ทัวร์อิตาลีใต้ มอลต้า ซิซิลี 2566/2023 เที่ยวยุโรป

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE793 : โปรแกรมทัวร์อิตาลีใต้ มอลต้า ซิซิลี 10 วัน 7 คืน (TK)

DE793 : โปรแกรมทัวร์อิตาลีใต้ มอลต้า ซิซิลี 10 วัน 7 คืน (TK)
Turkish Airlines (TK)

Astoria Palace Hotel
Dolmen Hotel
Italiana Hotels Cosenza
La Chiusa Di Chietri Hotel
Villa Esperia Hotel

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1กรุงเทพมหานคร
20.00 น.คณะพบเจ้าหน้าที่และหัวหน้าทัวร์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน U ประตูทางเข้าที่ 9 หรือ 10 อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
22.50 น.ออกเดินทางสู่ นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบิน TK 65 (ใช้เวลาบินประมาณ 9.30 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และ สายการบินฯมีบริการ อาหารค่ำและอาหารเช้า ระหว่างบิน 
วันที่ 2อิสตันบูล - มอลต้า - ฮาการ์ กิม - ล่องเรือ - ราบัต 
05.45 น.เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล (IST) ประเทศตุรกี นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง (กระเป๋าเชคทรูไปมอลต้า) 
08.05 น.ออกเดินทางสู่ สนามบินมอลต้า (MLA) โดยเที่ยวบิน TK1369 (ใช้เวลาบินประมาณ 2 ช.ม.)
08.35 น.

เดินทางถึง สนามบินมอลต้า นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

นำท่าน ล่องเรือชมทัศนียภาพความสวยงามของเกาะมอลต้า

นำท่านถ่ายรูปกับ ถ้ำบลูกรอตโต (Blue Grotto) แห่งเกาะมอลต้า

จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ หน้าผาดิงลี (Dingli Cliff) อีกหนึ่งผางามแห่งเกาะมอลต้า

หมายเหตุ : การล่องเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากอากาศไม่เอื้ออำนวย ทางบริษัทฯ จะจัดกิจกรรมอื่นทดแทน

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย

นำท่านเที่ยวชม เมืองราบัต (Rabat) เมืองสําคัญในอดีตของมอลต้าและเป็นแหล่งสําคัญของมรดกทางวัฒนธรรมแห่งมอลต้าอีกด้วย

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์เซนต์ปอล (St Paul Cathedral) อันเป็นสถานที่กล่าวได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของคริสเตียนในเกาะมอลต้า ที่ซึ่งอัครสาวกเซนต์ปอล ได้เคยมาพักเมื่อเดินทางมาถึงเกาะมอลต้า

จากนั้นนำท่านเข้าชม วิลลาโรมัน หรือ คฤหาสน์ของขุนนางโรมันโบราณ (Roman Villa) และ พิพิธภัณฑ์โรมัน (Museum of Roman Antiquities) ซึ่งได้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ ตลอดจนห้องต่างๆของขุนนางโรมันที่มาพำนักอยู่บนเกาะมอลต้าในอดีต

ค่ำรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พักDolmen Hotel หรือเทียบเท่า 
วันที่ 3เกาะ โกโซ  
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่าน นั่งเรือเฟอร์รี่สู่เกาะโกโซ (Gozo Island) คืออีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศมอลต้า โดยเกาะนั้นตั้งอยู่ในเขตทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean Sea)  เป็นอีกหนึ่งเกาะในตำนาน ที่บางครั้งมักเรียกว่า เกาะแห่งคาลิปโซ่ ( Isle of Calypso) โดยคาลิปโซ่เป็นธิดาแห่งท้องทะเล ในตำนานกรีก และเป็นบุตรีของเทพแอตลาส เผ่าไททัน นางอาศัยอยู่ในเกาะแห่งความฝัน(Mythical Island) ซึ่งอยู่ที่ Ogygia ในทะเลไอโอเนียน ปัจจุบันเกาะโกโซ เป็นเกาะที่มีความงดงามทางธรรมชาติมาแห่งหนึ่งของหมู่เกาะมอลต้า เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมของเหล่านักดำน้ำ

นำท่านเที่ยวชมและถ่ายรูปกับ กังหันลม Ta Kola และถ่ายรูปกับ ถ้ำคาลิปโซ (Calypso Cave)

จากนั้นนำท่านเข้าชม วิหารกันติจา (Ggantija Temples) อีกหนึ่งวิหารเก่าแก่ ที่ปัจจุบันได้รับการบรรจุไว้ในรายชื่อของมรดกโลกในปี ค.ศ.1980โดยวิหารถูกสร้างขึ้นจากหินขนาดใหญ่และถือว่าเป็นหนึ่งในอนุสาวรีย์หินใหญ่ ที่สามารถย้อนกลับไปในยุคสมัยหินใหม่ (3600-2500 BC) เชื่อกันว่าเป็นวิหารทางศาสนาที่มีความเก่าแก่มากที่สุดแห่งถึงของโลกอีกด้วย

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน 
บ่าย

นำท่านถ่ายรูปกับ ป้อมปราการวิคตอเรีย (Victoria Fortress) ที่ตั้งขึ้นตามพระนามของสมเด็จพระราชินีวิคตอเรียแห่งอังกฤฤษ ในโอกาสเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบรอบ 25 ปี

จากนั้นนำท่านเที่ยวชม เมืองเก่าแห่งเกาะโกโซ พร้อมเก็บภาพความสวยงามทั้งธรรมชาติและหมู่อาคารบ้านเรือนโรมันโบราณที่ยังคงความสวยงาม จวบจนปัจจุบัน อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านชม วิหารทาพินู (Ta Pinu Cathedral) วิหารโรมันคาธอลิกส์ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้หน้าผา ในอดีตเป็นเพียงโบสถ์หินขนาดเล็กยุคศตวรรษที่ 15 และถูกต่อเติมและสร้างขึ้นใหม่ในช่วงปี ค.ศ.1922-1932 แบบสไตล์นีโอโรแมนติค ด้านในโบสถ์ประดับด้วยภาพโมเสคจำนวน 6 ภาพ และกระจกสีจำนวน 76 บาน และมีหอระฆังสูง 61 เมตร นับเป็นอีกหนึ่งโบสถ์ที่มีความสำคัญของคริสตจักร เนื่องจากพระสันตะปาปามาเยือนถึง 2 ท่าน ซึ่งโป๊ปจอห์นปอลที่ 2 เคยเสด็จมาเยื่อเมื่อปี ค.ศ.1990 และ โป๊ปเบเนดิกต์ที่ 14 มาเยือนเมื่อปี ค.ศ. 2010 และได้มอบกุหลาบสีทอง หรือ โกลเด้นโรส (Golden Rose) สัญลักษณ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ไว้ ณ โบสถ์แห่งนี้

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พักDolmen Hotel หรือเทียบเท่า 
วันที่ 4วาเลตต้า  
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านชม เมืองหลวงของสาธารณรัฐมอลต้า ซึ่งได้ตั้งชื่อเมืองตามชื่อของ Jean Parisot De La Valetta ผู้ซึ่งสามารถป้องกันการรุกรานเกาะมอลต้า จากออตโตมานในปี 1565 เมืองวัลเลตตาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 1980

นำท่านชม สวนบารัคคา (Barracca Garden) สวนสวยที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ส่วนบุคคล แต่ภายหลังได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมในปี 1824 ภายในสวนประกอบไปด้วย Upper Barracca และ Lower Barracca ในส่วน Upper นั้นได้สร้างขึ้นในปี 1661 โดยอัศวินชาวอิตาเลียน จากบริเวณสวนจะเห็นวิวของอ่าวแกรนด์ฮาร์เบอร์ได้ชัดเจน

นำท่านเข้าชม วิหารเซนต์จอห์น (St. John’s Cathedral) สร้างโดยอัศวิน เซนต์จอห์นเพื่อมอบเป็นเกียรติแก่ผู้อุปถัมภ์เหล่าอัศวินทั้งหลาย ความพิเศษของวิหารแห่งนี้คือการ ออกแบบตกแต่งโดยสถาปนิกและศิลปินชาวมอลต้าในช่วงศตวรรษที่ 16

จากนั้นชม AUBERGE DE CASTILLE อาคารที่มีความสง่างามและใหญ่โตที่สุดแห่งหนึ่ง ในเมืองวัลเลตตา ตั้งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของคาบสมุทรซึ่งถูกออกแบบให้เป็นสถานที่หรูหราที่สุด ปัจจุบันใช้เป็นที่พำนักของนายกรัฐมนตรีของประเทศสาธารณรัฐมอลต้า สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1574 โดยสถาปนิกชาวมอลต้าชื่อ GIROLAMO CASSAR และมีการสร้างบูรณะใหม่อีกครั้งในปี 1741

นำท่านเข้าชม พระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ (Grand Master Palace) อดีตพระราชวังยุคศตวรรษที่ 16 ถือครองโดย อุสตาจิโอ้ เดล มอนเต้ ญาติคนสนิทของผู้ครองแคว้นมอลต้านาม ฌองป์ เดอลา วาเลตเต้ แรกเริ่มเดิมทีถูกใช้เป็นสถานที่บัญชาการรบของอัศวินในยุคนั้น และภายหลังเสร็จสิ้นสงคราม ได้ถูกต่อเติมเป็นพระราชวัง แต่แล้วถูกโอนย้ายเปลี่ยนมือเป็นสถานที่พำนักของผู้ปกครองจากประเทศอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 19 และกลับมาถือครองโดยประเทศมอลต้าภายหลังประกาศเอกราชในปี ค.ศ.1964 และในปัจจุบันถูกใช้เป็นอาคารรัฐสภาแห่งมอลต้า สถานที่ทำงานของประธานาธิบดีแห่งมอลต้า ภายในตัวอาคารตกแต่งแบบนิโอคลาสสิค และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในบางส่วนที่จัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์และยุทโธปกรณ์ของอัศวินในอดีต

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย

นำท่านเที่ยวชม เมืองเก่าแห่งเกาะมอลต้า อันได้แก่ เมืองแซงเกลีย (Senglea) และเมืองวิททอริโอซา (Vittoriosa) ซึ่งเป็นเมืองที่ได้มีสร้างกำแพงป้อมปราการโอบล้อมโดยรอบ

นำท่านแวะถ่ายรูปกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น ป้อมปราการโบราณ, โบสถ์ประจำเมือง, ศาลาว่าการเมือง และท่าเรือเมืองเก่า 

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พักDolmen Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 5อากริเจนโต - มอนเรอาเล - ปาแลร์โม  
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางเพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่ ข้ามสู่ เมืองปอซซาโล

06.30 น.เรือเฟอร์รี่ออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าสู่ เมืองปอซซาโล
08.00 น.

เรือเฟอร์รี่เดินทางถึง เมืองปอซซาโล

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองเปียซซา อาร์เมรินา (Piazza Armeria) (ระยะทาง 131 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.20 ชั่วโมง)

นำท่านเข้าชม คฤหาสน์ขุนนางโรมัน (Roman Villa Del Casale) อดีตบ้านพักตากอากาศของขุนนางโรมันสมัยก่อน ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 4 จุดเด่นของที่นี่คือฝาผนังและพื้นทางเดินที่ประดับประดาไปด้วยงานศิลปะโมเสค มีการไล่แสงสีทำให้ภาพมีมิติอย่างน่าอัศจรรย์และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกอีกด้วย

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น 
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมอนเรอาเล (Monreale) (ระยะทาง 168 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 2.20 ชั่วโมง)

นำท่านเข้าชม มหาวิหารมอนเรอาเล (Monreale Duomo) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดของสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์แห่งหนึ่งของโลก สร้างขึ้นโดยกษัตริย์วิลเลียมที่ 2 ผู้ปกครองดินแดนซิซิลี ในช่วงปี ค.ศ. 1060 ภายในวิหารท่านจะได้พบกับความอลังการของโมเสคทอง ซึ่งว่ากันว่าใช้ทองในการประดับประดาทั้งหมด 2,200 กก.เลยทีเดียว นับเป็นโบสถ์โมเสคที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากโบสถ์เซนต์โซเฟียที่ตุรกี และที่น่าอัศจรรย์คือ โมเสคที่เห็นทั้งหมดนี้ใช้เวลาสร้างแค่ 8 ปีเท่านั้น

นำท่านเดินทางสู่ เมืองปาแลร์โม (Palermo) (ระยะทาง 15 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที) เมืองหลวงของแคว้นปกครองตนเองซิซิลี ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ปลายรองเท้าบูทของอิตาลี มีประวัติต่อเนื่องยาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญแห่งหนึ่งของยุโรปจึงตกเป็นเป้าหมายของการยึดครองจากชนชาติที่มีอำนาจเข้มแข็งในช่วงเวลาต่างๆเริ่มตั้งแต่กรีก โรมัน คาร์เทธ อาหรับ นอร์มัง เยอรมัน ฝรั่งเศส และสเปน แต่ละชาติผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาปกครองดินแดนนี้ขณะเดียวกันก็ได้นำเอาศิลปวัฒนธรรมของตนเข้ามาด้วย เกาะนี้จึงมีสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่หลากหลายผสมผสานกันหากแต่ลงตัว นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยความงามทางธรรมชาติ ของทั้งชายหาด ทะเล และภูเขาไฟ ด้วยความที่อยู่ห่างไกลท่านจะสามารถสัมผัสถึงความเป็นอิตาเลียนดั้งเดิม อย่างที่หาไม่พบอีกแล้วตามเมืองใหญ่ในอิตาลีภาคพื้นทวีป 

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น 
ที่พัก Astoria Palace Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 6ปาแลร์โม - เซฟาลู - ทอร์มินา
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านถ่ายรูปกับ Palazzo dei Normanni อดีตราชวังของกษัตริย์นอร์แมน ปัจจุบันใช้เป็นสภาท้องถิ่นประจำเมือง

นำท่านชม น้ำพุ Fontana della Vergogna น้ำพุแกะสลักสไตล์เรเนอซองส์ซึ่งสั่งทำจากฟลอเรนซ์

นำท่านชม Cappella Palatina โบสถ์ส่วนพระองค์ของกษัตริย์โรเจอร์ที่ 2 พระราชาซึ่งเคยได้ชื่อว่ามีฐานะล่ำซำที่สุดในยุโรป โดยโบสถ์นี้ยังถือเป็นต้นแบบของวิหาร Monreale ที่สร้างขึ้นในอีก 40 ปีให้หลังด้วย หลังคาโดมประดับด้วยโมเสคทองรูปพระเยซูและเทวดาทั้งแปด

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซฟาลู (Cefalu) (ระยะทาง 99 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชั่วโมง)

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น 
บ่าย

นำท่านชม เมืองเซฟาลู (Cefalu) เมืองทางตอนเหนือของเกาะซิซิลี ในจังหวัดปาแลร์โม เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่ามีหาดทรายที่สวยงาม ทอดผ่านบ้านเรือนริมชายหาด ที่สร้างไล่ระดับขึ้นไปตามแนวเขา นับเป็นอีกหนึ่งทัศนียภาพที่สวยงามของเกาะซิลี ให้ท่านได้แวะถ่ายรูปบนหาดเซฟาลู อันเป็นอีกหนึ่งชายหาดที่สวยงามและติดอันดับของเกาะซิซิลี

นำท่านเดินทางสู่ เมืองทอร์มินา (Taormina) (ระยะทาง 232 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง)

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พักVilla Esperia Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 7ทอร์มินา - เมสซินา - โคเซนซา
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านชม เมืองทอร์มินา (Toarmina) เมืองตั้งอยู่บนเนินเขาชายทะเลงดงามดังภาพวาดที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟเอ็ดน่าที่ยังคุกรุ่นอยู่ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดบนเกาะซิซิลี

นำท่านเดินทางสู่ ถนนคอร์โซ อัมเบอร์โต้ (Corso Umberto) ถนนสายหลักของเมือง อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้ง โดยสองข้างทางมีร้านอาหาร, ร้านขายของฝากและสินค้าพื้นเมืองมากมาย

นำท่านเข้าชม โรงละครกรีก (Greek Theatre) สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล เป็นโรงละครกรีกที่ตั้งอยู่บนจุดที่ดีที่สุดในบรรดาโรงละครกรีกทั้งหมดที่มีอยู่ในโลก ด้านหลังเป็นวิวของเมืองทอร์มิน่าบนไหล่เขา ทะเลไอโอเนียน และภูเขาไฟเอ็ดน่า โรงละครกรีกแห่งนี้ยังคงถูกใช้งานในช่วงฤดูร้อน โดยเป็นหนึ่งในสถานที่จัดเทศกาลงานศิลปะนานาชาติของเมืองที่มีชื่อว่า ทอร์มิน่า อาร์เต้

นำท่านแวะถ่ายรูป วิหารซานนิโคลา (Cathedral of San Nicola) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเทอร์มินา สร้างขึ้นในสมัยยุคกลางศตวรรษที่ 13 สไตล์บาร็อก โดยชาวสวาเบียน ด้านหน้าคือ น้ำพุ “Baroque Fountain”  อิสระให้ท่านชมเมือง

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น 
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองวิลลา ซานจิโอวานี (Villa San Giovanni)เพื่อนั่งเรือเฟอร์รี่ ข้ามสู่เกาะซิซิลี (Sicily) เกาะสวรรค์ของคนอิตาลี เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่มีประวัติต่อเนื่องยาวนานกว่า 4,000 ปี  เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอิตาลีและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีช่องแคบเมสซีนาคั่นระหว่างตัวเกาะกับแผ่นดินใหญ่อิตาลี บนเกาะมีภูเขาไฟเอตนาสูง 3,320 เมตรเป็นจุดที่สูงที่สุดของเกาะ มีประชากรอาศัยอยู่บนเกาะกว่า 5 ล้านคน ซึ่งทั้งเกาะยังมีฐานะเป็นแคว้นปกครองตนเองซิซิลี

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคเซนซา (Cosenza) (ระยะทาง 177 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)  เป็นเมืองทางใต้ของอิตาลี ตรงบริเวณที่แม่น้ำบูเซนโตกับแม่น้ำกราติสไหลมาบรรจบกัน เป็นเมืองหลวงของจังหวัดโคเซนซา มีสถาบันโคเซนเทียน (Cosentian Academy) ที่ถือเป็นสถานศึกษาด้านปรัชญาและวรรณคดีแห่งแรกที่ก่อตั้งในอิตาลีและในยุโรป (ค.ศ. 1511) ปัจจุบันเมืองยังคงเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรม มีพิพิธภัณฑ์ โรงละคร ห้องสมุดอยู่หลายแห่ง

นำท่านเที่ยวชม เมืองโคเซนซา อีกหนึ่งเมืองเก่าและเมืองสวยแห่งอิตาลีใต้

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น 
ที่พักItaliana Hotel Cosenza หรือเทียบเท่า 
วันที่ 8เมทารา - อัลเบอโรเบลโล 
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมาเทรา (Matera) (ระยะทาง 203 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3  ชั่วโมง) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นบาซีลีกาตา (Basilicata) หนึ่งใน 20 แคว้นของประเทศอิตาลี ตัวเมืองตั้งอยู่เหนือหุบเขาที่มีแม่น้ำสายเล็กๆไหลผ่าน เมื่อเดินเข้ามาภายในตัวเมืองจะได้พบกับถนนสายเล็กๆที่ปูด้วยหิน ที่ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนอันแสนเก่าแก่ เป็นเมืองที่ได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองใต้ดิน หรือ เมืองมนุษย์ถ้ำ นั่นเอง จนกระทั่งในปี 1993 องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นมรดกโลก สำหรับ นครถ้ำโบราณ Sassi di Matera เป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 9,000 ปี

นำท่านเที่ยวชมความสวยงามแปลกตาของนครถ้ำแห่งนี้ พร้อมเก็บภาพความสวยงามของลักษณะภูมิประเทศอันแปลกตาของเมืองนี้

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัลเบอโรเบลโล (Alberobello) (ระยะทาง 67 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ในจังหวัด Bari แคว้นปูเกลีย (Puglia) ประเทศอิตาลี เป็นหมู่บ้านหินปูนของชุมชนโบราณ ที่ชื่อว่า Trulli

นำท่านชมความสวยงามของหมู่บ้านหินปูน หลังคาทรงกลวย หรือยอดกลมจึงส่งผลให้หมู่บ้านแห่งนี้มีความสวยงามแปลกตามาก องค์การยูเนสโก ได้ประกาศให้เมืองนี้เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1996 อิสระให้ท่านได้มีเวลาเก็บภาพความสวยงามและบรรยากาศของหมู่บ้านโบราณสีขาวแปลกตาที่ยากจะพบเห็นในอิตาลี แต่ยังคงอนุรักษ์ได้อย่างดีเยี่ยม ณ เมืองแห่งนี้

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พักLa chiusa di chietri Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 9บารี 
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองบารี (ระยะทาง 66 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองที่อยู่ใกล้กับทะเลเอเดรียติก จนได้รับสมญานามว่า “แคลิฟอร์เนียตอนใต้ของอิตาลี” เป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางด้านการค้า เป็นศูนย์กลางการเดินเรือและศูนย์กลางของอาณาจักรไบแซนไทน์ทางตอนใต้ของอิตาลี เป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางศาสนา เนื่องด้วยเซนต์นิโคลัสมาจาริกแสวงบุญที่เมืองนี้ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองได้ถูกทำลายด้วยระเบิดไดนามิก และได้ทำการบูรณะสร้างเมืองขึ้นใหม่ ปัจจุบันจึงเห็นบ้านเรือนที่ทันสมัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ยังคงสามารถเห็นซากความเจริญในอดีตที่ยังคงเหลือไว้

นำท่านเข้าชม ปราสาทซูโว (Svevo Castle) ซึ่งเป็นปราสาทที่แสดงให้เห็นถึงอำนาจมืด (Dark Symbol of Power) ตัวปราสาทสร้างขึ้นในศิลปะแบบนอร์แมน-สวาเบียน ระหว่างปี 1501-1523 โดย อิซเบลแห่งอารากอน และ โบนา สฟอร์ซา เจ้าหญิงแห่งบารี สร้างขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิโรมันในอดีต

เที่ยงรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่ายนำท่านเดินทางสู่ สนามบินบารี
15.25 น.ออกเดินทางจาก สนามบินบารี สู่ สนามบินอิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK1446 
19.25 น.เดินทางมาถึง กรุงอิสตันบูล แวะเปลี่ยนเครื่อง อิสระให้ท่านช้อปปิ้งใน DUTY FREE SHOP ภายในสนามบินแห่งใหม่ของอิสตันบูลซึ่งมีขนาดใหญ่มาก และมีร้านค้าให้เลือกซื้อของมากมาย
วันที่ 10กรุงเทพมหานคร
01.25 น.ออกเดินทางสู่ ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ TK 68 (ใช้เวลาบินประมาณ 9 ชั่วโมง) สายการบินฯ มีบริการอาหาร 2 รอบ คือ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า
15.05 น.เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

เงื่อนไขในการจอง

  • สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน แนะนำให้ท่าน เปิดห้องพัก เป็น 2 ห้องจะสะดวกกับท่านมากกว่า
  • กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว ไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
  • กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลด ท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 20 ก.ก., กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Hand carry) น้ำหนักไม่เกิน 7 ก.ก. 
  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน TK (กระเป๋าเดินทาง น.น. ไม่เกิน 20 ก.ก./ท่าน)
  • ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ประกันภัยทางอากาศ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี)
  • ค่าภาษีในประเทศอิตาลี, มอลต้า
  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่
  • เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง และทิปต่างๆ
  • ค่าวีซ่าเชงเก้นอิตาลี (ประมาณ 2,800 บาท **อัตราค่าวีซ่าอาจเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ)
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านต้องจัดการกระเป๋าด้วยตัวท่านเอง
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด, โทรศัพท์-แฟกซ์, เครื่องดื่มมินิบาร์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • งวดที่ 1  : สำรองที่นั่งจ่าย 35,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปเดินทางแน่นอน
  • งวดที่ 2  : ชำระส่วนที่เหลือ 30 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45 วัน ไม่เก็บค่าใช้จ่าย (หากไม่ได้มีการยื่นวีซ่าล่วงหน้า) (สงกรานต์-ปีใหม่ 60 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30-45 วัน หักค่ามัดจำ 35,000 บาท + ค่าวีซ่า (ถ้ามี) (สงกรานต์-ปีใหม่ 44-59 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 10-30 วัน หักค่ามัดจำ 35,000 บาท + ค่าใช้จ่ายอื่น (ถ้ามี) (สงกรานต์-ปีใหม่ 20-43 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 0-9 วัน หักค่าใช้จ่าย 75-100% ของค่าทัวร์ (สงกรานต์-ปีใหม่ 0-19วัน)
  • ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100% 
  • หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม
  • ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 20 วัน ก่อนการเดินทาง (หากจำนวนลูกค้าในคณะไม่ถึง 15 ท่าน ราคาทัวร์ เพิ่มท่านละ 3,000 บาท)
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน การประท้วง ภัยธรรมชาติ การก่อจราจล อุบัติเหตุ ปัญหาการจราจร ฯลฯ ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด
  • เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ  ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฎิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฎิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว  หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง 
  • ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ บริษัทฯสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
  • ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
  • ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบิ
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
  • ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ (TWN/DBL) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง (TRIPLE ROOM) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
  • โรงแรมหลายแห่งในยุโรป จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
  • ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ (TRADE FAIR) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
  • กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
  • วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตราการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
  • หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด
  • สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฎิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  • สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 7.5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)
  • ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
  • กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)
  • ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
  • กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯจะพิจารณาชดเชยค่าเสียหายให้ท่าน โดยชดใช้ตามกฎของสายการบินเท่านั้น นั่นหมายถึงจะชดเชยตามน้ำหนักกระเป๋า คูณ ด้วยค่าชดเชย USD 20 ต่อกิโลกรัมเท่านั้น ดังนั้นท่านจึงไม่ควรโหลดของมีค่าทุกประเภทในกระเป๋าใบใหญ่ เพราะหากเกิดการสูญหาย ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การชดเชยค่าเสียหายตามรายระเอียดข้างต้นเท่านั้น
  • กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน
  • เอกสารประกอบการขอวีซ่า(ใช้เวลาในการขอวีซ่าประมาณ 10-15 วันทำการ)
  • สถานฑูตไม่อนุญาตให้ดึงเล่มพาสปอร์ต หากได้ยื่นเข้าไปแล้ว ดังนั้นถ้าท่านรู้ว่าต้องใช้เล่มกรุณาแจ้งบริษัททัวร์ฯ เพื่อขอยื่นวีซ่าล่วงหน้าก่อนกรุ๊ป และให้แนบตั๋วเครื่องบินในช่วงที่ท่านจะเดินทางมาด้วย
การเตรียมเอกสาร กรุณาอ่านให้เข้าใจ และเตรียมให้ครบ
  • หนังสือเดินทาง อายุใช้งานได้ เกิน 6 เดือนขึ้นไป และ มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 แผ่น
  • รูปถ่ายสีหน้าตรง ขนาด 3.5 x 4.5 ซ.ม. จำนวน 2 รูป พื้นฉากหลังรูปต้องเป็นพื้นสีขาว (อย่าถ่ายเอง เพราะพื้นเป็นสีเทา ใช้ไม่ได้) ห้ามสวมแว่นสายตา (รูปถ่ายต้องถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน...สถานฑูตมีการเทียบรูปกับหน้าวีซ่าที่เคยได้) 
  • สำเนาบัตรประชาชน 
  • สำเนาทะเบียนบ้าน (กรุณาถ่ายหน้าแรกที่มีรายละเอียดบ้านเลขที่มาด้วย)
  • สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีผู้หญิง.....หากมีการเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น ...นาง... ต้องแนบมา)
  • สำเนาทะเบียนหย่า (กรณีผู้หญิง.....ถ้าหย่าและหากมีการใช้คำนำหน้าเป็น ....นาง...ต้องแนบมา)
  • สูติบัตร (กรณีเด็กต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ต้องแนบสูติบัตรมา) 
  • กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ : (หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อม พ่อและแม่) ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ 
    • เด็ก เดินทางกับบุคคลอื่น บิดาและมารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอม ซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เด็กเดินทางกับใคร (ระบุชื่อ) มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว
    • เด็ก เดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เด็กเดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา) 
    • เด็ก เดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เด็กเดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา) 
  • หลักฐานการทำงาน (จดหมายรับรองการทำงาน) ทำเป็นภาษาอังกฤษ จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูตและประเทศ)
    • กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
    • กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า
    • กรณีพนักงานบริษัท : ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการว่าจ้าง เงินเดือน
    • กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน
    • กรณีเกษียณอายุราชการ: ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
    • กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษา นั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ ระบุชั้นปีที่ศึกษา
  • หลักฐานการเงิน : (กรุณาเตรียมให้ถูกต้อง ใช้ทั้ง Bank guarantee และ สำเนาบัญชี เล่มเดียวกัน)
    • หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank guarantee) ของบัญชีออมทรัพย์ (Saving account) ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 15 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า
    • สำเนาสมุดบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน นับขึ้นไปจากเดือนที่จะยื่นวีซ่า มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน และยอดแสดงในบัญชีต้องไม่ก้าวข้ามเดือน (ปรับสมุดและสำเนา 7 วันก่อนยื่นวีซ่า)
    • **ต้องสมุดบัญชีออมทรัพย์เล่มเดียวกันเท่านั้น**

หมายเหตุ : หากสมุดบัญชีแสดงยอดรวมที่มีการกระโดดข้ามเดือน (ยอดไม่ต่อเนื่อง) เช่นจากเดือน 1 ข้ามไปเป็นยอดของ เดือน 3 (เดือน 2 ไม่มี) ท่านต้องไปขอ Bank statement จากทางธนาคารแทนการถ่ายสำเนาสมุดบัญชี

  • บัญชีฝากประจำ (Fixed) สามารถแนบประกอบได้ แต่ท่านต้องแนบบัญชีออมทรัพย์ (Saving) มาด้วย หากต้องการใช้บัญชีฝากประจำ ต้องเตรียมดังนี้
    • หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank guarantee) ของบัญชีฝากประจำ (Fixed account) ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 20 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า
    • สำเนาสมุดบัญชีฝากประจำ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน 
**สถานฑูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ไม่ต้องแนบมา**
หมายเหตุ : หากต้องการรับรองการเงินให้คนภายในครอบครัว ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
  • หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Guarantee) ต้องระบุชื่อเจ้าของบัญชี รับรองค่าใช้จ่ายให้ใคร (ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองในจดหมายด้วย)
  • กรุณาแนบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส หรือหลักฐาน เพื่อแสดงสถานะ และความสัมพันธ์ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
กรณีนายจ้างรับรองค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้าง
  • จดหมายรับรองจากนายจ้างระบุว่าเป็นผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
  • หนังสือรับรองเงินฝาก

Address

240/26 (A Tower) Ayothaya Building 16th Floor, Ratchadapisek Soi 18, Huay Kwang, BKK 10320

ทุกวัน : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy