ทัวร์ยุโรปตะวันตก อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ (จุงเฟรา) ฝรั่งเศส 2567/2024 เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE598 : ทัวร์ยุโรปตะวันตก อิตาลี (โรม) สวิส (จุงเฟรา) ฝรั่งเศส 10 วัน (EK)

DE598 : ทัวร์ยุโรปตะวันตก อิตาลี (โรม) สวิส (จุงเฟรา) ฝรั่งเศส 10 วัน (EK)
Emirates (EK)


เที่ยวชมมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์รูปแกะสลักเดวิด และ มหาวิหารซานตามาเรียเดลฟิโอเร่ 

เที่ยวเกาะเวนิส “เมืองที่ใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน”

 
ถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งมิลาน 

พักเมืองลูเซิร์น เมืองเล็กๆอันแสนน่ารัก หมู่บ้านอิเซล์ทวาลด์ เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมทะเลสาบ Lake Brienz 

เมืองซุก ถ่ายรูปกับ CLOCK TOWER นั่งรถไฟด่วน TGV เข้าสู่ปารีส  ขึ้นชั้น 2 ของหอไอเฟิล  

พระราชวังแวร์ซายส์ และพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ แบบ VIP ไม่มีต่อคิว

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1กรุงเทพฯ – โรม
 
23.30 น.คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ T สายการบิน เอมิเรตส์ EMIRATES  (EK) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง
 
วันที่ 2โรม – วาติกัน – มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ – สนามกีฬาโคลอสเซียม – น้ำพุเทรวี่ – บันไดสเปน
02.00 น.

ออกเดินทางสู่ รุงโรม ประเทศอิตาลี โดยเที่ยวบินที่ EK 377 / EK 97 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 

บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน

13.25 น.

เดินทางถึง สนามบินลีโอนาร์โด ดาร์วินชี่ (ฟูมิซิโน)  หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่ กรุงโรม เมืองหลวงของประเทศอิตาลีซึ่งมีอดีตอันยิ่งใหญ่ และเกรียงไกรในยุคจักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจเมื่อราวกว่า 2,000 ปีที่ผ่านมา จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ นครรัฐวาติกันรัฐอิสระที่ปกครองตนเองเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก 
  นำท่านเข้าชมภายใน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สถาปัตยกรรมล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลกซึ่งตกแต่งอย่างโอ่อ่าหรูหรา ชมรูปปั้นแกะสลัก “เพียต้า” ผลงานของศิลปินเอก ไมเคิลแองเจโล  เสาพลับพลาที่ออกแบบโดย เบอร์นินี และยอดโดมขนาดใหญ่ซึ่งปัจจุบันเป็นสิ่งล้ำค่าคู่บ้านคู่เมืองของอิตาลีชมร่องรอยของศูนย์กลางแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ โรมัน ฟอรั่ม,

จากนั้นคณะแวะถ่ายรูปที่ระลึกด้านหน้า สนามกีฬาโคลอสเซียม โบราณสถานเก่าแก่ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เคยเป็นสนามกีฬายักษ์ที่สามารถจุคนได้กว่า 50,000 คน การออกแบบอย่างชาญฉลาดสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้เข้าชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาในปัจจุบัน จากนั้นให้ ท่านถ่ายภายคู่กับประตูชัยคอนสแนติน สัญลักษณ์แห่งชัยชนะและที่มาของ “ ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม ” รถโค้ชนำท่านวิ่งผ่านชมสถานที่ต่างๆรอบกรุงโรม
จากนั้นนำท่านชม น้ำพุเทรวี่ เป็นน้ำพุที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ชื่อ “เทรวี่” นั้นมาจากคำว่า“ตรีวิอุม” หมายถึงพบกันของถนนสามสาย เป็นอนุสรณ์สไตล์บารอค ออกแบบและก่อสร้างโดย นิโคลา ซาลวี่ ซึ่งองค์สมเด็จสันตะปาปา ครีเมนต์ที่ 12ได้มอบหมายให้สร้างขึ้นในปี 1732 การก่อสร้างดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่งภายหลังการสิ้นพระชนม์สมเด็จสันตะปาปาที่ เออร์บัน ที่ 8ได้หยุดชะงักลง และดำเนินการสร้างต่อมาจนแล้วเสร็จในปี 1762 รวม ใช้เวลาทั้งสิ้น 30ปี ทางระบายน้ำ เวอร์โก้ บริเวณลานด้านหน้านั้นก่อสร้างมากว่า 2000ปี ครั้งสมัยโรมโบราณซึ่งปกครองโดยจักรพรรดิออกัสตัส ซึ่ง ตรงเวลา 19 ปี ก่อนคริสตศักราช รูปปั้นแกะสลักที่เลิศหรูอลังการที่อวดโฉมให้ผู้ไปเยือนได้ยลนั้น ได้แนวคิดจากความยิ่งใหญ่ของเทพเจ้าเนปจูน “เทพแห่งท้องทะเล” ว่ากันว่า หากใครที่ได้โยนเหรียญลงไปในน้ำ เขาหรือเธอผู้นั้นจะได้กลับมาเยือนอีกในสักวัน

จากนั้นให้คณะได้ถ่ายรูปภาพคู่ บันไดสเปน เป็นบันไดในกรุงโรมประเทศอิตาลี ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ชื่อ Francesco de Sanctis  เชื่อมระหว่าง Piazza di Spagna และ Piazza Trinità dei Monti เป็นบันไดที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในทวีปยุโรป มีขั้นบันไดทั้งหมด 138 ขั้น ใช้สำหรับเดินเล่นหรือเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ที่ย่าน บันไดสเปน นับว่าเป็นแหล่งพักผ่อนของชาวอิตาลีและ นักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ 
 

 
ค่ำ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่1)

ที่พักIH Hotel Roma Z3 หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)
วันที่ 3โรม – ปิซ่า –หอเอนปิซ่า –  ฟลอเรนซ์ฟลอเรนซ์ – ดูโอโม่แห่งฟลอเรนซ์ – รูปแกะสลักเดวิด
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  (มื้อที่ 2)
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองปิซ่า เมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านการศึกษาอีกเมืองหนึ่งของประเทศอิตาลี ชมวิวทิวทัศและชีวิตความเป็นอยู่ของคนอิตาลี และระหว่างทางท่านจะได้เห็นเทือกเขาที่เปรียบเหมือนกับกระดูกสันหลังของประเทศอิตาลี คือ เทือกเขาอัลเพนนาย จนกระทั่งเดินทางถึงเมืองปิซ่า

นำท่านชม หอเอนเมืองปิซ่า ที่ตั้งอยู่ใน จัตุรัสแคมโป    หอระฆัง สร้างขึ้นมาได้3ชั้นก็เอนตัวลงเพราะความผิดพลาดของวิศวกร  โดยองค์การยูเนสโกยกย่องให้เป็นมรดกโลกด้วย และยังเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 3)  (อาหารจีน) 

บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ ฟลอเรนซ์ (ประมาณ 250 กม.) เมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอาร์โน ที่มีความสำคัญยิ่งสำหรับประวัติศาสตร์ของยุโรปเพราะเป็นแหล่งกำเนิดศิลปะ วัฒนธรรมเรอเนสซองส์ และเป็นเมืองที่ไม่อนุญาตให้รถโค้ชเข้าไปในเขตเมืองเก่า

นำชม มหาวิหารซานตามาเรียเดลฟิโอเร่ หรือ ดูโอโม่แห่งฟลอเรนซ์ เป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมากด้วยการใช้หินอ่อนสีชมพู ขาวและเขียวในการก่อสร้าง ข้างๆ มหาวิหารมีหอระฆังสูง ออกแบบตกแต่งด้วยหินอ่อนสามสีเช่นเดียวกับมหาวิหาร จัตุรัสเดลลา ซินญอเรีย บริเวณนี้ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางการเมืองการปกครองมาก่อน และเดิมเป็นที่ตั้ง รูปแกะสลักเดวิด ของแท้ผลงานของไมเคิลแองเจโลอันลือชื่อ แต่ในปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะอะคาเดมี อีกด้านหนึ่งของจัตุรัสเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์อุฟฟิชี ที่นี่คือสถานที่เก็บงานฝีมือศิลปินเอกอิตาเลียนในสกุลช่างฟลอเรนซ์ที่ใหญ่และดีที่สุดในโลก

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  (มื้อที่ 4)
 
ที่พักBest Western Plus CHC Florence  หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)
วันที่ 4ฟลอเรนซ์ – เวนิส – สะพานถอนลมหายใจ –  จัตุรัสซานมาร์โค – วิหารซานมาร์โค  
 
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  (มื้อที่ 5)

นําท่านเดินทางไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลีเพื่อไปยัง เมืองเวนิส เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก เป็นเมืองที่ใช้เรือแทนรถ ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยมากถึง118 เกาะ และมีสะพานมากถึง 400 สะพาน 

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 6)
บ่าย

นําท่าน ล่องเรือไปยังเกาะเวนิส ผ่านชม บรรดาบ้านเรือนของนครกลางน้ำแห่งนี้ที่ตั้งอยู่ตามลําคลองน้อยใหญ่ จนดูคล้ายเป็นผืนแผ่นดินเดียวกัน นำชม จัตุรัสซานมาร์โค ถ่ายรูปกับ สะพานถอนหายใจและพระราชวังดอจจ์ สิ่งก่อสร้างอัน งดงามที่เก่าแก่มากกว่า 800 ปี ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของการปกครองแคว้นในยุคสมัยนั้น  อิสระเลือกช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองของเวนิซตามอัธยาศัย อาทิ เครื่องแก้วมูราโน่ ต้นตำรับของการเป่าแก้วของชาวมูราโน่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาตั้งแต่บรรพชน โดยเครื่องแก้วแต่ละชิ้นมีรูปแบบ และคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับเมือง เมสเตร้

 
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (อาหารพื้นเมือง พิซซ่าต้นตำหรับอิตาลี+สเต็ก+ของหวาน) (มื้อที่ 7)
ที่พักNovotel Venice Mestre Castellana หรือเทียบเท่า (คืนที่ 3)
วันที่ 5เมสเตร้ – มิลาน – มหาวิหารแห่งมิลาน – อินเทอร์ลาเค่น ( สวิตเซอร์แลนด์ )
 
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  (มื้อที่ 8)

 นำท่านเดินทางไปยัง เมืองมิลาน ( ประมาณ 265 กม. ใช้ระยะเวลา ประมาณ 3 ชม. 15 นาที )  เป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดีย และเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม นอกจากนี้มิลานยังเป็นที่รู้จักจากประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า ปาเนตโตเน (Panettone) อุตสาหกรรม ผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึง สโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลาน และ สโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน  ถ่ายรูปกับ มหาวิหารแห่งมิลาน (Duomo di Milano) เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองมิลาน และเป็นวิหารหินอ่อนสถาปัตยกรรมโกธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปี ลักษณะเด่นของวิหารที่นอกเหนือจากความวิจิตรงดงามแล้ว ยังประดับประดาไปด้วยรูปั้นนับกว่า 3,000 รูป ที่สวยงามไม่แพ้กัน

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ  ภัตตาคาร (มื้อที่ 9) (อาหารจีน) 
 
บ่าย

นำท่านเดินทางโดยรถโค้ช สู่ เมืองอินเทอร์ลาเค่น ( ประมาณ 293 กม. ใช้ระยะเวลา ประมาณ 3 ชม. 50 นาที ) เมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอร์ลันด์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมืองตากอากาศสวยงามพร้อมทะเลสาบ 2 แห่งกลางเมือง ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่งคือ Thunersee และ Brienzersee ท่ามกลางเทือกเขาน้อยใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านจะได้เห็นเขาจุงเฟราอันลือชื่อ , นาฬิกาดอกไม้ , สถานคาสิโน ฯลฯ ให้ท่านเดินเล่นพักผ่อน ชื่นชมบรรยากาศของตัวเมืองที่มีทุ่งหญ้ากว้างกลางเมือง มีสวนดอกไม้เล็กๆ น่ารักสร้างสีสันให้ตัวเมือง รวมทั้งมีอาคารคาสิโนคูซาลอายุกว่า 100 ปีที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น และยังเป็นคาสิโนของเมืองอีกด้วย

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 10)  (ฟองดูว์ ต้นตำหรับสวิตเซอร์แลนด์) 
ที่พักHotel Royal - St. Georges Interlakenหรือเทียบเท่า (คืนที่ 4)
วันที่ 6พิชิตยอดเขาจุงเฟรา – สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป – ถ้ำน้ำแข็ง 1000ปี – สวิสสฟิงซ์  – หมู่บ้านอิเซล์ทวาลด์ – ลูเซิร์น ( สวิตเซอร์แลนด์ )
 
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  (มื้อที่ 11)
 นำคณะออกเดินทางโดยรถโค้ชมุ่งหน้าขึ้นสู่ เมืองเลาเทอร์บรุนเน่น เพื่อนำท่านขึ้นรถไฟ สายจุงเฟราบาห์เนน ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์แบบสวิสเซอร์แลนด์ขนานแท้ ที่มีทุ่งหญ้าอันเขียวขจี ดอกไม้ป่าบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ หรือใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ล่วง บ้านหลังน้อยใหญ่ปลูกแบบน่ารักๆทรงสวิสชาเลต์ ฝูงวัวพื้นเมืองที่กระจัดกระจายแทะเล็มหญ้าอยู่ทั่วบริเวณ ลำธารน้ำธรรมชาติเล็กๆที่ใสสะอาดและฉากหลังที่มีภูเขาหิมะตั้งตระหง่านขาวโพลน ซึ่งจะทำให้คณะได้รับความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง

นั่งรถไฟชมวิวท่องเที่ยวธรรมชาติบนภูเขาสูงแห่งแอลป์  แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟสายภูเขาที่สถานีไคลน์ไชเด็ก รถไฟที่จะนำท่านเดินทางลอดอุโมงค์ที่ชาวสวิสฯได้ขุดเจาะไว้ที่ความสูงถึง 3,464 เมตร จนกระทั่งถึง สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป Top of Europe บนยอดเขาจุงเฟรา ซึ่งมีความสูง 4,158 เมตร (13,642 ฟุต)  จุดสูงสุดคือลานน้ำแข็งขนาดใหญ่เรียกว่า Sphinx  นักท่องเที่ยวหลายๆคนบอกว่าที่นี่สวยงามดุจดินแดนแห่งสวรรค์ เพราะยอดเขาแห่งนี้ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนตลอดทั้งปี อิสระให้ท่านถ่ายภาพความประทับใจตามอัธยาศัยกับแบบจุใจ ไม่มีเร่งรีบ จากนั้นนำท่าน

ชม ถํ้านํ้าแข็ง 1,000 ปี  ที่สร้างโดยการเจาะธารน้ำแข็งเข้าไปถึง 30 เมตร พร้อมชมน้ำแข็งแกะสลักรูปร่างต่าง จากนั้นชมวิวทิวทัศน์และสัมผัสหิมะที่ลานพลาโต Plateau และไม่ควรพลาดการส่งโปสการ์ดจากที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในโลกพร้อมซื้อของที่ระลึกต่างๆตามอัธยาศัย นำท่านขึ้น สวิสสฟิงซ์ หรืออาคารสังเกตการณ์ ที่ความสูง 3,571 เมตร/11,716 ฟิต ท่านสามารถชมวิวได้รอบ 360 องศาจากระเบียงได้ประสบการณ์แสนประทับใจ เดินทางสู่ ยุงค์ฟราวยอร์ค-หลังคายุโรป ไปแล้วไม่ได้มาจุดชมวิว จุดนี้เหมือนมาไม่ถึง

 
กลางวันรับประทานอาหารกลางวันเมนูที่ดีที่สุด ณ ภัตตาคาร บนยอดเขาจุงฟราว  (มื้อที่ 12)
 
 
บ่าย

นำท่านขึ้น สวิสสฟิงซ์ หรืออาคารสังเกตการณ์ ที่ความสูง 3,571 เมตร/11,716 ฟิต ท่านสามารถชมวิวได้รอบ 360 องศาจากระเบียงได้ประสบการณ์แสนประทับใจ จากนั้นนำท่านลง จากยอดเขาจุงเฟราไปยังสถานีรถไฟ ไอเกอร์เกลทเชอร์ เพื่อนำท่านขึ้นกระเช้า The V-Cableways (กระเช้าใหม่ล่าสุด)ลงมายังเมืองกลินเดอร์วาวล์

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านอิเซล์ทวาลด์ Iseltwald เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมทะเลสาบ Lake Brienz ซึ่งรายล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์ของแนวเทือกเขาสูงใหญ่ ในฤดูร้อนก็จะมีแต่สีสันเขียว ๆ สดชื่นสบายตา น้ำในทะเลสาบเป็นสีฟ้าสวยใส บรรยากาศเงียบสงบ และมาโด่งดังสุดๆจากซี่รี่ย์เกาหลีชื่อดังอย่าง Crash Landing On You ที่มาถ่ายทำ ณ สถานที่แห่งนี้ ให้ท่านเดินเล่นชมเมืองที่สวยงามนี้

หลังจากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (ประมาณ 77 กม. ใช้ระยะเวลา ประมาณ 1 ชม. ) เมืองนี้ตั้งอยู่ริมทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า เวียวาลด์ สแตร์ทเตอร์ อันหมายถึงทะเลสาบสี่พันธรัฐ 

 
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  (มื้อที่ 13)
 
ที่พักASTORIA LUCERNE   หรือเทียบเท่า (คืนที่ 5)
วันที่ 7เมืองลูเซิร์น – สะพานไม้ชาเปล – อนุสาวรีย์สิงโต – เดินเล่นชิวๆชมเมือง – เมืองซุก  – ดิจอง  (ฝรั่งเศส)
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 14)

 นำท่านชม สะพานไม้ชาเปล สัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น สะพานไม้ที่เก่าแก่มีอายุหลายร้อยปี 

นําท่านชม  อนุสาวรีย์สิงโต สัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์และกล้าหาญของชาวสวิสเซอร์แลนด์ ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในคราวปฏิวัติใหญ่ของฝรั่งเศสแกะสลักอยู่บนหน้าผาหิน อิสระให้ท่านได้เดินเล่นชมเมือง(ไม่ใช่วิ่งชมเมือง) หรือ  ช้อปปิ้ง นาฬิกาสวิสฯ   อาทิ ROLEX,PANERAI, OMEGA, IWC, PATEK PHILLIP เป็นต้น หรือเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกเช่น มีดสวิสฯ พร้อมสลักชื่อ, สินค้าพื้นเมืองของที่ระลึก, ช็อคโกแลต เป็นต้น
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซุก (ประมาณ 30 กม. ใช้ระยะเวลา ประมาณ 35 นาที ) เป็นเมืองเล็ก ๆ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเมืองซุกเคยเป็นเขตปกครองที่มีรายได้เฉลี่ยน้อยที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์แต่ปัจจุบันซุกคือเมืองที่รวยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ โดยเรียกเก็บค่าภาษีในอัตราต่ำที่สุดในโลก ทำให้เป็นข้อได้เปรียบในเชิงการต่อรองราคาทางธุรกิจ และยังติดอันดับเมืองที่สะอาดที่สุดหนึ่งในสิบของโลกอีกด้วย ให้ท่านได้ถ่ายรูปคู่กับ CLOCK TOWER ที่มีความสูง 52 เมตร มองเห็นได้มาแต่ไกล สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 หลังคาเป็นสีฟ้าขาวและนาฬิกาที่ตั้งอยู่เป็นนาฬิกาดาราศาสตร์ที่สามารถบอกข้างขึ้น ข้างแรมของพระจันทร์ได้ ให้ท่านอิสระเดินเล่นชมบ้านเรือน และทะเลสาบของเมืองซุก

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 15)  (อาหารจีน) 
บ่าย

จากนั้นออกเดินทางโดยรถโค้ชข้ามพรมแดนของสวิสเซอร์แลนด์ – ฝรั่งเศส เดินทางผ่านทุ่งราบอันกว้างใหญ่สู่เขตแคว้นเบอร์กันดีที่มีการปลูกลูกมัสตาร์ดเพื่อนำมาผลิตมาเป็น “มัสตาร์ด” อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตไวน์ชั้นดีของประเทศฝรั่งเศส เดินทางเข้าสู่ เมืองดีจอง (ประมาณ 353 กม. ใช้ระยะเวลา ประมาณ 3 ชม. 45 นาที )  ซึ่งเป็นอีกเมืองหนึ่งที่สวยงามของประเทศฝรั่งเศส อดีตเมืองหลวงแห่งแคว้นเบอร์กันดีชมอาคารบ้านเรือนสมัยเรเนสซองส์

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 16) (อาหารพื้นเมือง สไตล์ฝรั่งเศส )
ที่พักMercure Dijon Centre Clemenceau  หรือเทียบเท่า (คืนที่ 6)
 
วันที่ 8รถไฟด่วน TGV  –  พระราชวังแวร์ซายส์  –  พิพิธภัณฑ์ลูฟร์  –  DUTY FREE  –  อาหารพื้นเมืองหอยเอสคาโก้อบเนยในร้านสุดหรู  (ฝรั่งเศส)
 
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 17)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองปารีส ด้วยรถไฟด่วน TGV เพลิดเพลินและสนุกสนานกับความสะดวกสบาย ด้วยความเร็วกว่า 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง (ไม่ต้องลากกระเป๋าใหญ่ไปให้ลำบาก เพราะเรามีรถบัสขนสัมภาระไปให้ท่าน ) (ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชม. 45 นาที )  จนกระทั่งถึงกรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน บริเวณตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศสบนใจกลางแคว้น อีล-เดอ-ฟรองซ์ จากการตั้งถิ่นฐานมากว่า 2,000 ปี เมืองปารีส มหานครซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเมืองหลวงด้านแฟชั่น  ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของทุ่งดอกเรบซีด ไร่องุ่น และหมู่บ้านชนบทของฝรั่งเศสจนกระทั้งเข้าสู่เมืองปารีส
 

 
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 18)  (อาหารจีน) 
บ่าย

นำท่านเดินทางไปยัง แวร์ซาย อดีตเมืองหลวงและศูนย์กลางการเมืองการปกครองในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 อยู่ห่างจากปารีสไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร นำท่านเข้าชม พระราชวังแวร์ซาย (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยาย ในแต่ละห้องข้อมูลแน่นปึ๊ก ที่สำคัญเที่ยวแบบ VIP ไม่มีต่อคิว) พระราชวังที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ใหญ่ที่สุดในปฐพี ชมความอลังการของพระราชวังซึ่งได้รับการตกแต่งไว้อย่างหรูหราวิจิตรบรรจง ชมความงดงามของห้องต่างๆ อาทิเช่น ห้องอพอลโล, ห้องนโปเลียน ห้องบรรทมของราชินี, ห้องโถงกระจกท้องพระโรง, ห้องสงครามและสันติภาพ รวมถึงเรื่องราวและความเป็นมาของอดีตอันยิ่งใหญ่ของพระราชวังแห่งนี้ จากนั้นอิสระให้ท่านได้ชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกบริเวณอุทยานอันร่มรื่นและหลากหลายด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับสีสันสวยงาม 

หลังจากนั้นนำท่านเข้าชมความยิ่งใหญ่ อลังการ ณ พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยาย ข้อมูลแน่นปึ๊ก ที่สำคัญเที่ยวแบบ VIP ไม่มีต่อคิว) หรือในชื่อทางการว่า the Grand Louvre  เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดเก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตัวตึกที่ตั้งอยู่เคยเป็นพระราชวังมาก่อน โดยกษัตริฟิลิป-ออกัสตัส สร้างเป็นป้อมปราการ จากนั้นพระเจ้าชาร์ลที่ 5 ได้ขยายป้อมปราการลูฟร์ให้เป็นพระราชวัง พระเจ้าหลุยส์ 13 และ14 เคยประทับอยู่ที่นี่ ปัจจุบันลูฟร์เป็นสถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมากกว่า 40,000 ชิ้น มีตั้งแต่ศิลปะสมัยอีทรัสกัน กรีก โรมัน อียิปต์ภาพเขียนและปติมากรรมยุคเรเนสซองซ์ ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับพีระมิดแก้ว ซึ่งเป็นทางเข้าหลักออกแบบโดยสถาปนิกเชื้อสายอเมริกัน – จีน

นำท่านชื่นชม ภาพวาดโมนาลิซา ของลีโอนาร์โด ดาวินชี จิตรกรและสถาปนิกอัจฉริยะชาวอิตาเลียน ภาพวาดชวนพิศวงเนื่องมาจากรอยยิ้มอันเปี่ยมด้วยเลศนัยของนางที่อยู่ในภาพ จนทำให้ผู้คนวิจารณ์กันมากว่าแท้จริงแล้วโมนาลิซ่า คือใครกันแน่ เป็นบุรุษหรือสตรี   ชมรูปปั้นภาพเทพธิดาวีนัส (Venus deMilo) และศิลปะสำคัญของโลกภายในพิพิธภัณฑ์  
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ร้านปลอดภาษี เพื่อให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าต่างๆ มากมาย อาทิเช่น เครื่องสำอาง, น้ำหอม, เครื่องประดับ, กระเป๋าหนัง และเครื่องหนังอื่นๆ รวมทั้งเสื้อผ้า Brand  Name จากฝรั่งเศส

ค่ำรับประทานอาหารแบบพื้นเมืองฝรั่งเศส (เมนู หอยเอสคาโก้อบเนย ,ท่านสามารถ เลือก สเต๊กสไตล์ฝรั่งเศส 1 อย่าง อาทิ เป็ดอบซอส/ ปลา / เนื้อวัว / แกะ  พร้อมจิบไวน์ฝรั่งเศส ตบท้ายด้วยของหวาน ) (มื้อที่ 19)
 
 
ที่พักMercure Paris La Defense 5   หรือเทียบเท่า (คืนที่ 7)
 
วันที่ 9ขึ้นหอไอเฟลชั้น 2 – ล่องเรือแม่น้ำแซน – ถนนชองเอลิเซ่  – ประตูชัยปารีส – ช้อปปิ้ง
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 20)
นำท่านถ่ายภาพ หอไอเฟล เป็นที่ระลึกจากมุมกว้างซึ่งเป็นจุดที่สวยที่สุดและสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน จากนั้นนำท่าน ขึ้นลิฟท์สู่ชั้น 2 ของหอไอเฟิล  สัญลักษณ์ของนครปารีสเลิศหรูอลังการโรแมนติค เป็นหอสูงสร้างด้วยโครงเหล็กทั้งหมด โดยชาวฝรั่งเศสชื่อ กุสตาฟ เอฟเฟล มีความสูง 984 ฟุต ใช้เหล็กทั้งหมด 7 พันตัน สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1887 เพื่อเป็นประติมากรรมฉลองครบรอบ 100 ปีหลังการปฏิวัติฝรั่งเศส ท่ามกลางเสียงคัดค้านของประชาชนในสมัยนั้นว่า รูปทรงน่าเกลียดอัปลักษณ์เป็นที่สุด หารู้ไม่ว่าอีกไม่กี่สิบปีต่อมา หอเหล็กสูง 324 เมตร น้ำหนัก 10,000 ตันนี้ จะกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองที่คนทั่วโลกอยากมาเห็น ให้ท่านได้เพลิดเพลิน สนุกสนาน ชมทัศนียภาพอันสวยงามของกรุงปารีส ได้อย่างทั่วถึงและจุใจ 

นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือบาตามูซ เพื่อล่องเรือแม่น้ำแซน ชมวิวทิวทัศน์กันบนดาดฟ้าเรือ ชื่นชมความงามของทัศนียภาพของนครปารีส ชมสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองสองฝั่งของแม่น้ำแซน โบราณสถาน และอาคารที่เก่าแก่สร้างด้วยศิลปะแบบเรเนสซองส์ ควรค่าแก่การอนุรักษ์ตลอดทางท่านจะได้ความประทับใจกับความสวยงามของทัศนียภาพที่ร่วมกันสรรสร้างให้นครปารีสได้ชื่อว่าเป็นนครที่มีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อาทิเช่น สะพานอเล็กซานเดอร์, ศาลาว่าการ, จัตุรัสคองคอร์ด, โรงกษาปณ์, เกาะอิลเดอลาซิเต้ ศูนย์กลางเมืองแห่งแรก สถานที่ตั้ง มหาวิหารนอเตรอดาม หรือโบสถ์นอเตรอดาม สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิคที่ประดับตกแต่งด้วยกระจกสีอย่างงดงาม ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นสถานที่สำหรับพิธีราชาภิเษกนโปเลียนขึ้นครองราชย์ มีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี และทำให้ปารีสโดดเด่นเป็นมหานครที่งดงามแห่งหนึ่งของโลก (ในกรณีที่น้ำในแม่น้ำแซนขึ้นสูงกว่าปกติหรือมีเหตุการณ์สุดวิสัย เช่น การนัดหยุดงาน เป็นต้น รายการล่องแม่น้ำแซนอาจจะไม่สามารถดำเนินการได้) 

จากนั้นนำท่านไปชม ประตูชัย สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของนโปเลียน ก่อนนั่งรถผ่านชมสองฟากฝั่ง ถนนชองป์เซลิเซ่ ต้นแบบถนนราชดำเนินของไทย ซึ่งเต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านค้าแบรนด์เนมจากดีไซเนอร์ชื่อก้องโลก นำท่านผ่านชม จัตุรัสคองคอร์ด สถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสและยุโรป เป็นลานประหารที่ตั้งกิโยติน ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนนับพันในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศสปี ค.ศ. 1789  
 

เที่ยง

อาหารกลางวัน อิสระตามอัธยาศัยเพื่อสะดวก และให้เวลากับการช้อปปิ้งสินค้าต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ 

บ่ายจากนั้นอิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง แกลลารี่ ลาฟาแยตต์ ซึ่งมีสินค้าแบรนด์เนมทุกยี่ห้อรวมถึง Louise Vuitton ท่านที่ไม่มีความประสงค์ช้อปปิ้งสามารถเดินชมความงามของบ้านเมืองและโรงละครโอเปร่าที่เก่าแก่สวยงาม เพราะย่านช้อปปิ้งอยู่กลางเมือง มีอาคารบ้านเรือนสวยงามมาก ได้เวลาอันสมควรนำท่านออกเดินทางสู่สนามบินชาร์ลเดอร์โกล เพื่อทำการเช็คอิน และทำ TAX REFUND 
21.55 น.ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบิน เอมิเรตส์ EMIRATES  (EK) เที่ยวบินที่ EK 76 / EK 370 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน
วันที่ 10กรุงเทพฯ
18.20 น.เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิ์ภาพ พร้อมความประทับใจ

เงื่อนไขในการจอง

  • ค่าตั๋วเครื่องบิน (Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไป-กลับพร้อมคณะ ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน จำนวนคนและมีค่าใช้จ่ายที่ทางสายการบินกำหนด (น้ำหนักกระเป๋าใบใหญ่ท่านละ 25 กิโลกรัม/กระเป๋าถือขึ้นเครื่องท่านละ 7 กิโลกรัม)
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
  • ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง (กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ชั่วโมง/วัน)
  • ค่า Coach Tax และค่าภาษีผ่านเข้าเมืองต่างๆ 
  • ค่าห้องพักในโรงแรมที่ระบุตามรายการพร้อมอาหารเช้าหรือเทียบเท่า (โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในภูมิประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น, ราคาโรงแรมอาจมีการปรับขึ้นหลายเท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับช่วงงานเทศกาล งานแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลทำให้ต้องมีการเปลี่ยนย้ายเมือง โดยทางบริษัทฯ จะคำนึงถึงความเหมาะสมและผลประโยชน์ของคณะผู้เดินทางเป็นสำคัญ)
  • ค่าอาหารเลิศรสทุกมื้อที่ระบุตามรายการ
  • ค่าบัตรเข้าชมสถานที่และการแสดงทุกแห่งที่ระบุตามรายการ
  • ค่าวีซ่าท่องเที่ยวยุโรปแบบยื่นปกติ (ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมยื่นวีซ่าให้ ไม่ว่าวีซ่าจะผ่านหรือไม่)
  • ค่าบริการนำทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์
  • ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลในวงเงิน 200,000 บาท กับ ACE Insurance Limited (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
  1. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (กรณีต้องการใบเสร็จเต็มรูปแบบ)
  2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯ
  3. ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษในร้านอาหาร นอกเหนือจากที่บริษัทฯจัดให้ ยกเว้นจะตกลงกันเป็นกรณีพิเศษ 
  4. ค่าน้ำหนักส่วนที่เกิน 25 กิโลกรัม  และมีจำนวนมากกว่า 1 ชิ้น (ระเบียบของสายการบิน) 
  5. ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ 20 ยูโร ต่อท่าน
  6. ค่าทิปพนักงานขับรถในยุโรป 16 ยูโร ต่อท่าน
***กรุณาพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ และเงื่อนไขการยกเลิกทัวร์ของบริษัท ก่อนท่านทำการจองทัวร์***

  • กรุณาจองล่วงหน้าอย่างน้อย  50 วันก่อนการเดินทาง พร้อมชำระงวดแรก 45,000 บาท (เทศกาลปีใหม่ , สงกรานต์ มัดจำ 60,000 บาท)
  • ส่วนที่เหลือชำระทันทีหรือก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 15 วันไม่ว่าผลของวีซ่าจะออกหรือไม่ออกก็ตาม มิฉะนั้นจะถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ
  • การยกเลิกต้องแจ้งล่วงหน้า 50 วันก่อนเดินทาง มิฉะนั้นทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินงวดแรก (ท่านละ45,000บาท) (เทศกาลปีใหม่ , สงกรานต์ มัดจำ 60,000 บาท)
  • กรณียกเลิกการเดินทางภายใน 30-20 วัน บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องขอหัก 50 % ของราคาทัวร์
  • กรณียกเลิกการเดินทางภายใน 19 - 11 วัน บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องขอหัก 80 % ของราคาทัวร์
  • กรณียกเลิกกะทันหันก่อนการเดินทางไม่เกิน  10 วัน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่ได้ชำระไปแล้วจำนวนมาก บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินทั้งหมดไม่ว่ากรณีใดๆ
  • ทางบริษัทจะทำการยื่นวีซ่าของท่านก็ต่อเมื่อในคณะมีผู้สำรองที่นั่งครบ 15 ท่าน และได้รับคิวการตอบรับจากทางสถานทูต เนื่องจากบริษัทจะต้องใช้เอกสารต่างๆที่เป็นกรุ๊ปในการยื่นวีซ่า อาทิ ตั๋วเครี่องบิน , ห้องพักที่คอนเฟิร์มมาจากทางยุโรป ,ประกันการเดินทาง ฯลฯ ทางท่านจะต้องรอให้คณะครบ 15 ท่าน จึงจะสามารถยื่นวีซ่าให้กับทางท่านได้อย่างถูกต้อง
  • ในการยื่นวีซ่า ท่านจะต้องเดินทางมายื่นวีซ่าด้วยตัวเอง ตามวัน และเวลานัดหมายจากทางสถานทูต เพื่อมาสแกรนลายนิ้วมือ โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยดูแล และอำนวยความสะดวก
  • เอกสารต่างๆที่ใช้ในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป ทางสถานทูตเป็นผู้กำหนดออกมา มิใช่บริษัททัวร์เป็นผู้กำหนด ท่านที่มีความประสงค์จะยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง และครบถ้วนตามที่สถานทูตต้องการ เพราะจะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของท่าน บริษัททัวร์เป็นแต่เพียงตัวกลาง และอำนวยความสะดวกในการยื่นวีซ่าเท่านั้น มิได้เป็นผู้พิจารณาว่าวีซ่าให้กับทางท่าน
  • กรณีวีซ่าที่ท่านยื่นไม่ผ่านการพิจารณา และคณะสามารถออกเดินทางได้ ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้
    - ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้นแม้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณา
    - ค่าธรรมเนียมวีซ่า ค่าดำเนินการและ ค่าบริการ  5,500 บาท
    - ค่าตั๋วเครื่องบินที่ออกมาจริง ณ วันยื่นวีซ่า ซึ่งตั๋วเป็นเอกสารที่สำคัญในการยื่นวีซ่า หากท่านไม่ผ่านการพิจารณา ตั๋วเครื่องบินถ้าออกตั๋วมาแล้วไม่สามรถ REFUND ได้เนื่องจากบริษัทจองตั๋วเป็นตั๋วกรุ๊ปซึ่งตั๋วกรุ๊ปจะไม่สามรถ REFUND คืนได้ 
    - ค่าห้องพักในทวีปยุโรป ถ้าคณะออกเดินทางได้ และท่านไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่า ทางโรงแรมจะต้องยึดค่าห้อง 100% ในทันที 
    หากท่านผ่านการพิจารณาวีซ่า แล้วยกเลิกการเดินทางทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยึดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100%ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น
  • ในกรณีที่ทางบริษัทขอเอกสารเพิ่มเติมแต่ท่านไม่ส่งเอกสารตามที่ขอมาให้ทางบริษัท / เอกสารของท่านไม่น่าเชื่อถือ / มีการปลอมแปลงเอกสาร / มาไม่ทันเวลานัดหมายตามที่สถานทูตกำหนด (มาสาย) / ไม่รับโทรศัพท์สถานทูต / การใช้คำพูดไม่สุภาพกับสถานทูต และส่งผลทำให้วีซ่าไม่ผ่านการพิจารณาจากสถานฑูต ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินให้ท่าน
  • กรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองทั้งที่กรุงเทพฯ และในต่างประเทศปฏิเสธมิให้เดินทางออกหรือเข้าประเทศที่บริษัทระบุใน รายการเดินทาง  บริษัทของสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมดไม่ว่ากรณีใด ๆ
  • ทางบริษัทเริ่มต้น และจบ การบริการ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรณีท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ และจะสำรองตั๋วเครื่องบิน หรือพาหนะอย่างหนึ่งอย่างใดที่ใช้ในการเดินทางมาสนามบิน ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากโปรแกรมการเดินทางของบริษัท ฉะนั้นท่านควรจะให้กรุ๊ปคอนเฟิร์ม 100% ก่อนที่จะสำรองยานพาหนะ
    หมายเหตุ  

    1. กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจากการล่าช้า (ดีเลย์) ของทางสายการบิน การนัดหยุดงานหรือการก่อจราจล ภัยธรรมชาติ   รถติด  ทำให้ไม่สามารถกิน-เที่ยวและพักโรงแรมได้ครบถ้วนตามโปรแกรมทัวร์ที่ระบุ ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะไม่คืนค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะถือเป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นโดยตรงจากทางสายการบิน และทางบริษัทฯ ไม่ได้รับค่าชดเชยใด ๆ ทั้งสิ้นจากทางสายการบิน แต่ทางบริษัทฯ จะคงไว้ซึ่งผลประโยชน์สูงสุดที่ลูกค้าพึงจะได้รับอย่างเต็มความสามารถ
    2.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงการเดินทาง หรือยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการได้ตามความเหมาะสมโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า และสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยวในกรณีที่มีเหตุจำเป็นสุดวิสัย โดยจะพยายามให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับท่าน
    3.ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายการบางอย่างตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของสายการบิน สภาพทางการเมือง ภัยธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีคิวยาวจนทำให้โปรแกรมต่อไปเสียหาย แต่ยังคงจะรักษา มาตราฐานการบริการ และประโยชน์ของลูกค้าทุกท่านไว้เหมือนเดิม
    4.ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในส่วนที่เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ว่าบางส่วนหรือ ทั้งหมด อาทิเช่น พาสปอร์ต, ของมีค่า, กระเป๋าเงิน, กระเป๋าเดินทาง เป็นต้น

  • ในกรณีเลื่อนการเดินทางกลับ ท่านจะต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนทำการยื่นวีซ่า ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายแตกต่าง และต้องมีค่าใช้จ่ายในการเลื่อนตั๋ว และเอกสารเพิ่มเติม เช่นเอกสารประกัน,เอกสารโรงแรมที่อยู่ต่อ

บริษัทฯ ขอสงวนลิขสิทธิ์ในการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงราคากรณีผู้ร่วม      เดินทางน้อยกว่า 15 ท่าน***


สำหรับท่านที่เป็นมุสลิม ,  ทานมังสวิรัติ  , ไม่ทานหมู  , ไม่ทานเนื้อ , ไม่ทานไก่ , ไม่ทานปลา  โปรดแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ 
 
***หมายเหตุข้อสำคัญที่ท่านควรทราบ***
1.)ในการยื่นวีซ่า ทางบริษัท จะทำการนัดหมายกับสถานทูตและสถานทูตจะเป็นผู้กำหนดวันและเวลาให้เข้าไปยื่นวีซ่า เป็นการยื่นวีซ่าแบบกรุ๊ปเท่านั้น(ปกติสถานทูตจะให้เข้าไปยื่นวีซ่า 15 วันก่อนเดินทาง)  ซึ่งอัตราค่าใช้จ่ายรวมอยู่ในรายการทัวร์แล้ว
***กรุณาพิจารณารายละเอียดของโปรแกรมทัวร์และเงื่อนไขต่างๆของบริษัท เมื่อท่านได้ชำระเงินมัดจำงวดแรกแล้ว ทางบริษัทถือว่าท่านได้รับทราบและยอมรับเงื่อนไขต่างๆ ของบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ***

 
 

เอกสารประกอบการขอวีซ่าทัวร์ (ใช้เวลาพิจารณาวีซ่า 15 วันทำการ และต้องมาแสดงตนที่สถานฑูต)


1.  หนังสือเดินทางที่เหลืออายุใช้งานได้เกิน 6 เดือนขึ้นไป ถ้ามีหนังสือเดินทางเล่มเก่ากรุณาแนบมาด้วย ต้องมีหน้าว่างเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้า
2. รูปถ่ายปัจจุบันหน้าตรง 2x1.5 นิ้ว จำนวน 2 รูป (ใช้รูปสี พื้นฉากหลังสีขาวเท่านั้น อายุรูปไม่เกิน 6 เดือน เหมือนกันทั้ง 2  รูป) ไม่เห็นฟัน ห้ามใส่คอนแทคเลนส์ หรือ บิ๊กอายในการถ่ายรูป / ห้ามใส่เครื่องประดับในการถ่ายรูป
3. สำเนาทะเบียนสมรส / สำเนาทะเบียนหย่า / สำเนาใบมรณะบัตร/ สำเนาใบเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล/ เอกสารเพิ่มเติมกรณีอื่น ๆ 
4. สำเนาบัตรประชาชน 
5. สำเนาทะเบียนบ้าน
6. สำเนาสูติบัตร (สำหรับเด็กต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์) 
7. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์: เดินทางต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ 
7.1 เด็กเดินทางกับบุคคลอื่น บิดามารดาต้องทำหนังสือยินยอมให้เดินทางไปต่างประเทศจากทางอำเภอ/เขต (ตัวจริงเท่านั้น) โดยเอกสารระบุว่าอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศกับใครและระบุความสัมพันธ์ว่าเป็นอะไรกันอย่างชัดเจน **พร้อมแปลเป็นภาษาอังกฤษและรับรองเอกสาร+ประทับตราจากกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น** (พ่อและแม่ต้องมาแสดงตัว ณ วันที่ยื่นวีซ่าด้วย)
7.2 เด็กเดินทางกับบิดา  มารดาต้องทำหนังสือยินยอมให้เดินทางไปต่างประเทศจากทางอำเภอ/เขต (ตัวจริงเท่านั้น) โดยเอกสารระบุว่ามารดาอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศกับบิดาและระบุชื่อบิดา **พร้อมแปลเป็นภาษาอังกฤษและรับรองเอกสาร+ประทับตราจากกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น** (แม่ต้องมาแสดงตัว ณ วันที่ยื่นวีซ่าด้วย)
7.3 เด็กเดินทางกับมารดา  บิดาต้องทำหนังสือยินยอมให้เดินทางไปต่างประเทศจากทางอำเภอ/เขต (ตัวจริงเท่านั้น) โดยเอกสารระบุว่าบิดาอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศกับมารดาและระบุชื่อมารดา **พร้อมแปลเป็นภาษาอังกฤษและรับรองเอกสาร+ประทับตราจากกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น** (พ่อต้องมาแสดงตัว ณ วันที่ยื่นวีซ่าด้วย)
7.4 กรณีพ่อและแม่หย่าร้าง หรือเสียชีวิต ต้องแนบใบหย่า หรือ ใบมรณะบัตร เพื่อเป็นการยืนยัน
7.5 ให้แนบสำเนาพาสปอร์ตของพ่อ และ แม่ (หากไม่มีให้แนบสำเนาบัตรประชาชนของพ่อและแม่)
7.6 เด็กอยู่ในความปกครองของบิดาหรือมารดาเพียงคนเดียว จะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น เช่น สำเนาใบหย่า พร้อมทั้งบันทึกการหย่าซึ่งแสดงว่าเป็นผู้รับผิดชอบเด็ก เด็กอยู่ในความปกครองของผู้อื่น จะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น เช่น ใบปกครองบุตร (ปค.14) จากทาง อำเภอ/เขต (ตัวจริงเท่านั้น)  , หนังสือรับรองบุตรบุญธรรม เป็นต้น พร้อมแนบหลักฐานของบิดาหรือมารดาหรือผู้ที่เด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น 
**พร้อมแปลเป็นภาษาอังกฤษและรับรองเอกสาร+ประทับตราจากกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น**
8. หลักฐานการทำงาน 
8.1 กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ(สำเนาอายุไม่เกิน 3 เดือน)
8.2 กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า(สำเนา)
8.3 กรณีที่เป็นพนักงานบริษัทฯ : จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุชื่อ-นามสกุล , ตำแหน่ง , วัน/เดือน/ปีที่เริ่มทำงาน , เงินเดือน ในจดหมายต้องมีหัวกระดาษบริษัท เบอร์โทร และตราประทับบริษัทด้วย จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูต) ไม่ต้องระบุวันลา และประเทศที่เดินทาง พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น (ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน)
8.4 กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูต) ไม่ต้องระบุวันลา และประเทศที่เดินทาง พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น (ใส่ปี เป็น ค.ศ. เท่านนั้น ห้ามใส่ปีเป็น พ.ศ.) (ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน) 
8.5 กรณีเกษียณอายุราชการ ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
8.6 กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษานั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ระบุชั้นปีที่ศึกษา พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น (ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน) / พร้อมสำเนาบัตรนักเรียน นักศึกษา  
8.7 กรณีเป็นแม่ค้า, ทำธุรกิจส่วนตัว, ทำอาชีพอิสระ ต้องพิมพ์จดหมายรับรองตัวเอง เป็นภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งแนบรูปถ่ายสถานที่ทำงานมาด้วย รูปถ่ายอย่างน้อย 3-5 ใบ   
9. หลักฐานการเงิน (บัญชีออมทรัพย์เท่านั้น) สเตทเมนท์ (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน ซึ่งออกโดยธนาคาร ขอสเตทเม้นชื่อ-นามสกุลเป็นภาษาอังกฤษ + ตราประทับจากธนาคาร + ลายเซ็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร นำเล่มจริงมาแสดงวันที่ยื่นวีซ่า
เงินฝากออมทรัพย์ (ยอดเงินในสมุดบัญชีธนาคาร ต้องมีไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ต่อการยื่นวีซ่า 1 ท่าน และ ต้องมีการเข้าออกของเงินสม่ำเสมอ ห้ามทำการโอนเงินเข้าไปในครั้งเดียวเป็นยอดใหญ่ก่อนการยื่นวีซ่าเด็ดขาด!!)
ก่อนยื่นวีซ่า 7 วัน  รบกวนปรับสมุดบัญชี ให้มียอดล่าสุด 7 วัน ก่อนถึงวันยื่นวีซ่า  และสำเนาหน้าที่ปรับสมุด + หน้าแรกที่มีชื่อบัญชี นำมายื่นเพิ่มเติมในวันที่ยื่นวีซ่า  หากนำสมุดไปปรับแล้วไม่มียอด รบกวนนำเงินเข้า หรือ นำเงินออก เผื่อจะได้มียอดในการปรับสมุด
****** สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ******
10.  ในกรณีที่มีผู้รับรองค่าใช้จ่าย ต้องมีเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ 
10.1 จดหมายจากผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น – หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ของผู้เดินทางกับผู้รับรองค่าใช้จ่าย เช่น ทะเบียนบ้าน และต้องเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน (พ่อ, แม่ สามารถรับรองค่าใช้จ่ายให้บุตรได้ / สามี ภรรยา ที่จดทะเบียนสมรส รับรองให้กันและกันได้ / (ปู่, ย่า, ตา, ยาย ไม่สามารถรับรองค่าใช้จ่ายให้หลานได้)
- กรณีเป็นสามีภรรยากันแล้วไม่ได้จดทะเบียน และรับรองค่าใช้จ่ายกัน ต้องใช้เอกสารดังนี้
เขียนจดหมายชี้แจงเป็นภาษาอังกฤษ มาว่าอยู่ด้วยกันแต่ไม่ได้จดทะเบียนกัน
กรณีมีลูกด้วยกันให้ใช้ใบเกิดของลูก 
10.2 สเตทเมนท์ (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน ซึ่งออกโดยธนาคาร ขอสเตทเม้นชื่อ-นามสกุลเป็นภาษาไทย พร้อมตราประทับจากธนาคาร บัญชีออมทรัพย์ของผู้รับรองค่าใช้จ่าย พร้อมหนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคาร (BANK CERTIFICATE) เป็นภาษาอังกฤษ **ต้องเป็นบัญชีเดียวกันเท่านั้น**   
11. ผู้สูงอายุที่มีอายุเกินกว่า 70 ปี บริบูรณ์กรุณาแนบใบรับรองแพทย์ว่าสามารถเดินทางได้เพื่อเป็นเอกสารประกอบการยื่นวีซ่า
12. กรณีผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ต่างประเทศ จะต้องยื่นขอวีซ่าอิตาลี ณ ประเทศที่ท่านกำลังศึกษาอยู่ 

*** รายละเอียดเอกสารการยื่นขอวีซ่าที่ได้กล่าวมานี้ เป็นเพียงข้อเบื้องต้นที่ทางบริษัทฯ ได้จัดทำขึ้นจากประสบการณ์และระเบียบของสถานทูต ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่สถานการณ์และคุณสมบัติของลูกค้า

วันที่มายื่นวีซ่ากรุณานำสมุดบัญชีธนาคารเล่มจริงมาด้วย (กรณีมีเล่มต่อจากสมุดเดิมรบกวนนำเล่มเก่ามาด้วย)
เอกสารทุกอย่างที่เป็นสำเนา เช่น ทะเบียนบ้าน , ทะเบียนสมรส , ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล , สูติบัตร , นำตัวจริงมาวันที่ยื่นวีซ่าด้วย

***** สำหรับคนที่จะใช้เล่มไปที่อื่นก่อน สถานทูตจะไม่ให้ดึงเล่มไม่ว่ากรณีใด ๆ *****

กรมการกงสุลได้แจ้งเตือนว่า :
1.ในหนังสือเดินทางต้องมีเพียงตราประทับของทางราชการเท่านั้น
2. การขีดเขียนหรือประทับเครื่องหมายอื่นใดในหนังสือเดินทาง ถือว่า “ หนังสือเดินทางชำรุด ” อาจถูกปฎิเสธเข้าประเทศต่างๆ หรือถูก Blacklist ห้ามเข้าประเทศนั้นอีก

 

Address

53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240

จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566099-191-9288 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy