วันที่ 1 | กรุงเทพฯ |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
18.30 น. | คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 8 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก *** คณะเดินทางวันที่ 27 ต.ค. 62 เป็นต้นไป นัดเวลา 17.30 น. ออกเดินทางสู่ ดูไบ เวลา 20.35 น. และถึงสนามบินดูไบเวลา 00.50 น.*** |
21.25 น. | ออกเดินทางสู่ ดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ EK 373 |
วันที่ 2 | กรุงเทพฯ - มิลาน - เบอร์กาโม - Fox town outlet |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
00.50 น. | เดินทางถึง สนามบินดูไบ แวะรอเปลี่ยนเครื่อง |
03.35 น. | ออกเดินทางสู่ เมืองมิลาน โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 101 *** คณะเดินทางวันที่ 27 ต.ค. 62 ออกเดินทางสู่มิลาน เวลา 03.45 น. และถึงสนามบินมิลานเวลา 07.45 น.*** |
08.15 น. | ถึง สนามบินมิลาโนมัลเปนซา เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั๋วโมง และจะเปลี่ยนเป็น 5 ชั๋วโมง ในวันที่ 31 มีนาคม 2562) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ที่ผสมผสานกัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นชอปปิ้งมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือ ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของโรงละครสกาล่า มีเวลาให้ท่านเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเบอร์กาโม (Bergamo) อีกหนึ่งเมืองสำคัญของอิตาลีตอนเหนือ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกโดยยูเนสโก้ (UNESCO World Heritage Site) ด้วยความสวยงามของเมืองทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเป็นอันดับสองรองจากมิลาน โดยเมืองนี้แบ่งเป็น เมืองใหม่ด้านล่าง ซิตต้า บาซซ่า (Citta Bassa หรือ Lower Town) จุดศูนย์รวมการเงิน การค้า ของเมือง นำท่านขึ้นสู่ เมืองเก่าด้านบนที่ตั้งอยู่บน เนินเขาซิตต้า อัลต้า (Citta Alta หรือ Upper Town) เป็นเมืองเก่าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ ตัวเมืองโอบล้อมด้วยกำแพงเมืองที่ป้องกันการรุกรานจากข้าศึกในอดีต นำท่านเข้าสู่ จัตุรัสกลางเมือง Pizza Vecchia รายล้อมไปด้วยอาคารที่สำคัญและสวยงามมากมาย มีน้ำพุตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัส ถ่ายรูปกับอาคารเทศบาล Campanone Torre Civica ,ถ่ายรูปกับมหาวิหาร Cattedrale di Bergamo e Battistero เข้าชม หอบัพติศมาของมหาวิหาร Santa Maria Maggiore Basilica วิหารประจำเมืองที่สวยงามโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในที่ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม ทั้งภาพวาดเหล่าเทพต่างๆ (วันอาทิตย์ และ วันที่มีพิธีกรรมทางศาสนา จะไม่สามารถเข้าชมด้านในได้ จะเป็นการถ่ายรูปด้านนองแทนเท่านั้น ) นำท่านเดินทางสู่ ฟ๊อกซ์ทาวน์ เอ้าท์เลท (Fox town outlet) ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นเอ๊าท์เลทใหญ่ซึ่งเป็นศูนย์รวมร้านค้ากว่า 160 ร้าน เช่น แว่นตา ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง รองเท้า กระเป๋า อุปกรณ์กีฬา แฟชั่นแบรนด์แนมชื่อดังอาทิ เช่น Salvatore Ferragamo, D&G, Armani, Burberry, Bally, Diesel, Calvin Klein, Gant, Prada, Gucci, Prada, Nike, Fendi, Tod’s, Versace, Valentino, Furly, Guess, Hugo Boss, Lacoste, Levi’s และอื่น ๆ อีกมากมาย |
ค่ำ | อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย |
ที่พัก | MALPENSA AIRPORT HOTEL หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | มิลาน - เซอร์แมท - ยอดเขากรอนเนอร์แกรต - Leysin |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม จากนั้นนำท่านสู่ เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองแห่งสกีรีสอร์ท ยอดนิยมที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น และยังมีฉากหลังของตัวเมืองเป็นยอดเขาแมททอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิส จากนั้นนำท่านสู่ เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองแห่งสกีรีสอร์ท ยอดนิยมที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น และยังมีฉากหลังของตัวเมืองเป็นยอดเขาแมททอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิส |
กลางวัน | อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย |
บ่าย | อิสระมีหัวหน้าทัวร์ให้ข้อมูล หรือ คำแนะนำ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นความรับผิดชอบของตัวท่านเอง ให้ท่านอิสระเดินเที่ยวชมเมือง หรือ เลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย หรือ เลือกซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเพื่อสัมผัสกับความงดงามของยอดเขาไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น (Klein Matterhorn) ที่สูงถึง 4,478 เมตร และได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดของเทือกเขาแอลป์ ชื่นชมกับทิวทัศน์ที่สวยงาม ณ จุดสูงที่สุดบริเวณไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น เข้าชม ถ้ำน้ำแข็ง ที่อยู่สูงที่สุดในสวิส (ราคา 100 CHF ) หรือ นั่งรถไฟฟันเฟืองสู่สถานีรถไฟกรอนเนอร์แกรต (Gornergrat railway) นำท่านเดินทางสู่ จุดชมวิวที่ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพที่สวยงามของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น ที่สวยงาม นำท่านเดินเท้าสู่ บริเวณทะเลสาบ ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,757 เมตร โดยบริเวณทะเลสาบนี้เป็นเงาสะท้อนภาพเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn's reflect) อันสุดสวยงามยิ่งนัก ( โดยปกติน้ำในทะเลสาบ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝน และ สภาพอากาศ ช่วงเวลาที่เดินทางไปชมอยู่ในช่วงกลางปี (พฤษภาคม – ตุลาคม) ถ้าช่วงฤดูหนาวทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง) (ราคา 80-100 CHF ) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง |
ที่พัก | ALPINE CLASSIC HOTEL , Leysin หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | Leysin - ขึ้นเขากลาเซียร์ 3000 - มองเทรอซ์ - เจนีวา - โลซานน์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองโกล เดอ ปิยง (Col De Pillon) เมืองที่ตั้งของสถานีกระเช้าไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่จุผู้โดยสารได้ถึง 125 คน นำท่านขึ้นกระเช้ายักษ์ ขึ้นสู่เขากลาเซียร์ 3000 (Glacier 3000) นำท่านเดินข้าม" The Peak Walk by Tissot" สะพานแขวนที่มีความยาว 107 เมตร ข้ามหน้าผาที่ระดับความสูง 3,000 เมตร ท่านจะได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์ อันสวยงามแบบกว้างไกลสุดสายตา (*** เนื่องจากกระเช้าขึ้นเขากลาเซียร์ 3000 จะทำการปิดซ่อมบำรุงประจำปี ตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. – 8 พ.ย. 62 คณะเดินที่ออกเดินทาง ในช่วงวันที่ 20 ต.ค. – 3 พ.ย. 62 ทางบริษัทขอนำท่านขึ้นเขากรอนเนอร์แกรต ในวันที่สามของการเดินทาง และ ช่วงเช้าวันที่สี่ของการเดินทาง นำเที่ยวเมืองมองเทรอซ์ และ เมืองเวเว่ย์ (Vevey) คือเมืองที่ตั้งอยู่ในรัฐโว ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยตัวเมืองตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา ต่างก็ขนานนามให้เมืองเวเว่ย์ เป็น "ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส"(Pearls of the Swiss Riviera) ที่แม้แต่ศิลปินตลกชื่อดังแห่งฮอลลีวู้ด “ชาลี แชปลิน” ยังหลงไหลและได้อาศัยอยู่ที่เมืองนี้ในบั้นปลายชีวิต เป็นการทดแทน ***) |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองบนยอดเขา (ชีสฟองดูว์, Cheese Fondue) |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่าริเวียร่าของสวิส ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือน ริมทะเลสาบ นำท่านถ่ายรูปกับ ปราสาทชิลยอง (ด้านนอก) (Chillon castle) ปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างขึ้นบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ SAVOY จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเจนีวา (Geneva) นำชมเมืองที่เป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติ เมืองที่ตั้งองค์การสากลระดับโลก อาทิ องค์การการค้าโลก, กาชาดสากล, แรงงานสากล ฯลฯ ถ่ายรูปกับน้ำพุเจทโด (jet d'eau) ที่ฉีดสายน้ำพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศถึง 390 ฟุต (เปิดเฉพาะวันอากาศดี) และถ่ายรูปกับ นาฬิกาดอกไม้ สัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองเจนีวา นำท่านชม สวนสาธารณะที่มี รูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของในหลวงเมื่อทรงพระเยาว์ และถ่ายรูปกับ ศาลาไทย ที่รัฐบาลไทยส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | NOVOTEL LAUSANNE HOTEL หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | โลซานน์ - กรุงเบิร์น - อินเทอร์ลาเกน - ซุก |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่าน ชม มาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์ คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์ Munster สิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 ประตูจะมีภาพที่บรรยายถึงการตัดสินครั้งสุดท้ายของพระเจ้า |
กลางวัน | อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย |
บ่าย | แล้วนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองอินเทอร์ลาเกน (Interlaken) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และ มีความสำคัญประหนึ่งเมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอลันด์ มีภาพของยอดเขาจูงเฟราเป็นฉากหลัง มีเวลาให้ท่านเดินเล่นชมเมืองที่น่ารักแห่งนี้ จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชม หอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง นำท่านเข้าชม ร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | ZUG HOTEL หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | ซุก - นั่งรถไฟไต่เขาริกิ - ลูเซิร์น - สนามบินมิลาน |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม จากนั้นนำท่าน นั่งรถไฟไต่เขาริกิ (Rigi) ที่ถือได้ว่าเป็นรถไฟไต่เขาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และยังเป็นอันดับ 2 รองจากยอดเขาวอชิงตัน ในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ในสหรัฐอเมริกา ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,797 เมตร ยอดเขาริกิ (Rigi Kulm) นี้มีที่มาจากคำว่า Mons Regina แปลได้ว่า ราชินิแห่งภูเขา (Queen of the mountains) เพราะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาอื่นๆ ได้รอบ 360 องศา ชมวิวแบบพาโนรามาโอบล้อมด้วยธรรมชาติของทะเลสาบ Luzern และ Zug |
กลางวัน | อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย |
บ่าย | จากนั้นพาท่านชม สิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชม สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิสตลอดแนวสะพาน |
14.30 น. | นำท่านข้าม พรมแดนสวิตเซอร์แลนด์ – อิตาลี สู่ สนามบินมิลาน ประเทศอิตาลี เพื่อให้ท่านมีเวลาทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช๊อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน |
22.20 น. | ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ EK 92 *** คณะเดินทางวันที่ 23 ต.ค. 62 เป็นต้นไป ออกเดินทางเวลา 21.20 น. และถึงสนามบินดูไบ เวลา 06.35 น. |
วันที่ 7 | ดูไบ - กรุงเทพ ฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
06.25 น. | เดินทางถึง สนามบินดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง |
08.45 น. | ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดย สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 370 *** คณะเดินทางวันที่ 23 ต.ค. 62 เป็นต้นไป ออกเดินทางเวลา 08.50 น. และถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 17.55 น. *** |
18.15 น. | เดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ |
เอกสารกรุณาเตรียม 1 ชุด ยกเว้น เอกสารที่ออกจากทางราชการและทางธนาคารขอเป็นตัวจริง 1 ชุด และสำเนา 1 ชุด
ในระหว่างยื่นวีซ่าเข้าสถานทูตแล้ว ไม่สามารถดึงเล่มออกมาก่อนได้
**ลูกค้ากรุณาอย่ายึดติดกับการยื่นขอวีซ่าในอดีต เพราะสถานทูตมีการเปลี่ยนแปลงกฎและเอกสารการยื่นอยู่เรื่อย ๆ**
Address
240/26 (A Tower) Ayothaya Building 16th Floor, Ratchadapisek Soi 18, Huay Kwang, BKK 10320
ทุกวัน : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel