โปรแกรมทัวร์ยุโรป เยอรมัน ออสเตรีย เช็ก (ซุกสปิตเซ่-คริสมาสมาร์เกต)
ปราสาทไฮเดิลเบิร์ก | สะพานเก่า Alte Brucke |จัตุรัสคอร์นมาร์ค | จัตุรัส Castle Square | ปราสาทใหม่ | ปราสาทโฮเอินโซลเลิร์น | ปราสาทโฮเอินโซลเลิร์น | ปราสาทนอยชวานสไตน์ | ยอดเขาซุกสปิตเซ่ | พระราชวังและสวนมิราเบล | ถนนGetreidegasse | จัตุรัสเรสซิเดนท์ | ปราสาทเช้สกี้ครุมลอฟ | สะพานชาร์ล | ย่านเมืองเก่ากรุงปราก | ปราสาทปราก | ถนนทองคำ | อาคารมิลโคโลนเนด | สวน Park Colonade | Market Colonade | พระราชวังซวิงเงอร์ | จัตุรัสโรงละคร | จิตรกรรม Fürstenzug | โบสถ์เฟราเอนเคียร์เช | จัตุรัส Altmarkt | จัตุรัสโรเมอร์ | ถนน ZEIL
รหัสทัวร์ | วันที่เดินทาง | เดินทางโดย | ราคา | สถานะ |
---|---|---|---|---|
DE983-001 | 04-12 ธ.ค. 68 | Condor Airlines (DE) | 109,999 | จองด่วน |
วันที่ 1 | สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
18.00 น. | พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการคอนดอร์ แอร์ไลน์ Condor Airlines (DE) โดยมี เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการเช็คอินให้แก่ทุกท่าน |
22.35 น. | ออกเดินทางสู่ สนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน เที่ยวบินที่ DE2363 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) |
วันที่ 2 | สนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน – เมืองไฮเดิลเบิร์ก – ปราสาทไฮเดิลเบิร์ก – สะพานเก่า Alte Brucke - จัตุรัสคอร์นมาร์ค – เมืองสตุทท์การ์ดต – จัตุรัส Castle Square - ปราสาทใหม่ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
05.15 น. | เดินทางถึง สนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร และนำท่านขึ้นรถโค้ชเพื่อเดินทาง |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น เมืองไฮเดิลเบิร์ก Heidelberg (เดินทางประมาณ 1 ชม.) ไฮเดิลแบร์คเป็นเมืองมหาวิทยาลัยไฮเดิลเบิร์กซึ่งสถาปนาขึ้นในปี ค.ศ. 1386 เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และได้รับการยอมรับที่สุดของยุโรป ทำให้เมืองแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองมหาวิทยาลัย ประชากรกว่าหนึ่งในสี่เป็นนักศึกษา นอกจากนี้ อาคารสิ่งก่อสร้างในเมืองยังก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมศิลปะจินตนิยม และบารอก ทำให้ไฮเดิลเบิร์กถูกขนานนามว่าเป็น "เมืองโรแมนติก" นำทานนั่งรถไฟราง สู่ ปราสาทไฮเดิลเบิร์ก Heidelberg Castle เมื่อเข้ามาในเขตของตัวปราสาทจะพบอาคารสวยงามอยู่ด้านหน้า เป็นอาคารสไตล์เรอเนสซองค์ที่ตกแต่งผนังด้วยกระจก มีรูปปั้นพระเจ้าเฟเดอริกที่4 ประดับรูปสลักกษัตริย์ตระกูลวิทเทลส์บาค 16 องค์ คั่นระหว่างช่องหน้าต่าง สร้างด้วยหินทรายแดง และบริเวณหน้าอาคารนี้เองที่กลายเป็นฉากถ่ายรูปที่สวย และมีทางเดินลาดเอียงลงไปสู้ห้องเก็บไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย นำท่านสู่ สะพานเก่า Alte Brucke ที่มีลิงบรอนซ์ สัญลักษณ์แห่งความไร้ยางอายของมนุษย์ เชื่อกันว่าเมื่อเอามือมาลูบเหรียญที่ลิงตัวนี้ถือ จะสมหวังและร่ำรวยสะพานหินหกซุ้มโค้งทอดยาวข้ามแม่น้ำเน็คคาร์ ช่วงปี 1786-1788 เชื่อมต่อประตูเมืองเก่าที่โดดเด่นด้วยยอดหอคอทรงกรวยแหลมแบบบารอคในช่วงศตวรรษที่ 13 เมื่อเดินข้ามสะพานจะเห็นปราสาทไฮเดลแบร์กสีชมพูอมแดงตั้งเด่งเป็นสง่าอยู่บนยอดเขา รวมถึงอาคารบ้านเรือนที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำเน็คคาร์ บรรยากาศของเมืองนี้ดูโรแมนติก จัตุรัสคอร์นมาร์ค จัตุรัสแห่งแรกตั้งชื่อตามตลาดขายเมล็ดพันธุ์และข้าวโพดตั้งแต่ยุคกลาง มีรูปปั้นประแม่มารีอุ้มบุตรประทับอยู่บนโล่ทองคำ สร้างขึ้นเมื่อปี 1985 เพื่อให้ชาวเมืองหันมานับถือคาทอลิกดังเดิม มาถึงแล้วก็ต้องเดินเล่นชมเมืองอันแสนคลาสสิคนี้เสียก่อน ถนนคนเดินที่ยาวที่สุดแห่งหนึ่งของเยอรมัน มีทั้งร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารและร้านขายหนังสือ เนื่องจากที่นี่เป็นเมืองมหาวิทยาลัย พลาดไม่ได้คือร้านขายเบียร์ที่ตั้งโต๊ะออกมาด้านนอก สำหรับลูกค้าที่ต้องการจิบเบียร์เบาๆรับลมหนาว แต่ละร้านนั้นตกแต่งแบบมีสไตน์น่าถ่ายรูปเป็นอย่างมาก |
เที่ยง | บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น |
บ่าย | เมืองสตุทท์การ์ดต Stuttgart (เดินทางประมาณ 1.30 ชม.) เมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงในฐานะ "แหล่งกำเนิดรถยนต์" ในอดีต สโลแกนการท่องเที่ยวของเมืองคือ "ชตุทการ์ทเสนอได้มากกว่า" ต่อมามีการเปลี่ยนโลโก้และสโลแกนใหม่ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2008 ไปเป็น "Das neue Herz Europas" "หัวใจใหม่ของยุโรป" ในกรกฎาคม ค.ศ. 2010 นำท่านสู่ จัตุรัส Castle Square ตั้งอยู่ด้านหน้าพระราชวัง ซึ่งเป็นลานสาธารณะที่ประกอบด้วยสนามหญ้าและทางเดินกว้าง อนุสาวรีย์แห่งชัยชนะที่เป็นเสาที่เรียกกันว่ารูปปั้นคองคอร์เดีย ตั้งตระหง่านอยู่ในใจกลางจัตุรัส นั่งบนม้านั่งหรือเอนหลังลงบนสนามหญ้า เพื่อชมผู้คนเดินผ่านไปมาและชื่นชมภูมิทัศน์สถาปัตยกรรมที่ล้อมรอบ จัตุรัสจัดงานตลอดทั้งปี ตั้งแต่คอนเสิร์ตกลางแจ้งฤดูร้อนไปจนถึงตลาดคริสต์มาส ซึ่งเหมือนเป็นเหมือนสวนสาธารณะกลางเมือง ที่มีฉากหลังเป็น ปราสาทใหม่ (Neues Schloss) ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประทับที่ตั้งตระหง่านเหนือใจกลางเมืองสตุทท์การ์ท ดยุคคาร์ล ออยเกนแห่งเวือร์ทเทมแบร์ก เป็นผู้ก่อตั้งพระราชวังแห่งนี้โดยมีความประสงค์ที่จะสร้างที่อยู่อาศัยให้สมเกียรติดยุคแห่งเวือร์ทเทมแบร์ก *ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับเทศกาลคริสมาสมาร์เกต ของเมืองสตุทท์การ์ดตตามอัธยาศัยซึ่งจะจัดในวันที่ 26 พ.ย. – 23 ธ.ค. 2025* (1) |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน |
พักที่ | Holiday Inn Stuttgart หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน -โรงแรมในรายการทัวร์เป็นโรงแรมที่นำเสนอ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน |
วันที่ 3 | เมืองสตุทท์การ์ดต – ปราสาทโฮเอินโซลเลิร์น – เมืองชวานเกา – ปราสาทโฮเอินโซลเลิร์น – ปราสาทนอยชวานสไตน์ - เมืองฟุสเซน |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเข้าชม ปราสาทโฮเอินโซลเลิร์น (Hohenzollern Castle) (เดินทางประมาณ 2 ชม.) คือปราสาทโบราณสไตล์นีโอโกธิคที่ตั้งอยู่บนยอดเขาโฮเอินโซลเลิร์น (Mount Hohenzollern) ที่ระดับความสูง 855 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ปราสาทแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งปราสาทเทพนิยายที่ถูดจัดให้เป็นหนึ่งใน 4 ปราสาทที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในเยอรมัน มีจุดเด่นคือยอดแหลมของตัวปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์นสูงเด่นเป็นสง่า ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการของภูมิภาค เฟรเดอริควิลเลียมที่ 4 แห่งปรัสเซีย ได้สร้างขึ้นมาใหม่ให้มีขนาดใหญ่ ที่พลาดชมไม่ได้ที่ปราสาทโฮเอินโซลเลิร์นแห่งนี้ก็คือ "มงกุฎเพชรปรัสเซีย" ซึ่งเป็นมงกุฎที่สร้างจากเพชร และทองคำสมัยโบราณซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นปราสาทที่มีป้อมปราการมากที่สุดในเยอรมนีอีกด้วย ที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวคือภายในปราสาทนั้นมีทั้งคาเฟ่และลานเบียร์ ในบรรยากาศสุดอลังอีกด้วย *การเข้าชมปราสาทโฮเอินโซลเลิร์น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และ สภาพภูมิอากาศเป็นสำคัญ กรณีคณะไม่สามารถเข้าชมได้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายได้เนื่องจากเป็นการชำระล่วงหน้ากับผู้แทนแล้ว ทั้งนี้บริษัทจะคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ |
เที่ยง | บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น |
บ่าย | จากนั้นเดินทางสู่ พาท่านถ่ายรูปบริเวณด้านหน้าของ ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) (เดินทางประมาณ 3 ชม.) มหาปราสาทแห่งยุคกลาง ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของแคว้นบาวาเรียเลยที่เดียว โดยถูกสร้างขึ้นจากพระราชดำรัสของพระเจ้าลูทวิชที่ 2 ในปี 1864 ปราสาทแห่งนี้โด่ดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ นิโอโกธิคผสม โรมาเนสส์ จนทำให้เป็นต้นแบบของปราสาทในเทพนิยายของดิสนีย์ที่เราเห็นกัน หากมีเวลาพาท่านนั่งรถ Shuttle Bus เพื่อพาชมวิวมุมสูงของตัวปราสาท ที่บริเวณ สะพานมาเรียน(Marienbrücke) *หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยหรือมีเหตุใดอาจทำให้เกิดความอันตรายทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่พาท่านขึ้นโดยยึดเอาความปลอดภัยของท่านเป็นสำคัญ* นำท่านสู่ เมืองฟุสเซ่น (Füssen) (เดินทางประมาณ 30 นาที) ที่ตั้งอยู่ปลายแคว้นบาวาเรียของประเทศเยอรมัน มีชายแดนห่างจากประเทศออสเตรียเพียงแค่ 5 กม. เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่กลางป่าเขาและธรรมชาติ ทิวทัศน์อันงดงาม |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น เมนูพิเศษ ขาหมูเยอรมัน และ เบียร์ |
พักที่ | Best Western Plus Hotel Fuessen หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน -โรงแรมในรายการทัวร์เป็นโรงแรมที่นำเสนอ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน |
วันที่ 4 | เมืองฟุสเซน - เมืองการ์มิชพาร์เทินเคียร์เชิน – ยอดเขาซุกสปิตเซ่ – เมืองซาลบวร์ก – พระราชวังและสวนมิราเบล – ถนนGetreidegasse - จัตุรัสเรสซิเดนท์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองการ์มิชพาร์เทินเคียร์เชิน (Garmisch Partenkirchen) (เดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองสวยในเขตเทือกเขาแอลป์ เป็นแหล่งเล่นสกีที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เมืองแห่งนี้เคยเป็นสถานที่จัดโอลิมปิกฤดูหนาว 1936 บริเวณใกล้เคียงยังเป็นที่ตั้งของซุกสปิตเซ่ ภูเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี และยังเป็นบ้านเกิดของคีตกวีชื่อดังอย่าง ริชชาร์ท ชเตราส์ ซึ่งจะมีการจัดเทศกาลดนตรีริชชาร์ท-ชเตราส์ในเดือนมิถุนายนของทุกปี จากนั้นนำท่าน นั่งกระเช้าลอยฟ้า Cable Car ขึ้นสู่ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (Zugspitze) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี ให้ท่านเก็บภาพประทับใจจากจุดชมวิวบนยอดเขาที่สูงที่สุดใน บนความสูง 2,964 เมตร จากบนยอดเขาท่านจะมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบตัวซึ่งประกอบไปด้วยยอดเขากว่า 400 เมื่อมองจากยอดเขาจะเห็นทิวทัศน์งดงามกว้างไกลไปถึง 4 ประเทศด้วยกันคือ เยอรมนี ออสเตรีย อิตาลีและสวิสเซอร์แลนด์โดยมียอดเขาที่อยู่เคียงกันอีก 3 ยอดคือ แอล์ปสปิตซ์ (Alpspitz), ครอยเซ็ค (Kreuzeck) และแวงค์ (Wank) *การเดินทางขึ้นยอดเขาซุกสปิตเช่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และ สภาพภูมิอากาศเป็นสำคัญ กรณีคณะไม่สามารถขึ้นชมยอดเขาได้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายได้เนื่องจากเป็นการชำระล่วงหน้ากับผู้แทนเรียบร้อยแล้วทั้งหมด ทั้งนี้ทางบริษัทจะคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหาร บนยอดเขาซุกสปิตเซ่ *กรณีร้านอาหารไม่สามารถรองรับได้ ไม่ว่ากรณีใดทางบริษัทขอนำท่านรับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารในเมืองใกล้เคียงเป็นการทดแทน* |
บ่าย | นำท่านสู่ เมืองซาลบวร์ก (Salzburg) (เดินทางประมาณ 2 ชม.) เมืองที่มีความหมายว่า ปราสาทเกลือ เนื่องด้วยสมัยก่อนนั้นเกลือถือเป็นวัตถุดิบล้ำค่า มีราคาเทียบเท่ากับทองคำ และที่นครแห่งนี้นั้นมีเหมืองเกลือขนาดใหญ่ ทำให้สภาพทางเศรษฐกิจในซาลบวร์กเฟื่องฟูมากที่สุดเมืองหนึ่งของยุโรปเลยทีเดียว เมืองบ้านเกิดของคีตกวีเอกที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของโลกนาม ว็อล์ฟกัง อมาเดอุส โมซาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) นำท่านชมความงามของ พระราชวังและสวนมิราเบล (Mirabell Palace and Gardens) สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1606 โดยเจ้าชายอาร์คบิชอป Wolf Dietrich ซึ่งรับสั่งให้สร้างพระราชวังขึ้นเพื่อ Salome Alt หญิงผู้เป็นที่รักของพระองค์ โดยคำว่ามิราเบล มาจากคำ 2 คำ คือ admirable ที่แปลว่าน่าชื่นชม และ คำว่า beautiful ที่แปลว่าสวย จึงมีความหมายโดยรวมว่า ความโสภาที่น่าอภิรมย์ ดั่งความโรแมนติกอันเป็นเหตุแห่งการสร้างพระราชวังแห่งนี้ ไฮไลท์ของพระราชวังแห่งนี้นั้นคือ ตัวสวนมิราเบล สวนที่ถูกจัดเป็นสไตล์บาโรค ที่ถูกรังสรรค์เพิ่มเติมจนแล้วเสร็จในปี 1690 เป็น 1 ในฉากถ่ายทำภาพยนต์เพลงชื่อก้องโลกอย่าง The Sound Of Music นำท่านเดินเล่นและแวะถ่ายรูปบริเวณ ถนน Getreidegasse ที่มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์คือ บ้านเลขที่ 9 ซึ่งเป็นบ้านเกิดของโมซาร์ท ถัดไปนั้นเป็น จัตุรัสเรสซิเดนท์ (Residenzplatz) จัตุรัสที่รวมสถานที่สำคัญของเมืองไม่ว่าจะเป็น อาสน์วิหารซาลบวร์ก พระราชวังเรสซิเดนท์ รวมไปถึง ประติมากรรม Sudliche Dombogen โดยจากตรงนี้ท่านจะสามารถเห็น ป้อมโฮเฮนซาลบวร์ก (Fortress Hohensalzburg) ได้อย่างชัดเจน 3 *ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับเทศกาลคริสมาสมาร์เกต ของเมืองซาลบวร์ก (Salzburg) ตามอัธยาศัยซึ่งจะจัดในวันที่ 20 พ.ย. – 31 ธ.ค. 2025* (2) |
ค่ำ | อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาท่องเที่ยว และช้อปปิ้ง |
พักที่ | NH Collection Salzburg City หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน -โรงแรมในรายการทัวร์เป็นโรงแรมที่นำเสนอ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน |
วันที่ 5 | เมืองซาลบวร์ก – เมืองฮัลล์สตัท - เมืองเช้สกี้ครุมลอฟ – ปราสาทเช้สกี้ครุมลอฟ – เมืองเช้สกี้บูเดอโจวิซ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม พาท่านเดินทางเดินทางสู่ หมู่บ้านมรดกโลกที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นหมู่บ้านมรกดกโลกที่สวยที่สุดในโลก เมืองฮัลล์สตัท (Hallstatt) (เดินทางประมาณ 1.30 ชม.) เมืองมรดกโลกที่อยู่ท่ามกลางขุนเขาและทะเลสาบ ตั้งอยู่ในรัฐอัปเปอร์ออสเตรีย มีประชากรไม่ถึง 1,000 คน แต่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนกว่า 800,000 คนต่อปี ด้วยทัศนียภาพตระการตา ที่ธรรมชาติและมนุษย์ร่วมกันประกอบขึ้นทำให้ เป็นสถานที่ที่เป็น The Must ของยุโรปตะวันออกเลยทีเดียว ให้ท่านอิสระในการซึมซับบรรยากาศของเมืองมรดกโลก |
เที่ยง | บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น |
บ่าย | จากนั้นมุ่งหน้าสู่ สาธารณรัฐเช็ก เมืองเช้สกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) (เดินทางประมาณ 3 ชม.) ไข่มุกแห่งโบฮิเมียนเป็นอีกเมืองสวยที่พลาดไม่ได้ ด้วยเอกลักษณ์ที่บ้านเรือนมีหลังคาสีส้ม มีแม่น้ำวอลตาว่าพาดผ่านเป็นรูปคล้ายๆ หยดน้ำ ทำให้เกิดภูมิทัศน์ที่งดงาม พาท่านชม ปราสาทเช้สกี้ครุมลอฟ ด้านนอก ปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ ซึ่งถือว่าใหญ่มากหากเทียบกับขนาดเมืองนอกจากนั้นเมืองนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1992 อีกด้วย จากนั้นมุ่งหน้าสู่ เมืองเช้สกี้บูเดอโจวิซ (České Budějovice) (เดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นนครในประเทศเช็กเกีย เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในแคว้นเซาท์โบฮีเมีย ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำเวิลตาวา เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อราว ค.ศ. 1265 เป็นเมืองต้นกำเนิดของเบียร์บัดไวเซอร์ |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น พิเศษเมนู เป็ดโบฮีเมียน |
พักที่ | Clarion Congress Hotel České Budějovice หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน -โรงแรมในรายการทัวร์เป็นโรงแรมที่นำเสนอ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน |
วันที่ 6 | เมืองเช้สกี้บูเดอโจวิซ - กรุงปราก – สะพานชาร์ล - ย่านเมืองเก่ากรุงปราก – ปราสาทปราก – ถนนทองคำ - เมืองคาร์โลวี วารี - เมืองคาร์โลวี วารี – อาคารมิลโคโลนเนด - สวน Park Colonade - Market Colonade |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้น นำท่านสู่ เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก กรุงปราก (Prague) (เดินทางประมาณ 2 ชม.) ชมเสน่ห์ที่หลายคนยกย่องว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดของยุโรปตะวันออก ด้วยความเก่าแก่ของสถาปัตยกรรม ยิ่งทำให้ปรากเป็นดั่งเมืองที่ถูกหยุดเวลาไว้นับตั้งแต่ยุคกลาง นำท่านชม สะพานชาร์ล (Charle Bridge) สะพานหลักสุดคลาสสิคที่โด่งดังที่สุดของเมืองเชื่อมฝั่งเมืองเก่าและเมืองใหม่ที่ถูกแบ่งด้วยแม่น้ำวอลตาว่าเข้าด้วยกัน สะพานแห่งนี้เริ่มก่อสร้างในปี 1357 ใช้เวลาในการสร้างมากกว่า 100 ปีกว่าจะแล้วเสร็จ เป็น 1 ในมุมถ่ายรูปที่ท่านต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง ย่านเมืองเก่ากรุงปราก (Old Town Square) ที่มีไฮไลท์สำคัญของย่านนี้นั่นคือ การชมนาฬิกาดาราศาสตร์เมืองปราก ซึ่งถือเป็นนาฬิกาดาราศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังทำงานได้อยู่ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1410 ในทุกๆชม. จะมีตุ๊กตากลพระสาวกพระเยซูทั้ง 12 ท่านปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงระฆังในทุกวัน บริเวณใกล้เคียงยังเป็นที่ตั้งของ โบสถ์ติน Church of Our Lady before Týn ถือเป็นโบสถ์หลักของย่านเขตเมืองเก่า สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมันเนสในตอนต้น นำท่านชม ปราสาทลำดับที่ 1 ของประเทศ ปราสาทปราก (Prague Castle) มหาปราสาที่สร้างมากว่า 1,200 ปี Guinness World Records ได้บันทึกไว้ว่า เป็นปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่ 70,000 ตรม. เคยเป็นที่ประทับของบรรพกษัตริย์ของชาวโบฮิเมียน ปัจจุบันใช้เป็นทำเนียบประธานาธิบดี สูงเด่นตระหง่านอยู่บนเขาทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำวอลตาว่าภายในบริเวณปราสาทนั้นมีสิ่งปลูกสร้างมากมายประหนึ่งเมืองๆ หนึ่ง อาทิ อาสน์วิหารนักบุญวีตัส (St. Vitus Cathedrals) โบสถ์คริสต์แห่งแรกของปราก สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 870 สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่นักบุญวีตัส โบสถ์ให้นี้ใช้เวลาในการสร้างกว่า 600 ปี ภายในจะประดับด้วยกระจกสีและ Rose Window จากนั้นไปชมอีก 1 จุด ถนนทองคำ (Golden Lane) โดยสาเหตที่ได้ชื่อว่าถนนทองคำนั้น เนื่องจากบริเวณนี้นั้นเป็นที่พำนักของเหล่าช่างทองที่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ลักษณะของบ้านเรือนสีลูกกวาดสดใสและฉูดฉาดที่ท่านจะเห็นในปัจจุบันนั้น มาจากพระราชดำรัสของพระนางมาเรีย เทเรซ่า ที่โปรดบูรณะให้มีความสวยงาม |
เที่ยง | บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น |
บ่าย | เมืองคาร์โลวี วารี (Karlovy Vary) (เดินทางประมาณ 1.40 ชม.) ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสปาที่ใหญ่ที่สุดของเช็ก ตามตำนานบอกว่าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 ทรงพบแหล่งน้ำแร่ที่เมืองนี้ในปีค.ศ. 1358 เมื่อครั้งเสด็จฯ ออกล่าสัตว์แล้วสุนัขล่าเนื้อตัวหนึ่งตกลงไปในน้ำพุร้อน นับแต่นั้นเมืองก็มีชื่อเป็นต้นมา จนถึงเดี๋ยวนี้ทั้งเมืองมีน้ำพุน้ำแร่อุณหภูมิตั้งแต่ 42-72 องศาเซลเซียสทั้งหมด 12 แห่ง สปา ที่เมืองนี้มีชื่อไปทั่วโลกว่าเป็นศูนย์กลางบำบัดโรคภัยต่างๆ มีเจ้านายหลายพระองค์เคยเสด็จฯ นำท่านเข้าสู่ อาคารมิลโคโลนเนด (Mill Colonnade) ระเบียงที่มีเสาทั้งหมด 124 ต้น สร้างในช่วง คศ 1871-1881 โดยสถาปนิกที่ออกแบบโรงละครกรุงปราก Josef Zitek เริ่มแรกสร้างขึ้นมาเป็นอาคารไม้เพื่อให้ผู้คนได้มารองน้ำแร่ไปดื่มกันได้ ต่อมาถูกสร้างใหม่เป็นอาคารอย่างที่เห็น ได้เปิดใช้เมื่อ 05 มิถุนายน ค.ศ.1881 ภายในทางเดินมีก็อกน้ำพุร้อนอุณหภูมิต่าง ๆ กันอยู่ 5 บ่อ ส่วนด้านหน้ามีอีก 6 บ่อ และตรงนี้เคยใช้เป็นฉากสถานีรถไฟในภาพยนตร์เรื่องเจมส์ บอนด์ ตอน Casino Royale ในปี 2006 นำท่านสู่ สวน Park Colonade ระเบียงไม้ลวดลายฉลุหวาน ๆ สไตล์วิคตอเรีย มีสวนเล็ก ๆ อยู่ข้าง ๆ เดินเข้าไปด้านในจะมีบ่องู ไม่มีงูนะคะ เป็นบ่อน้ำร้อนรูปงูแค่นั้น แต่ละบ่อจะมีหมายเลขกำกับไว้ว่าเป็นบ่อที่เท่าไหร่ ป้ายเป็นภาษาเชคที่เขียนว่า Pramen แล้วก็ระบุไว้ว่าอุณหภูมิเท่าไหร่เพราะแต่ละบ่ออุณหภูมิน้ำก็ไม่เท่ากัน นำท่านสู่ Market Colonade มีส่วนตัวอาคารของ Market Colonade ได้รับการบูรณะใหม่เมื่อ คศ 1992 ที่นี่มีบ่อน้ำร้อนอยู่ 3 จุด สถานที่นี้มีแหล่งน้ำพอยู่ด้านใน ชื่อว่าน้ำพุชาร์ลที่ 4 4 (Charles IV Spring) เพราะว่าเป็นน้ำพุดั้งเดิมที่กษัตริย์ชาร์ลที่ 4 ใช่รักษาอาการป่วยที่ขาตั้งแต่ในศดวรรษที่ 14 ซึ่งแต่ก่อนเป็นแค่บ่อน้ำร้อนที่อยู่ท่ามกลางป่ำ สามารถนั่งดื่มน้ำแบบบสบายๆพร้อมกับดื่มด่ำสถาปัดยกรรมที่สวยงามแห่งนี้ไปพร้อมๆกัน 4 *ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับเทศกาลคริสมาสมาร์เกต ของ เมืองคาร์โลวี วารี (Karlovy Vary) ตามอัธยาศัยซึ่งจะจัดในวันที่ 30 พ.ย. 25 – 01 ม.ค. 26* (3) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน |
พักที่ | การันตีที่พักสุดพิเศษ Grandhotel Pupp โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว |
วันที่ 7 | เมืองคาร์โลวี วารี – เมืองเดรสเดน – พระราชวังซวิงเงอร์ – จัตุรัสโรงละคร – จิตรกรรม Fürstenzug – โบสถ์เฟราเอนเคียร์เช - จัตุรัส Altmarkt |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม เดินทางสู่ เมืองเดรสเดน (Dresden) (เดินทางประมาณ 2.30 ชม.) ประเทศเยอรมนี เมืองเก่าอายุ 810 ปี ที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำเอลเบอทางตอนใต้ของกรุงเบอร์ลิน ซึ่งแต่เดิมที่นี่เคยเป็นเมืองที่มีความสวยงามมาก นำท่านสู่เข้าสู่ บริเวณลานกว้างและสวนของพระราชวังซวิงเงอร์ Dresdner Zwinger หนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่เป็นที่จดจำมากที่สุดของเมืองเดรสเดน คือผลงานชิ้นสำคัญของสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรก เพื่อชื่นชมความงามของลานพระราชวังและสวนดอกไม้ที่ครั้งหนึ่งเคยใช้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลขนาดใหญ่ พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นระหว่างปี 1710 ถึง 1719 ประกอบด้วยห้องหรูหรา ประตู และโครงสร้างที่เป็นเสาจำนวนมาก ถ่ายภาพประตูมงกุฎ ซึ่งเป็นจุดเด่นของพระราชวังแห่งนี้ มองหารูปปั้นเทพเจ้ากรีกที่ประดับประดาอยู่บนประตู ก่อนเดินเข้าไปในสวนเพื่อตามหาน้ำพุนิมเฟนแบด ลานพระราชวังดาษดื่นไปด้วยน้ำพุรูปปั้นจำนวนมาก |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านสู่ จัตุรัสโรงละคร (Theater Platz) ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในจัตุรัสที่สวยที่สุดในยุโรป บริเวณโดยรอบจัตุรัสยังเป็นที่ตั้งของ โรงโอเปร่า (Semper Opera House) สร้างขึ้นเมื่อปี 1878 สถาปัตยกรรมชิ้นนี้แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองในด้านดนตรีของศตวรรษที่ 19 และอาคารที่อยู่ตรงข้ามกับโรงละครคือ โบสถ์ฮอฟเคียเช่อ(Hofkirche) จุดเด่นคือมีรูปปั้นของนักบุญและอัศวินผู้ปกป้องศาสนาตั้งไว้รายรอบอาคาร โบสถ์หลังนี้ได้รับการเสียหายไม่มากจากการทิ้งระเบิด สังเกตได้ว่ามีผนังเป็นสีดำอยู่มาก (คือเป็นของดั้งเดิม) นำท่านชม จิตรกรรม Fürstenzug เป็นจิตรกรรมฝาผนังเซรามิกที่สวยงามมากๆ และยังใหญ่ที่สุดในโลกด้วยค่ะ อยู่บนถนน Augustusstrasse ที่มีความยาวถีง 101.90 ม. สูง 10.51 ม. โดยใช้กระเบื้องประมาณ 23,000 แผ่นที่ทำจากเครื่องลายคราม Meissen นำท่านเข้าชม Dresden Frauenkirche โบสถ์เฟราเอนเคียร์เช หลังคาทรงหัวหอมในสถาปัตยกรรมแบบโกธิค อันเป็นสัญลักษณ์ของมิวนิค บริเวณนี้คือฐานรากของเมืองที่วางไว้ตั้งแต่สมัยกลางศตวรรษที่ 11 จนถึงยุคของพระเจ้าออกัสตัสผู้แข็งแกร่ง ทรงโปรดให้สร้างเมืองในสไตล์แบบบาร็อคขึ้นเซมเพอร์โอเปร่าที่เมืองนี้มีความโดดเด่นอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและดนตรี *หากมีพิธีทางศาสนาซึ่งอาจทำให้ไม่สามารถเข้าชมด้านในได้ โดยสถานการณ์ไม่อาจทราบล่วงหน้าได้* นำท่านสู่ จัตุรัส Altmarkt จัตุรัสประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องตลาดคริสต์มาสและตลาด/งานกิจกรรมตามฤดูกาลอื่นๆ ตลอดทั้งปี อีกทั้งห้างร้าน ช้อปปิ้งมอลล์ในจัตุรัสแห่งนี้ ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศ และการช้อปปิ้ง *เดินทางช่วง วันที่ 04-12 ธันวาคม 2568 ท่านได้ชื่นชมบรรยายการของ Chiasmas market of Dresden งาน Striezelmarkt ครั้งที่ 591 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 พ.ย. - 24 ธ.ค. 2025* (4) |
ค่ำ | อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาท่องเที่ยว และช้อปปิ้ง |
พักที่ | Hotel NH Collection Dresden Altmarkt หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน -โรงแรมในรายการทัวร์เป็นโรงแรมที่นำเสนอ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน |
วันที่ 8 | เมืองเดรสเดน – เมืองแฟรงก์เฟิร์ต - จัตุรัสโรเมอร์ - ถนน ZEIL - สนามบินแฟรงค์แฟรงค์เฟิร์ต |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 8 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม เมืองแฟรงก์เฟิร์ต (เดินทางประมาณ 5 ชม.) ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและ พาณิชย์ที่สำคัญของเยอรมนีรวมทั้งเป็นศูนย์กลางการธนาคารการเงินและการค้าหุ้นที่ สำคัญของประเทศ |
เที่ยง | บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น |
บ่าย | จัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) หรือเรียกว่า Frankfurt Romer เป็นจัตุรัสกลางใจเมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) ที่มีความสวยงาม ยังคงความงามของสถาปัตยกรรมยุคศตวรรษที่ 14-15 และที่นี่เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการกลางเมืองของแฟรงก์เฟิร์ต ตรงกลางจุตุรัสจะมีน้ำพุตั้งอยู่ เรียกว่า น้ำพุแห่งความยุติธรรม ประติมากรรมรูปเทพธิดา ที่มือซ้ายถือตาชั่ง เเละมือขวาถือดาบ เป็นสัญญาณให้รู้ถึงมีความเที่ยงตรงแต่ก็เด็ดขาดอยู่ในตัวเอง Römer เป็นชื่อเรียกรวมๆ ของอาคารหลายหลัง ที่เรียกว่า Frankfurt city hall มีอาคารที่เป็นศูนย์กลางที่ถูกล้อมรอบด้วยอาคารต่างๆ เป็นย่านร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ ที่รวมตัวของผู้คน ความงามมีสไตล์ของอาคารทำให้ที่นี่เป็นอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวไปรวมตัวกัน มีอาคารสวยงามโดดเด่น ใครที่ไปก็อดที่จะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกไม่ได้ เป็นอาคารแฝดสาม มีหน้าตัดสามเหลี่ยมเหมือนหน้าจั่ว ชวนให้นึกถึงบ้านที่เกิดจากตัวต่อเลโก้ *ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับเทศกาลคริสมาสมาร์เกต ณ จัตุรัสโรเมอร์ ตามอัธยาศัยซึ่งจะจัดในวันที่ 22 พ.ย. – 22 ธ.ค. 2025* (5) นำท่านสู่ ถนน ZEIL คือถนนช้อปปิ้งและสถานที่ชั้นนำในการซื้อสินค้าในเมืองแฟรงค์เฟิร์ต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พื้นที่ระหว่าง Konstablerwache และ Hauptwache ที่ถูกเรียกว่า The Fifth Avenue ของเยอรมันที่มีทุกอย่างให้เลือกสรร ทั้งร้านบูติก ร้านค้าสินค้าแบรนด์เนม |
17.00 น. | นำท่านเดินทางเข้าสู่ สนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน เพื่อเดินทากลับสู่ กรุงเทพฯ มีเวลาให้ท่านได้ทำ TAX REFUND คืนภาษีก่อนการเช็คอิน |
20.00 น. | ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการ Condor Airlands เที่ยวบินที่ DE2364 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) |
วันที่ 9 | สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 9 | |
12.50 น. | เดินทางถึง สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 109,999 บาท |
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ | 20,000 บาท |
เด็ก อายุไม่เกิน 2 ปี ราคาท่านละ | 30,000 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 15,999 บาท |
กรณีที่ท่านต้องออกตั๋วภายใน เช่น (ตั๋วเครื่องบิน, ตั๋วรถทัวร์, ตั๋วรถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋ว เนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ทบิน หรือเวลาบินโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทางบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ในกรณี ถ้ท่านออกตั๋วภายในโดยไม่แจ้งให้ทราบและหากไฟล์ทบินมีการปรับเปลี่ยนเวลาบินเพราะถือว่าท่านยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าว
กรณียกเลิก : จอยกรุ๊ป
กรณียกเลิก : ตัดกรุ๊ป
กรณีเจ็บป่วย
กรณีวีซ่าที่ท่านยื่นไม่ผ่านการพิจารณและคณะสามารถออกเดินทางได้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้
เอกสารประกอบการยื่นคำร้องขอวีซ่า ในส่วนที่เป็นสำเนาผู้สมัครไม่ต้องเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง ประกอบด้วยรายละเอียดดังต่อไปนี้
ในการยื่นวีซ่าทางสถานทูตจะเก็บหนังสือเดินทางไว้จนกว่าจะได้การรับอนุมัติผลวีซ่าระหว่างรอผลพิจารณาจะม่สามารถดึงหรือขอหนังสือเดินทางออกมาใช้ได้ระยะเวลาในการพิจารณาวีซ่าไม่น้อยกว่า 15 วันทำการ ไม่รวมวันหยุด เสาร์-อาทิตย์และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดของทางสถานทูต หรือ อาจช้าหรือเร็วกว่ากำหนดขึ้นอยู่กับสถานทูต
*** สถานทูตมีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ในการยื่นเอกสารตลอดเวลา***
*** การพิจารณาผล VISA ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทางสถานทูต ทางบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพิจารณาใดๆทั้งสิ้น บริษัทเป็นเพียงตัวแทนที่คอยอำนวยความสะดวกในการยื่นวีซ่าเท่านั้นข้อมูลและเอกสารทุกอย่างต้องเป็นความจริงความบิดเบียนทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในกรณีที่ VISA ไม่ผ่านทุกกรณี ***
Address
67/78 Soi Happy Land Center 1, Khlong Chan, Bang Kapi, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : ทัวร์ต่างประเทศ 081-873-6566
Hotline : ทัวร์ในประเทศ 061-519-6494
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel