โปรแกรมทัวร์อังกฤษ ลอนดอน สโตนเฮนจ์ [Option อิสระ - HARRY POTTER studio] เที่ยวอังกฤษ

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE950 : โปรแกรมทัวร์อังกฤษ สก็อตแลนด์ เวลส์ 9 วัน 6 คืน (EK)

DE950 : โปรแกรมทัวร์อังกฤษ สก็อตแลนด์ เวลส์ 9 วัน 6 คืน (EK)
Emirates (EK)

Hotel Ibis London Heathrow Airport

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1สนามบินสุวรรณภูมิ - ดูไบ
22.00 น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9แถวT สายการบินเอมิเรตส์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก
วันที่ 2ดูไบ - เอดินเบอระ - ย่านเมืองเก่าเอดินเบอระ
​01.35 น.ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดย สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK385 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
​04.45 น.แวะเปลี่ยนเครื่องที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
09.55 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเอดินเบิร์ก ประเทศสก็อตแลนด์ โดย สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK23 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
​14.50 น.

เดินทางถึง เอดินเบอระ ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองก่อน

นำทุกท่านออกเดินทางสู่เมือง เอดินเบอระ (Edinburgh) เมืองที่มีความสำคัญมาตั้งแต่อดีต โดยครองตำแหน่งเมืองหลวงของสก็อตแลนด์มาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 15 และเป็นหนึ่งในเมืองที่เจริญที่สุดในสหราชอาณาจักรตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เมืองเอดินเบอระมีความพิเศษตรงที่มีภูเขาตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเป็นที่ตั้งของปราสาทเอดินเบอระชื่อดังนั่นเอง

นำท่านสู่ ย่านเมืองเก่าเอดินเบอระ ที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้เมื่อปี 1995

ชม รอยัลไมล์ (Royal Mile)ถนนสายหลักตัดผ่านย่านเมืองเก่าเอดินเบอระ รอยัลไมล์เป็นชื่อเรียกถนนหลักของย่านเมืองเก่าที่ประกอบด้วยถนน 4 สาย อยู่คู่กับย่านเมืองเก่ามาช้านาน เป็นถนนยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยอาคารเก่าแก่ที่เรียงรายอยู่ 2 ฝั่งถนนนั้นมากด้วยร้านค้า และยังเป็นถนนสายตรงที่เชื่อมไปยังปราสาทเอดินเบอระด้วย  

​เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก ณ Hilton Edinburgh Airport หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 3เอดินเบอระ - ปราสาทเอดินเบอระ - กลาสโกว์ - นิวคาสเซิล
​เช้า       

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเข้าชมภายใน ปราสาทเอดินเบอระ (Edinburgh Castle) สิ่งก่อสร้างชิ้นสำคัญที่เป็นทั้งสัญลักษณ์และสมบัติแห่งชาติของสก็อตแลนด์ ปราสาทเอดินเบอระไม่มีหลักฐานการเริ่มสร้างที่แน่นอน แต่เป็นปราสาทหลวงมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 จนถึงปี 1633 ที่ราชวงศ์เริ่มหมดอำนาจก็ได้เปลี่ยนเป็นฐานทางการทหารแทน ปราสาทตั้งอยู่ด้านบนเนินเขาทำให้สามารถมองเห็นวิวเมืองได้อย่างชัดเจน เป็นจุดชมวิวยอดนิยมอีกจุดหนึ่งของเมืองเลย ด้านบนปราสาทจะประกอบไปด้วยกลุ่มอาคารมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์สงครามแห่งชาติสก็อตแลนด์ (National War Museum of Scotland) ที่จะแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และสงครามที่เกี่ยวข้องกับสก็อตแลนด์ มี โบสถ์เซนต์มาร์กาเร็ต (St. Margaret’s Chapel) โบสถ์หลวงสำหรับราชวงศ์ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ที่ยังคงสภาพดีอยู่ มีปืนใหญ่หนัก 5.9 ตัน ป้อมปราการ หอคอย และพระราชวังหลวงแสนอลังการ 

 
​กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นเดินทางสู่ กลาสโกว์ (Glasgow) ที่แม้จะไม่ได้เป็นเมืองหลวงแต่ความเจริญก้าวหน้านั้นยิ่งกว่าเมืองไหนๆ แถมด้วยการเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสก็อตแลนด์ กลาสโกว์เป็นเมืองท่าใหญ่ของมหาสมุทรแอตแลนติกมาตั้งแต่อดีต และเมื่อเข้ายุคอุตสาหกรรมก็ยิ่งเฟื่องฟู กลายเป็นเมืองแถวหน้าของประเทศ เป็นศูนย์กลางของการค้า เศรษฐกิจ คมนาคม และอีกมากมาย นำท่านเที่ยวชมเมืองกลาสโกว์

ผ่านชม มหาวิหารกลาสโกว์ (Glasgow Cathedral) แห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นวิหารที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่โดดเด่นด้วยหอคอยแหลมสูง และศิลปะโดยรอบที่ละเอียดและประณีต ศาลาว่าการเมืองกลาสโกว์ (Glasgow City Chamber) ที่สร้างตั้งแต่ปี 1882 เพื่อว่าการเมือง ก่อนจะเป็นที่ทำการหลักแห่งสภาของกลาสโกว์ตั้งแต่ปี 1996 ตัวอาคารงดงามด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์วิกตอเรียน

นำท่านเดินทางสู่เมือง นิวคาสเซิล (New Castle) หรือชื่อเต็มๆ ว่า นิวคาสเซิล อะพอน ไทน์ (Newcastle Upon Tyne) ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำไทน์ ทำให้เป็นที่มาของชื่อเมืองนี่เอง เมืองนิวคาสเซิลเป็นหัวเมืองใหญ่ทางฝั่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รุ่งเรืองด้วยอุตสาหกรรม และเป็นบ้านเกิดของสโมสรฟุตบอลชื่อดัง สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด

เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พักJurys Inn Swindon หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 4นิวคาสเซิล - ยอร์ก - ลีดส์ - แมนเชสเตอร์
เช้า 

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชมเที่ยวชมเมือง นิวคาสเซิล (Newcastle) ชม อนุสาวรีย์เกรย์ (Grey’s Monument) อนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนิวคาสเซิลแห่งนี้นั้นได้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1838 เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ ชาร์ลส์ เกรย์ ท่านเอิร์ลที่ 2 ตัวอนุสาวรีย์นั้นเป็นเสาสูง 40 เมตร ที่ด้านบนเป็นรูปปั้นของท่านเกรย์ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ ณ บริเวณอนุสาวรีย์นี้เองยังเป็นจุดนัดพบยอดนิยมของชาวเมือง รายล้อมด้วยอาคาร ร้านค้าร้านอาหาร และช้อปต่างๆ

ผ่านชม สะพานมิลเลเนียม (Millenium Bridge) อีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองนิวคาสเซิล เป็นสะพานสำหรับคนเดินและจักรยานที่เปิดใช้เมื่อปี 2001 ด้วยสไตล์และรูปร่างที่เป็นทรงโค้งโดดเด่นทำให้เป็นที่น่าสนใจและเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมจุดหนึ่งของเมืองเลย

แล้วนำท่านเดินทางต่อสู่ เมือง ยอร์ก (York) เมืองที่มีความสำคัญต่ออังกฤษมาอย่างยาวนาน แม้เมืองยอร์กจะถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเมืองป้อมปราการ แต่ก็ได้ถูกตั้งให้เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโรมันบนเกาะอังกฤษในเวลาต่อมา เราจะพบเห็นร่องรอยประวัติศาสตร์ได้ทั่วไปในบริเวณเมือง เช่น กำแพงเมืองยอร์ก ที่ได้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยโรมัน รวมแล้วมีอายุกว่า 1,945 ปี ยังมีปราสาท หอคอย และพิพิธภัณฑ์

​กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
​บ่าย

นำท่านถ่ายรูปที่ด้านหน้า มหาวิหารยอร์ก (York Minster) มาถึงเมืองยอร์กก็ต้องแวะถ่ายรูปและชื่นชมกับสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สุดในเมือง และเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคอายุกว่า 600 ปีที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของทวีปยุโรปเหนือ เป็นรองเพียงแค่มหาวิหารโคโลญจน์ที่ประเทศเยอรมนีเท่านั้น นอกจากหอคอยสูงถึง 72 เมตรแล้ว อีกจุดเด่นของมหาวิหารยอร์กก็คือ กระจกสีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกชื่อ Great East Window พร้อมด้วยรายละเอียดการตกแต่งที่อลังการและสวยสง่าไม่แพ้ใคร

ได้เวลาแล้วเดินทางต่อสู่ เมือง ลีดส์ (Leeds) ให้ท่านได้เที่ยวชมเมืองที่เป็นทั้งศูนย์กลางเศรษฐกิจและกฎหมายของประเทศ แม้จะเป็นเพียงเมืองธรรมดาๆ ในศตวรรษที่ 13 แต่ในช่วงศตวรรษที่ 17-19 ก็ได้พัฒนาขึ้นเป็นเมืองชั้นนำอย่างรวดเร็วด้วยอุตสาหกรรมที่กระจายตัวอย่างรวดเร็ว เป็นเมืองที่เราจะได้เห็นทั้งอาคารโบราณและอาคารสมัยใหม่ตั้งผสมผสานกันไปอย่างลงตัว ในเมืองลีดส์มีสถานที่ท่องเที่ยวและแลนด์มาร์กน่าสนใจมากมายให้เดินเล่นและชมกัน

จากนั้นเดินทางต่อไปยังเมือง แมนเชสเตอร์ (Manchester)อีกหนึ่งเมืองที่ไม่ควรพลาดมาเที่ยวชมเมื่อได้มาเยือนอังกฤษ แมนเชสเตอร์เป็นเมืองขนาดใหญ่ทางตอนเหนือของอังกฤษ มีความเป็นมายาวนานตั้งแต่ช่วงยุคโรมันหรือประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว แต่เป็นเพียงเมืองรองขนาดเล็กเท่านั้น เมืองแมนเชสเตอร์ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงศตวรรษที่ 19 ช่วงแห่งการพัฒนาอุตสาหกรรมจนกลายเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่า เมืองอุตสาหกรรมแห่งแรกของโลกเมืองแมสเชสเตอร์ยังเป็นเมืองที่มีแลนด์มาร์กน่าสนใจอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นสนามฟุตบอลชื่อดัง โบสถ์ วิหาร และสะพานโบราณ

เย็นรับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก ณ Hallmark Inn Manchester Southหรือระดับเดียวกัน
วันที่ 5แมนเชสเตอร์ - สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด - ลิเวอร์พูล - สนามฟุตบอลแอนฟีลด์ - เชลต์นัม
​เช้า  

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเข้าชม สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด (Old TraffordStadium)บ้านของทีมฟุตบอลชื่อดัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดเป็นสนามฟุตบอลที่มีอายุเก่าแก่มากกว่า 100 ปี และมีขนาดความกว้างใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอังกฤษ สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดเปิดใช้มาตั้งแต่ปี 1910 และสามารถรองรับผู้ชมได้มากกว่า 76,000 คน ที่ผ่านมาสนามแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นสถานที่แข่งขันฟุตบอลนัดสำคัญมาแล้วมากมาย อย่างเช่น FA Cup รอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลกปี 1966 และฟุตบอลยูโรปี 1996 รวมทั้งยังเคยใช้เป็นสนามแข่งรักบี้อีกด้วย

และเข้าชม พิพิธภัณฑ์โอลด์ แทรฟฟอร์ด (Old Trafford Museum) ซึ่งตั้งอยู่ภายในสนามฟุตบอลนี้เอง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีถ้วยรางวัลจำนวนมากที่ทางทีมได้ชนะมาในแต่ละการแข่งขัน พร้อมรูปถ่าย และเสื้อทีม จัดแสดงให้ได้ชม

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย

เดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมือง ลิเวอร์พูล (Liverpool) เมืองใหญ่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ เป็นเมืองที่มีความสำคัญต่อการค้าของอังกฤษอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงศตวรรษที่ 18 เมืองลิเวอร์พูลได้กลายเป็นเมืองท่าอันดับต้นๆ ของโลก ประเทศต่างชาติที่ติดต่อค้าขายกับอังกฤษส่วนใหญ่จะมาทางการขนส่งผ่านทางท่าเรือเมืองลิเวอร์พูลนี่เอง

นำท่านเข้าชม สนามฟุตบอลแอนฟีลด์ (Anfield) คือสนามฟุตบอลที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของประเทศ และเป็นถิ่นของสโมสร ลิเวอร์พูลตั้งแต่ปี 1892 สนามฟุตบอลนี้ได้เปิดตัวเมื่อปี 1884 และเป็นบ้านของสโมสรแอฟเวอร์ตัน ในช่วงปี 1884-1891 สามารถจุผู้ชมได้มากกว่า 54,076 คน และเคยใช้เป็นสถานที่จัดแข่งขันฟุตบอลนัดสำคัญมากมาย ฟุตบอลนัดใหญ่ที่เคยดวลกันที่นี่ ได้แก่ฟุตบอลยูโรปี 1996 และยังใช้จัดการแข่งขันกีฬาอื่นๆ อีกด้วย เช่น แข่งขันอเมริกันฟุตบอลรักบี้ และคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ เข้าชม LFC Story พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษาประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 120 ปี ของสโมสรลิเวอร์พูลเอาไว้ พร้อมด้วยลูกเล่นกิจกรรมต่างๆ ให้สนุกกัน

ชม คอลเลกชั่นของสตีเฟ่น เจอร์ราด (The Steven Gerrard Collection) เรียกได้ว่าเป็นห้องส่วนของของ สตีเฟ่น เจอร์ราด อดีตกัปตันทีมลิเวอร์พูลก็ว่าได้ เพราะภายในนั้นจะเต็มไปด้วยของใช้ที่ สตีเฟ่น เจอร์ราด ได้อุทิศให้ทางสโมสรนำมาจัดแสดงให้แฟนๆ ลิเวอร์พูลได้ชมกัน ไม่ว่าจะเป็น เสื้อที่เคยใช้แข่ง เสื้อพร้อมลายเซ็นของทีมคู่แข่ง ถ้วยรางวัลต่างๆ ที่ได้มา ล้วนจัดแสดงให้ได้ชมกันภายในห้องแห่งนี้

เดินทางสู่เมือง เชลต์นัม (Cheltenham) เมืองแห่งรีสอร์ทและสปา โดดเด่นในเรื่องน้ำพุแร่ ทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเป็นจำนวนมากเป็นเมืองยอดนิยมของการมาท่องเที่ยวและผ่อนคลาย

​เย็นรับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก ณ Jurys Inn Cheltenhamหรือระดับเดียวกัน
วันที่ 6เขลต์นัม - คาร์ดิฟฟ์ - บาธ - สวินดอน
​เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านสู่เมือง คาร์ดิฟฟ์ (Cardiff) เมืองหลวงควบตำแหน่งเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเวลส์ เป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้า วัฒนธรรม และกีฬา มากมายด้วยสถาบันการกีฬาหลายแห่ง แม้คาร์ดิฟฟ์จะเป็นเมืองที่เพิ่งถูกตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1905 และได้เป็นเมืองหลวงของเวลส์ในปี 1955 แต่คาร์ดิฟฟ์ก็มีการพัฒนาเป็นเมืองชั้นนำอย่างรวดเร็ว โดยรอบเมืองคาร์ดิฟฟ์จะได้เห็นความเป็นเมืองโมเดิร์นสมัยใหม่ผสมผสานกับความเป็นเมืองเก่า ไม่ว่าจะเป็นปราสาทโบราณหลายแห่ง โบสถ์ วิหาร และพิพิธภัณฑ์มากมายให้ได้เที่ยวและเยี่ยมชมกัน

​เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
​บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ เมือง บาธ (Bath) เมืองเก่าแก่มากประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยยุคโรมันโบราณ เป็นเมืองที่มากด้วยนักท่องเที่ยวมาตั้งแต่อดีตด้วยกิตติศัพท์ของน้ำแร่ที่มีอยู่อย่างมากมายในเมืองนี้ พร้อมด้วยอาคารและสถาปัตยกรรมโบราณมากมายที่ได้รับการอนุรักษ์อย่างดี ปัจจุบันเมืองบาธได้ถูกยกให้เป็นเมืองมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ในปี 1987 นำท่านเที่ยวชมเมืองบาธ

ผ่านชม โรงอาบน้ำโรมันบาธ (Roman Baths) ที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยที่ยุคโรมันยังครองอังกฤษเพื่อเป็นที่อาบน้ำสาธารณะ กลายาเป็นที่นิยมมากด้วยน้ำแร่ร้อนที่ช่วยผ่อนคลายและรักษาโรค อาคารที่เห็นในปัจจุบันนั้นได้ผ่านการบูรณะต่อเติมมาหลายครั้งจนมาเสร็จสิ้นสุดท้ายในช่วงศตวรรษที่ 18 แต่ก็ยังคงความนิยมไม่เสื่อมคลาย และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักแห่งหนึ่งในเมืองบาธ

ผ่านชม อารามบาธ (Bath Abbey)ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับโรงอาบน้ำโรมัน เป็นอารามเก่าแก่ที่สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อศตวรรษที่ 7 และได้บูรณะปรับปรุงในศตวรรษที่ 12 และ 16 อารามบาธเป็นอารามในนิกายโรมันคาทอลิกที่สวยและอลังการด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค มีความละเอียดและประณีตในทุกๆ รายละเอียดของการแกะสลักและรูปปั้นต่างๆ

จากนั้นเดินทางสู่ เมือง สวินดอน (Swindon) เมืองใหญ่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ เป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรมการรถไฟในสมัยโบราณ ปัจจุบันเป็นเมืองใหญ่ที่มีอัตราความเจริญรุ่งเรืองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 

​เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก ณ Jurys Inn Swindon หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 7สวินดอน - เอมส์บิวรี่ - สโตนเฮนจ์ - อ็อกซฟอร์ด - บิสเตอร์ วิลเลจ เอาท์เล็ต - ลอนดอน
​เช้า  

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่ เมือง เอมส์บิวรี่ (Amesbury) เมืองในเขต วิลต์เชอร์ (Wiltshire) เป็นเมืองที่โด่งดังด้วยการเป็นที่ตั้งของหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และเป็นเมืองที่มีการตั้งถิ่นฐานอยู่อย่างต่อเนื่องเก่าแก่ที่สุดในสหราชอาณาจักร นับรวมแล้วเมืองนี้มีอายุมากถึง 10,838 ปีเลย

นำท่านเข้าชม สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) แลนด์มาร์กสุดโดดเด่นของอังกฤษ อนุสรณ์สถานโบราณอายุกว่า 4,000 ปี ที่สร้างขึ้นได้อย่างน่าพิศวง เพราะแท่งหินแต่ละแท่งนั้นมีความสูงถึง 4 เมตร กว้าง 2.1 เมตร และหนักประมาณ 25 ตัน รวมแล้วมากถึง 112 แท่ง ได้ถูกจับมาตั้งเรียงซ้อนกันเป็นวงกลม 3 วง ซึ่งคงอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน แม้ปริศนาว่าสโตนเฮนจ์ถูกสร้างขึ้นยังไงและเพื่ออะไรยังไม่กระจ่าง แต่ก็ได้ถูกยกให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้เมื่อปี 1986 และถูกจัดให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง

เดินทางสู่เมือง อ๊อกซฟอร์ด (Oxford) เมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการศึกษา ด้วยการเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยชั้นนำและครองตำแหน่งหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด (University of Oxford) นอกจากนี้ยังมีวิทยาลัยมากถึง 30 วิทยาลัยอยู่ในบริเวณเดียวกันอีกด้วย นำท่านชมเมืองอ๊อกซฟอร์ดที่มากด้วยประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมสวยๆ ที่สั่งสมมาหลายกว่าศตวรรษ

​กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
​บ่าย

ผ่านชม ปราสาทอ๊อกซฟอร์ด (Oxford Castle) ปราสาทโบราณเก่าแก่ที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 11 ก่อนจะกลายเป็นคุกในศตวรรษที่ 18 ปัจจุบันปราสาทหลังใหญ่แห่งนี้ได้ถูกดัดแปลงเป็นร้านอาหารและโรงแรม แถมเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่นักท่องเที่ยวแวะเวียนกันมาชมไม่ขาดสาย

ผ่านชม วิทยาลัยไครส์ตเชิร์ช (Christ Church Collage) หนึ่งในวิทยาลัยในเครือของมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด และเป็นทั้งวิทยาลัย โบสถ์ และโรงเรียน สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแสนประณีตทั้งนอกและในอาคาร ที่วิทยาลัยแห่งนี้ยังเป็นจุดถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดัง “แฮร์รี่ พอตเตอร์” อีกด้วย

ผ่านชม ศาลาว่าการเมืองอ๊อกซฟอร์ด (Oxford Town Hall) ที่ใจกลางเมืองอ๊อกซฟอร์ด ที่นอกจากจะเป็นศาลาว่าการแล้วยังเป็นสถานที่จัดงานอีเวนท์สำคัญๆ และเป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจแห่งหนึ่งด้วย

นำท่านเดินทางสู่ บิสเตอร์ วิลเลจ เอาท์เล็ต (Bicester Village Outlet) ในเมืองบิสเตอร์ ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งในเอาท์เล็ตที่มีร้านค้ากว่า 160 ร้าน มากมายด้วยนานาแบรนด์เนม เสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา ร้องเท้าที่ล้วนก็น่าซื้อทุกแบรนด์ในราคาสุดพิเศษ เช่น burberry, Gucci, Calvin Klein, Chloe, Cath Kidston, Diesel, Givenchy, Fendi, Prada และอีกมาก

เย็นอิสระอาหารเย็นเพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้ง
​บ่าย

นำทุกท่านออกเดินทางสู่เมือง ลอนดอน (London) มหานครที่เป็นทั้งเมืองหลวงของประเทศอังกฤษและสหราชอาณาจักร เป็นเมืองศูนย์กลางในทุกๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นคมนาคม ท่องเที่ยว การศึกษา เทคโนโลยี และเศรษฐกิจ ลอนดอนได้ชื่อว่าเป็นเมืองศูนย์กลางทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกปัจจุบัน มากมายด้วยสถานที่ท่องเที่ยวและแลนด์มาร์กชื่อดัง นอกจากนี้ลอนดอนยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 3,000 ปีแล้ว สั่งสมประวัติศาสตร์ไว้ในทุกๆ มุมของเมืองให้เราได้ชมกันไม่มีเบื่อ

ที่พักMercure London Heathrow Hotel หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 8ลอนดอน - ล่องเรือแม่น้ำเทมส์ - ช้อปปิ้งห้างแฮร์รอด
​เช้า  

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านผ่านชม พระราชวังบักกิ้งแฮม (Buckingham Palace)อีกความงดงามของพระราชวังแห่งราชวงศ์อังกฤษ และจนถึงทุกวันนี้ก็ยังเป็นที่ประทับของ ควีนเอลิซาเบธที่ 2และเหล่าสมาชิกในราชวงศ์ เพราะฉะนั้นรอบรั้วพระราชวังบักกิ้งแฮมจึงมักจะมีชาวอังกฤษแวะเวียนโฉบไปมาอยู่บ่อยครั้งโดยหวังว่าอาจโชคดีได้เห็นท่านเหล่านี้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง พระราชวังบักกิงแฮมเป็นบ้านเดิมของ ดยุคแห่งบักกิ้งแฮมขุนนางชาวอังกฤษ สร้างขึ้นในปี 1703-1705 จากนั้นก็กลายเป็นสมบัติของหลวงในสมัย จอร์จที่ 3 และ ได้รับการปรับปรุงให้กลายเป็นที่ประทับอย่างเป็นทางการของราชวงศ์อังกฤษตั้งแต่ปี 1837 นอกจากเป็นที่ประทับแล้วก็ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานพิธีต่างๆ รวมทั้งจัดงานเลี้ยงรับรองอาคันตุกะแห่งราชวงศ์อีกด้วย

ผ่านชม บิ๊กเบน (Big Ben) แลนด์มาร์กสุดโดดเด่นใจกลางกรุงลอนดอน หอนาฬิกาแห่งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ (Palace of Westminster) และเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองคู่กันมาเป็นเวลายาวนานเกิน 150 ปีมาแล้ว บิ๊กเบนเป็นหอนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนหอคอยสูง 96.3 เมตร ด้านบนเป็นนาฬิกาที่หันหน้าปัด 4 ด้านทั่วทิศ หน้าปัดมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 7 เมตร เข็มชั่วโมงยาว 2.7 เมตรและเข็มนาทียาว 4.3 เมตร ตัวกรอบโดยรอบหน้าปัดทำจากเหล็กกล้า ทั้งหมดนี้สร้างแล้วเสร็จในปี 1859 โดยมีการติดตั้งระฆังขนาดใหญ่น้ำหนักถึง 13.76 ตันเพิ่มเข้ามาในปีเดียวกัน เสียงกังวานของระฆังใบนี้จะก้องสะท้อนไปทั่วบริเวณเป็นที่คุ้นเคย และชื่อ “บิ๊กเบน” ที่เรียกกันก็มาจากชื่อของระฆังใบนี้นี่เอง

นำท่านเดินทางสู่ ลอนดอนอาย (London Eye) และถ่ายรูปกับหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงลอนดอนที่อยู่คู่กับลอนดอนมานานถึง 20 ปีตั้งแต่ที่ได้เริ่มสร้างขึ้นในปี 1998 เป็นชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปด้วยความสูงถึง 135 เมตร และเคยได้ตำแหน่งชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในโลกมาครอง ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นก็คือชิงช้าสวรรค์แห่งนี้นั้นตั้งอยู่ได้โดยยึดจากโครงฐานเพียงฝั่งเดียวเท่านั้น  

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
​บ่าย

นำท่าน ล่องเรือแม่น้ำเทมส์ ชมความงามสองฝั่งแม่น้ำสายหลักของลอนดอน สัมผัสกับเมืองมหานครแห่งนี้ จากอีกมุมมองแต่น่าสนใจไม่แพ้กันด้วยทิวทัศน์สวยๆ ตลอดชายฝั่ง ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือน สถานที่สำคัญต่างๆ เช่น มหาวิหารเซนต์ปอล สะพานมิลเลเนียม โรงละครแห่งชาติ และจากแม่น้ำเทมส์นี่เองที่เราจะได้ชม ทาวเวอร์บริดจ์ หอคอยลอนดอน รวมถึงลอนดอนอาย ในมุมที่ดีและสวยที่สุดด้วย

อิสระช้อปปิ้งที่ ห้างสรรพสินค้าแฮร์รอด (Harrods) ห้างสุดหรูใจกลางกรุงลอนดอน ที่มากมายอัดแน่นไปด้วยสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำจากทั่วโลกที่มีให้เลือกดูเลือกช้อปปิ้งกันถึง 330 ร้าน ห้างแฮร์รอดเป็นห้างสรรพสินค้าสุดหรูทั้งด้วยตัวสินค้าเอง และตัวห้างที่มีการตกแต่งอย่างหรูหราอลังการ แม้จะเป็นห้างเก่าแก่อายุถึง 184 ปี แต่ก็ยังคงความเป็นห้างสรรพสินค้าแถวหน้าของอังกฤษได้ตลอดมาและกลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของลอนดอนที่ต้องลองมาสัมผัสสักครั้งได้เวลาอันสมควร

นำท่านเดินทางสู่ สนามบินฮีทโทรว์ เพื่อเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย

​21.45 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ โดย สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK10 แวะเปลี่ยนเครื่อง (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
วันที่ 9ดูไบ - สุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ)
07.35 น. ถึงสนามบิน เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
​09.40 น. เดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EK372 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
​19.15 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

เงื่อนไขในการจอง

  • ค่าธรรมเนียมในการขอยื่นวีซ่าอังกฤษ ทางสถานทูตจะไม่คืนเงินค่าธรรมเนียมทุกกรณี
  • ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นทัศนาจรไป-กลับ โดยสายการบินเอมิเรตส์ (EK)
  • ค่าที่พักระดับมาตรฐาน (ห้องละ 2-3 ท่าน) ตามที่ระบุในรายการ
  • ค่ารถปรับอากาศ และบริการนำเที่ยวตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าเข้าชมสถานที่ และค่าธรรมเนียมตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าประกันภัยในการเดินทาง 2,000,000 / 500,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% กรณีต้องการใบเสร็จ
  • ค่าน้ำหนักของกระเป๋าในกรณีเกินกว่าสายการบินกำหนดให้ 30 กิโลกรัมต่อหนึ่งคน
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ นอกรายการ อาทิ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด และค่าเครื่องดื่มในห้องพัก
  • ค่าทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถท้องถิ่น ท่านละ 2 ยูโร / คน / วัน 
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย ขั้นต่ำ 100 บาท / วัน / คน (100 * 6 วัน)
  • สำหรับการจอง กรุณาชำระเงินมัดจำท่านละ 20,000 บาท (หลังจองภายใน 3 วัน) พร้อมสำเนาหนังสือเดินทาง
  • ชำระยอดทั้งหมดก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 20 วัน
  • หากไม่ชำระค่าใช้จ่ายภายในกำหนด ทางบริษัทจะถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45 วันขึ้นไป คืนมัดจำทั้งหมด
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วันขึ้นไป เก็บค่าใช้จ่ายเบื้องต้น 5,000 บาท
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 25-30 วัน เก็บเงินมัดจำทั้งหมด
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 15-25 วัน เก็บค่าใช้จ่าย 50% ของราคาค่าทัวร์ทั้งหมด
  • ยกเลิกก่อนการเดินทางน้อยกว่า 15 วัน ขอเก็บค่าใช้จ่าย 100% ของราคาค่าทัวร์ทั้งหมด
  • บริษัทขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการเดินทางก่อนล่วงหน้าในกรณีที่ผู้เดินไม่ถึง 30 ท่าน และทางบริษัทยินดีคืนเงินโดยหักเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามจริง
  • บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย และไม่รับผิดชอบใดๆ ในกรณีที่สูญหาย สูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บที่นอกเหนือความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์ เช่นภัยธรรมชาติ ปัญหาการเมือง เป็นต้น
  • เนื่องจากรายการทัวร์นี้เป็นแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จ หากท่านสละสิทธิ์การใช้บริการใดๆ หรือถูกปฏิเสธการเข้าประเทศไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี
  • เมื่อท่านได้ชำระเงินมัดจำหรือทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของบริษัทหรือชำระโดยตรงกับทางบริษัทจะถือว่าท่านรับทราบและยอบรับเงื่อนไขต่างๆ ของบริษัทฯที่ได้ระบุไว้โดยทั้งหมด
1. พาสปอร์ตที่ยังไม่หมดอายุ และมีอายุไม่ต่ํากว่า 6 เดือน ก่อนวันหมดอายุ หากมีพาสปอร์ตเล่มเก่า ไม่ว่าจะเคยมีวีซ่าในกลุ่มเชงเก้นหรือไม่ก็ตาม ควรนําไปแสดงด้วยเพื่อเป็นการง่ายต่อการอนุมัติวีซ่า
2. รูปถ่ายสีขนาด 2 นิ้ว (แบบหน้าใหญ่) ขนาด 4.5 ซม. x 3.5 ซม.จํานวน 2 ใบ (ฉากหลังเป็นสีขาวเท่านั้นและมีอายุไม่เกิน 6 เดือน)
 
3. เอกสาระสำคัญส่วนบุคคล 
3.1 สำเนาทะเบียนบ้าน 
3.2 สําเนาบัตรประชาชนหรือ สําเนาบัตรข้าราชการ 
3.3 สําเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
3.4 สำเนาใบเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล (ถ้ามี)
 
4. กรณีเป็นพนักงานบริษัท
 ใบรับรองการทํางานจากบริษัทที่ท่านทํางานอยู่ต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น โดยระบุตําแหน่ง อัตราเงินเดือนในปัจจุบันวันเดือนปีที่เริ่มทํางานกับบริษัทนี้ และช่วงเวลาที่ขอลางาน เพื่อเดินทางไปยุโรป หลังจากนั้นจะกลับมาทํางานตามปกติหลังครบกําหนด
 
5. กรณีเป็นเจ้าของกิจการ
ขอใบทะเบียนการค้า และหนังสือรับรองที่คัดไว้ไม่เกิน 3 เดือน พร้อมวัตถุประสงค์หรือใบเสียภาษีและหลักฐานการเงินของบริษัทฯ ย้อนหลัง 6 เดือน พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ

6. หลักฐานทางการเงิน
สําเนาสมุดบัญชีเงินฝาก ออมทรัพย์ ย้อนหลัง 3 เดือน (นับจากวันปัจจุบันในวันที่ยื่นวีซ่า) ควรเลือกเล่มที่มีการเข้าออกของเงินสม่ําเสมอ และมีจํานวนไม่ต่ํากว่า 6 หลัก เพื่อแสดงให้เห็นว่ามี ฐานะการเงินเพียงพอ ที่จะครอบคลุมกับค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และสามารถที่จะใช้จ่ายได้อย่างไม่เดือดร้อน เม่ือกลับสู่ภูมิลําเนา พร้อมกับหนังสือรับทางการเงินที่ออกจากธนาคาร (Bank Certificate)
หรือ Statement ย้อนหลัง 3 เดือน ฉบับจริง ภาษาอังกฤษ ออกโดยธนาคารเท่านั้น (ในกรณีที่ผู้อื่นเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ ต้องมีหลักฐานเชื่อมโยงความสัมพันธ์พร้อมยื่นเอกสารฉบับแปลภาษาอังกฤษ)
**สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวัน**
 
7. กรณีที่บริษัทของท่านเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับผู้เดินทางทั้งหมด นอกเหนือจากเอกสารข้อ 1-6 แล้ว ทางบริษัทฯ จะต้องออกจดหมายอีกหนึ่งฉบับเพื่อแสดง ความรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายและการกลับมาทํางานของท่าน โดยระบุรายชื่อผู้เดินทาง และเหตุผลที่จัดการเดินทางนี้ในจดหมายด้วย 8. กรณีที่เป็นนักเรียนนักศึกษา
จะต้องมี หนังสือรับรองจากทางสถาบันการศึกษา ภาษาอังกฤษ (ตัวจริง) เท่าน้ัน 
 
9. กรณีที่เด็กอายุต่ํากว่า 20 ปี
9.1 ไม่ได้เดินทางไปกับบิดา มารดา หรือ เพียงคนใดคนหนึ่ง
- จดหมายยินยอมให้เดินทางไปต่างประเทศจาก อำเภอ / เขต ที่ท่านอยู่ (เป็นภาษาอังกฤษ)
- บัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของบิดา / มารดา
- สำเนาพาสปอร์ตบิดา / มารดา
- หลักฐานการเงินของผู้เป็นสปอนเซอร์ในการออกค่าใช้จ่าย (ภาษาอังกฤษ)
- ใบสุติบัตรฉบับภาษาไทย และ แปลภาษาอังกฤษ
- เอกสารเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างผู้เดินทางกับผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ฉบับภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
9.2 เดินทางไปกับบิดา มารดา 
- บัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของบิดา / มารดา
- สำเนาพาสปอร์ตบิดา / มารดา
- หลักฐานการเงินของผู้เป็นสปอนเซอร์ในการออกค่าใช้จ่าย (ภาษาอังกฤษ)
- ใบสุติบัตรฉบับภาษาไทย และ แปลภาษาอังกฤษ
** หมายเหตุ!!ในวันที่มายื่นขอวีซ่า บิดาและมารดา ต้องเดินทางมาเซ็นแบบฟอร์มการร้องขอวีซ่าให้กับบุตร **
 
10. การบิดเบือนข้อเท็จจริงประการใดก็ตามอาจจะถูกระงับมิให้เดินทางเข้าประเทศในกลุ่มเชงเก้น เป็นการถาวร และถึงแม้ว่าท่านจะถูกปฏิเสธวีซ่า สถานทูตไม่คืนค่าธรรมเนียมที่ได้ชําระไปแล้ว และหากต้องการขอยื่นคําร้องใหม่ก็ต้องชําระค่าธรรมเนียมใหม่ทุกครั้ง หากสถานทูตมีการสุ่ม เรียกสัมภาษณ์บางท่าน ทางบริษัทฯ ขอความร่วมมือในการเชิญท่านไปสัมภาษณ์ตามนัดหมาย และโปรดแต่งกายสุภาพ ทั้งนี้บริษัทฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ไปอํานวยความสะดวกและประสานงาน ตลอดเวลาและหากสถานทูตขอเอกสารเพิ่มเติมทางบริษัทใคร่ขอรบกวนท่านจัดส่งเอกสาร ดังกล่าวเช่นกัน
 
12. กรณียกเลิกการเดินทางภายหลังจากได้วีซ่าแล้ว ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการแจ้งสถานทูตเพื่อให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานฑูตเรื่องวีซ่าของท่านเนื่องจากการขอวีซ่าในแต่ละประเทศจะถูก บันทึกไว้เป็นสถิติในนามของบริษัท
 
13. การยื่นวีซ่านั้นผู้เดินทางต้องชําระยอดมัดจําพร้อมค่าวีซ่าก่อนเท่านั้นถึงสามารถดําเนินขั้นตอนการย่ืนวีซ่าได้
 
** ทางบริษัทไม่มีนโยบายการแปลเอกสารให้ ถ้าหากต้องการให้ทางเราแปลเอกสารจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใบละ 500 บาท **
 
  • ทัวร์นี้สำหรับผู้มีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้น
  • ทัวร์นี้ขอสงวนสิทธิ์สำหรับผู้เดินทางที่ถือหนังสือเดินทางธรรมดา (หน้าปกสีน้ำตาล / เลือดหมู) เท่านั้น กรณีที่ท่านถือหนังสือเดินทางราชการ  (หน้าปกสีน้ำเงินเข้ม) หนังสือเดินทางทูต (หน้าปกสีแดงสด) และต้องการเดินทางไปพร้อมคณะทัวร์อันมีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยว โดยไม่มีจดหมายเชิญ หรือ เอกสารใดเชื่อมโยงเกี่ยวกับการขออนุญาตการใช้หนังสือเดินทางพิเศษอื่นๆ หากไม่ผ่านการอนุมัติของเคาท์เตอร์ เช็คอิน ด่านตรวจคนเข้าเมือง ทั้งฝั่งประเทศไทยขาออก และ ต่างประเทศขาเข้าไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการไม่รับผิดชอบความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในส่วนนี้ และ ทัวร์นี้เป็นทัวร์แบบเหมาจ่าย หากท่านไม่ได้ร่วมเดินทางหรือใช้บริการตามที่ระบุไว้ในรายการไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด หรือถูกปฏิเสธการเข้า-ออกเมือง หรือด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินค่าบริการไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดให้แก่ท่านไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม
  • ทัวร์นี้เป็นทัวร์แบบเหมาจ่าย หากท่านไม่ได้ร่วมเดินทางหรือใช้บริการตามที่ระบุไว้ในรายการไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด หรือถูกปฏิเสธการเข้า-ออกเมือง หรือด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินค่าบริการไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดให้แก่ท่านไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม
  • ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายจากความผิดพลาดในการสะกดชื่อ นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เลขที่หนังสือเดินทาง เลขที่วีซ่า และอื่นๆ เพื่อใช้ในการจองตั๋วเครื่องบิน ในกรณีที่นักท่องเที่ยวหรือเอเย่นต์ไม่ได้ส่งหน้าหนังสือเดิน และ หน้าวีซ่ามาให้กับทางบริษัทพร้อมการชำระเงินมัดจำหรือส่วนที่เหลือทั้งหมด
  • ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการการเดินทางตามความเหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ภูมิอากาศ และเวลา ณ วันที่เดินทางจริงของประเทศที่เดินทาง ทั้งนี้ ทางบริษัทจะคำนึงถึงความปลอดภัย และ ประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
  • ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เกิดจากความผิดของทางบริษัท เช่น ภัยธรรมชาติ การจลาจล การนัดหยุดงาน การปฏิวัติ อุบัติเหตุ ความเจ็บป่วย ความสูญหายหรือเสียหายของสัมภาระ ความล่าช้า เปลี่ยนแปลง หรือการบริการของสายการบิน เหตุสุดวิสัยอื่น เป็นต้น
  • อัตราค่าบริการนี้คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ณ วันที่ทางบริษัทเสนอราคา ดังนั้น ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับราคาค่าบริการเพิ่มขึ้น ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าภาษีน้ำมัน ค่าภาษีสนามบิน ค่าประกันภัยสายการบิน การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน ฯลฯ ที่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น
  • มัคคุเทศก์ พนักงาน หรือตัวแทนของทางบริษัท ไม่มีอำนาจในการให้คำสัญญาใดๆ แทนบริษัท  เว้นแต่มีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทกำกับเท่านั้น
  • นักท่องเที่ยวต้องมีความพร้อมในการเดินทางทุกประการ หากเกิดเหตุสุดวิสัยใดๆ ระหว่างรอการเดินทาง อันไม่ใช่เหตุที่เกี่ยวข้องกับทางบริษัท อาทิเช่น วีซ่าไม่ผ่าน เกิดอุบัติภัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ นอกเหนือการควบคุมและคาดหมาย ทางบริษัทจะรับผิดชอบคืนค่าทัวร์เฉพาะส่วนที่บริษัทยังไม่ได้ชำระแก่ทางคู่ค้าของทางบริษัท หรือจะต้องชำระตามข้อตกลงแก่คู่ค้าตามหลักปฏิบัติเท่านั้น
  • กรุณาแยกของเหลว เจล สเปรย์ ที่จะนำติดตัวขึ้นเครื่องบิน ต้องมีขนาดบรรจุภัณฑ์ไม่เกิน 100 มิลลิลิตรต่อชิ้น และรวมกันทุกชิ้นไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร โดยแยกใส่ถุงพลาสติกใสซึ่งมีซิปล็อคปิดสนิท และสามารถนำออกมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจได้อย่างสะดวก ณ จุดเอ็กซ์เรย์ อนุญาตให้ถือได้ท่านละ 1 ใบเท่านั้น ถ้าสิ่งของดังกล่าวมีขนาดบรรจุภัณฑ์มากกว่าที่กำหนดจะต้องใส่กระเป๋าใบใหญ่และฝากเจ้าหน้าที่โหลดใต้ท้องเครื่องบินเท่านั้น
  • สิ่งของที่มีลักษณะคล้ายกับอาวุธ เช่น กรรไกรตัดเล็บ มีดพก แหนบ อุปกรณ์กีฬาฯ จะต้องใส่กระเป๋าใบใหญ่และฝากเจ้าหน้าที่โหลดใต้ท้องเครื่องบินเท่านั้น

Address

53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240

จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566099-191-9288 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy