วันที่ 1 | กรุงเทพ - อิสตันบูล |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
19.00 น | พร้อมกัน ณ เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบินเตอร์กิช อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศสนามบินสุวรรณภูมิโดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางทำผ่านขั้นตอนการตรวจคนออกนอกประเทศ |
23.50 น. | ออกเดินทางสู่ นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบิน TK 65 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.25 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ บริการ อาหารกลางค่ำและอาหารเช้าระหว่างเที่ยวบินสู่ นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี หมายเหตุ : กรุ๊ปที่เดินทางช่วงวันที่ 20-28 / 21-29 / 22-30 / 23-31 ธ.ค. 62 |
วันที่ 2 | คัปปาโดเจีย - นครใต้ดิน - หมู่บ้านอวานอส - หมู่บ้านนกพิราบ - เมืองอุชิซาร์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
04.00 น. | เดินทางถึง กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร |
06.15 น. | ออกเดินทาง สู่ สนามบิน Kayseri โดยเที่ยวบิน TK2312 (ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชม.) นำท่านสู่ เมืองคัปปาโดเจีย (Cappadocia) ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก ชม Underground City ซึ่งเกิดจาการขุดเจาะพื้นดินลงไป 10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรูในยามสงคราม ของชาวคัปปาโดเจียในอดีต โดยทั้งจากชาวอาหรับจากทางตะวันออกที่ที่ต้องการเข้ามายึดครองดินแดนนี้เพื่อประโยชน์ทางการค้า และชาวโรมันจากทางตะวันตก ด้วยเหตุผลเดียวกัน รวมทั้งต้องการที่จะหยุดยั้งการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในดินแดนแถบนี้ด้วย โดยชั้นล่างที่ลึกที่สุด ลึกถึง 85 เมตร เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบทุกอย่าง ทั้งห้องโถง, ห้องนอน, ห้องน้ำ, ห้องถนอมอาหาร, ห้องครัว, ห้องอาหาร, โบสถ์, ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ แม้จะเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่ขุดลึกลงไปใต้ดินหลายชั้น แต่ว่าอากาศในนั้นถ่ายเทเย็นสบาย หน้าร้อนอากาศเย็น หน้าหนาวอากาศอบอุ่น มีอุณหภูมิเฉลี่ย 17-18 องศาเซลเซียส และด้วยการออกแบบที่ดี มีทางออกฉุกเฉินที่เป็นทางระบายอากาศไปในตัวทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก จากนั้นนำท่านสู่ หมู่บ้านอวานอส ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผา และงานเซรามิก แทบทุกร้านจะมีผลิตภัณฑ์จากงานปั้นวางอยู่หน้าร้าน แต่ในบ้านมีโชว์เครื่องปั้นหม้อทุกบ้าน อวานอสเป็นเมืองเล็กๆที่มีแม่น้ำไหลผ่าน แต่เป็นแม่น้ำที่มีตะกอนแดง ชาวบ้านเลยนำดินจากแม่น้ำมาลองปั้นใช้เป็นอุปกรณ์ ของเครื่องใช้ ที่ใช้ภายในบ้าน เช่น ถ้วย ชาม ไห ฯลฯ ต่อมาได้เริ่มปั้นพวกโอ่ง แจกัน และเครื่องประดับบ้าน |
เที่ยง | บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ชม หมู่บ้านของนกพิราบ โดยชาวบ้านได้ขุดเจาะโพรง เจาะรูเอาไว้ให้นกมาอยู่อาศัย นำท่านสู่ เมืองอุชิซาร์ เป็นพื้นที่ที่มีจุดเด่นคือภูเขาขนาดใหญ่มีรูพรุนเหมือนรวงผึ้ง รายล้อมไปด้วย หินทรงกระโจม กรวยคว่ำ และเจดีย์เต็มไปหมดที่สำคัญก็คือส่วนหนึ่งของหินเหล่านี้มีคนอาศัยอยู่ภายในในลักษณะ“บ้านถ้ำ” มาช้านานนับจากอดีตถึงปัจจุบันเป็นการอยู่อาศัยแบบ“เจาะเข้าไป”ภายในหิน โดยไม่มีการ“ทุบทำลายหิน”เหล่านี้ทิ้งเพื่อปรับพื้นที่ให้ราบเรียบแต่อย่างใด ส่วนบ้านที่ปลูกสร้างขึ้นใหม่ก็ทำอย่างกลมกลืน ไม่ทำลายทัศนียภาพ นับเป็นการอยู่อาศัยกับธรรมชาติอย่างอิงแอบพึ่งพิงที่น่ายกย่องเป็นอย่างยิ่ง |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Melis Cave Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า หมายเหตุกรณีโรงแรมถ้ำเต็มทางเราขอปรับเปลี่ยนเป็นโรงแรมระดับเดียวกัน** |
วันที่ 3 | บอลลูน - หุบเขาเดฟเรนท์ panoramic view - โรงเรียนสอนผลิตพรม - คอนย่า - คาราวาน สไลน์ - เมืองปามุคคาเล่ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
Optional Tour | สำหรับท่านที่สนใจนั่งบอลลูน พร้อมกัน ณ บริเวณล๊อบบี้ **(ทัวร์นั่งบอลลูนนี้ไม่รวมอยู่ในรายการทัวร์ ค่าขึ้นบอลลูนท่านละ 240 ดอลล่าสหรัฐ ในกรณีที่ชำระด้วยเงินสด และราคา 250 ดอลล่าสหรัฐ ในกรณีที่ชำระด้วยบัตรเครดิต บริษัทตัวแทนผู้ให้บริการทัวร์บอลลูนในตุรกี มีประกันภัยให้กับทุกท่าน แต่สำหรับประกันภัยที่ทำจากเมืองไทย ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นการเลือกซื้อ Optional Tour รายการนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละท่าน) **การขึ้นบอลลูนเป็นการดำเนินการการของบริษัทบอลลูนซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัททัวร์ และไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆกับบริษัททัวร์*** เนื่องด้วยปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวมากมายเดินทางไปคัปปาโดเกียเพื่อขึ้นบอลลูน ซึ่งบริษัทบอลลูนก็มีทั้งที่ขึ้นทะเบียนถูกกฎหมายและผิดกฎหมายและมีปริมาณการจองค่อนข้างสูง ทำให้บางคณะอาจไม่สามารถจองได้ หรือบางคณะจองได้ ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกซื้อบอลลูนได้ทั้งที่คัปปาโดเกียและปามุคคาเล่ *** |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านสู่ หุบเขาเดฟเรนท์ (Devrent Valley) หุบเขาแห่งจินตนาการ ตื่นตากับอัศจรรย์ของภูมิประเทศที่แปลกตาที่ดูคล้ายพื้นผิวดวงจันทร์ หรือดาวเคราะห์ดวงอื่น ในจักรวาลมากกว่าพื้นผิวโลก เต็มไปด้วยหินรูปทรงแปลกตา อิสระให้ท่านเก็บภาพ panoramic view นำท่านเข้าชม โรงเรียนสอนผลิตพรม (Carpet School & Factory) ชมวิธีการทอพรมแบบดั้งเดิมซึ่งถือได้ว่าเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของตุรกี |
เที่ยง | บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุคในช่วงปี ค.ศ.1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ท่านจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทาง ระหว่างทางนำท่านชม “คาราวานสไลน์” ที่พักแรมระหว่างทางของชาวเติร์กในสมัยออตโตมัน ระหว่างทางท่านชมวิถีชีวิตตามชนบทและทัศนียภาพที่สวยงามของทุ่งหญ้าสลับกับภูเขารวมถึงท้องฟ้าสีสดใสเดิมอดีตเคยเป็นเส้นทางค้าขายระหว่างยุโรปกับเอเชีย หรือที่เรียกกันว่าเส้นทางสายไหม ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ (PAMUKKALE) |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (บุฟเฟ่ต์) |
ที่พัก | Lycus River Thermal Hotel หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | ปราสาทปุยฝ้าย - คูซาดาซี - เมืองเอฟฟิซุส |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเข้าชม ปราสาทปุยฝ้าย เมืองที่มีน้ำพุเกลือแร่ร้อนไหลทะลุขึ้นมาจากใต้ดินผ่านซากปรักหักพังของเมืองเก่าแก่สมัยกรีกก่อนที่ไหลลงสู่หน้าผาผลจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้นๆหลายชั้นและผลจากการแข็งตัวของแคลเซียมทำให้เกิดเป็นแก่งหินสีขาวราวหิมะขวางทางน้ำเป็นทางยาว ซึ่งมีความงดงามมาก ปามุคคาเล่ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 จากนั้นได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซี ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกีตัดกับชายฝั่งทะเลอีเจี้ยนซึ่งเป็นท่าเรือที่สำคัญ ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามของท้องทะเลสีฟ้าครามของทะเลอีเจี้ยน |
เที่ยง | บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เมืองเอฟฟิซุส (City of Ephesus) เมืองโบราณ ที่ขนานนามว่า มหานครแห่งแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีเมืองหนึ่งเคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (Ionian) จากกรีก ซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมือง ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราชภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนา “เอฟฟิซุส” ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน นำท่านเดินบน ถนนหินอ่อน ผ่านใจกลางเมืองเก่าที่สองข้างทางเต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างเมื่อสมัย 2,000 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงละครกลางแจ้งที่สามารถจุผู้ชมได้กว่า 30,000 คน ซึ่งยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบันนี้ นำท่านชม ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (ROMAN BATH) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้, ห้องสมุดโบราณที่มีวิธีการเก็บรักษาหนังสือไว้ได้เป็นอย่างดี |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ (บุฟเฟ่ต์) ณ โรงแรมที่พัก |
ที่พัก | Ramada Resort Hotel หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | โรงงานเครื่องหนัง - เมืองออตโตมันโบราณ - เพอร์กามัม - หมู่บ้านกรีก - ชานัคคาเล่ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่าน เยี่ยมชมโรงงานเครื่องหนัง (Leather Jacket Factory) ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศตุรกี ตุรกีเป็นประเทศที่ผลิตหนังที่มีคุณภาพที่สุด อีกทั้งยังผลิตเสื้อหนังส่งให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น Versace , Prada , Michael Kors อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเข้าชม หมู่บ้านออตโตมัน ดั้งเดิม ชมอารยะธรรมและบ้านเรือนสมัยแบบเก่าของสมัยออตโตมันที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ และเลือกชมซื้อสินค้าพื้นเมือง จากนั้นได้เวลาอันสมควร เดินทางสู่ เมืองเพอร์กามัม (Pergamum) ที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นที่ตั้งเมืองโบราณของกรีกที่มีความสำคัญของพวกเฮเลนนิสติก ถูกสร้างในราวปี 281-133 ก่อนคริสตกาลโดยไลซีมาคุส ที่เป็นแม่ทัพของอเล็กซานเด อร์มหาราช จนกระทั่งถึงราชวงศ์แอทตาลิด จึงได้ยกให้กับโรมัน |
เที่ยง | บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านชม หมุ่บ้านกรีกโบราณ กาลเวลาที่ล่วงเลยมานับพันปีในอดีตนั้นเมืองนี้คือเมืองที่เคยเจริญรุ่งเรืองจนถึงขีดสุดมาแล้วในสมัยกรีกโบราณ ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นยังคงเป็นรักษารูปแบบการสร้างบ้านแบบโบราณหลากหลายสีสันสดใน อิสระให้ท่านเดินชมเมืองและเก็บภาพประทับใจและสัมผัสวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองชานัคคาเล่ (Cannakkale) ซึ่งตั้งอยู่บนทะเลมาร์มาราและทะเลอีเจียน เมืองแห่งนี้จึงเคยเป็นชุมทางการค้า ศูนย์กลางการเดินเรือเชื่อมต่อเอเชียกับยุโรป |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ (บุฟเฟ่ต์) ณ โรงแรมที่พัก |
ที่พัก | Buyuk Truva Hotel เทียบเท่า |
วันที่ 6 | ทรอย - บูซาร์ - อิสตันบูล |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านชมม้าไม้จำลองแห่ง กรุงทรอย ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณโดยเป็นสาเหตุทำให้กรุงทรอยแตก ให้ท่านได้เก็บภาพประทับใจกับม้าไม้เมืองทรอยที่ตั้งตระง่านอยู่กลางเมือง |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางสู่ เมืองบูซ่าร์ Bursa เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของตุรกี มีความสำคัญและใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศและเมืองนี้ยังมีชื่อเสียงทางด้านเส้นไหมเพื่อส่งออกไปยังตลาดต่างๆ ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรออตโตมาน ตั้งแต่ปีค.ศ.1326-1362 และ จากนั้นได้ย้ายเมืองหลวงไปตั้งที่เอดิร์เน ที่อยู่ทางด้านเหนือของกรุงคอนสแตนดิโนเปิล นำท่านสู่ Bursa Silk house โดยตลาดแห่งนี้ค้าขายผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมเป็นหลัก และด้วยสีสันของผ้าไหมที่สดใสนี่เองที่ทำให้ตลาดแห่งนี้กลายเป็นตลาดที่สวยงามที่สุด จนครั้งหนึ่งสมเด็จพระนางเจ้า ควีนอลิซาเบท แห่งอังกฤษเคยมาเยือนด้วย ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ อิสตันบูล |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ (บุฟเฟ่ต์) ณ โรงแรมที่พัก |
ที่พัก | TRYP BY WYNDHAM SANCAKTEPE Hotel หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | พระราชวังโดลมาบาห์เช่ - ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส - บาลัช - ตลาดสไปซ์มาร์เกต - จัตุรัสทักซิม |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านชม พระราชวังโดลมาบาห์เช่ ซึ่งเป็นพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างมาก ทางด้านวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมของจักรวรรดิออตโตมัน เป็นศิลปะที่ผสมผสานของยุโรปและตะวันออก ที่ได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างสวยงาม นาฬิกาทุกเรือนของที่นี่จะถูกตั้งเวลาไว้ที่ 09.05 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ เคมเล อตาเติร์ก วีรบุรุษของชาติถึงแก่อสัญกรรม ในวันที่ 10 พ.ย. ค.ศ. 1938 จากนำท่าน ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black Sea) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (Sea Of Marmara) ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 ก.ม. ความกว้าง ตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 ก.ม. ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรป และสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความสวยงามแล้วช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้ ว่ากันว่าจะกระทั่งถึงยุคของการนำเอาเรือปืนใหญ่มาใช้ และไม่เคยปรากฏว่า กรุงอิสตันบูลถูกถล่มจนเสียหายอย่างหนักมาก่อนเลย ทั้งที่เป็นเพราะป้อมปืนดังกล่าวนี่เอง ในปีค.ศ.1973 มีการเปิดใช้สะพานบอสฟอรัส ซึ่งทำให้เกิดการเดินทางไปมระหว่างฝั่งเอเชียและยุโรปสะดวกมากขึ้น ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ สองข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาเช่ หรือบ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐี ซึ่งล้วนแต่สวยงามตระการตาทั้งสิ้น ได้เวลาอันสมควร |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านชม ชุมชนบาลัช ซึ่งเป็นหมู่บ้านดั้งเดิมของชาวยิว ซึ่งตกแต่งด้วยหลากหลายสีสันสะดุดตา ตั้งอยู่บนฝั่งยุโรปของอิสตันบูลเป็นชุมชนเก่าแก่ดั้งเดิมบนบนฝั่งตะวันตกของโกลเด้นฮอร์น อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ จากนั้นนำท่านสู่ ตลาดสไปซ์มาร์เกต อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันขึ้นชื่อของตุรกีอย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย นำท่านสู่ จัตุรัสทักซิม ( Taksim Square) หรือ ย่านทักซิม สแควร์ เป็นย่านที่คึกคักที่สุดในมหานครอิสตันบูล เพราะเป็นย่านที่เป็นจุดศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก มีช็อปปิ้ง สตรีท ที่รายล้อมไปด้วยร้านค้าทั้งแบรนด์โลคอล และแบรนด์อินเตอร์มากมาย แถมยังมีบูติกโฮเต็ลอิพๆ และบาร์เก๋ๆ ให้คุณได้ชมบรรยากาศความคึกคักของถนนเส้นนี้ |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | TRYP BY WYNDHAM Hotel หรือเทียบเท่า |
วันที่ 8 | สุเหร่าสีน้ำเงิน -โบสถ์เซนต์โซเฟีย - อิสตันบูล OUTLET |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 8 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านสู่ จุดชมวิวฝั่งเอเชีย อิสระให้ให้ท่านเก็บภาพความงามของ2 ฝั่งทวีประหว่างยุโรปและเอเชีย **หมายเหตุขึ้นอยู่กันสภาพอากาศ ** จากนั้นนำท่านสู่ เมืองเก่าชมสนามแข่งม้าโบราณของชาวโรมัน “ฮิบโปโดรม” จัตุรัสสุลต่านอาห์เมต จากนั้นนำท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา ที่มีความสวยงามแห่งหนึ่ง ชื่อนี้ได้มาจากกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินที่ใช้ปูตลอดแนวฝาผนังด้านในและถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ ซึ่งเคยเป็นวังของจักรพรรดิไบเซนไทน์ โดยสุลต่านอาหเม็ตที่ 1 ค.ศ. 1609 ใช้เวลาสร้างทั้งหมด7 ปีและ |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำชม โบสถ์เซนต์โซเฟีย (St. Sophia) ซึ่งเป็นศิลปะแบบไบแซนไทม์ ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ สร้างขึ้นสมัยจักรพรรดิคอนสแตนติน ของจักรวรรดิไบแซนไทม์ เดิมใช้เป็นโบสถ์คริสต์แต่หลังจากจักรวรรดิออตโตมันเข้ามาปกครองจึงได้เปลี่ยนโบสถ์ดังกล่าวมาเป็นมัสยิด แต่ได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติในสมัย เคมาล อะตาเติร์ก หลังจากที่เป็นโบสถ์ในศาสนาคริสต์เป็นเวลากว่า 916 ปี และเป็นมัสยิดของศาสนาอิสลามอีกกว่า 447 ปี ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความงามและความยิ่งใหญ่ ภายในมีภาพประดับโมเสกทองที่สมบูรณ์บ่งบอกถึงความศรัทธาอันแรงกล้าของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่มีต่อคริสต์ศาสนา จากนั้นนำท่านสู่ ช้อปปิ้ง Outlet ที่ใหญ่ที่สุดในอิสตันบูล อิสระให้ท่านเลือกชื้อสินค้าแบรนด์เนมต่างๆตามอัธยาศัย ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน Istanbul |
ค่ำ | อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย ** |
วันที่ 9 | อิสตันบูล - กรุงเทพ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 9 | |
01.55 น. | ออกเดินทางสู่ ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ TK 068 (ใช้เวลาบินประมาณ 9 ชั่วโมง) |
15.00 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดีภาพและความประทับใจ |
Address
240/26 (A Tower) Ayothaya Building 16th Floor, Ratchadapisek Soi 18, Huay Kwang, BKK 10320
ทุกวัน : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel