ทัวร์ยุโรป แกรนด์สวิตเซอร์แลนด์ 2566/2023 เที่ยวยุโรป

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE625 : โปรแกรมทัวร์ยุโรป แกรนด์สวิตเซอร์แลนด์ [บินตรง] 8 วัน 6 คืน (LX)

DE625 : โปรแกรมทัวร์ยุโรป แกรนด์สวิตเซอร์แลนด์ [บินตรง] 8 วัน 6 คืน (LX)
Swissair (LX)

Ambassador Hotel Zermatt
CITY OBERLAND HOTEL
GRAND EUROPE HOTEL
Hotel Europe Davos
Novotel Lausanne Bussigny
Park Inn Zurich Airport

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1กรุงเทพมหานคร - ซูริค
10.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เชคอิน สายการบินสวิสแอร์ แถว G 1-6 (Row G) ประตูทางเข้าที่ 4 อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ณ สนามบินสุวรรณภูมิ 
12.50 น. ออกเดินทางสู่ นครซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (บินตรง) โดย สายการบินสวิสแอร์ เที่ยวบิน LX 181 (ใช้เวลาบินประมาณ 11.45 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินมีบริการ อาหารกลางวัน และ อาหารค่ำ ระหว่างเที่ยวบินตรง สู่นครซูริค
19.35 น. เดินทางถึง สนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

นำท่านเข้าสู่ โรงแรมที่พัก

ที่พัก Park Inn Zurich Airport หรือ Allegra Airport หรือ Dorint Airport **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 2น้ำตกไรน์ - เซ็นต์ มอริทซ์
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซอฟฮาวเซ่น (Schaffhausen) (ระยะทาง 50 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เมืองซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของแม่น้ำไรน์ เมืองที่มีความสวยงามเต็มไปด้วยกลิ่นไอของสถาปัตยกรรมสไตล์เรเนซองส์ และอาคารสไตล์คลาสสิค

นำท่านเที่ยวชมและสัมผัสความงามของ น้ำตกไรน์ น้ำตกที่ใหญ่และสวยที่สุดในยุโรป ชมความแรงของกระแสน้ำที่กระทบกับโขดหินกลางน้ำดังสนั่นทั่วบริเวณ ละอองน้ำที่กระจายปกคลุมไปทั่วเสมือนเมืองมายา

อิสระให้ท่านได้สูดอากาศบริสุทธิ์และสัมผัสต้นไม้ใหญ่เรียงรายทั่วบริเวณและเก็บภาพความงามตามอัธยาศัย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซ็นต์ มอริทซ์ (St. Moritz) (ระยะทาง 241 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.25 ชั่วโมง)

เมืองเซ็นต์ มอริทซ์ เมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงและศูนย์กลางกีฬาสกีที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตัวเมืองตั้งอยู่ในรัฐเกราบึนเดิน(Graubünden) เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดและอยู่ทางตะวันออกสุดของประเทศ ตั้งอยู่บนยอดที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์

นำท่านชมความงดงามของ เซนต์มอริทซ์เลค (Lake St. Moritz) ซึ่งหากมาในช่วงฤดูร้อนจะพบกับความงดงามของน้ำใสสีเขียวมรกต แต่ถ้าเป็นหน้าหนาวน้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมด

จากนั้นอิสระให้ท่านได้เดินเล่น หรือเลือกซื้อของฝาก ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแบรนด์เนม หรือ สินค้าพื้นเมือง ในย่านจตุรัสพลาซาดาสโกวล่า (Plazza da Scoula) หรือจะเดินเล่นชมความงามของเมืองสกีรีสอร์ทแห่งนี้

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองดาวอส (Davos) (ระยะทาง 72 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก 

Hotel Europe Davos หรือ Hilton Garden Inn Davos *** หรือเทียบเท่า

***หากโรงแรมที่เมืองดาวอสไม่สามารถรองรับกรุ๊ปได้ ทางบริษัทจะจัดโรงแรมที่เมืองใกล้เคียง ให้กับคณะแทน***

วันที่ 3อันเดอร์แมท - นั่งรถไฟสายโรแมนติก กลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส - เซอร์แมท
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอันเดอร์แมท (Andermatt) (ระยะทาง 209 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชม.) อีกเมืองเล็กที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นรถไฟสายโรแมนติกกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส ระหว่างทางสู่เมืองอันเดอร์แมท ท่านจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพทุ่งหญ้า สลับกับเทือกเขาแอล์ป ซึ่งมีความสวยงามยิ่ง

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่าน นั่งไฟสายโรแมนติก สายกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส (Glacier Express) รถไฟที่ได้ชื่อว่าวิ่งช้าที่สุดในโลก และเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใฝ่ฝันจะได้สัมผัส ตลอดการนั่งรถไฟกว่า 3 ชั่วโมง จาก เมืองอันเดอร์แมท (Andermatt) สู่ เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ ระหว่างทางท่านจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ที่ถูกโอบล้อมอยู่ในอ้อมกอดของหุบเขาและสายน้ำสีฟ้าครามสดใสของทะเลสาบ หรือจะเป็นทัศนียภาพของยอดเขาที่ปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งในเส้นทาง Furka-Oberralp Bahn ที่พาดผ่านกลางเทือกเขาแอลป์

อิสระให้ท่านได้พักผ่อนและเก็บภาพธรรมชาติอันสวยงามและขึ้นชื่อของสวิตเซอร์แลนด์ รถไฟสิ้นสุดการเดินทาง ณ เมืองเซอร์แมท (Zermatt) ตั้งอยู่เชิงเขาแมทเทอร์ฮอร์นยอดเขาแหลมสูงชันสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์ ครอบคลุมพื้นที่สกีฤดูหนาวและฤดูร้อนที่กว้างใหญ่ เมืองเซอร์แมทนี้ถือว่าเป็นเมืองที่ปราศจากมลภาวะโดยสิ้นเชิงเพราะเป็นเมืองที่ห้ามนำเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเข้าไปในตัวเมืองเด็ดขาด นำท่านเที่ยวชมความงามของเมืองเซอร์แมทเมืองที่ปราศจากรถยนต์และไร้มลพิษอีกแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ (หากรถไฟกลาเซียร์เอ็กซ์เพรสในวันเดินทางไม่สามารถรองรับคณะได้ ทางทัวร์จะจัดรถไฟที่วิ่งในเส้นทางเดียวกันทดแทน เพื่อให้ท่านได้ชมธรรมชาติแบบเดียวกัน)

พีเรียดเดินทางช่วงวันที่ *16-23 ต.ค./ *17-24 ต.ค./ *23-30 ต.ค. (*นั่งรถไฟ REGIONAL TRAIN เส้นทางเดียวกันแทน เนื่องจาก GLACIER EXPRESS ปิดปรับปรุงประจำปี)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก 

DERBY HOTEL  หรือเทียบเท่า

***หากโรงแรมที่เมืองเซอร์แมทไม่สามารถรองรับกรุ๊ปได้ ทางบริษัทจะจัดโรงแรมที่เมืองทาช ให้กับคณะแทน***

วันที่ 4เซอร์แมท - นั่งกระเช้าสู่ยอดเขาไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น - ทาช - มองเทรอซ์ 
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่าน นั่งกระเช้าสู่ แมทเทอร์ฮอร์นกลาเซียร์พาราไดซ์ (Matterhorn Glacier Paradise) เพื่อชมภูเขาแมทเทอร์ฮอร์นที่มีชื่อเสียงในเทือกเขาแอลป์ (Alps)

ภูเขาแมทเทอร์ฮอร์น ตั้งอยู่ระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี ภูเขาที่สูงกว่า 4,478 เมตร รูปทรงพีระมิดตั้งอยู่บนพื้นที่เมืองเซอร์แมท (Zermatt) ในส่วนของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภูเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงามไม่เว้นแต่ละวัน “ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น” นี้มีความสวยงาม มีเสน่ห์ เป็นเครื่องหมายการค้าของลูกอม “ริกัวล่าร์” และ “พาราเมาท์พิคเจอร์” โดยบริษัทภาพยนตร์ พาราเม้าท์ พิคเจอร์ ของฮอลลีวู้ด ได้นำมาเป็นตราสัญลักษณ์ของบริษัทอีกด้วย

ท่านสามารถชมวิวสวยของภูเขาที่มีรูปทรงงดงามที่สุดในสวิสด้วยความสูงของยอดแมทเทอร์ฮอร์นที่มีความสูงกว่า 4,478 เมตร จึงสามารถมองเห็นยอดเขาสูงยอดอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงได้ชัดเจน อิสระให้ท่านเดินเล่นและถ่ายรูปตามอัธยาศัย

จากนั้นได้เวลานำท่านนั่งกระเช้าเดินทางกลับสู่ เมืองเซอร์แมท อิสระช่วงบ่าย ให้ท่านสัมผัสบรรยากาศเมืองเซอร์แมท หนึ่งในสุดยอดเมืองตากอากาศและสกีรีสอร์ของสวิตเซอร์แลนด์

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น บน Matterhorn Glacier Paradise

(***หากห้องอาหารไม่สามารถรองรับคณะได้ บริษัทจะนำท่านรับประทานอาหารที่เมืองเซอร์แมทแทน)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองทาซ (Tasch) โดยรถไฟ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 12 นาที

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) (ระยะทาง 139 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชม.) เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่าริเวียร่าของสวิส ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือนริมทะเลสาบ

นำท่านถ่ายรูปกับ ปราสาทชิลยอง (Chillon castle) ปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี

ปราสาทชิลยอง สร้างบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ซาวอย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี ปราสาทแห่งนี้จึงเป็นอนุสาวรีย์แห่งความเกลียดชังของชาวสวิส ในปี ค.ศ.1530 เกิดการต่อต้านการเอารัดเอาเปรียบของราชวงศ์ซาวอย โดยมีคนหนุ่มเลือดร้อนแห่งเจนีวา 3 คน ได้เป็นผู้นำต่อต้าน แต่ท้ายที่สุดคนหนึ่งถูกจับประหารชีวิต คนหนึ่งหนีหายไป ส่วนอีกคนหนึ่ง ถูกจับขังคุกล่ามโซ่ไว้ที่ปราสาทชิลยองนานถึง 4 ปี ก่อนที่ราชวงศ์ซาวอย จะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงจากกองทัพแห่งเบิร์นในปีค.ศ.1536

ค่ำ รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก Novotel Lausanne Bussigny/ or Moevenpick Lausanne **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 5โลซานน์ - เจนีวา - กรุงเบิร์น - อินเตอร์ลาเก้น
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวเว่ย์ (Vevey) เมืองที่ได้รับการขนานนามว่า "ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส (Pearls of the Swiss Riviera)" ดินแดนที่เหมาะแก่การทำกิจกรรมแทบทุกฤดูกาล นำท่านแวะถ่ายรูปกับ รูปปั้น ชาร์ลี แชปลิน (Chaplin Statue) ผู้เป็นศิลปินตลกแห่งฮอลลีวู้ด ซึ่งในอดีตได้เคยใช้บั้นปลายชีวิตที่เมืองนี้

จากนั้นนำท่านชม เมืองโลซานน์ (Lausanne)  ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 เมืองโลซานน์ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งทะเลสาบเจนีวา จึงมีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทยเนื่องจากเป็นเมืองที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จย่า

นำท่านเดินชม สวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของในหลวงเมื่อทรงพระเยาว์ และถ่ายรูปกับ ศาลาไทย ที่รัฐบาลไทยส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์ 

นำท่านเดินทางสู่ เจนีวา (Geneva) (ระยะทาง 63 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญมากเป็นอันดับต้นๆของสวิตเซอร์แลนด์

กรุงเจนีวา ตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บริเวณที่ทะเลสาบเจนีวาไหลเข้ารวมกับแม่น้ำโรห์น (Rhone river) โดยทะเลสาบเจนีวานั้นตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ เป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรปกลาง รองจากทะเลสาบบาลาต้นในประเทศฮังการี สำหรับ กรุงเจนีวา ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองนานาชาติ (Global City) เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างชาติสำคัญๆ หลายองค์กร เช่น สำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติประจำทวีปยุโรป, องค์การอนามัยโลก (WHO), องค์การการค้าโลก (WTO) เป็นต้น นอกจากนี้แล้วกรุงเจนีวายังเป็นสถานที่จัดตั้งองค์การสันนิบาตชาติ ใน ค.ศ. 1919 และกาชาดสากล ใน ค.ศ. 1864

นำท่านชม น้ำพุเจดโด กลางทะเลสาบเลคเลมังค์ น้ำพุที่ได้รับการยอมรับว่าสูงที่สุดในโลก และยังเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงเจนีวา น้ำพุเจดโดเป็นน้ำพุที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น "สัญลักษณ์ของกรุงเจนีวา" โดยน้ำพุสามารถพุ่งได้สูงสุดประมาณ 140 เมตร (459 ฟุต) น้ำพุถูกติดตั้งในปี ค.ศ.1886

นำท่านแวะถ่ายภาพกับ นาฬิกาดอกไม้สวนอังกฤษ (Jardin Anglais) ริมทะเลสาบ 

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Berne) (ระยะทาง 167 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองโบราณเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำอาเร่ (Aare) ล้อมรอบตัวเมือง เสมือนเป็นป้อมปราการทางธรรมชาติไว้ 3 ด้าน คือ ทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก ส่วนทิศตะวันตกชาวเมืองได้สร้างกำแพง และสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้

นำท่านเที่ยวชม สถานที่สำคัญต่างๆในกรุงเบิร์น ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชม บ่อหมีสีน้ำตาล สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น

นำท่าน ชมมาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี

นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง หอนาฬิกานี้ ในช่วงปี ค.ศ. 1191 - 1256 ใช้เป็นประตูเมืองแห่งแรก แต่พอมีการสร้าง Prison Tower จึงเปลี่ยนไปใช้ Prison Tower เป็นประตูเมืองแทน และดัดแปลงไซ้ท์คล็อคเค่นทรัมให้กลายมาเป็นหอนาฬิกา พร้อมติดตั้งนาฬิกาดาราศาสตร์เข้าไป

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์ Munster สิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 อิสระให้ท่านเดินเล่นและเก็บภาพตามอัธยาศัยหรือจะเลือกช้อปปิ้งซื้อสินค้าแบรนด์เนมและซื้อของที่ระลึก

ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองอินเตอร์ลาเก้น (Interlaken) หรือ เมืองระหว่างทะเลสาบ (ระยะทาง 62 กม. ใช้เวลาเดินทาประมาณ 1 ชม.) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Tune lake) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Brienz lake) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ พร้อมช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อนาฬิกายี่ห้อดังหลากหลายที่ผลิตในสวิส ไม่ว่าจะเป็น ROLEX, OMEGA, TAG HEUER, PATEK PHILIPPE และอื่นๆ

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย (พร้อมลิ้มลองเมนูฟองดู)
ที่พัก City Oberland *** หรือเทียบเท่า 
วันที่ 6อินเตอร์ลาเก้น - ขึ้นเขาจุงเฟรา (มรดกโลก) - ลูเซิร์น 
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาล (Grindelwald) อันได้ชื่อว่าเป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่สวยที่สุดในโลกตั้งอยู่ในหุบเขารายล้อมด้วยภูเขาที่สวยงามเป็นสถานที่โรแมนติกที่สุด

นำท่านสู่สถานีรถไฟฟ้าเพื่อขึ้น รถไฟสายจุงเฟราบาห์เนน สู่ ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกของสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างทางก่อนถึงจุงเฟรานั้น ท่านสามารถพบเห็นบ้านสไตล์สวิสน่ารักที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป มีทั้งบ้านสีน้ำตาลเข้มตัดกับหน้าต่างสีแดงสด, สีครีมอ่อนตัดกับประตูหน้าต่างสีเขียวสด สวยงามแปลกตาและมีเสน่ห์ วิวธรรมชาติที่สลับกันระหว่างสีเขียวของภูเขา ทุ่งหญ้า กับ พื้นที่ที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาว ระหว่างการเดินทางรถไฟจะจอดให้ท่านได้ชมความงดงามของเทือกเขาแอลป์ จนถึงยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch)   ซึ่งมีความสูงถึง 13,642 ฟุต

นำท่านชม กลาเซียร์หรือธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ จากนั้นสนุกสนานกับการเล่นหิมะในลานกว้าง SPHINX จุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรป สามารถมองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร ชมถ้ำน้ำแข็งที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Alestsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ยาวถึง 22 ก.ม. และหนา 700 เมตร อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและถ่ายรูปตามอัธยาศัย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น บนยอดเขาจุงเฟรา
บ่าย

นำท่านเดินทางจากจุงเฟราสู่ เมืองเวนเก้น และเมืองเลาเทอร์บรูเนน (Lauterbrunen) โดยรถไฟอีกด้านหนึ่งของยอดเขา (แวะเปลี่ยนรถไฟที่สถานีไคลน์ไชน์เด็ค (Kleine Scheidegg) จุดเปลี่ยนรถไฟ ซึ่งรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จมาเมื่อปี พ.ศ.2440) 

นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (ระยะทาง 80 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) อดีตหัวเมืองโบราณของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า “หลังคาแห่งทวีปยุโรป” (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม

นำท่านชมและแวะถ่ายรูปกับ สะพานไม้ชาเพล หรือ สะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสะพานไม้นี้ถูกไฟไหม้เสียหายไปมาก ต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่เกือบหมด

จากนั้นนำท่านชมรูป แกะสลักสิงโตร้องไห้ หรือ อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ไม่ไกลจากสะพานไม้มากนัก อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ.1819-1821 โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
ที่พัก PARK INN ZURICH AIRPORT หรือเทียบเท่า
วันที่ 7ซูริค
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเที่ยวชม เมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านสู่ จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) จัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางของการค้าสัตว์ที่สำคัญของเมือง  ซูริค ปัจจุบันจัตุรัสนี้ได้กลายเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster Abbey) โบสถ์ที่มีชื่อเสียงของเมืองซูริค สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ ใช้เป็นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงจากทางตอนใต้ของเยอรมันอาศัยอยู่

นำท่านเดินเล่นบนถนน บานโฮฟซตราสเซอ (Bahnhofstrasse) เป็นถนนอันลือชื่อที่มีความยาวประมาณ 1.4 กิโลเมตร เป็นถนนที่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติว่าเป็น ถนนช้อปปิ้งที่มีสินค้าราคาแพงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตลอดสองข้างทางล้วนแล้วแต่เป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า ร้านค้าอัญมณี ร้านเครื่องประดับ ร้านนาฬิกาและโรงแรมระดับหรู ถัดจากถนนบานโฮฟซตราสเซอ คือ ถนนออกัสตินเนอร์กาส (Augustinergasse) ถนนเก่าแก่สายเล็กๆ ที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง ตลอดสองข้างทางเป็นที่ตั้งของอาคารบ้านเรือนที่สร้างขึ้นจากช่างฝีมือในยุคกลาง ไฮไลท์การท่องเที่ยวคือการไปชมความงดงามของเหล่าหน้าต่างไม้แกะสลักตามอาคารต่างๆบนถนนแห่งนี้ (***ร้านค้าส่วนมากในประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะปิดทำการในวันอาทิตย์)

กลางวัน อิสระให้ทุกท่านรับประทานอาหารเที่ยงตามอัธยาศัย
บ่าย อิสระให้ท่านเดินเล่นในตัวเมืองซูริค 
15.00 น. นำท่านสู่ สนามบินซูริค เพื่อเชคอินและทำคืนภาษี (Tax Refund)
17.55 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร (บินตรง) โดย สายการบินสวิสแอร์ เที่ยวบิน LX 180 (ใช้เวลาบิน 10.30 ชั่วโมง)   
วันที่ 8กรุงเทพมหานคร
10.30 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

เงื่อนไขในการจอง

  • พีเรียดเดินทางช่วงวันที่ *16-23 ต.ค./ *17-24 ต.ค./ *23-30 ต.ค.
    (*นั่งรถไฟ REGIONAL TRAIN เส้นทางเดียวกันแทน เนื่องจาก GLACIER EXPRESS ปิดปรับปรุงประจำปี)

     
  • สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน แนะนำให้ท่าน เปิดห้องพัก เป็น 2 ห้องจะสะดวกกับท่านมากกว่า
  • กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว ไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
  • กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลด ท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 23 กก. (LX) 
  • กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Hand carry) น้ำหนักไม่เกิน 7 ก.ก. 
  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน LX 
  • ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ประกันภัยทางอากาศ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท
  • ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท   (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี)
  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่), ค่าอาหารทุกมื้อ (ตามที่ระบุ)
  • ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่ (ตามที่ระบุ)
  • เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ค่าทิปคนขับรถ และค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย
  • ค่าวีซ่าเชงเก้นสวิตเซอร์แลนด์ ประมาณ 3,000 บาท (กรุณาตรวจสอบอีกครั้งเนื่องจากขึ้นกับอัตราแลกเปลี่ยน)
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋าที่โรงแรม ซึ่งท่านต้องดูแลกระเป๋าด้วยตัวเอง
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • งวดที่ 1 สำรองที่นั่งจ่าย 35,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปออกเดินทางแน่นอน
  • งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 30 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 60 วัน ไม่เก็บค่าใช้จ่าย (หากไม่ได้มีการยื่นวีซ่าล่วงหน้า) (เมษายน-ธันวาคม ปีใหม่ 75 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30-59 วัน หักค่ามัดจำ 35,000 บาท + ค่าวีซ่า (ถ้ามี) (เมษายน-ธันวาคม ปีใหม่ 44-59 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 10-29 วัน หักค่ามัดจำ 35,000 บาท + ค่าใช้จ่ายอื่น (ถ้ามี) (เมษายน-ธันวาคม ปีใหม่ 20-43 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 1-9 วัน หักค่าใช้จ่าย 100% ของค่าทัวร์ (เมษายน-ธันวาคม ปีใหม่ 4-19วัน)
  • ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100% 
     
  • หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณีไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 20 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 20 วัน ก่อนการเดินทาง(หากจำนวนลูกค้าในคณะไม่ถึง 20 ท่าน ราคาทัวร์ เพิ่มท่านละ 5,000 บาท)
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน  การประท้วง  ภัยธรรมชาติ  การก่อจราจล  อุบัติเหตุ  ปัญหาการจราจร ฯลฯ   ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด
  • เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ  ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฎิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฎิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว  หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง อันเนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง 
  • ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ  บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู

  • ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม
  • ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
  • ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
  • ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ ( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง ( TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
  • โรงแรมหลายแห่งในยุโรป จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
  • ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ ( TRADE FAIR ) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
  • กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
  • วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตราการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
  • หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด
  • สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฎิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  • สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 7.5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)
  • ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
  • กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)
  • ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
  • กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯจะพิจารณาชดเชยค่าเสียหายให้ท่าน โดยชดใช้ตามกฎของสายการบินเท่านั้น นั่นหมายถึงจะชดเชยตามน้ำหนักกระเป๋า คูณ ด้วยค่าชดเชย USD 20 ต่อกิโลกรัมเท่านั้น ดังนั้นท่านจึงไม่ควรโหลดของมีค่าทุกประเภทในกระเป๋าใบใหญ่ เพราะหากเกิดการสูญหาย ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การชดเชยค่าเสียหายตามรายระเอียดข้างต้นเท่านั้น
  • กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน

    **ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริงที่สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น (คิด ณ วันที่ 26 กรกฎาคม 2560) **
การเตรียมเอกสาร กรุณาอ่านให้เข้าใจ และเตรียมให้ครบ
  1. หนังสือเดินทาง อายุใช้งานได้ เกิน 6 เดือนขึ้นไป และ มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 แผ่น
  2. รูปถ่ายสีหน้าตรงปัจจุบัน พื้นฉากหลังรูปต้องมีสีขาวเท่านั้น รูปจะต้องเป็นภาพที่คมชัด ห้ามสวมแว่นสายตาห้ามมีเงา ห้ามถ่ายรูปและตกแต่งภาพจากคอมพิวเตอร์ (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน) 3.5 ซ.ม. x 4 ซ.ม จำนวน 2 รูป
  3. สำเนาบัตรประชาชน
  4. สำเนาทะเบียนบ้าน (กรุณาถ่ายหน้าแรกที่มีรายละเอียดบ้านเลขที่มาด้วย)
  5. สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีผู้หญิง.....หากมีการเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น ...นาง... ต้องแนบมา)
  6. สำเนาทะเบียนหย่า (กรณีผู้หญิง.....ถ้าหย่าและหากมีการใช้คำนำหน้าเป็น ....นาง...ต้องแนบมา)
  7. สูติบัตร (กรณีเด็กต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ต้องแนบสูติบัตรมา)
  8. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์: (หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อม พ่อและแม่) ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
    - เด็ก เดินทางกับบุคคลอื่น บิดาและมารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอม ซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เด็กเดินทางกับใคร (ระบุชื่อ) มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว
    - เด็ก เดินทางกับบิดามารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่ามารดายินยอมให้เด็กเดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา)
    - เด็ก เดินทางกับมารดาบิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เด็กเดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา)
  9. หลักฐานการทำงาน (จดหมายรับรองการทำงาน) ทำเป็นภาษาอังกฤษจดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูตและประเทศ)
    - กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
    - กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า
    - กรณีพนักงานบริษัท : ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการว่าจ้างเงินเดือน
    - กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน
    - กรณีเกษียณอายุราชการ: ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
    - กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษา นั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ ระบุชั้นปีที่ศึกษา
    10. หลักฐานการเงิน : (กรุณาเตรียมให้ถูกต้อง ใช้ทั้ง Bank guarantee และ สำเนาบัญชี เล่มเดียวกัน) EHC-LX- 8D-GRDSW2018
    - สเตทเมนท์ ( Bank Statement ) ของบัญชีออมทรัพย์ (Saving account) ออกโดยธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 30 วัน นับจากวันที่จะยื่นวีซ่า มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน พร้อมประทับตราจากธนาคาร
    - บัญชีฝากประจำ (Fixed) สามารถแนบประกอบได้ แต่ท่านต้องแนบบัญชีออมทรัพย์ (Saving) มาด้วย หากต้องการใช้บัญชีฝากประจำต้องเตรียมดังนี้ 
    - สำเนาสมุดบัญชีฝากประจำ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน
    *** ข้อ 1 และ ข้อ 2 ต้องเป็นสมุดบัญชีออมทรัพย์เล่มเดียวกันเท่านั้น ****

หมายเหตุ

  • หากสมุดบัญชีแสดงยอดรวมที่มีการกระโดดข้ามเดือน (ยอดไม่ต่อเนื่อง) เช่นจากเดือน 1 ข้ามไปเป็นยอดของ เดือน 3 (เดือน 2 ไม่มี) ท่านต้องไปขอ Bank statement จากทางธนาคารแทนการถ่ายสำเนาสมุดบัญชี
    • บัญชีฝากประจำ (Fixed) สามารถแนบประกอบได้ แต่ท่านต้องแนบบัญชีออมทรัพย์ (Saving) มาด้วย
      หากต้องการใช้บัญชีฝากประจำ ต้องเตรียมดังนี้
    • หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank guarantee) ของบัญชีฝากประจำ (Fixed account)
      ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 20 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า
    • สำเนาสมุดบัญชีฝากประจำ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน

หมายเหตุ

  • หากต้องการรับรองการเงินให้คนภายในครอบครัว ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
    • หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Guarantee) ต้องระบุชื่อเจ้าของบัญชี รับรองค่าใช้จ่ายให้ใคร(ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองในจดหมายด้วย)
    • กรุณาแนบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส หรือหลักฐาน เพื่อแสดงสถานะ และความสัมพันธ์ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกันกรณีนายจ้างรับรองค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้าง
    •  จดหมายรับรองจากนายจ้างระบุว่าเป็นผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
    •  หนังสือรับรองเงินฝาก ดังข้อ 11.1 และ 11.2

      (สถานฑูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ไม่ต้องแนบมา)

Address

240/26 (A Tower) Ayothaya Building 16th Floor, Ratchadapisek Soi 18, Huay Kwang, BKK 10320

ทุกวัน : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy