที่ตั้งของมัสยิด มีหออาซาน (หอสูงสำหรับร้องแจ้งเวลาทำนมาซ) และมีสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ นายช่างที่ออกแบบ ชื่อ อุสตาด ไอซา ถูกประหารชีวิตเพื่อมิให้ไปออกแบบสถาปัตยกรรมใด ๆ ที่สวยกว่าได้ 

จากนั้น ชมพระราชวังอัคราฟอร์ด   Agra Fort ... ป้อมปราการหินทรายแดง มรดกโลกของเมืองอัครา

พระราชวังอัคราฟอร์ด Agra Fort เป็นป้อมปราการประจำเมืองซึ่งสร้างเป็นกำแพงหินทรายสีแดง ตั้งตระหง่านสวยงาม ด้วยสถาปัตยกรรมแบบอัคระ พระเจ้าอัคบาร์สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1565 และสร้างต่อเติมกันเรื่อยมาจนถึงรุ่นหลานคือ พระเจ้าชาร์เจฮาน กษัตริย์องค์ที่ 5 ของราชวงศ์โมกุล ซึ่งปรับเปลี่ยนจากป้อมปราการทางทหารมาเป็นพระราชวัง มีกำแพงสูงกว่า 20 เมตร และยาว 2.5 กิโลเมตร ภายในอัคราฟอร์ดมีห้องสวยงามที่สร้างด้วยหินอ่อนแกะสลักฝังโดยรอบโดยเฉพาะห้องมุขแปดเหลี่ยม ซึ่งเป็นห้องที่มีความสำคัญที่สุดภายในพระราชวังแห่งนี้และภายในห้องนี้ท่านจะได้พบกับสถานที่ที่กษัตริย์ชาร์จาฮาถูกลูกชายจับมาขังไว้จนสิ้นพระชนน์ พระองค์ถูกกักขังอยู่ถึง 8 ปี จนกระทั่งสวรรคตในปี ค.ศ. 1666 ตามตำนานกล่าวว่าให้วันสุดท้ายของชีวิตพระองค์ใช้เวลาทั้งวันในการจ้องมองเศษกระจกที่สะท้อนภาพของทัชมาฮาล และสิ้นพระชนม์ด้วยเศษกระจกในกำมือ พระองค์ถูกฝังในทัชมาฮาล เคียงข้างพระมเหสีซึ่งพระองค์ไม่เคยลืม มีบางคนกล่าวว่าสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮัน มิได้ประสงค์ที่จะถูกฝังร่วมกับประมเหสี แต่พระองค์มีแผนการที่จะสร้างสุสานอีกแห่งด้วยหินอ่อนสีดำ เพื่อเป็นสุสานของพระองค์ แต่ผู้รู้หลายท่านเชื่อว่าพระองค์ประสงค์ที่จะถูกฝังเคียงข้างพระนางมุมตัซ มาฮาล

จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งสินค้าหัตถกรรม และงานฝีมือพื้นเมือง อาทิเช่นผ้าไหมอินเดียเครื่องประดับ อัญมณี ไม้จันทร์หอมแกะสลัก ผลิตภัณฑ์จากหินอ่อน ของตกแต่งประดับบ้าน

12.30 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ โรงแรม  
บ่าย

สมควรแก่เวลาเดินทางสู่ ลักเนาว์ - สารวัตถี

ออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศ อัครา - เมืองลักเนาว์  ใช้เวลาเดินทาง 4-5 ชั่วโมง (ระยะทางประมาณ 346 กิโลเมตร เมืองลักเนาว์ -สารวัตถี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง (ระยะทางประมาณ180 กิโลเมตร)

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พักHOTEL PAWAN ***หรือเทียบเท่า (เมืองสารวัตถี)      
วันที่ 3 ::เมืองสารวัตถี (ประเทศอินเดีย) - เมืองลุมพินี (ประเทศอินเดีย)
***หมายเหตุ**(โปรดเตรียมหนังสือเดินทางไว้กับตัวเพื่อประทับตรา   ออกจากประเทศอินเดีย–เข้าสู่ประเทศเนปาล)**
06.00 น.

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหาร

จากนั้น นำท่านชม สถานที่พระพุทธองค์แสดงยมกปาฏิหาริย์ มีลักษณะเป็นเนินดินสูงประมาณ 50เมตรที่แห่งนี้พระพุทธองค์ทรงแสดงยมกปาฎิหาริย์เพื่อโปรดประชาชนชาวสาวัตถีและข่มเจ้าลัทธิอื่นๆ หลังจากนั้นทรงเสด็จไปประทับจำพรรษาที่ดาวดึงส์เมื่อออกพรรษาทรงเสด็จลงจากสวรรค์ในวันเทโวโรหนะ ที่สังกัสสะนคร

นำท่านเข้าสู่ วัดเชตวันมหาวิหาร

วัดเชตวันมหาวิหาร ที่ซึ่งพระพุทธองค์ประทับจำพรรษา นานถึง 19 พรรษาเป็น ศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุดนมัสการพระคันธกุฎี ฤดูร้อน ฤดูหนาวและฤดูฝน นมัสการธรรมศาลา ที่ใหญ่ที่สุดธรรมสภากุฏิ พระอรหันต์ เช่น พระโมคคัลลา พระสารีบุตร พระสิวลี พระอานนท์ พระราหุล พระองคุลิมาล พระมหากัสสปะ และอารามฝ่ายพระภิกษุที่เคยจำพรรษาในครั้งพุทธกาล

ชม เมืองสาวัตถี ในอดีต

ชม คฤหาสน์ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี บ้านบิดาของท่านองคุลีมาล ชมสถานที่ธรณีสูบพระเทวทัตและนางจิญจมาณวิกา

07.00 น.

นำท่านเดินทางสู่ เมืองลุมพินี ประเทศเนปาล ระยะทางประมาณ 270 กิโลเมตร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-8 ชั่วโมง)

นำท่านแวะพุทธวิหาร สาลวโนทยาน 960 

11.30 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร 960 (วัดไทย)

จากนั้น นำทุกท่านเดินทางสู่  ชายแดน อินเดีย-เนปาล นำท่านผ่านประทับตราหนังสือเดินทางเพื่อผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเนปาล-อินเดีย เดินทางเข้าที่พัก
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พักHOTEL BUDDHMAYA GARDEN ***หรือเทียบเท่า (ลุมพินี ประเทศเนปาล)
วันที่ 4 ::เมืองลุมพินี (ประเทศเนปาล) - กุสินารา (ประเทศอินเดีย)
***หมายเหตุ*** (โปรดเตรียมหนังสือเดินทางไว้กับตัวเพื่อประทับตราออกจากประเทศเนปาลเข้าสู่ประเทศอินเดีย)***
06.00 น.รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
07.00 น.

เดินทางสู่  ลุมพินีลุมพินีวัน (Lumbini Vana) เป็นพุทธพุทธสังเวชนียสถานที่สำคัญแห่งที่ 1 ใน 4 สังเวชนียสถานของชาวพุทธ

นำท่านเข้าสู่ ที่ประสูติของพระพุทธองค์ ณ สวนลุมพินีวัน  

สวนลุมพินีวัน ในอดีตเป็นอุทยาน ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่าง กรุงกบิลพัสดุ์ และ กรุงเทวหะ พระพุทธมารดา พระนางสิริมหามายา ซึ่งประทับอยู่กรุงกบิลพัสดุ์ขณะที่ทรงพระครรภ์แก่ ได้เสด็จประพาสสวนพร้อมด้วยข้าราชบริพาร ระหว่างทางเกิดประชวรจะมี พระประสูติกาล ราชบริพารจึงจัดที่ประสูติถวายภายใต้ต้นสาละ ประสูติพระโอรส คือ สิทธัตถกุมาร ณ สถานที่นี้ปัจจุบันมีเสาหินของพระเจ้าอโศกปรากฏอยู่ ก่อนหน้านี้มีต้นโพธิ์และวิหารมายาเทวี

นมัสการสถาน รอยพระพุทธบาท ที่ประทับลงมายังพื้นปฐพีเป็นครั้งแรก เจริญพระพุทธมนต์ เจริญสมาธิภาวนา 

ชม หินสลักภาพประสูติ ชม เสาอโศก และ สระโบกขรณี

รายการทำบุญ .การบำเพ็ญกุศล ณ แดนพุทธภูมิ ร่วมทำบุญทอดผ้าป่าถวาย ณ วัดไทยลุมพินีวัน ตามกำลังศรัทธา

11.30 น.

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร

จากนั้น นำทุกท่านเดินทางไปยัง เมืองกุสินารา ผ่านชายแดนระหว่างอินเดีย-เนปาล นำทุกท่านผ่านประทับตราหนังสือเดินทางเพื่อผ่านพิธีการตรวจคนเข้าอินเดีย-เนปาล

นำท่านแวะ พุทธวิหาร สาลวโนทยาน 960 คือสวรรค์บนดินชายแดนอินเดีย-เนปาล สถานที่ปลดทุกข์ เห็นสุขทันตามีศาลาพักข้างทางของผู้แสวงบุญ ห้องน้ำห้องสุขา 

จากนั้น เดินทางต่อไปยัง เมืองกุสินารา ระยะทางประมาณ 190 กิโลเมตร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง)

เมืองกุสินารา เป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถานแห่งที่ 4 ในสมัยพุทธกาลเป็นเมืองเอกหนึ่งในสองของแคว้นมัลละ เป็นที่ตั้งของสาลวโนทยานหรือป่าไม้สาละที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานและเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า และจัดเป็นพุทธสังเวชนียสถานที่สำคัญแห่งที่ 4 ใน 4 สังเวชนียสถานของชาวพุทธ เป็นสถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพานแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมืองที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พักHOTEL IMPERIAL ***หรือเทียบเท่า เมืองกุสินารา
วันที่ 5 ::เมืองกุสินารา - เมืองพุทธคยา
06.00 น.

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหาร

เดินทางสู่ สาลวโนทยาน สถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน บูชาสักการะ พระพุทธรูปปางปรินิพพาน ซึ่งประดิษฐานอยู่ในมหาปรินิพพานวิหารและเจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตตะภาวนาจุดธูปเทียน ปทักษิณรอบปรินิพพานวิหาร แล้วชมสถานที่พระอานนท์เกาะสลักเพชรร้องไห้ ชมซากปรักหักพังของกุฎิ เจดีย์  ชมต้นสาละอันเป็นต้นไม้ที่พระพุทธองค์ได้เสด็จดับขันธ์เสร็จ

นำท่านเดินทางสู่ มกุฎพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระสรีระของพระพุทธเจ้าปัจจุบันเป็นซากเจดีย์ ทรงกลมขนาดใหญ่ สร้างขึ้นมาหลังการถวายพระเพลิง ชาวบ้านเรียกว่า รามภาร์

นำท่านเยี่ยมชม วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ร่วมทำบุญทอดผ้าป่าถวายวัดไทย

รายการทำบุญ ..รายการที่จะบำเพ็ญกุศล ถวายผ้าหุ่มพระปางปิรินิพาน ในพระวิหาร จำนวน 1 ชุด  (บจ.หิมาลายัน ฮอลิเดย์ จัดนำให้เพื่อถวายพุทธบูชา.....อนุโมทนา)

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองพุทธคยา ระยะทางประมาณ 336 กิโลเมตร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-8 ชั่วโมง) 

11.30 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
13.00 น.

เดินทางต่อไปถึง เมืองพุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ของสัมมาสัมพุทธเจ้า

นำท่านเดินทางสู่ภายในปริมณฑล ต้นพระศรีมหาโพธิ์พุทธคยา และ พระมหาเจดีย์พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณของพระผู้มีพระภาคเจ้า

กราบสักการะหลวงพ่อ พระพุทธเมตตา ประดิษฐานภายในมหาเจดีย์พุทธคยา พระพุทธปฏิมากรปางชนะมารที่รอดพ้นจากการถูกทำลายจากน้ำมือกษัตริย์ฮินดูอย่างปาฏิหาริย์ ด้วยพระพักตร์ที่แสดงออกด้วยเมตตากรุณาอั้นเปี่ยมล้น ชาวพุทธทั่วโลกจึงต่างพากันเบียดเสียดเพื่อเข้าไปกราบไหว้บูชาสักการะ พระแท่นวัชรอาสน์ ภายใต้ร่มพระศรีมหาโพธิ์อันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในดินแดนถิ่นพุทธภูมิ

นมัสการ สัตตมหาสถาน ที่สำคัญอันอยู่ใกล้เคียง ได้แก่ อนิมิสเจดีย์ รัตนจงกรมเจดีย์ รันตนฆรเจดีย  และสระมุจลินท์ เป็นต้น ทำสมาธิ ถวายเป็นปฏิบัติบูชา

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเข้าสู่ที่พัก

ค่ำรับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พักHOTEL TAJ DARBER  ***หรือเทียบเท่า อิสระตามอัธยาศัย
วันที่ 6 ::เมืองพุทธคยา - เมืองราชคฤห์ - นาลันทา - เมืองพุทธคยา
07.00 น.รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหาร
08.00 น.

นำท่านเดินทางสู่ เมืองราชคฤห์ (Rajgir)  ราชคหะ หรือ ราชคีระ

เมืองราชคฤห์ (Rajgir) เป็นชื่อเมืองหลวงของแคว้นมคธสมัยพุทธกาล มีภูเขาล้อมรอบ ๕ ลูก จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เบญจคีรีนคร เป็นชื่อเมืองหลวงของแคว้นมคธสมัยพุทธกาล เป็นเมืองตั้งหลักพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า โดยพระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดพระเจ้าพิมพิสารผู้ครองนคร เป็นเมืองที่มีประวัติความเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนามากที่สุด

นำพาท่านขึ้นสู่ ยอดเขาราชคฤห์... ทำสมาธิภาวนา และบำเพ็ญกุศล ณ พระคันธกุฎิชมทิวทัศน์เมืองราชคฤห์

ความสำคัญของเมืองราชคฤห์
๑. เป็นเมืองที่พระพุทธเจ้าทรงเลือกประดิษฐานพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก
๒. วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา คือ วัดพระเวฬุวันเกิดขึ้นที่เมืองนี้
๓. เป็นสถานที่อุปสมบทของพระอัครสาวกทั้งสองรูป คือ พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ
๔. เป็นสถานที่ทำการสังคายนาครั้งที่ ๑

ชมและบำเพ็ญกุศล ณ ซากชีวกัมพวัน “สวนมะม่วงของหมอชีวก”

ชีวกัมพวัน เป็นซากอารามของหมอชีวกชีวกโกมารภัจจ์ ยกสวนมะม่วงถวายในคราวที่พระเทวทัตต์ประทุษร้ายพระองค์โดยกลิ้งหินลงใส่พระพุทธองค์ ทำให้สะเก็ดหินกระเด็นถูกพระบาทของพระองค์จนห้อพระโลหิตหมอชีวกโกมารภัจจ์ถวายการรักษาพยาบาล ณ อารามแห่งนี้ และแวะชมและบำเพ็ญกศล ณ ซากเรือนคุมขังพระเจ้าพมพิสาร สถานที่พระเจ้าอชาติศัตรูนำพระราชบิดาของพระองค์ มาคุมขังไว้จนสิ้นพระชนม์จากพื้นสูง

หมายเหตุ: การขึ้นเขาคิชฌกูฏ ลาดชันพอประมาณ ระยะทางโดยรวมประมาณ 750เมตร ทุกท่านจะต้องเดินขึ้นรถยนต์ไม่สามารถขี้นไปถึงใช้เวลาประมาณ 20 นาทีท่านที่เดินไม่ไหวสามารถขึ้นได้โดยการนั่งเสลี่ยงโปรดแจ้งหัวหน้าทัวร์

ได้เวลาอันสมควร นำท่านลงจากยอดเขา

จากนั้น นำท่านสู่ บ่อน้ำพุร้อนตะโปทารามตโปทาราม

บ่อน้ำพุร้อนตะโปทารามตโปทาราม สถานที่อาบน้ำพุร้อน ชำระบาป ตามความเชื่อของ พราหมณ์-ฮินดู อาบน้ำแบ่งตามวรรณะ เป็นความเชื่อมาตั้งแต่ก่อนมีพุทธศาสนาสถานที่อันเป็นต้นบัญญัติสิกขาบทให้พระภิกษุสรงน้ำได้ 15 วันต่อครั้ง ปัจจุบันเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์  ตโปทานทีหรือตโปทาราม เป็นวัดฮินดูที่คนทั่วโลกมุ่งไปดูแขกอาบน้ำ ที่เชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์จากเขาเวภารบรรพต เป็นธารน้ำอุ่นที่เชื่อว่ารักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ วิธีอาบแบ่งเป็นชั้นๆตามวรรณะสูงต่ำ พวกวรรณะพราหมณ์ได้อยู่ชั้นสูงสุด เป็นน้ำต้นน้ำที่ใสสะอาด ดื่ม อาบ ซักผ้าแล้วไหลลงไปให้ชนชั้นแพศย์ใช้ จากนั้นไหลลงไปให้วรรณะศูทรใช้ สุดท้ายที่วรรณะจัณฑาลที่ต้องใช้น้ำที่ดำปี๋สีขี้โคลนเต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูลของพวกวรรณะที่สูง


นำท่านเข้าสู่ วัดเวฬุวันมหาวิหาร  

วัดเวฬุวันมหาวิหาร วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา ที่พระเจ้าพิมพิสารทรงยกพระราชอุทยานสวนไม้ไผ่ถวายเป็นที่ประทับแห่งแรกแด่พระพุทธเจ้าและเหล่าพระสงฆ์สาวก พุทธองค์ทรงประทับจำพรรษา ณ ที่แห่งนี้แล้ว 6 พรรษา เจริญพระพุทธมนต์เจริญสมาธิภาวนา ณ อุโบสถสถานที่ประชุมพระสาวกอรหันต์ 1,250รูป ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ซึ่งเรียกการประชุมนี้ว่า จาตุรงคสันนิบาต มูลเหตุแห่งพิธีมาฆบูชา และพุทธองค์ได้ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่ภิกษุเหล่านั้น..

11.30 น.บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องโรงแรม เมืองราชคฤห์
12.30 น.

นำท่านเดินทางสู่ เมืองนาลันทา ชม มหาวิทยาลัยนาลันทาเก่า (โอลนาลันทา)

มหาวิทยาลัยนาลันทาเก่า ซากมหาวิทยาลัยพุทธศาสนาที่เคยรุ่งเรืองโด่งดังมากที่สุดในโลก มีพระนักศึกษาจำนวนหมื่นเมื่อราว พ.ศ.1700 ได้ถูกชาวมุสลิมรุกรานสังหารพระและคณาจารย์ เผาทำลายเสียสิ้นปัจจุบันเหลือไว้แต่ซากปรักหักพังปรากฏเป็นรูปฐานและผนังของอาคารยาวเหยียดในบริเวณอันกว้างขวาง และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นบ้านเกิดของพระโมคคัลลาน์พระสารีบุตร  

บำเพ็ญกุศล ณ บ้านพระสารีบุตร  สักการะ “สถูปพระสารีบุตร” ที่บรรจุอัฐิธาตุของพระสารีบุตร

นำท่านสักการะ “หลวงพ่อดำ”  ข้างนาลันทา นับเป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญองค์หนึ่งเพราะเป็นพระพุทธรูปที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่องค์ที่ไม่ถูกทำลาย ชาวบ้านเรียกว่า เตลิยบาบา หรือหลวงพ่อน้ำมัน 

16.30 น.

นำท่านเดินทางสู่ ตัวเมืองพุทธคยา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง สำหรับการเกิดมาเป็นชาวพุทธ สักครั้งหนึ่งในชีวิตก็ขอให้ได้มาเที่ยวอินเดีย นั่นคือการได้มากราบนมัสการพระมหาเจดีย์พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคลแห่งชีวิตและครอบครัว....

พุทธคยา นับเป็นพุทธสังเวชนียสถานที่สำคัญที่สุดและเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวพุทธทั่วโลก...เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของพระพุทธศาสนา โดยเป็นสถานที่ที่เจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า นับเป็นเวลากว่า 2,500 ปีที่สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมของจุดหมายในการแสวงบุญของชาวพุทธผู้มีศรัทธาทั่วโลก ...

19.00 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร โรงแรม
ที่พักTAJ DARBAR HOTEL ***หรือเทียบเท่าอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 7 ::เมืองพุทธคยา - พาราณาสี
06.00 น.

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหาร

นำท่านกราบลาสถานที่ตรัสรู้ ต้นพระศรีมหาโพธิ์พุทธคยา และ พระมหาเจดีย์พุทธคยา

ต้นพระศรีมหาโพธิ์พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณของพระผู้มีพระภาคเจ้า กราบสักการะหลวงพ่อ พระพุทธเมตตา ประดิษฐานภายในมหาเจดีย์พุทธคยา พระพุทธปฏิมากรปางชนะมารที่รอดพ้นจากการถูกทำลายจากน้ำมือกษัตริย์ฮินดูอย่างปาฏิหาริย์ ด้วยพระพักตร์ที่แสดงออกด้วยเมตตากรุณาอั้นเปี่ยมล้นชาวพุทธทั่วโลกจึงต่างพากันเบียดเสียดเพื่อเข้าไปกราบไหว้บูชา

สักการะ พระแท่นวัชรอาสน์ ภายใต้ร่มพระศรีมหาโพธิ์อันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในดินแดนถิ่นพุทธภูมิ

นมัสการ สัตตมหาสถาน ที่สำคัญอันอยู่ใกล้เคียง ได้แก่ อนิมิสเจดีย์ รัตนจงกรมเจดีย์ รันตนฆรเจดีย  และสระมุจลินท์ เป็นต้น ทำสมาธิ ถวายเป็นปฏิบัติบูชา

นำทุกท่านไปยัง บ้านนางสุชาดา

นางสุชาดา ธิดากุฎุมพี แห่งตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ผู้ถวายข้าวมธุปายาส อันประณีตแด่พระมหาบุรุษก่อนการตรัสรู้ อยู่ห่างจากฝั่งแม่น้ำเนรัญชราประมาณ 200 เมตร ปัจจุบันเป็นโบราณสถานซากสถูปขนาดใหญ่ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ชม แม่น้ำเนรัญชรา สายน้ำที่พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานจิตลอยถาดทองคำที่นางสุชาดาถวายพร้อมข้าวมธุปายาสก่อนวันที่จะตรัสรู้หนึ่งวัน

ชมวัดนานาชาติ อาทิเช่น วัดทิเบต วัดภูฏาน วัดญี่ปุ่น

แล้วนำท่านทำบุญทอดผ้าป่าที่ วัดไทยพุทธคยา

นำท่านเดินทางสู่เมืองพาราณสี (ระยะทางประมาณ 270 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง)

กลางวัน

บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องโรงแรม

เมืองพาราณสี หรือ วาราณสี (Varanasi)

เมืองพาราณสี เป็นชื่อของเมืองหลวงแคว้นกาสี ประเทศอินเดีย มีแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ไหลผ่าน มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 4000 ปี ... ในชาดกได้ระบุชื่อเมืองนี้มากมายผู้ครองเมืองก็มักจะชื่อพระเจ้าพรหมทัตต์คุ้นหูของชาวพุทธมาก และเป็นสถานที่ตั้งของ สารนาถในสมัยพุทธกาล เรียกกันว่า ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แปลว่า เขตป่าอภัยทานแก่สัตว์ที่เป็นที่บำเพ็ญตบะของฤษี เป็นสถานที่สงบและเป็นที่ชุมนุมของเหล่าฤษีและนักพรตต่าง ๆ ที่มาบำเพ็ญตบะและโยคะเพื่อเข้าถึงพรหมมันตามความเชื่อในคัมภีร์อุปนิษัทของพรามหณ์ ทำให้เหล่าปัญจวัคคีย์ที่ปลีกตัวมาจากเจ้าชายสิทธัตถะ ภายหลังจากที่พระองค์ทรงเลิกบำเพ็ญทุกขกริยา ได้มาบำเพ็ญตบะที่นี่แทน

ค่ำถึง เมืองพาราณสี.... รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พักIDEAL TOWER HOTEL ***หรือเทียบเท่า อิสระตามอัธยาศัย
วันที่ 8 ::พาราณาสี - เดลลี - กรุงเทพฯ
05.30 น.

นำท่านไปชม วิถีชิวิตชาวเมืองพาราณสี เมืองนี้ยังคงเป็นเมืองที่มีเสนห์เฉพาะตน ชาวฮินดูที่เลื่อมใสและถือปฎิบัติโดยเคร่งครัดที่จะพากันอาบน้ำชำระร่างกายในแม่น้ำคงคา 

แม่น้ำคงคา ได้ชื่อว่าเป็นแม่น้ำสายศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนภารตะ อินเดีย ไหลจากสวรรค์จากความศรัทธาที่ผู้คนอุทิศให้เมืองที่เหมือนยังไม่ถูกปลุกจากฝันมานานกว่า 5,000 ปีแห่งนี้ ... ชาวพาราณสีผูกพันกับ แม่น้ำคงคาอย่างเป็นหนึ่งเดียว 

พาคณะท่าน ล่องเรือชมแม่น้ำคงคา  “คงคา” มหานทีแห่งศรัทธา” ชมพิธีอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อล้างบาปของชาวฮินดู และ ชมพิธีบูชาพระอาทิตย์และการอาบน้ำล้างบาปของชาวฮินดูริมฝั่งแม่น้ำคงคาและพิธีการเผาศพซึ่งมีมานานกว่า 4,000ปี โดยกองไฟที่เผาศพไม่เคยดับมอดลงเลย

พาท่านตั้งจิตอธิฐานลอยกระทงใบน้อยลอยลงคงคา ยิ่งวันเพ็ญเดือนสิบสองด้วยแล้ว ชาวฮินดูนับแสนคนจากทั่วทุกสารทิศ...ล่องเรือลอยกระทงแม่น้ำคงคายามเช้า

สมควรแก่เวลาพาท่านกลับสู่โรงแรม

08.30 น.

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหาร

นำท่านเดินทางสู่  สารนาถ เดิมเรียกว่า ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน สมัยพุทธกาลเมืองนี้เกี่ยวข้องกับพระพุทธองค์ตอนตรัสรู้แล้วใหม่ๆได้เสด็จจากอุรุเวลาเสนานิคมมายังป่าอิสิปตนมฤคทายวัน(ป่าเป็นที่ปฏิบัติธรรมของฤาษีอันเป็นเขตอภัยทาน)ปัจจุบันเมืองนี้เรียกว่า“สารนาถ”(ที่พึ่งของหมู่กวาง)

นำท่าน ชมสักการะเจาคันธีสถูป สถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงพบปัจจวคีย์ เข้าสู่ ธัมเมกขสถูป สักการะ พระมูลคันธกุฏิ กุฏิที่พระพุทธองค์จำพรรษาครั้งแรกหลังจากตรัสรู้ ชมหลักศิลาจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราชอันเป็นหลักฐานสำคัญสื่อให้รู้ว่าเป็นสถานที่พระพุทธองค์ได้แสดงปฐมเทศนาเป็นครั้งแรก ชม “ยะสะเจดีย์” สถานที่ยะสะกุลบุตรพบพระพุทธองค์แล้วชม สังฆาราม กว่า 1,000 หลัง

จากนั้น นำท่านชมพิพิธภัณฑ์สารนาถ  

พิพิธภัณฑ์สารนาถ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษาวัตถุโบราณต่างๆ โดยมีพระพุทธรูปทีโด่งดังคือ พระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ซึ่งถูกสร้างขึ้นในสมัยคุปตะ พระพุทธรูปนี้ถูกค้นพบที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่งดงามมาก ชนะรางวัลการประกวดขององค์การ UNESCO และเป็นองค์พระพุทธรูปซึ่งงดงามจนเป็นที่กล่าวขานกันว่าหากส่งเข้าประกวดอีกร้อยครั้งก็จะต้องชนะทั้งร้อยครั้ง  

11.30 น.

บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องโรงแรม

นำท่านทำบุญทอดผ้าป่าที่วัดไทยสารนาถ

จากนั้น เดินทางสู่ สนามบินพาราณสี เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ

จากนั้น เดินทางสู่ สนามบินภายสนามบินพาราณสี เพื่อเดินทางสู่กรุงเทพฯ แวะเปลี่ยนเครื่องที่ สนามบินเดลี 

17.00 น.ออกเดินทางสู่ เดลลี โดยสายการบิน เจ็ทแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W742 
18.20 น.ถึงสนามบิน อินทิราคานธี  เมืองเดลลี เข้าสู่อาคารระหว่างประเทศรอต่อเครื่อง

อิสระอาหารค่ำ เพื่อความสะดวกในสนามบิน
23.25 น.ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ ฯ โดยสายการบิน เจ็ทแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W94
วันที่ 9 ::กรุงเทพมหานคร
04.55 น.ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ.....อิ่มบุญกันถ้านหน้า

เงื่อนไขในการจอง

  • ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินชั้นประหยัดเส้นทาง ตามรายการระบุ
  • ค่าภาษีสนามบิน ค่าประกันสายการบินและภาษีน้ำมันของสายการบิน 
  • ค่าโรงแรมที่พัก ตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า (2-3 ท่านต่อหนึ่งห้อง)
  • ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ/ค่าอาหารทุกมื้อ/ค่ารถรับส่งและระหว่างการนำเที่ยว ตามรายการระบุ
  • พระธรรมวิทยากร บรรยายตลอดการเดินทาง
  • ค่าประกันภัยการเดินทาง วงเงิน 1,000,000 บาท ต่อท่าน (วงรักษาพยาบาลเงินไม่เกิน 5000,000 บาท) แต่ทั้งนี้ย่อมอยู่ในข้อจำกัดที่มีการตกลงไว้กับบริษัทประกันชีวิต
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับหนังสือเดินทางไทย ยื่นแบบออนไลน์เท่านั้น (ไม่ต้องโชว์ตัว)
  • ค่าจัดทำหนังสือเดินทาง (PASSPORT) และค่าทำใบอนุญาตที่กลับเข้าประเทศของคนต่างชาติ หรือ คนต่างด้า
  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในรายการและค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ฯลฯ
  • ค่าธรรมเนียมน้ำมันของสายการบิน(ถ้ามี)
  • ค่าวีซ่าที่มีค่าธรรมเนียมแพงกว่าหนังสือเดินทางไทย
  • ค่าภาษีหักณ ที่จ่าย 3% ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (กรณีออกใบกำกับภาษี)
  • ค่าธรรมเนียมการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต VISA 3% AMEX 4%
  • ค่าน้ำหนักเกินพิกัดตามสายการบินกำหนด 20 กิโลกรัม
  • ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น+พนักงานขับรถ 45 USD / ท่าน ตลอดทริปการเดินทาง 
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย ทิปหัวหน้าทัวร์แล้วแต่ความพึงพอใจในบริการของท่าน
  • ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรมและสนามบิน ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
  • บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมรายการท่องเที่ยวโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าตามความเหมาะสม
  • บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าหากมีการ
    กรณีที่คณะไม่ครบจำนวน 15 ท่านทางบริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการงดออกเดินทางโดยทางบริษัทฯจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า 14 วันก่อนการเดินทาง 
  • บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าชดเชยความเสียหาย อันเกิดจากเหตุสุดวิสัยที่ทางบริษัทฯ ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การนัดหยุดงาน, จลาจล,การล่าช้าหรือยกเลิกของเที่ยวบิน รวมถึงกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองไม่อนุญาตให้เดินทางออกหรือกองตรวจคนเข้าเมืองของแต่ละประเทศไม่อนุญาตให้เข้าเมือง รวมทั้งในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทาง หากท่านถูกปฏิเสธการเดินทางเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง
  • เมื่อท่านทำการซื้อโปรแกรมทัวร์ ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านรับทราบและยอมรับเงื่อนไขของหมายเหตุทุกข้อแล้ว

    **หมายเหตุ ** กำหนดการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เพื่อความเหมาะสม ทั้งนี้ทางบริษัทฯ จะยึดถือความปลอดภัยเป็นหลัก และรายการ-ราคาทัวร์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับสายการบินโดยจะยึดประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ”
  • ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ ( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง( TRIPLE ROOM )ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรมมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3เตียงได้หรืออาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการได้ ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ (TRADE FAIR )เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสมโปรแกรมและรายละเอียดของการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศและเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าโดยทางบริษัทฯ จะคำนึงถึงผลประโยชน์และ ความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางเป็นสำคัญ
  1. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าชดเชยความเสียหาย ไม่ว่ากรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองของไทยไม่อนุญาตให้เดินทางออกหรือกองตรวจคนเข้าเมืองของแต่ละประเทศไม่อนุญาตให้เข้าเมือง
  2. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าชดเชยความเสียหาย อันเกิดจากเหตุสุดวิสัยที่ทางบริษัทฯ ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การนัดหยุดงาน, จลาจล, การล่าช้าหรือยกเลิกของเที่ยวบิน
  3. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมรายการท่องเที่ยว โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  4. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  5. การไม่รับประทานอาหารบางมื้อไม่เที่ยวตามรายการไม่สามารถขอหักค่าบริการคืนได้เพราะการชำระค่าทัวร์เป็นไปในลักษณะเหมาจ่าย
  6. ตั๋วเครื่องบินเมื่อออกตั๋วแล้วไม่สามารถ Refund ได้ทุกกรณี โดยเงื่อนไขของสายการบินกำหนด
  7. กรณีที่คณะไม่ครบจำนวน 15 ท่าน ทางบริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการงดออกเดินทางโดยทางบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า 14 วันก่อนการเดินทาง
    ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ก่อนทุกครั้ง มิฉะนั้นทางบริษัทฯ จะไม่ขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
  • รูปถ่ายสี (ถ่ายมาไม่เกิน 3 เดือน ขนาด 2×2 นิ้ว) 2 รูป พื้นหลังสีขาว 
  • หนังสือเดินทางมีอายุมากกว่า 6 เดือน และมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า
  • สำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด
  • สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ชุด
  • สำเนาหน้าพาสปอร์ต 2 ชุด
    สำเนาหน้าวีซ่าที่เคยเดินทางไปประเทศอินเดีย 1 ชุด (หากมี)

Address

53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240

จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566099-191-9288 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy