โปรแกรมทัวร์ยุโรปตะวันออก ออสเตรีย เชก สโลวัก ฮังการี เที่ยวสโลวาเกีย

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE926 : โปรแกรมทัวร์ยุโรปตะวันออก ออสเตรีย เยอรมนี เชก สโลวัก ฮังการี 10 วัน 8 คืน (OS)

DE926 : โปรแกรมทัวร์ยุโรปตะวันออก ออสเตรีย เยอรมนี เชก สโลวัก ฮังการี 10 วัน 8 คืน (OS)
Austrian Airlines (OS)

Courtyard by Marriott Budapest City Center
NH Vienna Airport Conference Center
OLD INN HOTEL
Radisson Blu Prague
Sheraton Bratislava Hotel

พระราชวังเชินบรุนน์ - เวียนนา -  ช้อปปิ้งเอาท์เลต - กียอร์ - ล่องเรือแม่น้ำดานูบ 
บูดาเปสต์ – บราติสราวา – เบอร์โน – ปราก – เชสกี้ครุมลอฟ – ลินซ์ - ฮอล์สตรัท 
ซาลส์บวร์ก – อินซ์บรูค – มิทเทนวาล์ด – โอเบอร์อัมเมอร์เกา – ปราสาทนอยส์ชวานสไตน์ - มิวนิก 

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1กรุงเทพ
09.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และหัวหน้าทัวร์ เคาน์เตอร์เช็คอิน เคาน์เตอร์ G ประตูทางเข้าที่ 4 สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ อาคารผู้โดยสารขาออก ณ สนามบินสุวรรณภูมิ สัมภาระน้ำหนัก 20 กก. สำหรับโหลด (ท่านละ 1 ใบ)  และ ถือขึ้นเครื่องไม่เกิน 7 กก. 
12.10 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยสายการบิน ออสเตรียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS 016 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.50 ชั่วโมง) สายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำ และอาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินสู่เวียนนา
19.05 น. เดินทางถึงสนามบิน เวียนนา ประเทศออสเตรีย ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
ค่ำรับประทานอาหาร ณ แบบท้องถิ่น ภายในโรงแรม
ที่พักนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก NH Vienna Airport Conference Center **** หรือเทียบเท่า 
วันที่ 2พระราชวังเชินบรุนน์ - เวียนนา - พระราชวังฮอฟบวร์ก - ถนนคาร์ทเนอร์
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเข้าชมพระราชวังเชินบรุนน์ (Schönbrunn Palace) อันยิ่งใหญ่ในเวียนนา สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 เคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮาพส์บวร์คถึง 600ปี โดยสร้างตามแบบพระราชวังแวร์ซายส์ในประเทศฝรั่งเศส ความโดดเด่นของพระราชวังแห่งนี้ คือสถาปัตยกรรมแบบรอคโกโก (Rococo) มีความหรูหรา ใหญ่โต อลังการ โดยเฉพาะตัวอาคารสีเหลืองอร่าม ถูกเรียกขานกันว่าเป็นสีเหลืองเทเรซ่า เนื่องจากปรับปรุงทั้งภายในและภายนอก ในสมัยพระนางมาเรียเทเรซ่า ภายในของ Schönbrunn Palace นั้นมีห้องมากหว่า 1,441 ห้องด้วยกัน เเต่จะเปิดเข้าชมเพียงเเค่ 40 ห้อง แต่ละห้องสะท้อนถึงเรื่องราวต่างๆ ของราชวงศ์ และขนบประเพณีออสเตรีย ไม่ว่าจะเป็นพระนางมารี อองตัวเนต พระราชินีแห่งฝรั่งเศส ก็ยังเคยใช้พระชนม์ชีพในวัยเยาว์ในพระราชวังแห่งนี้ รวมถึงสมเด็จพระจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส ก็เคยมาประทับพักอยู่ ณ พระราชวังแห่งนี้กับพระราชโอรสของพระองค์

นำท่านเดินเที่ยวชม กรุงเวียนนา (Vienna) นครหลวงแห่งดนตรีที่แฝงไว้ด้วยความโรแมนติกอันเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี เป็นนครที่มีความทันสมัยแต่แฝงเร้นอยู่ภายใต้สถาปัตยกรรมคลาสสิกอันทรงคุณค่า ตั้งอยู่ทางตอนกลางของสหภาพยุโรป เชื่อมต่ออารยธรรมระหว่างยุโรปตะวันออกและยุโรปตะวันตก ซึ่งมีพรมแดนติดกับ 8 ประเทศด้วยกัน ได้แก่ เยอรมนี, เช็ก, สโลวาเกีย, ฮังการี, สโลเวเนีย, อิตาลี, สวิตเซอร์แลนด์ ลิคเทนสไตน์ นำท่านแวะถ่ายรูปกับอาคารรัฐสภา (Parliament Building) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้พระราชวังฮอฟบวร์กและศาลยุติธรรม ตัวอาคารแบ่งเป็นสองอาคาร ประกอบด้วย สภาแห่งชาติ และสภารัฐบาลกลาง ภายในมีเนื้อที่ราว 13,500 ตารางเมตร ห้องใช้สอยกว่า 100 ห้อง ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน ห้องประชุม ห้องสมุด ห้องพักผ่อน ห้องอาหาร ห้องออกกำลังกาย ฯลฯ ทั้งนี้สัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของอาคารรัฐสภาคือ น้ำพุและรูปปั้นเทพีอาเธน่า ที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าอาคารรัฐสภา นับเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่มีคนแวะเวียนมามากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเวียนนา นำท่านถ่ายรูปกับพระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) หนึ่งในพระราชวังฤดูหนาวที่สวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปยุโรป และยังคงความคลาสสิกไว้ตั้งแต่ยุคสมัยศตวรรษที่ 13 ถูกใช้เป็นศูนย์กลางการปกครองของประเทศโดยราชวงศ์ฮับบวร์กมานานกว่าเจ็ดทศวรรษ

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่ายนำท่าน เข้าชม วิหารเซนต์สเตฟาน (St. Stephen Cathedral) ซึ่งตั้งอยู่โดดเด่นเป็นสง่า เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา สถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ ผลงานศิลปะเชิงศาสนาและภาพสะท้อนประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในออสเตรียมีสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1137 เพื่ออุทิศให้แก่นักบุญสตีเฟน (Stephen )และเพื่อใช้เป็นสถานที่ฝังและบรรจุศพของทั้งขุนนางและคนธรรมดา ด้วยความเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์รวมถึงความโดดเด่นของศิลปะแบบโรมาเนส (Romanesque) และกอธิค (Gothic) สรรค์สร้างผ่านความงามสถาปัตยกรรมและความสวยงามของกระเบื้องหลากสี ทำให้อาสนวิหารแห่งนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่สำคัญที่สุดของออสเตรีย ชมความงดงามภายในมหาวิหาร จากนั้น ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการชอปปิ้ง ถนนคาร์ทเนอร์ ย่านถนนการค้าที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่างๆ มากมาย สินค้ามากมายให้เลือกซื้อ อาทิเช่น เครื่องแก้วคริสตัลเจียระไน และของที่ระลึกต่างๆ นั่งจิบกาแฟต้นตำรับแท้ 
ที่พักนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก NH Vienna Airport Conference Center **** หรือเทียบเท่า 
วันที่ 3The Designer Outlet Parndorf -  กียอร์ – พระราชวังเอซเตอร์ฮาซ่า - บูดาเปสต์ - ล่องเรือแม่น้ำดานูบ
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ The Designer Outlet Parndorf (ระยะทาง 45 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้า แบรนด์เนมมากมาย อาทิ Bally ,Burberry, Ecco , GEOX Gucci , Hugo Boss, Lacoste, Prada, Samsonite, Timberland, ช็อกโกแลตสวิส ฯลฯ ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่ กรุงเวียนนา (Vienna) (ระยะทาง 54 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที)

กลางวันรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
​บ่ายนำท่านเดินทางสู่ เมืองกียอร์ (Gyor) (ระยะทาง 75 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชม.)  เมืองกียอร์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของฮังการี เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่มีการค้นพบหลักฐานของ การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโบราณ เที่ยวชมบรรยากาศของเมือง ชม ศาลากลาง (City Hall) อาคารที่สร้างขึ้นในแบบนีโอคลาสสิค ที่ได้รับการออกแบบอย่างสวยงาม ชมจัตุรัส Bésci Kapu Tér ที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมายหลายแห่ง เที่ยวชมโบสถ์คาร์มิไลท์ (Carmellite Church) ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 และป้อมปราการเก่าแก่ที่น่าสนใจ จากศตวรรษที่ 16 ถูกสร้าง ขึ้นเพื่อปกป้องจากการรุกรานเมืองจากพวกตุรกีในอดีตนั่นเอง  นำท่านเดินทางสู่ พระราชวังเอซเตอร์ฮาซ่า (Esterhazy palace) (ระยะทาง 119 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นพระราชวัง ที่ได้ชื่อว่า " แวร์ซาย ฮังการี"  สร้างโดย Prince Nikolaus Esterházy อาคารสไตล์รอคโกโก ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฮังการี เป็นเคยบ้านของโจเซฟ ไฮเดนและวงออเคสตราของเขาตั้งแต่ปี 1760 ถึง 1790 นำท่านเข้าชมภายในพระราชวังอันงดงาม ชมห้องจัดเลี้ยงที่มีภาพวาดของApollo บนรถม้าของเขา บนเพดาน ห้องสมุดขนาดใหญ่จุหนังสือได้เกือบ 22,000 เล่ม และมีตัวอักษร 'E' ซึ่งย่อมาจากนามสกุลของครอบครัว ห้องที่ใหญ่ที่สุดคือ Sala Terrana ที่มีลักษณะเหมือนถ้ำ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์อิตาเลี่ยน ที่ทันสมัยในขณะนั้น บนเพดานมีนางฟ้าเต้นรำถือพวงหรีดดอกไม้เป็นรูปตัว E
 

นำท่านเดินทางสู่ นครบูดาเปสต์ (Budapest) (ระยะทาง 125 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม.)   นครหลวงของประเทศฮังการี เป็นเมืองที่ตั้งอยู่สองฝั่งโดยมีแม่น้ำดานูบ (Danube River) ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่มีความยาวเป็นอันดับ 2 ของทวีปยุโรป คั่นกลางแยกเป็นเมืองเก่า และเมืองใหม่ อันได้แก่เมือง “บูดา” และ “เปสต์” อันเป็นที่มาของคำว่า “บูดาเปสต์” 
ได้เวลานำท่านสัมผัสกับบรรยากาศแห่งการ “ล่องเรือแม่น้ำดานูบ” ชมความงามของอาคารสถาปัตยกรรมแบบโกธิค เรียงรายสองฝั่งแม่น้ำดานูบ มนต์เสน่ห์ที่ไม่เสื่อมคลาย และได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองโรแมนติคบนสายน้ำแห่งหนึ่งของโลก 
ค่ำรับประทานอาหารค่ำบนเรือสำราญ พร้อมชมบรรยากาศแม่น้ำดานูบ
ที่พักนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Courtyard by Marriott Budapest City Center **** หรือเทียบเท่า 
วันที่ 4บูดาเปสต์ – ปราสาทไวย์ดาฮุดยาด - บูดา คาสเซิล – ปราสาทไวย์ดาฮุดยาด - บราติสลาวา
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านถ่ายรูปกับจัตุรัสวีรบุรุษ (Hero’s Square) มีอนุสาวรีย์ของบุคคลสำคัญของประเทศฮังการีเป็นจำนวนมาก ความยิ่งใหญ่และสง่างามของมันคือตัวชี้วัดความภาคภูมิใจของชาวฮังการีทุกคนที่มีต่อประเทศ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย นำท่านเข้าชมปราสาทไวย์ดาฮุดยาด (Vajdahunya Castle) ปราสาทสวยงาม และน่าเกรงขามแห่งหนึ่ง เนื่องจากตัวปราสาทเต็มไปด้วยรูปแบบของศิลปะที่สวยงามหลากหลายแบบผสมกัน ไม่ว่าจะเป็นศิลปะโรมาเนสก์, โกธิค, เรอเนซอส หรือบาโรค ซึ่งต่างเป็นรูปแบบที่ทั้งโดดเด่นและสวยงาม โดยเฉพาะรูปแบบการก่อสร้างที่ถ่ายทอดมาจาก Hunedoara (Vajdahunyad) Castle หรือปราสาทท่านเคาท์แดรกคูล่าอันโด่งดังแห่งโรมาเนีย ปราสาทไวย์ดาฮุดยาด ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 1,000 ปีของฮังการี โดยเริ่มก่อสร้างในปี 1896 เช่นเดียวกับจัตุรัสวีรบุรุษ ซึ่งรูปแบบสถาปัตยกรรมของปราสาทแห่งนี้ ได้ถูกรวบรวมมาจากลักษณะเด่นของปราสาทโบราณหลายแห่งที่ของประเทศฮังการี จนทำให้ถือได้ว่าปราสาทแห่งนี้เป็น ตัวแทนแห่งประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมแห่งฮังการีและยุโรปเลยทีเดียว จากนั้นนำท่านเข้าชม โบสถ์คาทอลิกอันสวยงามและมีชื่อเสียงเป็นที่สุดของเมืองบูดาเปสต์ ที่ชาวฮังการีสร้างอุทิศถวายให้กับนักบุญสตีเฟ่น ศิลปะสไตล์นิโอคลาสสิค โดยมีหอคอยคู่หน้าเป็นที่เก็บระฆังหนัก 9 ตัน และยอดโดมสไตล์เรอเนสซองส์สูง 96 เมตร

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่เนินบูดา คาสเซิล (Buda Castle Hill) สำหรับปราสาทบูดานั้น ตั้งอยู่ในฝั่งบูดา ของกรุงบูดาเปสต์ และเป็นที่ตั้งของแกเลอรี่และพิพิธภัณฑ์ที่สวยงาม จากเนินบูดาฮิลล์แห่งนี้ท่านสามารถมองเห็นความสวยงามของอาคารบ้านเรือนฝั่งเปสต์ได้อีกด้วย อิสระให้ท่านได้เที่ยวชมและเก็บภาพตามอัธยาศัย นำท่านชมอาคารรัฐสภาฮังการี  เป็นอาคารรัฐสภาที่ชาวฮังกาเรียนภูมิใจว่าเป็นอาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก เพราะตัวอาคารมีความสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคที่ดูคลาสสิกด้วยหลังคาสีแดง อาคารรัฐสภาแห่งนี้เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1885 และใช้เวลากว่า 20 ปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ โดยรูปแบบอาคารได้รับอิทธิพลมาจากอาคารรัฐสภาแห่งลอนดอน สหราชอาณาจักร ได้เวลานำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์แมทธิอัส (Matthias Church) โบสถ์เก่าแก่ที่ได้รับผลกระทบจากการปกครองในแต่ละยุคแต่ละสมัย อาทิ ถูกดัดแปลงให้เป็นมัสยิดเมื่อครั้งถูกยึดครองด้วยชาวเติร์ก ซึ่งมีหลังคาสลับสีอันสวยงามของ สถาปัตยกรรมแบบนีโอ โบสถ์นี้เคยใช้จัดพิธีสวมมงกุฎให้กษัตริย์มาแล้วหลายพระองค์ ชื่อโบสถ์มาจากชื่อกษัตริย์แมทธิอัส ซึ่งพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถมาก ในสมัยของพระองค์ถือว่าเป็นสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาอย่างแท้จริง สิ่งก่อสร้างที่งดงามเกิดขึ้นมากในเมืองหลวงและเมืองอื่นๆ ซึ่งโบสถ์นี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเรียบร้อยแล้ว

นำท่านเดินทางสู่ เมืองบราติสลาวา ( Bratislava) (ระยะทาง 205 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.)   เมืองหลวงของประเทศสโลวาเกีย และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เมืองเก่าที่มีความน่ารักซ่อนอยู่ในความคลาสสิค ประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ได้รับอิทธิพลจากหลายเผ่าพันธุ์ ได้แก่ ออสเตรีย เช็ก เยอรมัน ฮังการี ยิว และสโลวัก บราติสลาวาได้รับอิทธิพลอย่างมากจากประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเมืองหลวงแห่งเดียวในโลกที่มีอาณาเขตติดต่อกับ 2 ประเทศ เมืองนี้และเวียนนายังเป็นเมืองหลวง 2 แห่งที่ตั้งอยู่ใกล้กันมากที่สุดในยุโรป บราติสลาวาเป็นศูนย์กลางทางการปกครอง วัฒนธรรม และเศรษฐกิจของสโลวาเกีย  โดยมีแม่น้ำดานูบไหลผ่านกลาง

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พักนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Sheraton Bratislava Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 5บราติสราวา - เบอร์โน - ปราก
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเที่ยวชมปราสาทบราติสลาวา (Bratislava Castle) ปราสาทที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของบราติสลาวา ที่นี่เคยเป็นที่พำนักของผู้ปกครองนคร นำท่านชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองนี้ ที่ปราสามนี้มีหอคอย ที่เคยเป็นที่เก็บมงกุฎและคฑาสำหรับพิธีราชาภิเษกอีกด้วย จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ตัวเมืองเก่า นำท่านชมประตูเมืองไมเคิล (Michael’s Gate) หนึ่งในสัญลักษณ์ของบราติสลาวา สร้างขึ้นในช่วงกลางของศตวรรษที่ 14 หลังคาของหอคอยแบบโกธิคดั้งเดิม ต่อมาได้มีการปรับปรุง ซึ่งทำให้มีลักษณะเป็นสไตล์บาโรก หอคอยสูง 51 เมตร มี 7 ชั้น ระเบียงด้านบนหอยคอยเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง ที่จุดสูงสุดของหอคอยมีรูปปั้นทูตสวรรค์ชื่อไมเคิลปราบมังกร เที่ยวชม ศาลากลางเก่า  อาคารที่สวยงามและมีความโดดเด่น ชมหอนาฬิกายิ่งใหญ่ที่ทาสีเหลืองอ่อนและมีอายุถึง 1370 ปี ถ่ายภาพกับ คูมิล Cumil Man at work  รูปปั้นคนที่โผล่มาจากท่อระบาย เป็นชายที่กำลังโผล่หัวออกมาจากท่อระบายน้ำเป็นประติมากรรมเขตเมืองเก่า รูปปั้นแปลก ๆ ได้รับการติดตั้งในปี 1997 ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง นำท่านชม อาคารเก่าแก่ของโรงละครแห่งชาติสโลวัก (Historical building of the Slovak National Theatre) สร้างแบบสไตล์นีโอ – เรอเนสซองส์ที่มีความสวยงามมาก  ด้านหน้าของอาคารเป็นถนนทอดยาวมีลานกลางแจ้ง น้ำพุ  รูปปั้นอนุสาวรีย์ของบุคคลสำคัญต่างๆ จากนั้นเข้าชมโบสถ์เซนต์อลิซาเบธ หรือโบสถ์สีน้ำเงิน ( Elizabeth or Blue Church) โบสถ์คาธอลิกที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวบูดาเปสต์ ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 การตกแต่งทั้งภายในและภายนอกโบสถ์ทาด้วยสีฟ้าอ่อนและตกแต่งด้วยดินเผาสีฟ้า แม้กระทั่งกระเบื้องมุงหลังคาก็เป็นเซรามิกเคลือบสีฟ้า ที่นี่มักถูกใช้เพื่อเป็นสถานที่แต่งงานและรับศีล

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่เมืองเบอร์โน (Brno) (ระยะทาง 130 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม.)  เมืองใหญ่อันดับสองรองจากกรุงปราก ถูกค้นพบใน ค.ศ.1243 โดยเบอร์โน เป็นเมืองในสาธารณรัฐเช็กที่เป็นที่รู้จัก จากอาคารสถาปัตยกรรมศิลปะสมัยใหม่เช่น Villa Tugendhat ซึ่งสร้างใหม่ในปี 1930 โดยสถาปนิก Mies van der Rohe นำท่านแวะถ่ายรูปกับปราสาท Spilberk ปราสาทยุคกลางบนยอดเขาในเบอร์โนโมราเวียตอนใต้ การก่อสร้างเริ่มต้นในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 13 โดยกษัตริย์ Premyslid และเสร็จสมบูรณ์โดย King Ottokar II แห่งโบฮีเมีย ปราสาทขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 13 และที่ตั้งของ Margraves Moravian ในช่วงกลางศตวรรษที่ 14 

นำท่านเดินทางสู่ กรุงปราก (ระยะทาง 207 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชม.) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic)

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ แบบท้องถิ่น ณ โรงแรมที่พัก
ที่พัก

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Radisson Blu Prague **** หรือเทียบเท่า

วันที่ 6ปราก – ปราสาทแห่งกรุงปราก – สะพานชาลส์ - เชสกี้คลุมลอฟ 
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเข้าชมปราสาทแห่งกรุงปราก (Prague Castle) ปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็กสร้างขึ้นในปี ค.ศ.885 โดยเจ้าชายบริโวจ ปราสาทอัศวินโบราณที่สร้างขึ้นในแบบศิลปะกอทิกที่สง่างามซึ่งในปัจจุบันใช้เป็นที่พำนักของประธานาธิบดีเช็ก นำท่านชมความใหญ่โตโอ่อ่าของตัวปราสาท เข้าชมโบสถ์เซนต์ไวตัส (Saint Vitus Cathedral) ที่เด่นเป็นสง่า เขตโกลเด้นเลน ซึ่งเคยใช้เป็นที่พำนักของช่างฝีมือในยุคสมัยก่อน โบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1344 ในศิลปะแบบกอทิก มีการก่อสร้างเรื่อยมาเป็นเวลาหลายร้อยปี จนมาเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1929 มีหน้าต่างกระจกสีที่งดงามเป็นรูปภาพของนักบุญและเรื่องราวเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา แล้วยังเป็นที่เก็บมงกุฎเพชรที่ทำขึ้นในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 กษัตริย์ผู้สร้างความเจริญสูงสุดจนทำให้กรุงปรากกลายเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโบฮีเมียและจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นนำท่านเดินสู่ สะพานชาลส์ (Charles Bridge) สะพานเก่าแก่สัญลักษณ์ของเมือง สร้างด้วยหินขนาดใหญ่ ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองปรากสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ชื่อเดิมเรียกว่า “สะพานปราก” ต่อมาในปี 1870 ได้เปลี่ยนชื่อ ตามพระนามของพระเจ้าชาลส์ อยู่ย่านจัตุรัสและตัวเมืองเก่า (Old Town Square) ที่คลาสสิกโดยเฉพาะอาคารศาลาเทศบาลกรุงปราก บนสะพานประดับด้วยรูปปั้นของนักบุญถึง 28 องค์ ชาวคริสต์เชื่อว่า หากเดินผ่านสะพานแห่งนี้ ต้องขอพรจากนักบุญจอห์นเพื่อความเป็นสิริมงคล อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย
บ่ายนำท่านเที่ยว ชมกรุงปราก ดินแดนอันเป็นที่เลื่องลือและมีผู้คนเดินทางไปชมเมืองที่มีประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปราว 2,000 ปี จึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมแบบ โรมันเนสก์ กอทิก เรอเนซองส์ บาโรก รวมทั้งศิลปะรูปแบบต่างๆทำให้กรุงปรากเป็นเมืองที่แสดงให้เห็นถึงประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมัน และองค์การยูเนสโกได้ประกาศให้กรุงปรากเป็นเมืองมรดกโลกด้านวัฒนธรรม  นําชม หอนาฬิกาดาราศาสตร์(Prague Astronomical Clock) ที่นักท่องเที่ยวจะมาเฝ้ารอการตีบอกเวลาทุกๆ 1 ชั่วโมงจะมีรูปปั้นสิบสองนักบุญเดินเวียนออกมาบริเวณเวทีเล็กๆ เหนือนาฬิกา ซึ่งนักบุญแต่ละองค์ก็จะมีอิริยาบถแตกต่างกันตามความหมาย นำท่านเที่ยวชม จัตุรัสเวนเชสลาส (Wenceslas Square)  แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมประจำเมืองปราก ที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงแรม ฯลฯ ที่ทอดยาวตลอดเส้นถนนของย่าน นับเป็นย่านการค้าที่มีทัศนียภาพสวยงาม เพราะไม่เพียงอาคารต่างๆ ในย่านที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่นเท่านั้นแต่ยังตั้งอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และประติมากรรมรูปปั้นพระบรมรูปทรงม้าของกษัตริย์เวนเชสลาส อดีตผู้นำคนสำคัญของสาธารณรัฐเช็ก และยังเป็นองค์อุปถัมภ์หลักในการนำศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแพร่ด้วย 
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเชสกี้ครุมลอฟ (Cesky krumlov) (ระยะทาง 205 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชม.) สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) เมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งโบฮีเมีย ความโรแมนติกดุจเทพนิยาย
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Old Inn Hotel **** หรือเทียบเท่า

วันที่ 7เชสกี้ครุมลอฟ – ปราสาทคลุมลอฟ - ลินซ์ - ฮอล์สตรัท - ซาลส์บวร์ก
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเที่ยวชม เมืองเชสกี้ครุมลอฟ (Cesky krumlov) เมืองเล็กตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวัตตาว่า (Vltava) แม่น้ำสายใหญ่จากกรุงปราก (Prague) ที่ไหลคดเคี้ยวไปมาคล้ายรูปตัว S รอบเมือง เมืองเชสกี้ครุมลอฟเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีร่องรอยของประวัติศาสตร์ยุคกลางอยู่มากมาย  ดังจะเห็นได้จากการตกแต่งในบริเวณต่าง ๆ รวมถึงสถาปัตยกรรมที่อยู่ภายใน อาทิ ปราสาทครุมลอฟ ปราสาทแลนด์มาร์คของเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองรองจากปราสาทกรุงปราก เมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทั้งทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติเมื่อปี ค.ศ.1992 นำท่านเข้าชมปราสาทครุมลอฟ อายุกว่า 700 ปี ภายใต้การครอบครองของขุนนาง 3 ตระกูล หลงจากนั้นตกเป็นของเยอรมัน โชคดีในสงครามโลกทั้งที่ 2 รอดพ้นจากสงคราม ทำให้ปราสาทแห่งนี้ และตัวเมืองยังคงรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ นำท่านชมปราสาทที่มีการตกแต่งลวดลายด้วยเทคนิคปูนปั้น อีกทั้งภายในยังมีห้องต่าง ๆ ที่เก็บรวบรวมประวัติศาสตร์ของเมืองรวมถึงจัดแสดงสิ่งของสำคัญต่าง ๆ ไว้มากมาย นำท่านเข้าชม โบสถ์เซนต์วีตุส (Church of St Vitus) โบสถ์ประจำเมืองสไตล์โกธิค สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 15 ภายในมีแท่นบูชาบารอค ที่อุทิศให้กับเซนต์วีตุส และพระแม่มารี ชมความงดงามของภาพฝาผนัง ที่เป็นภาพวาดทางศาสนา จากนั้น อิสระให้ท่านได้เดินเล่นเที่ยวเมือง ที่มีความโดดเด่น และมีเสน่ห์เหมาะกับการบันทึกรูปมากที่สุด ด้วย อาคารบ้านเรือนในเชสกี้ครุมลอฟที่นิยมสร้างเป็นอาคารหลังเล็ก ทาหลังคาด้วยสีแดงอมน้ำตาล และเมื่อมองจากมุมสูง จะได้ภาพที่มีความเป็นเอกภาพและงดงามราวกับเมืองในเทพนิยาย 

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่ายนำท่านเดินทางสู่ เมืองลินซ์ (Linz) (ระยะทาง 85 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ อดีตเคยเป็นค่ายนาซีในสมัยการปกครองของเยอรมัน โดยอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ นับเป็นเมืองที่แฝงความสวยงามของศิลปะและสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรกและรอคโคโค นำท่านชม จตุรัสกลางเฮาพท์พลัทซ์ (Haupt Platz Square) ซึ่งล้อมรอบด้วยอาคารรัฐสภาประจำเมืองที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1513 และมหาวิหารเก่าพอสลินเบิร์ค (Postlingberg Church) ในนิกายเยซูอิตที่มีหอคอยคู่สูงเสียดฟ้า จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮอล์สตรัท (Hallstatt) (ระยะทาง 125 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.) เมืองมรดกโลกเก่าแก่อายุกว่า 4,000 ปี ซึ่งมีทิวทัศน์ที่สวยงามและดึงดูดนักเดินทางมากมายให้มายังเมืองแห่งนี้ เมืองฮอล์สตรัทเป็นเมืองเล็กๆริมทะเลสาบ มีประชากรอาศัยไม่ถึง 1,000 คน  มีฉากหลังเป็นภูเขาสูงชัน บ้านเรือนในเมืองนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่แคบๆ ริมทะเลสาบ Halls tatter Sea  จึงต้องสร้างลดหลั่นเป็นชั้นๆ ตามแนวเขาเหมือนกับสวนลอยฟ้า จนผู้คนที่เคยได้มาเยือนถึงกับขนานนามกันว่าเมืองนี้สวยจนเป็นแบบในโปสการ์ดหรือวอลเปเปอร์  
 ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg)  (ระยะทาง 87 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชม.) เมืองแสนสวยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำซาลซ่า 
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก  Mercure Salzbirg City **** หรือเทียบเท่า 

วันที่ 8ซาลส์บวร์ก - อินซ์บรูค -  มิทเทนวาล์ด - โอเบอร์อัมเมอร์เกา 
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเที่ยวชม เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg)  เมืองแสนสวยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำซาลซ่า มีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ซึ่งตั้งอยู่ในอ้อมกอดของขุนเขา ทุ่งหญ้าเขียวขจี และทะเลสาบมองต์เซ ซึ่งเคยใช้เป็นฉากในภาพยนตร์เพลงชื่อก้องโลก The Sound of Music นำท่านชมและถ่ายรูปกับสวนมิราเบล (Mirabell Garden) สวนอันสวยงามที่ตั้งอยู่ภายในพระราชวังเดิม ตกแต่งพันธุ์ไม้หลากหลายสีสัน จากนั้นข้ามฝั่งสู่เมืองเก่าที่มีปราสาทโฮเฮนซาลส์บวร์กตั้งเด่นตระหง่านอยู่บนเนินเขา จากนั้นนำท่านแวะชมบ้านเกิดของศิลปินเอกผู้แต่งเพลงคลาสสิกชื่อก้องโลกชาวออสเตรียนนามว่าโมสาร์ท (Mozart) ผู้ซึ่งสร้างผลงานทางด้านดนตรีไว้อย่างมากมาย บริเวณใจกลางเมืองซาลส์บวร์กจะมีถนนเล็กๆ ที่คึกคักมากเพราะเป็นย่านธุรกิจสำคัญ ซึ่งเต็มไปด้วย ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายหนังสือ ร้านอาหาร และร้านขายของฝากมากมาย อิสระให้ท่านเดินเล่นชมบรรยากาศและถ่ายรูปเมืองซาลส์บวร์กตามอัธยาศัย นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินซ์บรูค (Innsbruck) (ระยะทางประมาณ 187 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.20 ชม.)  หนึ่งในสามเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของออสเตรีย (อีกสองแห่งคือเวียนนา และซาลส์บวร์ก) ตัวเมืองตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน มีลักษณะเป็นที่ราบแคบแทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์ เดิมทีเมืองนี้เป็นเมืองตากอากาศของจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนแห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์ก เนื่องด้วยเพราะสภาพอากาศที่ดีตลอดปี เป็นเหตุให้ผู้ที่ได้เข้ามาปกครองออสเตรียต่างติดใจมาพักผ่อนในเมืองแห่งนี้ อาทิเช่น พระนางมาเรีย เทเรเซีย หรือแม้แต่ นโปเลียน ยังชอบมาพำนักที่เมืองนี้ โดยพระราชวังตากอากาศที่เมืองอินซ์บรูคมีชื่อว่า ชลอสอัมราส ได้รับขนานนามว่าเชินบรุนน้อย เพราะเชินบรุนคือพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดของจักรวรรดิออสเตรีย ตั้งอยู่ที่กรุงเวียนนาเป็นศูนย์กลางของการปกครองของจักรวรรดิ  เมื่อจักรพรรดิและจักรพรรดินีต่างพากันมาตากอากาศที่อินซ์บรูค ชลอสอัมราส และอินส์บรูคจึงเปรียบเสมือนศูนย์กลางการปกครองในช่วงเวลานั้นไปโดยปริยายนำท่านชมย่านเมืองเก่าที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม นำท่านชมโกลเด้นรูฟ หรือหลังคาทองคำที่มีชื่อเสียง สัญลักษณ์สำคัญของเมืองเก่าในนครอินซ์บรูค ก่อสร้างเมื่อศตวรรษที่ 15 ด้วยศิลปะสไตล์โกธิกผสมบาโรก โดยส่วนของหลังคาที่ยื่นออกมาจากระเบียงก่อสร้างด้วยทองคำแท้ จำนวน 2,738 แผ่น

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่ายนำท่านเดินทางสู่ สวารอฟสกี้ คริสตัลเวิร์ด (Swarovski Crystal Worlds) (ระยะทาง 29 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) สัมผัสมนต์เสน่ห์ของโลกแห่งคริสตัลที่ศูนย์รวมผลงานและผลิตภัณฑ์ของเครื่องประดับคริสตัลอันเลื่องชื่อของโลก "สวารอฟสกี้" ซึ่งมีต้นกำเนิดที่เมืองอินน์สบรูกแห่งนี้ ก่อสร้างเมื่อปี ค.ศ.1995 เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้ง และเพื่อจุดกระแสความนิยมคริสตัล สวารอฟสกี้จึงได้สร้างอาณาจักรคริสตัล แห่งนี้ขึ้นมา โดยออกแบบให้มีความหรูหราอลังการตามแบบฉบับของคริสตัล 

  
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านมิทเทนวาล์ด (Mittenwald) (ระยะทางประมาณ 41 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) หมู่บ้านอันดับหนึ่งในแคว้นใหญ่สุดทางใต้ เรียกว่า Bavaria  นำท่านเที่ยวชม หมู่บ้านมิทเทนวาล์ด หมู่บ้านที่มีชื่อเรื่องการทำไวโอลินมาเกือบสามร้อยปี จุดเด่นที่ทำให้เมืองนี้กลายเป็นหมู่บ้านสุดสวีท คือทุกอย่างรวมกัน ทั้งอาคารบ้านเรือน โบสถ์ ผู้คน และวิถีชีวิต เดินชมบรรยากาศของเมืองเล็กๆ น่ารักในแคว้นบาวาเรีย พร้อมชม โบสถ์คาธอลิคสีชมพู St. Peter and Paul
 

นำท่านเดินทางสู่ โอเบอร์อัมเมอร์เกา (Oberammergau) (ระยะทางประมาณ 35  ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง  ประมาณ 50 นาที) เมืองขนาดเล็กบริเวณพรมแดนติดกับออสเตรีย เมืองที่มีบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงามของหุบเขา และยังเป็นหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการตกแต่งผนังอาคารบ้านเรือนด้วยภาพเขียนทางศาสนา และวิถีชีวิตชนบท มีศิลปาชีพท้องถิ่นเป็นงานแกะสลักไม้ที่มีความสวยงามขึ้นชื่อ และเป็นสถานที่จัดแสดงอุปรากรระดับโลกที่ชื่อว่า The Passion Play ซึ่งเป็นอุปรากรที่ถ่ายทอดเรื่องราวทางศาสนาคริสต์ที่จะจัดขึ้นสิบปีต่อหนึ่งครั้ง โดยจะจัดขึ้นที่โรงละคร The Passion Play Theater ซึ่งมีผู้เข้าชมนับแสนคนจากทั่วโลก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองฟุซเซน (Fussen)  (ระยะทางประมาณ 47 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่อยู่ปลายแคว้นบาวาเรียมีชายแดนห่างจากประเทศออสเตรียเพียงแค่ 5 กม. เท่านั้น เมืองนี้มีชื่อเสียงโด่งดังเพราะเป็นสถานที่ตั้งของปราสาทไม่ว่าจะเป็นนอยชวานสไตน์ ปราสาทคิงส์ลุดวิก และอื่นๆ นำท่านเที่ยวชมเมืองเก่า (Old Town Fussen) ให้ท่านได้ สัมผัสเมืองแห่งสีสันที่ประกอบด้วยหมู่อาคารบ้านเรือนสมัยอดีต เป็นอีกเมืองน่ารักที่นักท่องเที่ยวมักมาเยือนและสัมผัสบรรยากาศ
ค่ำรับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น เมนูขาหมูเยอรมัน
ที่พักนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Luitpoldpark Hotel **** หรือเทียบเท่า 
วันที่ 9ปราสาทนอยส์ชวานสไตน์ -  มิวนิก – จัตุรัสมาเรียน 
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองโฮเฮนชวานเกา Hohenschwangau (ระยะทางประมาณ 117  ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม.) นำท่านเข้าชมปราสาทนอยส์ชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) และนั่งมินิบัสเพื่อเข้าชมปราสาท (***การให้บริการของรถมินิบัสขึ้นกับสภาพอากาศในวันเดินทาง***) ปราสาทนอยส์ชวานสไตน์เป็นหนึ่งในปราสาทที่มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 18–19 ในรัชสมัยของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 ตามจินตนาการของคีตกวีชาวเยอรมนี  ริชาร์ด วากเนอร์ ตัวปราสาทมีที่ตั้งอันน่าทึ่งบนหินผาขนาดใหญ่ยักษ์ สูงกว่า 200 เมตร เหนือออบแก่งของแม่น้ำพอลลัท ท่านจะประทับใจกับความงามและบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติกดังเทพนิยาย ซึ่ง วอลท์ ดิสนีย์ ได้จำลองแบบไปสร้างปราสาทไว้ในดิสนีย์แลนด์ทุกแห่งในโลก จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของดิสนีย์แลนด์ สมควรแก่เวลา

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่ายนำท่านเดินทางสู่ เมืองมิวนิก (Munich) (ระยะทางประมาณ 117  ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม.) เมืองทางใต้ของเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย (Bavaria) มิวนิกเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) นำท่านสู่ จัตุรัสมาเรียน (Marienplatz) ซึ่งตั้งชื่อตามรูปปั้นพระแม่มารีสีทอง บนเสาที่สูงตั้งตระหง่านกลางจัตุรัสมาตั้งแต่ปี 1638 ทั้งนี้เพื่อเป็นระลึกถึงเซนต์แมรี่ นักบุญแห่งแคว้นบาวาเรียที่ช่วยให้มิวนิกหลุดพ้นจากการครอบครองของกองทัพสวีเดน ชมความงามของโบสถ์ เซนต์ปีเตอร์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์แห่งแรกและเก่าแก่ที่สุดของเมืองมิวนิก จากนั้นนำท่านชม ศาลาว่าการเมือง ซึ่งทุกๆ 11 โมง และ 5 โมงเย็น ในฤดูร้อนจะมีเสียงนาฬิกาและตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ชมย่านการค้าโดยรอบมาเรียนพลัทซ์ ทั้งร้านค้าพื้นเมือง และตลาดสินค้าการเกษตร เช่น ดอกไม้ พืชผัก ผลไม้ อาหารพื้นเมืองต่างๆ รวมทั้งไส้กรอกเยอรมัน อันเลื่องชื่อ อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและถ่ายรูปตามอัธยาศัย หรือจะเลือกนั่งจิบกาแฟ หรือเบียร์ หรือเลือกซื้อของที่ระลึก จากนั้นนำท่านเข้าชมโบสถ์เฟราเอิน Frauenkirche หรือ โบสถ์พระแม่มารี (Church of Our Lady) หอคอยคู่รูปโดมทรงหัวหอม สัญลักษณ์สำคัญของมิวนิก มหาวิหารใหญ่ประจำเมือง ชม รอยเท้าปีศาจ ตามตำนานที่เล่าสืบกันมา ที่เกิดจากกระทืบอย่างแรงของปีศาจที่เสียรู้มนุษย์ในตอนสร้างโบสถ์ 
17.00 น. นำท่านสู่สนามบิน เพื่อเช็คอิน และทำ Tax Refund
22.25 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ LH 772 (ใช้เวลาในการเดินทาง 10.45 ชม.)
ไฟล์ทเดินทางกลับ สำหรับโปรแกรมที่เดินทางกลับวันที่ 20 ส.ค. 2555
21.35 น. ออกเดินทางสู่เวียนนา เที่ยวบินที่ OS 118 (ใช้เวลาในการเดินทาง 1.05 ชม.)
22.40 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ OS 025 (ใช้เวลาในการเดินทาง 10.15 ชม.)
วันที่ 10​กรุงเทพฯ
14.10 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)
ไฟล์ทเดินทางกลับ สำหรับโปรแกรมที่เดินทางกลับวันที่ 20 ส.ค. 2555
14.40 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

เงื่อนไขในการจอง


สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน แนะนำให้ท่าน เปิดห้องพัก เป็น 2 ห้องจะสะดวกกับท่านมากกว่า
กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว ไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลด ท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 23 กก. กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Hand carry) น้ำหนักไม่เกิน 7 กก. 
สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน แนะนำให้ท่าน เปิดห้องพัก เป็น 2 ห้องจะสะดวกกับท่านมากกว่า
กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว ไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลด ท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 23 กก. กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Hand carry) น้ำหนักไม่เกิน 7 กก. 
ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน OS/ LH (กระเป๋าเดินทาง 1 ใบ น้ำหนัก ไม่เกิน 23 กก./ท่าน)
ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ 
ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท
ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท   (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี)
ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)
ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่ตามระบุ
เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง 
ค่าวีซ่าเชงเก้น 4,500 บาท (เรียกเก็บในอินวอยซ์)
ค่าทิปหัวหน้าทัวร์, คนขับรถ และไกด์ท้องถิ่น ท่านละ 2,500 บาท (เรียกเก็บในอินวอยซ์)
ค่าพนักงานยกกระเป๋า ซึ่งท่านต้องดูแลกระเป๋าด้วยตัวท่านเอง หรือไปจ่ายที่โรงแรมได้หากต้องการ Porter Service

ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์-แฟกซ์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 50,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปออกเดินทางแน่นอน
งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 30 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง 
- แจ้งยกเลิกเดินทาง 30 วันล่วงหน้าก่อนการเดินทางหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่นมัดจำตั๋วเครื่องบิน, วีซ่าและค่าดำเนินการ (ถ้ามี), ค่าโรงแรม, ค่าตั๋วรถไฟ โดยจะมีรายละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วง Peak season สายการบินให้มัดจำล่วงหน้า 2-3 เดือน ก่อนการเดินทาง)
- แจ้งยกเลิกเดินทาง 15-29 วันก่อนการเดินทาง หักค่าทัวร์ 50% + ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
- แจ้งยกเลิกเดินทาง 0-14 วันก่อนการเดินทาง ยึดค่าทัวร์ 100%
- ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100% 
***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิก
วีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***
*ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทาในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง 
บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน  การนัดหยุดงาน  การประท้วง  ภัยธรรมชาติ  การก่อจราจล  อุบัติเหตุ  ปัญหาการจราจร ฯลฯ   ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด
เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ  ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฎิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฎิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว  หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง 
ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ  บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ ( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง
(TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
โรงแรมหลายแห่งในยุโรป จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ ( TRADE FAIR ) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตรการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด
สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฏิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 7.5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)
ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)
ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย 
กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน

Address

53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240

จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566099-191-9288 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy