ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส ชมโชว์ระบำหน้าท้อง
ปราสาทปุยฝ้าย น้ำพุเกลือแร่ร้อนไหลทะลุขึ้นมาจากใต้ดิน
นครใต้ดินไคมัคลี ที่มีความลึกจากพื้นดินลงไป 10 กว่าชั้น
อ่างเก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน อุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอิสตันบูล
ช้อปปิ้งสิ้นค้าพื้นเมืองที่ ตลาดสไปซ์ มาร์เก็ต
วันที่ 1 | กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
19.00 น. | คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 10 เคาน์เตอร์ U สายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เจ้าหน้าที่ทัวร์คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก |
22.35 น. | ออกเดินทางสู่ อิสตันบูล ประเทศตุรกี โดย สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ ิ |
วันที่ 2 | อิสตันบูล - เพอร์กามอน - วิหารอะโครโปลิส - คูซาดาซึ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
05.45 น. | เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองชานัคคาเล่ (Canakkale) (ระยะทาง 307 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.20 ชั่วโมง) ระหว่างทางท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามของขุนเขาสลับกับรถวิ่งชายทะเล จากนั้นนำท่านนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากสู่ เมืองชานัคคาเล่ ผ่านช่องแคบดาร์ดะแนลล์ (Dardanelles) นำท่านออกเดินทางสู่ เพอร์กามอน (Pergamon) ระยะทาง 267 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงโดยประมาณ ตั้งอยู่ในบริเวณอะนาโตเลียห่างจากทะเลอีเจียนประมาณ 30 กม.ทางด้านเหนือของแม่น้ำไคซูส ซึ่งเป็นเมืองโบราณของกรีกที่มีความสำคัญของพวกเฮเลนนิสติก |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านชม วิหารอะโครโปลิส (Acropolis) นครบนที่สูง เป็นโครงสร้างฐานในการป้องกันเมืองของอาณาจักรกรีกและโรมัน ซึ่งผู้ตั้งถิ่นฐานในสมัยนั้นมักเลือกที่สูง ซึ่งมักจะเป็นเนินเขาที่ด้านหนึ่งเป็นผาชัน และกลายเป็นศูนย์กลางของมหานครใหญ่ ที่เติบโตรุ่งเรืองอยู่บนที่ราบเบื้องล่างที่รายล้อมป้อมปราการเหล่านี้ โดยเมืองด้านบน (upper town) จะเป็นพื้นที่วิหารบูชาเทพเจ้า สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พระราชวังและพื้นที่ใช้งานต่างสำหรับกษัตริย์และชนชั้นสูงเท่านั้น ส่วนประชาชนคนธรรมดาทั่วไปจะอยู่ในส่วนของเมืองด้านล่าง นำท่านออกเดินทางสู่ คูซาดาซึ (Kusadasi) ระยะทาง 196 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงโดยประมาณ |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | ADA CLASS KUSADASI หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | เมืองโบราณเอเฟซุส - โรงงานเครื่องหนัง - บ้านพระแม่มารี - ปามุคคาเล่ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านเข้าชม เมืองโบราณเอเฟซุส (City of Ephesus) ที่ยิ่งใหญ่และงดงามจนกระทั่งจารึกว่า “มหานครแห่งแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเซีย” เมืองโบราณที่สมบูรณ์และมั่งคั่งที่สุด ถนนทุกสายปูด้วยหินอ่อน ชม ห้องสมุดเซลซุส (The Library of Celsus) ห้องสมุดแห่งนี้มีทางเข้า 3 ทาง โดยบริเวณประตูทางเข้ามีรูปแกะสลักเทพี 4 องค์ประดับอยู่ ได้แก่ เทพีแห่งปัญญา เทพีแห่งคุณธรรม เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และเทพีแห่งความรู้ รูปแกะสลักเทพีทั้ง 4 องค์ นี้เป็นของจำลอง ส่วนของจริงนักโบราณคดีชาวออสเตรียได้นำกลับไปออสเตรียและตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กรุงเวียนนา แวะชมโรงละครเอเฟซุส ซึ่งจุคนได้ประมาณ 30,000 คน เป็นโรงละครกลางแจ้งที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโรงละครโบราณในตุรกี มีลานแสดงตรงกลางแวดล้อมด้วยที่นั่งชมไล่ระดับขึ้นไป ปัจจุบันยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่และมีการจัดการแสดงแสงสีเสียงบ้างเป็นครั้งคราว ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ นำท่านเข้าชม บ้านของพระแม่มารี (House of Virgin Mary) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีมาอาศัยและสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ ถูกค้นพบอย่างปาฏิหาริย์โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมันชื่อ แอนนา แคเทอรีน เอมเมอริช Anna Catherine Emmerich ค.ศ. 1774-1824 นำท่านเยี่ยมชม โรงงานหนังชั้นนำ (Leather Factory) ซึ่งตุรกีเป็นประเทศที่ผลิตหนังที่มีคุณภาพที่สุดเป็นประเทศที่มีฐานการผลิตเครื่องหนังคุณภาพสูงที่สุดอันดับต้นๆของโลก อีกทั้งยังผลิตเสื้อหนังส่งให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น Versace, Prada, Michael kors อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านออกเดินทางสู่ ปามุคคาเล่ (Pamukkale) ระยะทาง 222 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงโดยประมาณ เมืองที่มีน้ำพุเกลือแร่ร้อนไหลทะลุขึ้นมาจากใต้ดิน ผ่านซากปรักหักพังของเมืองเก่าแก่สมัยกรีกก่อนไหลลงสู่หน้าผา จนเกิดผลึกกึ่งสถาปัตยกรรมสีขาวขึ้นสวยงามแปลกตา นำท่านเข้าชม ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) เมืองแห่งน้ำพุเกลือแร่ร้อน นำท่านชมหน้าผาที่ขาวกว้างใหญ่ด้านข้างของอ่างน้ำ เป็นรูปร่างคล้ายหอยแครงและน้ำตกแช่แข็ง ถ้ามองดูจะดูเหมือนสร้างจากหิมะ เมฆหรือปุยฝ้าย น้ำแร่ที่ไหลลงมาแต่ละชั้นจะแข็งเป็นหินปูน ห้อยย้อยเป็นรูปร่างต่างๆ อย่างมหัศจรรย์ น้ำแร่นี้มีอุณหภูมิประมาณ 33-35 องศาเซลเซียส ประชาชนจึงนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต ในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้ จากนั้นนำท่านเข้าชม นครโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) นครเฮียราโปลิสในสมัยก่อนนั้นเชื่อกันว่าเป็นนครศักดิ์สิทธิ์ ด้วยชื่อว่าเฮียรา (Hiera) ที่แปลว่าศักดิ์สิทธิ์ (Holy) และโปลิส (Polis) ที่แปลว่านคร (City) ซึ่งก่อตั้งโดยกษัตริย์ยูเมเนสที่สองแห่งแพอร์กามุม นอกจากนี้ท่านยังชมสถานที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ปามุคคาเล่ (Pamukkale Museum) โรงอาบน้ำโรมัน (The Baths) ซากโบสถ์สมัยไบแซนไทน์ ฐานวิหารอะพอลโล (Temple of Apollo) และ โรงมหรสพโรมัน (The Theatre) เป็นต้น |
ค่ำ | บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | TRIPOLIS PAMUKKALE หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | คอนย่า - นครใต้ดินไคมัคลี - คัปปาโดเกีย |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านออกเดินทางสู่ คอนย่า (Konya) ระยะทาง 395 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมงโดยประมาณ ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ระหว่างทางให้ท่านได้ชมทัศนียภาพสองข้างทางสบายๆที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของประเทศตุรกี |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านออกเดินทางสู่ นครใต้ดินไคมัคลี หรือ นครชาดัค (Underground City of Derinkuyu or Kaymakli) ระยะทาง 228 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงโดยประมาณ เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจาก เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากชาวโรมัน ที่ต้องการทำลายล้างพวกนับถือศาสนาคริสต์ นครไคมัคลีมีชั้นล่างที่ลึกที่สุดลึกถึง 85 เมตร เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ บางห้องเป็นห้องโถงกว้างว่ากันว่าสามารถจุคนได้มากกว่า 30,000 คน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ คัปปาโดเกีย (Cappadocia) คัปปาโดเกีย เป็นเมืองมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งในตุรกี ชื่อเมืองมาจากรากศัพย์ภาษาเปอร์เซีย ว่า คัตปาตุกา มีความหมายว่าดินแดนที่มีม้าแสนสวย ตัวเมืองสามารถมองเห็นทั้งทะเลดำและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้ทั้งสอง เมืองคัปปาโดเกีย ดินแดนที่มีภูมิประเทศอัน น่าอัศจรรย์แปรสภาพเป็นหุบเขา ร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปทรงต่างๆ ที่งดงาม ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี เป็นพื้นที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยสและภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว เถ้าลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายทั่วบริเวณ จนทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมาจากนั้นกระแส น้ำ ลม ฝน แดด และหิมะกัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟนับแสนนับล้านปีจนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูปแท่ง กรวย ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรงดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยายจนผู้คนในพื้นที่เรียกขานกันว่า “ปล่องไฟนางฟ้า” ในปีค.ศ.1985 ยูเนสโกได้ประกาศให้พื้นที่มหัศจรรย์แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านชม ระบำหน้าท้อง (Belly Dance) เพลิดเพลินไปกับการแสดงระบำหน้าท้องในชื่อ Cappadocia Turkish การแสดงระบำที่ที่สืบทอดกันมายาวนานและเก่าแก่ที่สุดของโลกเลยก้ว่าได้ แรกเริ่มการระบำหน้าท้องนั้นเกิดขึ้นในอียิปต์โบราณและแพร่กระจายไปยังตะวันออกกลาง ในอียิปต์โบราณผู้หญิงมักเต้นรำเพื่อเฉลิมฉลองชีวิตที่มีแต่ความสุข |
ที่พัก | MUSTAFA CAPPADOCIA หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ - หุบเขาอุซิซาร์ - โรงงานทอพรม - โรงงานเซรามิก - เครื่องประดับ - อังการา |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
**Optional Tour** | *** ท่านที่สนใจนั่งบอลลูนสามารถติดต่อแจ้งความประสงค์ได้ที่ไกด์ อัตราค่าบริการไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์ (Optional Tour) *** บอลลูนทัวร์ (Balloon Tour) สำหรับท่านที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย โปรแกรมเสริมพิเศษ จำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 04.30 - 05.00 น. โดยมีรถท้องถิ่นมารับไปขึ้นบอลลูน เพื่อชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย ในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมไปขึ้นบอลลูน ประมาณ 30 - 45 นาที อยู่บนบอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการขึ้นบอลลูน ท่านละ ประมาณ 250 - 300 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (USD) ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและช่วงเวลา ข้อควรทราบ |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองเกอเรเม่ (Goreme) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในอาณาบริเวณของเมืองคัปปาโดเกีย ในตอนกลางของอานาโตเลีย ประเทศตุรกี เมืองเกอเรเม่ตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของผู้คนมาตั้งแต่สมัยโรมัน และเป็นที่ที่ชาวคริสเตียนยุคแรกใช้ในการเป็นที่หลบหนีภัยจากการไล่ทำร้ายและสังหารก่อนที่คริสต์ศาสนาจะเป็นศาสนาที่ได้รับการประกาศว่าเป็นศาสนาของจักรวรรดิ ที่จะเห็นได้จากคริสต์ศาสนสถานจำนวนมากมายที่ตั้งอยู่ในบริเวณนี้ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการทอพรม และ การผลิตเครื่องเซรามิกล้ำค่าแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Open Air Museum of Goreme) ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1985 เป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ นำท่านชม โบสถ์เซนต์บาร์บารา (St. Barbar Church) โบสถ์มังกร (Snake Church) และ โบสถ์แอปเปิ้ล (Apple Church) |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ หุบเขาอุซิซาร์ (Uchisar Valley) หุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาดังกล่าวมีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อยู่อาศัย และถ้ามองดีๆจะรู้ว่าอุซิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ดังนั้นในอดีตอุซิซาร์ ก็มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย จากนั้นอิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพบ้านพื้นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่ จากนั้นให้ท่านได้แวะชม โรงงานทอพรม (Carpet Factory) โรงงานเซรามิก (Ceramic Factory) และ โรงงานเครื่องประดับ (Jewelly Factory) เพื่อให้ท่านได้ชมการสาธิตกรรมวิธีการผลิตสินค้าพื้นเมืองที่มีคุณภาพและชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย นำท่านออกเดินทางสู่ กรุงอังการา (Ankara) ระยะทาง 291 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงโดยประมาณ กรุงอังคาราถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเมืองอิสตันบูล (Istanbul) กรุงอังการาเป็นศูนย์กลางการปกครองของผู้นำประเทศคนแรกคือท่านประธานาธิบดี Mustafa Kemal Atatürk หรือ Atatürk’s headquarters ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1920 และได้ก่อตั้งเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐตุรกีนับตั้งแต่การก่อตั้งประเทศในปี ค.ศ. 1923 แทนเมืองอิสตันบูลหลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิออตโตมัน (Ottoman Empire) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมากรุงอังการาก็กลายเป็นศูนย์กลางการพาณิชย์ การศึกษา และอุตสาหกรรมที่สำคัญของตุรกี |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | KAHYA ANKARA หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | อิสตันบูล - ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส - พระราชวังทอปกาปึ - ตลาดสไปซ์ มาร์เก็ต |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านออกเดินทางสู่ อิสตันบูล (Istanbul) ระยะทาง 457 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมงโดยประมาณ เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายศตวรรษตั้งแต่ก่อนคริสตกาล ซึ่งในปัจจุบันอยู่ในประเทศตุรกีค่ะ อิสตันบูล ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | จากนั้นนำท่าน ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black Sea) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (Sea of Marmara) ความยาวทั้งสิ้น ประมาณ 32 กิโลเมตร ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความ สวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ข้างทางไม่ว่าจะเป็ นพระราชวังโดลมาบาชเช่หรือบ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐี ซึ่งล้วนแล้วแต่สวยงามตระการตาทั้งสิ้น นำท่านเข้าชม พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ประทับของสุลต่านแห่งราชวงศ์ออตโตมัน ปัจจุบันพระราชวังทอปกาปิกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ใช้เก็บมหาสมบัติอันล้ำค่าอาทิ เช่น เพชร 96 กะรัต กริชทองประดับมรกต เครื่องลายครามจากจีน หยก มรกต ทับทิม และเครื่องทรงของสุลต่าน ฯลฯ นำท่านเดินทางสู่ ตลาดสไปซ์ มาร์เก็ต (Spice Market) หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันขึ้นชื่อของตุรกี อย่าง แอปริคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Hotel Golden Way หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | จัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด - สุเหร่าสีน้ำเงิน - สุเหร่าเซนต์โซเฟีย - อ่างเก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน - สนามบิน |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด (Sultan Ahmed Complex) มีชื่อเรียกโบราณคือ ฮิปโปโดม (Hippodrome) ตั้งอยู่หน้าสุเหร่าสีน้ำเงิน เดิมเป็นลานแข่งรถม้าและศูนย์กลางเมืองในยุคไบแซนไทน์ นำท่านเข้าชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทางศาสนา ที่มีความสวยงามแห่งหนึ่ง ชื่อนี้ได้มาจากกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินที่ใช้ปูตลอดแนวฝาผนังด้านใน และถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ ซึ่งเคยเป็นวังของจักรพรรดิไบเซนไทน์ โดยสุลต่านอาห์เหม็ตที่ 1 ค.ศ. 1609 ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 7 ปี |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเข้าชม สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือชื่อในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) เดิมเคยเป็นโบสถ์ของคริสต์ศาสนา นิกายออร์โธดอกส์ ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่า ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง และ ถือเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง จุดเด่นอยู่ที่ยอดโดมขนาดมหึมากลางวิหาร และนับเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ นำท่านเข้าชม อ่างเก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) ซึ่งเป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 กว้าง 70 เมตร ยาว 140 เมตร ลึก 8 เมตร ภายในอุโมงค์ มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่เด่นมากคือ เสาเมดูซ่า อิสระให้ท่านถ่ายรูปและชมความงามใต้ดินของอุโมงค์เก็บน้ำขนาดใหญ่ ได้เวลาอันสมควร นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินอิสตันบูล |
22.55 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK064 |
วันที่ 8 | กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 8 | |
10.15 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ |
Address
240/26 (A Tower) Ayothaya Building 16th Floor, Ratchadapisek Soi 18, Huay Kwang, BKK 10320
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel