ทัวร์ยุโรป ออสเตรีย - สโลวีเนีย - โครเอเชีย - บอสเนีย & เฮอร์เซโกวีนา เที่ยวสโลวีเนีย

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE388 : โปรแกรมทัวร์ยุโรป ออสเตรีย - สโลวีเนีย - โครเอเชีย - บอสเนีย & เฮอร์เซโกวีนา 10 วัน 7 คืน (OS)

DE388 : โปรแกรมทัวร์ยุโรป ออสเตรีย - สโลวีเนีย - โครเอเชีย - บอสเนีย & เฮอร์เซโกวีนา 10 วัน 7 คืน (OS)
Austrian Airlines (OS)

GRAND HOTEL
Hills Sarajevo Congress & Thermal Spa
Kolovare Hotel
Renaissance Vienna Hotel
Sandwirth Hotel
Sheraton Zagreb Hotel
Trend Ljubljana Hotel

 เมืองกราซ ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก
ชมความงามของ “ถ้ำโพสทอยน่า” ถ้ำที่สวยที่สุดในยุโรป ซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่า 2 ล้านปี
แวะถ่ายรูปกับ วิหารเซนต์มาร์ก ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าซาเกรบ ราวศตวรรษที่ 13 
“อุทยานแห่งชาติพริตวิเซ่” ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ
ถ่ายรูปกับโบสถ์สำคัญประจำเมือง โบสถ์อนาสตาเชีย เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก
เข้าชม พระราชวังดิโอคลีเธี่ยน องค์การยูเนสโก ได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979
เมืองดูบรอฟนิค ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป สมญานาม “ไข่มุกแห่งทะเล เอเดรียติก”

กำหนดการเดินทาง

รหัสทัวร์วันที่เดินทางเดินทางโดยราคาสถานะ
DE388-00324 เม.ย.-03 พ.ค. 67Austrian Airlines (OS)125,900จองด่วน
DE388-00409-18 ต.ค. 67Austrian Airlines (OS)125,900จองด่วน
DE388-00516-25 ต.ค. 67Austrian Airlines (OS)125,900จองด่วน
DE388-00622-31 ต.ค. 67Austrian Airlines (OS)125,900จองด่วน

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1 กรุงเทพมหานคร
20.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน ROW G ประตูทางเข้าที่ 1 อาคารผู้โดยสาร เคาน์เตอร์สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ (OS) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
23.40 น.ออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยเที่ยวบิน OS 026 (บินประมาณ 11.30 ชม.) สายการบิน บริการ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า บนเครื่องบิน
วันที่ 2เวียนนา - กราซ - คลาเกนฟูรท์
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

 

นำท่านเดินทางสู่เมืองกราซ (Graz) (ระยะทาง 199 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.40 ชั่วโมง) เมืองมรดกโลกของประเทศออสเตรีย ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากนครเวียนนา ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำเมอร์ เป็นศูนย์กลางของสถาปัตยกรรมต่างๆจากทุกสมัยทั้งโกธิค เรอเนส์ซองส์ และบาโร๊ค เมืองกราซได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก ในปี ค.ศ.1999 นำท่านแวะถ่ายรูปพระราชวัง Eggenberg (Eggenberg Palace) พระราชวังที่สร้างขึ้นในแบบบาโร๊ค ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองกราซ ถือว่าเป็นอีกพระราชวังที่มีการจัดสวนโดยรอบอย่างสวยงาม โดยพระราชวังแห่งนี้ได้ถูกรวมให้เป็นส่วนหนึ่งในมรดกโลกของเมืองกราซอีกด้วย นำท่านสู่เกาะลอยน้ำ หรือ ที่รู้จักในนาม มูรินเซล (Murinsel) ตั้งอยู่กลางแม่น้ำเมอร์ คล้ายรูปเปลือกหอย เป็นการจำลองเมืองเล็กๆเชื่อมระหว่างแม่น้ำเมอร์ ภายในมีร้านคาเฟ่ เล็กบริการนักท่องเที่ยว จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับศาลาว่าการเมือง (Rathus) และ จัตุรัสใจกลางเมือง ที่โอบล้อมไปด้วยหมู่อาคารเก่าแก่ และร้านค้ามากมาย 

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองคลาเกนฟูร์ท (Klagenfurt) (ระยะทาง 139 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและยังเป็นเมืองหลวงของรัฐคารินเทีย (Carinthia) รัฐทางตอนใต้ของประเทศออสเตรีย ตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บนทะเลสาบเวอร์เทอร์เซ (Worthersee) ทะเลสาบอัลไพน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรป พื้นที่โดยรอบทะเลสาบถูกล้อมรอบไปด้วยป่าไม้หนาแน่น น้ำในทะเลสาบสีฟ้าสีเขียวโดดเด่น

นำท่านเที่ยวชม ย่านจัตุรัสเมืองเก่า (Old town Square) ที่ตั้งของเหล่าอาคารสำคัญๆที่สร้างขึ้นในสไตล์เรเนสซองส์ อิสระให้ท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ ลานน้ำพุมังกรลินท์วูร์ม (Lindworm Fountain) ลานน้ำพุรูปมังกรพ่นน้ำและผู้กล้าที่อาจหาญต่อกร สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1593 นำท่านแวะถ่ายรูปกับ ลันด์เฮาส์ (Landhaus) อีกหนึ่งอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และมีความเก่าแก่มากที่สุดในเมืองคลาเกนเฟิร์ต

นำท่าเข้าชม ปราสาทโฮชอสเตอร์วิทซ์ (Hochosterwitz Castle) เป็นปราสาทที่คาดการณ์ว่าสร้างขึ้น 860 ปีก่อนคริสตกาล เป็นปราสาทโบราณที่มีศิลปะแบบออตโตมาน ตั้งอยู่บนแนวเทือกเขาสูง นำท่านเข้าชมความสวยงามของปราสาทโบราณแห่งนี้

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พักโรงแรมที่พัก ระดับ 4 ดาว Sandwirth Hotel **** หรือเทียบเท่า 
วันที่ 3คลาเกนฟูร์ท – เบรด (สโลวีเนีย) – ล่องเรือทะเลสาบเบรด  - ถ้ำโพสทอยนา - ลุบเบลียนา
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม


นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเบลด (Bled Lake) (ระยะทาง 62 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง) ทะเลสาบแห่งนี้เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งโบฮินจ์ (Bohinj Glacier) ในยุคน้ำแข็ง น้ำในทะเลสาบไม่ได้มาจากการละลายของธารน้ำแข็ง แต่มาจากบ่อน้ำร้อนใต้ดินหลายแห่ง ซึ่งทำให้น้ำในทะเลสาบนี้ใสบริสุทธิ์ และไม่กลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว

 

นำท่านล่องเรือทะเลสาบเบลด ซึ่งมี ปราสาทเบลด (Bled Castle) ตั้งอยู่บนริมผาติดทะเลสาบ เป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุด จักรพรรดิ์เฮนริคที่ 2 แห่งเยอรมัน ได้ยกให้เป็นสถานที่พำนักของบิชอป อัลเบี่ยม แห่ง บริเซน (Bishop Albium of Brixen) ในปี ค.ศ. 1004 สัมผัสทัศนียภาพอันโดดเด่นของเกาะกลางทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีเขียวมรกต (***การล่องเรือในทะเลสาบขึ้นกับสภาพอากาศในวันเดินทาง หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย บริษัทจะคืนค่าล่องเรือให้กับทุกท่านและเดินชมบริเวณรอบทะเลสาบแทน)

 

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ถ้ำโพสทอยนา (Postojna Cave) (ระยะทาง 101 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชั่วโมง)

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย

นำท่านเข้าชมถ้ำโพสทอยนา ถ้ำที่สวยที่สุดในยุโรป ซึ่งมี อายุเก่าแก่กว่า 2 ล้านปี เป็นถ้ำที่มีความยาวถึง 27 กิโลเมตร นำท่านเข้าชมภายในถ้ำโดยขบวนรถรางไฟฟ้า ซึ่งได้เปิดให้บริการในปี 1884 อุณหภูมิภายในถ้ำโดยเฉลี่ย 8-10 องศาเซลเซียส ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย รถรางไฟฟ้านำท่านผ่านลำธาร เขื่อนเก็บน้ำใต้ดิน ชมหินงอกหินย้อยหลากหลายแบบและสีสันสวยงามสุดพรรณนา ภายในถ้ำยังมีห้องต่างๆ มากมาย ลดหลั่นเป็นชั้นๆ ท่านจะได้ชมความงามอันยิ่งใหญ่ภายในถ้ำแห่งนี้ ที่ธรรมชาติได้สรรสร้างมานานกว่าล้านปี นำท่านชมความแปลกของปลามนุษย์ (Human fish) หรือ Olm สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในถ้ำพอสโทยนา ผิวสีเนื้อคล้ายมนุษย์ ลำตัวยาวคล้ายงู มีแขนและขา ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1768 และอาศัยอยู่ในที่มืด

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองลุบเบลียนา (Ljubljana) เมืองหลวงของประเทศสโลวีเนีย

ค่ำ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

ที่พักโรงแรมที่พัก ระดับ 4 ดาว Trend Ljubljana Hotel**** หรือเทียบเท่า 
วันที่ 4 ลุบเบลียนา – ซาเกรบ (โครเอเชีย) 
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

 

นำท่านเที่ยวชม เมืองลุบเบลียนา เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวีเนีย นักท่านชมสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนี้ได้แก่ ปราสาทลุบเบลียน่า Ljubljana Castle, สะพานมังกร Dragon Bridge, จัตุรัสกลางเมืองเพรเซเรน Preseren Square, จัตุรัสสามสะพาน Triple Bridges Square และมหาวิหารลุบเบลียน่า Ljubljana Cathedral ให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของเมืองหลวงแห่งสโลวีเนีย

 

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาเกรบ (Zagreb) ระยะทาง 145 กม. (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม.) (ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง) เมืองหลวงของประเทศโครเอเชียดินแดนแห่งทะเลเอเดรียติค ซึ่งมีความเก่าแก่แฝงด้วยเสน่ห์และมนต์ขลัง ซาเกรบเป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมและเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 ปัจจุบันชาวโครเอเชีย มีวิถีชีวิตเยี่ยงชาวยุโรปที่เจริญโดยทั่วไป การคมนาคมภายในกรุงซาเกรบสะดวกสบาย นิยมใช้รถรางเป็นพาหนะซึ่งมีนับสิบสายทั่วทั้งเมือง กรุงซาเกรบประกอบด้วยเขตเมือง Upper Town ที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 17 ที่มีซุ้มประตูหินเป็นสัญลักษณ์ เขต Lower Town ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 19 และเขตเมืองใหม่ New Town ที่สร้างหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย

นำท่านแวะถ่ายรูปมหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St. Stephen Cathedral) ซึ่งมียอดแหลมทรงกลวยคู่บนยอดวิหารตกแต่งอย่างงดงาม สามารถเห็นได้จากทุกมุมในซาเกรบ แต่เดิมเป็นโบสถ์ธรรมดาแต่เพิ่งมีความสำคัญในปี ค.ศ. 1094 เมื่อกษัตริย์ลาดีสลาอุส (King Ladislaus) ได้ให้พระราชาคณะย้ายที่พำนักจากสีสัก (Sisak) มายังซาเกรบแต่ก็ถูกกองทัพมองโกลทำลายในปี ค.ศ. 1242 เมื่อมองโกลจากไป มหาวิหารนี้ก็ได้รับการบูรณะใหม่อีกหลายครั้ง จนกระทั่งรูปร่างมหาวิหารงดงามในรูปแบบนิโอ-โกธิค ดังปัจจุบัน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากการบูรณะก่อสร้างในปี ค.ศ. 1880

 

จากนั้นนำชมตลาดกลางเมือง (Dolac market) ตลาดกลางแจ้งที่เก่าแก่ มีสีสันสดใส มีดอกไม้ประดับและผลไม้ราคาถูกวางขายมากมาย

 

นำท่านสู่เขต Upper Town โดยขึ้นรถรางไฟ จากนั้นแวะถ่ายรูปกับวิหารเซนต์มาร์ก (St. Marks Church) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าซาเกรบ สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 13 หลังคามุงด้วยกระเบื้องสีต่างๆ ซึ่งเป็นรูปตราสัญลักษณ์ของซาเกรบ โครเอเชีย สโลวีเนีย และ ดัลมาเชีย ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศเดียวกัน (อดีตยูโกสลาเวีย) นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์ประจำเมืองเก่าเซนต์แคทเธอรีน (St. Catherine) โบสถ์แบบบาโรคสีขาว นำท่านชมจุดชมวิวที่ท่านสามารถเห็นกรุงซาเกรบที่หลังคาอาคารเป็นสีแดงอิฐทั้งเมือง นำท่านแวะชมจัตุรัส Trg Ban Jelacic Square จัตุรัสกลางเมืองที่ล้อมรอบด้วยห้างร้านนำสมัย ชมอนุสาวรีย์ Ban Josip Jelacic ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งต่อสู้เพื่อความเป็นอิสระจากชาวฮังกาเรียนเมื่อปี ค.ศ. 1848

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พักโรงแรมที่พัก ระดับ 4 ดาว Sheraton Zagreb Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 5 ซาเกรบ - พริตวิเซ่ - ซาดาร์
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

 

นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ (Plitvice National Park) (ระยะทาง 135 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2.15 ชม.) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ อุทยานนี้มีพื้นที่ประมาณ 29,482 เฮคเตอร์ หรือประมาณ 295 ตารางกิโลเมตร โดย 223 ตารางกิโลเมตรเป็นพื้นที่ป่าและพื้นน้ำครอบคลุมประมาณ 2.17 ตารางกิโลเมตร มีทะเลสาบสีเธอร์คอยซ์ถึง 16 แห่งที่มีความงดงามแตกต่างกัน นำท่านเข้าชมความงามของอุทยาน

 

นำท่านสู่ Lower lake โดยล่องเรือข้ามทะเลสาบ Jezero Kozjak ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นทะเลสาบที่เชื่อมระหว่างอุทยานตอนล่างขึ้นสู่ทะเลสาบชั้นบนของอุทยาน เพลิดเพลินกับธรรมชาติอันงดงามและความอลังการของ Lower lake ที่ประกอบด้วยทะเลสาบ Milanovac, Gavanovac และ Kaluderovac เป็นต้น นำท่านเดินชมทะเลสาบต่างๆ ตามทางเดินสะพานไม้ที่เชื่อมแต่ละทะเลสาบเข้าด้วยกัน แล้วเดินสู่ Veliki Slip ชมน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานที่มีความสูงถึง 70 เมตร (แนะนำให้ท่านสวมรองเท้าผ้าใบ หรือ รองเท้าที่สวมใส่สบาย เนื่องจากต้องเดินชมความงามของธรรมชาติภายในอุทยาน)

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาดาร์ (Zadar) (ระยะทาง 133 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1.45 ชม.) เมืองที่มีประวัติศาสตร์มากว่า 3,000 ปีมาแล้ว และเป็นเมืองท่าสำคัญซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรขนาดใหญ่ของทะเลเอเดรียติค ที่มีบทบาทมาตั้งแต่สมัยโรมันจนถึงปัจจุบัน นำท่านชมเมืองซาดาร์ นำท่านเข้าชมโบสถ์อนาสตาเชีย (The Cathedral of St. Anastasia) เป็นโบสถ์ประจำเมืองโรมันคาทอลิกสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 5-6 ในยุคโรมาเนสก์ เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นดัลมัลเชีย โบสถ์อนาสตาเชียได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์ที่สำคัญมากเนื่องจากพระสันตปาปา ถึง 2 พระองค์คือ พระสันตปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 3 ได้เสด็จเยือนในปี 1177 และพระสันตปาปาจอห์นพอลที่ 2 ได้เสด็จเยือนโบสถ์นี้ในปี 2003 ซึ่งเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งสุดท้ายของพระองค์ท่าน นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์เซนต์ โดแนท จากนั้น ชมโรมันฟอรัมหรือย่านชุมชนของโรมันเมื่อสองพันปีก่อนที่นักโบราณคดีได้ใช้ความอุตสาหะในการขุดค้นพบหลักฐานสำคัญต่างๆทั้งที่อยู่อาศัยชาวโรมัน

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พักโรงแรมที่พัก ระดับ 4 ดาว Kolovare Hotel **** หรือเทียบเท่า 
วันที่ 6 ซาดาร์ - สปริท - สตอน - ดูบลอฟนิค
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

 

นำท่านเดินทางสู่ เมืองสปลิท (Split) (ระยะทาง 158 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1.45 ช.ม.) เมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากซาเกรบ ซึ่งอยู่ในแคว้นดัลเมเชีย อันเป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์ดัลมาเชี่ยนที่โด่งดัง นำท่าน เที่ยวชมเมืองสปลิท ที่สร้างรายล้อมพระราชวังดิโอคลีเธี่ยน ประกอบด้วย ศาลาว่าการเมืองสไตล์เรเนซองค์ สร้างในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15 อาคารบ้านเรือนเก่าแก่ต่างๆ ชมย่าน People Square ศูนย์กลางทางธุรกิจและการบริหาร นำท่าน เข้าชมพระราชวังดิโอคลีเธี่ยน (Diocletian Palace) องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979 สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเธี่ยนแห่งโรมัน ซึ่งต้องการสร้างพระราชวังสำหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ หลังจากสละบัลลังก์ ภายในพระราชวังประกอบด้วย วิหารจูปิเตอร์ สุสานใต้ดินที่มีชื่อเสียง (Catacombas) และวิหารต่างๆ นำท่านชมห้องโถงกลางซึ่งมีทางเดินที่เชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ ชมลานกว้าง (Peristyle) ซึ่งล้อมด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้าน และเชื่อมต่อด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตร สวยงาม ชมยอดระฆังแห่งวิหาร The Cathedral Belfry แท่นบูชาของเซนต์โดมินัส และเซนต์สตาดิอุสซึ่งอยู่ภายในวิหาร

 

นำท่านเดินทางสู่เมืองสตอน (Ston) (ระยะทาง 186 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)  เมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียง เหนือของเมืองดูบรอฟนิค เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของหอยนางรมและผลิตภัณฑ์จากหอยนางรมสดๆ จากทะเลเอเดรียติกตื่นตาตื่นใจไปกับบรรยากาศริมชายฝั่งทะเลที่มีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีแสด สลับตามแนวชายฝั่งเป็นระยะสู่สตอน

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น พร้อมลิ้มลองหอยนางรม
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมรดกโลกดูบรอฟนิค Dubrovnik (ระยะทาง 54 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม.) ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศริมชายฝั่งทะเล ที่มีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีแสด สลับตามแนวชายฝั่งเป็นระยะๆ เมืองดูบรอฟนิคได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป สมญานาม “ไข่มุกแห่งทะเล เอเดรียติก” เป็นเมืองที่มีอำนาจทางทะเลตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และมีความเจริญรุ่งเรืองทางการค้า จึงได้สร้างความยิ่งใหญ่ให้โดดเด่น ด้วยการตกแต่งพระราชวัง สร้างโบสถ์ วิหาร จัตุรัส น้ำพุ และบ้านเรือนต่างๆ และได้รับการบูรณะและปรับเปลี่ยนอย่างงดงามตามยุคสมัย เสน่ห์ของเมืองอยู่ที่เขตเมืองเก่า (Old Town) ซึ่งตั้งอยู่ภายในกำแพงโบราณสูงตระหง่านโอบล้อมโดยรอบ ซึ่งสร้างในศตวรรษที่ 13 เพื่อป้องกันภัยจากศัตรู เช่น อาหรับ เวเนเชียน มาชีโดเนียน และเซิร์บ ภายในเขตเมืองเก่าเป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมมากมายและสิ่งก่อสร้างโบราณต่างๆ องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เมืองดูบรอฟนิคเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979

 

นำท่านชมทัศนียภาพของเมืองดูบรอฟนิค ที่ตั้งอยู่ตามริมฝั่งทะเลเอเดรียติค ตัวเมืองเก่ามีป้อมปราการโบราณความยาว 190 เมตรล้อมรอบ ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่ความโด่งดังเทียบได้กับแกรนด์แคนย่อนหรือแกรนด์คาแนลแห่งเวนิส นำท่านเดินลอดประตู Pile Gate ที่มีรูปปั้นของนักบุญ เซนต์เบลส นักบุญประจำเมือง เพื่อเข้าสู่ใจกลางเมืองเก่า ชมน้ำพุ Onofrio ซึ่งตั้งเป็นเกียรติแก่สถาปนิกผู้สร้างน้ำพุแห่งนี้ นำท่านชม The Cathedral หนึ่งในโบสถ์เก่าแก่ประจำเมืองเก่าที่สะสมโบราณวัตถุของพ่อค้าวาณิชที่ได้ทำการค้าขายกับชาวเวนิชในอดีต นำท่านถ่ายรูปกับหอนาฬิกาโบราณ (Bell Tower Clock) จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ พระราชวังเรคเตอร์ (Rector’s palace) พระราชวังที่สร้างขึ้นโดยผสมผสานศิลปะทั้งแบบโกธิค เรเนซองส์และบาโร๊ค ได้เวลานำท่านแวะถ่ายรูปกับ สปอนซา พาเลส (Sponza Palace) สร้างขึ้นโดยศิลปะแบบโกธิค เรเนซองส์ ในสมัยศตวรรษที่ 15 ปัจจุบันได้ใช้เป็นที่จัดเก็บเอกสารและสำนักงานส่วนราชการ นำท่านเดินผ่านถนนสตราดัน ถนนสายหลักยาวกว่า 398 เมตร ที่สองข้างทางรายล้อมไปด้วยอาคารสไตล์โรมัน โกธิค และร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านไอศกรีม ร้านขายของที่ระลึกต่างๆมากมาย อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น พร้อมเมนูกุ้งมังกร 
ที่พักโรงแรมที่พัก ระดับ 4 ดาว Grand Hotel Park Hotel **** หรือเทียบเท่า 
วันที่ 7 ดูบลอฟนิค – โมสตาร์ (บอสเนีย & เฮอร์เซโกวีนา) – ซาราเยโว 
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

 

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโมสตาร์ (Mostar) (ระยะทางประมาณ 140 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2.45 ช.ม.) อีกหนึ่งเมืองประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยว เป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญของบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา นำท่านชม สะพาน โบราณ หรือ สตารี มอสต์ สะพานที่ถูกสร้างขึ้นจากหิน โดยมีความสูงจากระดับน้ำซึ่งวัดได้ในช่วงฤดูร้อน ประมาณ 21 เมตร สะพานโบราณ สตารี มอสต์ (Old Bridge Stari Most) ถูกสร้างขึ้นโดยชาวออตโตมันในช่วงศตวรรษที่ 16 และได้ถูกทำลายไปในปี ค.ศ. 1993 ต่อมาในปี ค.ศ. 2004 สะพานเก่าและอาคารหลายหลังในเมืองเก่า ในบริเวณใกล้เคียงก็ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ โดยได้รับความช่วยเหลือจากคณะกรรมการวิชาการระหว่างประเทศของยูเนสโก องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนสะพานโบราณรวมไปถึงบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงที่ใกล้เคียงที่สุดของสะพานให้อยู่ในรายชื่อมรดกโลกของบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาเมื่อปี ค.ศ.2005 นำท่านชม ย่านเมืองเก่า (Old Town) ซึ่งอาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่สร้างขึ้นในแบบสถาปัตยกรรมพรี-ออตโตมัน ออตโตมันตะวันออก เมดิเตอร์เรเนียนและยุโรปตะวันตก จากนั้นนำท่านเข้าชม มัสยิดโกสกี้ เมห์เมด ปาซ่า (Koski Mehmed Paša Mosque) มัสยิดออตโตมันขนาดเล็กสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1751 หลังถูกทำลายลงช่วงสงครามบอสเนีย สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของมัสยิดคือหอคอยสุเหร่าที่ตั้งสูงตระหง่านเหนือตัวเมือง

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาราเยโว (Sarajevo) (ระยะทางประมาณ 129 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2.45 ช.ม.) เมืองหลวงของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา นำท่านเข้าชมอุโมงค์สงคราม (War Tunnel) ที่ขุดขึ้นในช่วงสงครามระหว่างบอสเนียและเซอร์เบีย เมื่อครั้งที่บอสเนีย ต้องการแยกเป็นเอกราชจากยูโกสลาเวีย อุโมงค์แห่งนี้ขุดขึ้นเพื่อลำเลียงอาหาร น้ำ เวชภัณฑ์และกองกำลังทหาร ในระหว่างสงคราม เป็นอุโมงค์ที่ขุดขึ้นภายในบ้านหลังเล็กๆ หลังหนึ่งเท่านั้น แต่ขุดยาวผ่านสนามบินซาราเยโว เพื่อเป็นเส้นทางลำเลียง หลังจากที่เมืองซาราเยโว ถูกกองกำลังเซอร์เบียโอบล้อม เพื่อไม่ต้องการให้บอสเนียเป็นเอกราช 

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พักโรงแรมที่พัก ระดับ 4 ดาว Hills Sarajevo Congress & Thermal Spa **** หรือเทียบเท่า  
วันที่ 8 ซาราเยโว - เวียนนา
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

 

นำท่านเที่ยวชม ย่านเมืองเก่าบาสคาซิจา (Bascarsija) อดีตเคยเป็นย่านบาซาร์เก่าแก่ของยุคออตโตมัน ปัจจุบันเป็นถนนสายหลักของเมืองซาราเยโว ตั้งอยู่ในส่วนเมืองเก่าของซาราเยโว ออกแบบในสไตล์ออตโตมัน-เตอร์กิช เต็มไปด้วยร้านค้าของที่ระลึก ร้านกาแฟ บาซาร์ที่ขายสินค้าหลากหลายชนิด จากนั้นนำท่านชมย่านเมืองเก่าซาราเยโว (Stari Grad) ย่านที่มีสถาปัตยกรรมหลากหลายสไตล์ อาทิเช่น สถาปัตยกรรมแบบบอสเนีย ออตโตมัน ออสโตร-ฮังกาเรียน เป็นต้น เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางศาสนาหลายแห่ง นำท่านเข้าชม สุเหร่า Gazi Husrev-Beg Mosque ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสุเหร่าแบบออตโตมันที่สำคัญที่สุดในเมืองซาราเยโว จากนั้นชม มหาวิหารประจำเมืองซาราเยโว เป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในบอสเนียและเฮอร์เซโกวินา เป็นที่ประจำตำแหน่งของพระราชาคณะของเมือง สร้างในแบบสถาปัตยกรรมแบบนีโอ-กอธิค สร้างในช่วงปี ค.ศ.1884-1889 นำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์คริสต์ออโธด๊อกซ์ที่สร้างอย่างยิ่งใหญ่ ภายในบริเวณเดียวกัน รวมถึงโบสถ์ของชาวยิวหรือซีนากอฟ ขนาดใหญ่ที่สร้างอยู่ภายในย่านนี้ นำท่านชม สะพานลาติน (Latin Bridge) ซึ่งเป็นจุดที่อาร์ค ดยุค ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ (Franz Ferdinand) รัชทายาทแห่งราชวงศ์ออสเตรียถูกลอบปลงพระชนม์ในวันที่ 28 มิถุนายน 1914 โดยชาวซาราเยโวนายหนึ่ง จนกลายเป็นชนวนเหตุในการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1

12.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินซาราเยโว
กลางวันอิสระอาหารกลางวันในสนามบินตามอัธยาศัย
14.20 น. ออกเดินทางสู่สนามบินเวียนนา ประเทศออสเตรีย
15.35 น. 

เดินทางถึงสนามบินเวียนนา

 

นำท่าน ช้อปปิ้งอย่างอิสระในย่านถนนคนเดิน “คาร์ทเนอร์สตรีท” ที่มีนักท่องเที่ยวนิยมนั่งจิบกาแฟต้นตำรับแท้ และชิมชัดเกอร์เค้กอันเลื่องชื่อของเวียนนา พร้อมเลือกซื้อสินค้าจากห้างสรรพสินค้าและร้านค้ามากมาย เชิญท่านเลือกซื้อหาของฝากจากออสเตรีย อาทิเช่น เครื่องแก้วเจียระไน, คริสตัล ของที่ระลึกต่างๆ หรือสินค้าแบรนด์เนมต่างๆบนถนนสายนี้

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารไทย
ที่พัก​

โรงแรมที่พัก ระดับ 4 ดาว Renaissance Vienna Hotel **** หรือเทียบเท่า 

วันที่ 9เวียนนา – พระราชวังฮอฟบวร์ก – ช้อปปิ้งเอาท์เลต
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเข้าชมความยิ่งใหญ่สวยงามของพระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace)  พระราชวังเดิมของราชวงศ์ฮอฟบวร์กในกรุงเวียนนายาวนานกว่า 600 ปี เป็นพระราชวังหลวงใจกลางกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ส่วนหนึ่งของพระราชวังในปัจจุบันเป็นที่พำนักและทำเนียบของประธานาธิบดีออสเตรีย พระราชวังสร้างในศตวรรษที่ 13 และมีการต่อเติมขยายส่วนเรื่อยมา พระราชวังแห่งนี้เป็นเสมือนหนึ่งศูนย์รวมอำนาจการปกครองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรปและประวัติศาสตร์ออสเตรีย และยังเป็นพระราชวังที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย 

นำท่านเดินทางสู่ ปานดอร์ฟเอาท์เล็ต (Parndorf Outlet) (ระยะทาง 50 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที)

กลางวันอิสระอาหารกลางวันในเอาท์เลต ตามอัธยาศัย เพื่อให้ท่านได้มีเวลาช้อปปิ้งอย่างเต็มที่
บ่ายอิสระให้ทุกท่านช้อปปิ้งจุใจกับสินค้าแบรนด์เนมตามอัธยาศัย อาทิเช่น Armani, Bally, Burberry, Gucci, Hugo Boss, Lacoste, Prada, Samsonite, และแบรนด์ชั้นนำอื่นๆอีกมากมาย
19.00 น.นำท่านสู่ สนามบิน เพื่อเช็คอิน และทำ Tax Refund
23.20 น.

ออกเดินทางสู่กรุงเทพ เที่ยวบินที่ OS25 (ใช้เวลาในการเดินทาง 10 ชั่วโมง)

สายการบินมีบริการอาหารค่ำและอาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบิน

วันที่ 10กรุงเทพมหานคร
14.20 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

อัตราค่าบริการ

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ125,900 บาท
เด็กอายุไม่เกิน 12 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ราคาท่านละ119,900 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ35,000 บาท
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ3,500 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ20,000 บาท

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ125,900 บาท
เด็กอายุไม่เกิน 12 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ราคาท่านละ119,900 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ35,000 บาท
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ3,500 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ20,000 บาท

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ125,900 บาท
เด็กอายุไม่เกิน 12 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ราคาท่านละ119,900 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ35,000 บาท
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ3,500 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ20,000 บาท

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ125,900 บาท
เด็กอายุไม่เกิน 12 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ราคาท่านละ119,900 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ35,000 บาท
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ3,500 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ20,000 บาท

เงื่อนไขในการจอง

 สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง กรุณาแจ้งล่วงหน้าเพื่อตรวจสอบกับทางโรงแรม มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน แนะนำให้ท่าน เปิดห้องพัก เป็น 2 ห้องจะสะดวกกับท่านมากกว่า

 กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว ไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้

 กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลดท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 23 กก. , กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง น้ำหนักไม่เกิน 7 กก.

 ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน OS (กระเป๋าเดินทาง 1 ใบ น้ำหนัก ไม่เกิน 23 กก./ท่าน)

 ค่าภาษีสนามบิน,ค่าภาษีน้ำมัน,ค่าประกันภัยทางอากาศ

 ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท

ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 80 ปี) ประกันครอบคลุมการติดเชื้อ Covid 19

 ค่าภาษีในทุกประเทศ (ประเทศตามระบุในโปรแกรมทัวร์)

 ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)

 ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่, ค่าวีซ่าเชงเก้น

 เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง และทิปต่างๆ

 ค่าเจ้าหน้าที่ยกกระเป๋า ท่านต้องดูแลกระเป๋าด้วยตัวท่านเองเพื่อป้องกันการสูญหาย

 ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์-แฟกซ์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ

 ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

การชำระเงิน

งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 50,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปเดินทางแน่นอน

งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 30 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง

- แจ้งยกเลิกเดินทาง 30 วันล่วงหน้าก่อนการเดินทางหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่นมัดจำตั๋วเครื่องบิน, วีซ่าและค่าดำเนินการ (ถ้ามี), ค่าโรงแรม, ค่าตั๋วรถไฟ โดยจะมีรายละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วง Peak season สายการบินให้มัดจำล่วงหน้า 2-3 เดือน ก่อนการเดินทาง)

- แจ้งยกเลิกเดินทาง 15-29 วันก่อนการเดินทาง หักค่าทัวร์ 50% + ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง

- แจ้งยกเลิกเดินทาง 0-14 วันก่อนการเดินทาง ยึดค่าทัวร์ 100%

- ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100%

***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิก วีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***

*ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม

 บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง

 บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน

 บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน การประท้วง ภัยธรรมชาติ การก่อจราจล อุบัติเหตุ ปัญหาการจราจร ฯลฯ ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด

 เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฎิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง

 บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฎิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง

 ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู

การจัดที่นั่งบนเครื่องบินของสายบการบิน ขณะนี้สายการบินมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดที่นั่ง (Assign seat) ทุกที่นั่ง สนนราคา 2,000 – 4,000 บาทต่อเที่ยวบิน หากท่านไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้ ต้องทำการขอที่นั่ง ณ เคาน์เตอร์เชคอินที่สนามบินเท่านั้น แต่หากท่านต้องการจัดที่นั่งและชำระค่าใช้จ่ายตรงนี้ สามารถแจ้งกับทางบริษัทฯ หลังทำการออกตั๋วเครื่องบินแบบหมู่คณะไปแล้วเท่านั้น 

 ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)

 ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้

เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น

 ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ ( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง

(TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้

 โรงแรมหลายแห่งในยุโรป จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น

 ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ ( TRADE FAIR ) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม

 กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด

 วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตรการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )

 หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด

 สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฏิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด

 สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 7.5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)

 ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน

 กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)

 ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่

 กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย

 กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน

การชดเชยค่ากระเป๋าในกรณีเกิดการสูญหาย

 ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่

 กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย

 กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน

(การเตรียมเอกสาร กรุณาอ่านให้เข้าใจ และเตรียมให้ครบ)
1. หนังสือเดินทาง อายุใช้งานได้ เกิน 6 เดือนขึ้นไป และ มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 แผ่น
2. รูปถ่ายสีหน้าตรง ขนาด 3.5 ซ.ม. x 4.5 ซ.ม. จำนวน 2 รูป พื้นฉากหลังรูปต้องเป็นพื้นสีขาว (อย่าถ่ายเอง เพราะพื้นเป็นสีเทา ใช้ไม่ได้) ห้ามสวมแว่นสายตา (รูปถ่ายต้องถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน...สถานฑูตมีการเทียบรูปกับหน้าวีซ่าที่เคยได้) 
3. สำเนาบัตรประชาชน 
4. สำเนาทะเบียนบ้าน (กรุณาถ่ายหน้าแรกที่มีรายละเอียดบ้านเลขที่มาด้วย)
5. สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีผู้หญิง.....หากมีการเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น ...นาง... ต้องแนบมา)
6. สำเนาทะเบียนหย่า (กรณีผู้หญิง.....ถ้าหย่าและหากมีการใช้คำนำหน้าเป็น ....นาง...ต้องแนบมา)
7. สูติบัตร (กรณีเด็กต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ต้องแนบสูติบัตรมา) 
8. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์: (หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อม พ่อและแม่) ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ 
- เด็ก เดินทางกับบุคคลอื่น บิดาและมารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอม ซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เด็กเดินทางกับใคร (ระบุชื่อ) มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว
- เด็ก เดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เด็กเดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา) 
- เด็ก เดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เด็กเดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา)  
9. หลักฐานการทำงาน (จดหมายรับรองการทำงาน) ทำเป็นภาษาอังกฤษ
จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูตและประเทศ)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า
- กรณีพนักงานบริษัท : ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการว่าจ้าง เงินเดือน 
- กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน 
- กรณีเกษียณอายุราชการ: ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
- กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษา นั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ ระบุชั้นปีที่ศึกษา 
10. หลักฐานการเงิน :  (กรุณาเตรียมให้ถูกต้อง ใช้ทั้ง Bank Statement และ สำเนาบัญชี เล่มเดียวกัน)
- หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank Statement) ของบัญชีออมทรัพย์ (Saving account) ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 15 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า
- สำเนาสมุดบัญชีย้อนหลัง 3 เดือน นับขึ้นไปจากเดือนที่จะยื่นวีซ่า มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน และยอดแสดงในบัญชีต้องไม่ก้าวข้ามเดือน (ปรับสมุดและสำเนา 15 วันก่อนยื่นวีซ่า) ให้ธนาคารประทับตรารับรองสำเนาทุกหน้า
************* ข้อ 1 และ ข้อ 2 ต้องเป็นสมุดบัญชีออมทรัพย์เล่มเดียวกันเท่านั้น **************
หมายเหตุ : หากสมุดบัญชีแสดงยอดรวมที่มีการกระโดดข้ามเดือน (ยอดไม่ต่อเนื่อง) เช่นจากเดือน 1 ข้ามไปเป็นยอดของ เดือน 3 (เดือน 2 ไม่มี) ท่านต้องไปขอ Bank statement จากทางธนาคารแทนการถ่ายสำเนาสมุดบัญชี
- บัญชีฝากประจำ (Fixed) สามารถแนบประกอบได้ แต่ท่านต้องแนบบัญชีออมทรัพย์ (Saving) มาด้วย
หากต้องการใช้บัญชีฝากประจำ ต้องเตรียมดังนี้
- หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank guarantee) ของบัญชีฝากประจำ (Fixed account) ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 20 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า
- สำเนาสมุดบัญชีฝากประจำ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน 
หมายเหตุ หากต้องการรับรองการเงินให้คนภายในครอบครัว ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Guarantee) ต้องระบุชื่อเจ้าของบัญชี รับรองค่าใช้จ่ายให้ใคร (ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองในจดหมายด้วย) 
- กรุณาแนบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส หรือหลักฐาน เพื่อแสดงสถานะ และความสัมพันธ์ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
กรณีนายจ้างรับรองค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้าง
- จดหมายรับรองจากนายจ้างระบุว่าเป็นผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
- หนังสือรับรองเงินฝาก ดังข้อ 11.1 และ 11.2 
  (สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ไม่ต้องแนบมา)


Address

53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240

จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566099-191-9288 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy