ทัวร์ยุโรปตะวันตก อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ (เซอร์แมต) ฝรั่งเศส 2567/2024 เที่ยวอิตาลี

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE368 : โปรแกรมทัวร์ยุโรปตะวันตก อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ (เซอร์แมต) ฝรั่งเศส 9 วัน 6 คืน (TG)

DE368 : โปรแกรมทัวร์ยุโรปตะวันตก อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ (เซอร์แมต) ฝรั่งเศส 9 วัน 6 คืน (TG)
Thai Airways (TG)


 

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1กรุงเทพฯ 
​21.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศประตู 2 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก
วันที่ 2กรุงเทพฯ - โรม - มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ - โคลอสเซี่ยม - ปราโต้
00.20 น.

ออกเดินทางสู่ กรุงโรม โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 944

*** สำหรับคณะที่ออกเดินทางตั้งแต่ 31 ต.คเป็นต้นไปจะออกเดินทางเวลา 00.01 น. และจะไปถึงกรุงโรมเวลา 06.00 น. ***

06.50 น.

ถึง สนามบินฟูมิชิโนกรุงโรม ประเทศอิตาลี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั๋วโมง และจะเปลี่ยนเป็น 5 ชั๋วโมงในวันที่ 31 มีนาคม 2562) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

จากนั้นผ่านชม กลุ่มโรมันฟอรัม (Roman Forum)อดีตศูนย์กลางทางด้านการเมือง ศาสนา และเศรษฐกิจของอาณาจักรโรมัน ที่สะท้อนให้เห็นความเจริญรุ่งเรืองของอารยะธรรมโรมันในช่วง 2,000 ปีที่ผ่านมา 

นำท่านเดินทางพาท่านเข้าสู่ นครรัฐวาติกัน (Vatican) ประเทศที่เล็กที่สุดในโลกตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีกำแพงล้อมรอบเมืองเอาไว้ได้ทั้งหมด ยกเว้นด้านหน้าทางเข้า และเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกโดยมีพระสันตะปาปา มีอำนาจปกครองสูงสุด

นำท่านชม มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St.Peter’s Basilica) ชมประติมากรรมอันลือชื่อ ปิเอต้า (Pieta) ของมิเคลันเจโลและชมแท่นบูชาบัลแดคคิโน (St. Peter's Baldachin)เป็นซุ้มสำริดที่สร้างโดยจานโลเรนโซ แบร์นินี ซึ่งสร้างตรงบริเวณที่เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังพระศพของนักบุญปีเตอร์

​กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
​บ่าย

นำชมความยิ่งใหญ่ในอดีต และเก็บภาพสวยบริเวณรอบนอกของ สนามกีฬาโคลอสเซี่ยม (Colosseum)1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ อดีตสนามประลองการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของชาวโรมันที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 50,000 คน

นำชมงานประติมากรรมของเทพนิยายกรีกและโยนเหรียญอธิษฐานบริเวณ น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) สัญลักษณ์ของกรุงโรมที่โด่งดัง

นำท่านเดินสู่บริเวณย่าน บันไดสเปน (The Spainsh Step)แหล่งแฟชั่นชั้นนำและแหล่งนัดพบของคนรักการช้อปปิ้ง

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางต่อไปยัง เมืองปราโต้ (Prato)

​ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก CHARME หรือเทียบเท่า
วันที่ 3ปราโต้ - ฟลอเรนซ์ - ปิซ่า - เมสเตร้
​เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางต่อสู่ แคว้นทัสคานี (Tuscany) โดยเมืองหลวงของแคว้น คือ   ฟลอเรนซ์ (Florence)ที่ได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองศูนย์กลางแห่งศิลปะในยุคเรอเนสซองส์ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีโบราณสถานสำคัญ และมีทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่สวยงาม จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก้เมื่อ ปี ค.ศ.1982 ทำให้ทัสคานีมีชื่อเสียงในฐานะดินแดนท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก นักท่องเที่ยวทั่วโลก

ชมความยิ่งใหญ่ และอลังการของ มหาวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิโอเร (Santa Maria Dell Fiore) วิหารของเมืองฟลอเรนซ์ ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของทวีปยุโรป ซึ่งโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ใช้หินอ่อนหลายสีตกแต่งผสมผสานกันได้อย่างงดงาม

นำชม จัตุรัสเดลลาซิญญอเรีย (Piazza Della Signoria) ซึ่งรายล้อมไปด้วยรูปปั้น อาทิ เช่น รูปปั้นเทพเจ้าเนปจูน (Fountain of Neptune),วีรบุรุษเปอร์ซิอุสถือหัวเมดูซ่า (Perseus with the Head of Medusa), รูปปั้นเดวิด ผลงานที่มีชื่อเสียงของ ไมเคิล แองเจโล่

จากนั้นนำท่าน มาริมฝั่งแม่น้ำอาร์โน จะพบกับ สะพานเวคคิโอ (Vecchio) สะพานเก่าแก่ที่มีมีร้านขายทอง และอัญมณีอยู่ทั้งสองข้าง

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองปิซ่า (Pisa) เมืองแห่งศิลปะที่สำคัญของอิตาลี เป็นเมืองเล็กๆอยู่ทางตะวันตกของ Florence ด้านตะวันตกของเมืองติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ Pisa ก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของ

นำท่านเข้าสู่บริเวณ จัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี (Compo Dei Miracoli)ที่ประกอบด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ โดยเริ่มจากหอพิธีเจิมน้ำมนต์ (Baptistry of St. John) ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี, มหาวิหารดูโอโม (Duomo) ที่งดงามและหอเอนแห่งเมืองปิซ่าอันเลื่อง

ชม หอเอนปิซ่า (Leaning Towerof Pisa) สัญลักษณ์แห่งเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1173 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่ระหว่างการก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงไปเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 ก็เกิดการยุบตัวของฐานขึ้นมา และต่อมาก็มีการสร้างหอต่อเติมขึ้นอีกจนแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดถึง 177 ปี โดยที่หอเอนปิซ่านี้ กาลิเลโอ  บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นชาวอิตาเลี่ยนได้ใช้เป็นสถานที่ทดลองทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของโลกที่ว่า สิ่งของสองชิ้น น้ำหนักไม่เท่ากัน ถ้าปล่อยสิ่งของทั้งสองชิ้นจากที่สูงพร้อมกัน ก็จะตกถึงพื้นพร้อมกัน

จากนั้นให้ท่านอิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกราคาถูก ที่มีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมาย

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวนิสฝั่งแผ่นดินใหญ่ (Venice Mestre)

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พักNH LAGUNA PALACE หรือเทียบเท่า
วันที่ 4 เวนิส เมสเตร้ - เกาะเวนิส - มิลาน
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto) นำท่านล่องเรือผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส สู่เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย (Venezia) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น "ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก" มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส

จากนั้นนำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิส ชมสะพานถอนหายใจ ( Bridge of Sighs) ที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างและโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้ ซึ่งเชื่อมต่อกับวังดอดจ์ (Doge’s Palace) อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต ซึ่งนักโทษชื่อดังที่เคยเดินผ่านสะพานนี้มาเเล้วคือ คาสโนว่านั่นเอง

นำท่าน ถ่ายรูปบริเวณจัตุรัสซานมาร์โค (St.Mark’s Square) ที่นโปเลียนเคยกล่าวไว้ว่า “เป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป” จัตุรัสถูกล้อมรอบด้วยอาเขตอันงดงาม รวมทั้งโบสถ์ซานมาร์โค (St.Mark’sBacilica)ที่มีโดมใหญ่ 5 โดม ตามแบบศิลปะไบแซนไทน์

จากนั้นอิสระให้ท่านได้มีเวลาเที่ยวชม เกาะอันแสนโรแมนติก เช่น เพื่อชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส, เข้าชมโบสถ์ซานมาร์โค, ช๊อปปิ้งสินค้าของที่ระลึก อาทิเช่น เครื่องแก้วมูราโน่,หน้ากากเวนิส หรือนั่งจิบกาแฟในร้าน Café Florian ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1720

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง (สปาร์เก็ตตี้หมึกดำ)
บ่าย

จากนั้นเดินทางสู่ตัวเมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก

นำท่านถ่ายรูปคู่กับ มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ที่ผสมผสานกัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ

ชม แกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นชอปปิงมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือ ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของโรงละครสกาล่า

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
ที่พักKLIMA HOTEL FIERA  หรือเทียบเท่า
วันที่ 5มิลาน - ทะเลสาบโคโม - เซอร์แมต - อิสระเต็มอิ่ม ณ เมืองเซอร์แมต แทซ
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านถ่ายรูปกับ ทะเลสาปโคโม่ (Como Lake) ที่ผู้คนทั่วโลกกล่าวขานกันว่าเป็นทะเลสาปสวยที่สุดในประเทศอิตาลี ด้วยพื้นที่กว่า 146 กิโมเมตร

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟเมืองแทซ (Teasch) เพื่อเดินทางสู่ เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองแห่งสกีรีสอร์ทยอดนิยม ที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น และยังมีฉากหลังของตัวเมืองเป็น ยอดเขาแมททอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย

อิสระครึ่งวัน ณ เมืองเซอร์แมต - โดยมีหัวหน้าทัวร์ให้ข้อมูล หรือ คำแนะนำ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นความรับผิดชอบของตัวท่านเองให้ท่านอิสระเดินเที่ยวชมเมือง หรือ เลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย

หรือจะเลือกขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเพื่อสัมผัสกับความงดงามของ ยอดเขาไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น (Klien Matterhorn) ที่สูงถึง 4,478 เมตร และได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดของเทือกเขาแอลป์ ชื่นชมกับทิวทัศน์ที่สวยงาม ณ จุดสูงที่สุดบริเวณไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น

หรือท่านสามารถเข้าชมถ้ำน้ำแข็งที่อยู่สูงที่สุดในสวิส หรือนั่งรถไฟฟันเฟืองสู่ สถานีรถไฟกรอนเนอร์แกรต (Gornergrat railway) เดินทางสู่จุดชมวิวที่ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพที่สวยงามของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นที่สวยงามโดยท่านสามารถเดินเท้าสู่ บริเวณทะเลสาบที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,757 เมตร โดยบริเวณทะเลสาบนี้เป็นเงาสะท้อนภาพเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn's reflect) อันสุดสวยงามยิ่งนัก (โดยปกติน้ำในทะเลสาบ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝน และ สภาพอากาศ ช่วงเวลาที่เดินทางไปชมอยู่ในช่วงกลางปี (พฤษภาคม - ตุลาคม) ถ้าช่วงฤดูหนาวทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง) (กรณีท่านที่เดินทางระหว่างวันที่กันยายน - พฤศจิกายน ท่านสามารถเลือกอิสระช็อปปิ้ง ณ เมืองเซอร์แมท หรือ ขึ้นรถไฟฟันเฟืองสู่สถานีกรอนเนอร์แกรตได้)

ค่ำอิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองแทซ (Teasch)
ที่พักELITE หรือเทียบเท่า
วันที่ 6แทซ - เวเว่ย์ - มองเทรอซ์ ปราสาทชิลยอง - โลซานน์ - ดีจอง
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

ท่านเดินทางผ่าน เมืองเวเว่ย์ (Vevey) ตั้งอยู่ริมชายฝั่งด้านเหนือของทะเลสาบเจนีวา เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น “ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส” (Pearls of the Swiss Riviera) ดินแดนที่เหมาะแก่การทำกิจกรรมแทบทุกฤดูกาล

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่ เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่า ริเวียร่าของสวิส ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือน ริมทะเลสาบ

นำท่านถ่ายรูปกับ ปราสาทชิลยอง (ด้านนอก) (Chillon castle) ปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างขึ้นบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ SAVOY โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโลซานน์ (Lausanne) ซึ่งตั้งอยู่ตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ เมืองโลซานน์มีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทยเนื่องจากเป็นเมืองที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จย่า นำท่านชม สวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของในหลวงเมื่อทรงพระเยาว์ และถ่ายรูปกับ ศาลาไทย ที่รัฐบาลไทยส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองดีจอง (Dijon) ประเทศฝรั่งเศส

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
ที่พักMERCURE DIJON หรือเทียบเท่า
วันที่ 7ดีจอง - ปารีส - หอไอเฟล - ช้อปปิ้ง
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

เดินทางสู่ มหานครปารีส (Paris) เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีมนต์เสน่ห์อันเหลือล้น ที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด กรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก ที่ทรงด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
บ่าย

นำเที่ยวชมความงดงามของมหานครปารีส ผ่านลานประวัติศาสตร์ จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concorde) ที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอองตัวแนต ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยกิโยตินในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศส

จากนั้นเข้าสู่ ถนนสายโรแมนติกชองป์เอลิเซ่ (Champs Elysees) ซึ่งทอดยาวจากจัตุรัสคองคอร์ดตรงสู่ประตูชัยนโปเลียน,

นำชมและถ่ายรูปคู่กับ ประตูชัยนโปเลียน (Arc de Triomphe) สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของจักรพรรดินโปเลียนในศึก เอาส์เตอร์ลิทซ์ในปี1805 โดยเริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1806 แต่มาแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1836

แล้วนำถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ หอไอเฟล (Tour Eiffel) สัญลักษณ์ที่โดดเด่นสูงตระหง่านคู่นครปารีสด้วยความสูงถึง 1,051 ฟุต ซึ่งสร้างขึ้นในปีค.ศ.1889

จากนั้นเชิญเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นอย่างเต็มอิ่มในราคาถูกที่ ร้านค้าปลอดภาษี (Duty Free Shop) อาทิ เช่น เครื่องสำอางค์ น้ำหอม นาฬิกาหรือกระเป๋า 

จากนั้นพาท่านสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยนักช้อปปิ้งจากทั่วทุกมุมโลกในห้างสรรพสินค้าใหญ่สุดหรูใจกลางกรุงปารีสที่ แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette) หรือท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าของสวิสจากร้าน Bucherer ร้านดังของสวิส ที่มีสาขาเปิดอยู่ใจกลางกรุงปารีส โดยมีสินค้ามากมาย อาทิเช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuerเป็นต้น

ค่ำอิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พักBEST WESTERN CDG AIRPORT หรือเทียบเท่า
วันที่ 8ปารีส - สนามบิน
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำคณะเดินทางสู่สนามบินเพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำคืนภาษี (Tax Refund)และ มีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน

13.40 น.

เดินทางกลับสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบิน TG931

*** สำหรับคณะที่ออกเดินทางตั้งแต่31 ต.คเป็นต้นไปจะออกเดินทางเวลา 12.30 น. และจะไปถึงกรุงเทพเวลา 06.00 น. ***

วันที่ 9กรุงเทพฯ
05.55 น.ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพโดยสวัสดิภาพ

เงื่อนไขในการจอง

  • ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด (Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
  • ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ 
  • ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า(3 ดาว – 4 ดาว)
  • ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล (หากต้องการเงื่อนไขกรมธรรม์สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่)
    ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท 
    ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
    ลูกค้าท่านใดสนใจซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ 
    เบี้ยประกันเริ่มต้น 341 บาท [ระยะเวลา 4-6 วัน]
    เบี้ยประกันเริ่มต้น 395 บาท [ระยะเวลา 7-10 วัน] 
    **ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี ** 
    [รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]
  • ค่ามัคคุเทศก์ของบริษัทดูแลตลอดการเดินทาง (ไม่รวมทิปมัคคุเทศก์) 
  • ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 30 ก.ก.และมากกว่า 2 ชิ้น,  ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
  • ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
  • ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศอิตาลี (ผู้ยื่นวีซ่าต้องชำระเงินตรงกับศูนย์ยื่นวีซ่าในวันยื่น เป็นจำนวนเงินโดยประมาณ 3,000 บาท)
  • ค่าทิปพนักงานขับรถ และไกด์ท้องถิ่น  (15 ยูโร)
  • ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (27 ยูโร)
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และหัก ณ ที่จ่าย 3 %
  • ชำระเงินมัดจำท่านละ 20,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
  • ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่าภายใน 3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ
  • เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที
  • หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่ รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
  • การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
  • หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด
  • ทางบริษัทขอเก็บค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ 20 วันก่อนการเดินทาง หากท่านไม่ผ่านการอนุมัติวีซ่าหรือยกเลิกการเดินทางโดยเหตุจำเป็น ทางบริษัทขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
  • การพิจารณาวีซ่าเป็นดุลยพินิจของสถานทูต มิใช่บริษัททัวร์ การเตรียมเอกสารที่ดีและถูกต้องจะช่วยให้การพิจารณา ของสถานทูตง่ายขึ้น
  • กรณีท่านใดต้องใช้พาสปอร์ตเดินทาง ช่วงระหว่างยื่นวีซ่า หรือ ก่อนเดินทางกับทางบริษัท ท่านต้องแจ้งให้ทางบริษัทฯ ทราบล่วงหน้าเพื่อวางแผนในการขอวีซ่าของท่าน ซึ่งบางสถานทูตใช้เวลาในการพิจารณาวีซ่าที่ค่อนข้างนานและอาจไม่สามรถดึงเล่มออกมาระหว่างการพิจารณาอนุมัติวีซ่าได้ 
  • สำหรับผู้เดินทางที่ศึกษาหรือทำงานอยู่ต่างประเทศ จะต้องดำเนินเรื่องการขอวีซ่าด้วยตนเองในประเทศที่ตนพำนักหรือศึกษาอยู่เท่านั้น
  • หนังสือเดินทางต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน โดยนับวันเริ่มเดินทางออกนอกประเทศ หากนับแล้วต่ำกว่า 6 เดือน ผู้เดินทางต้องไปยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ และกรุณาเตรียมหนังสือเดินทางเล่มเก่า ให้กับทางบริษัทด้วย เนื่องจากประวัติการเดินทางของท่านจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการยื่นคำร้องขอวีซ่า และจำนวนหน้าหนังสือเดินทาง ต้องเหลือว่างสำหรับติดวีซ่าไม่ต่ำกว่า 3 หน้า
  • ท่านที่ใส่ปกหนังสือเดินทางกรุณาถอดออก หากมีการสูญหาย บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อปกหนังสือเดินทางนั้นๆ และพาสปอร์ต ถือเป็นหนังสือของทางราชการ ต้องไม่มีรอยฉีกขาด หรือ การขีดเขียน หรือ แต่งเติมใดๆ ในเล่ม
  • ทางบริษัทได้สำรองที่นั่งพร้อมชำระเงินมัดจำค่าตั๋วเครื่องบินแล้ว  หากท่านยกเลิกทัวร์ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์การเรียกเก็บค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน ซึ่งมีค่าใช้จ่าย ประมาณ 1,000 – 5,000 บาท  แล้วแต่สายการบินและช่วงเวลาเดินทาง  
  • หากตั๋วเครื่องบินทำการออกแล้ว แต่ท่านไม่สารถออกเดินทางได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์เรียกเก็บค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง และรอ Refund จากทางสายการบิน ใช้เวลาประมาณ 3- 6 เดือนเป็นอย่างน้อย
  • นั่งที่ Long Leg โดยปกติอยู่บริเวณทางออกประตูฉุกเฉิน และผู้ที่จะนั่งต้องมีคุณสมบัติตรงตามที่สายการบินกำหนด เช่น ต้องเป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง และช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่เครื่องบินมีปัญหา เช่น สามารถเปิดประตูฉุกเฉินได้ (น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม) ไม่ใช่ผู้ที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพและร่างกาย และอำนาจในการให้ที่นั่ง Long leg ขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่เช็คอินสายการบิน ตอนเวลาที่เช็คอินเท่านั้น
  • แจ้งยกเลิก 45 วัน ขึ้นไปก่อนการเดินทาง คืนค่าใช้จ่ายทั้งหมด
  • แจ้งยกเลิกภายใน 30-44 วันก่อนเดินทาง เก็บค่าใช้จ่าย ท่านละ 10,000 บาท 
  • แจ้งยกเลิกภายใน 16-29 วันก่อนเดินทาง เก็บค่าใช้จ่าย ท่านละ 20,000 บาท
  • แจ้งยกเลิกน้อยกว่า 15 วันก่อนเดินทาง ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ เก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมด
  • บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมดกรณีท่านยกเลิกการเดินทางและมีผลทำให้คณะเดินทางไม่ครบตามจำนวนที่ บริษัทฯกำหนดไว้ (30ท่านขึ้นไป) เนื่องจากเกิดความเสียหายต่อทางบริษัทและผู้เดินทางอื่นที่เดินทางในคณะเดียวกันบริษัทต้องนำไปชำระค่าเสียหายต่างๆที่เกิดจากการยกเลิกของท่าน 
  • กรณีเจ็บป่วย จนไม่สามารถเดินทางได้ ซึ่งจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง บริษัทฯจะทำการเลื่อนการเดินทางของท่าน  ไปยังคณะต่อไปแต่ทั้งนี้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกคืนได้คือ ค่าธรรมเนียมในการมัดจำตั๋ว และค่าธรรมเนียมวีซ่าตามที่ สถานทูตฯ เรียกเก็บ 
  • กรณียื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่าจากทางสถานทูต (วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าทัวร์หรือมัดจำมาแล้ว ทางบริษัทฯ ขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า / ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน หรือค่าตั๋วเครื่องบิน (กรณีออกตั๋วเครื่องบินแล้ว) ค่าส่วนต่างในกรณีที่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ครบตามจำนวน 
  • กรณีวีซ่าผ่านแล้ว แจ้งยกเลิกก่อนหรือหลังออกตั๋วโดยสาร บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
  • กรณีผู้เดินทางไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากปลอมแปลงหรือการห้ามของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าเหตุผลใดๆตามทางบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด

ใช้เวลาทำการอนุมัติวีซ่าประมาณ 15 วันทำการ

ยื่นวีซ่าแสดงตนที่ศูนย์ยื่นวีซ่า VFS Global (จามจุรีสแควร์)

เอกสารกรุณาเตรียม 2 ชุด ยกเว้น เอกสารที่ออกจากทางราชการและทางธนาคารขอเป็นตัวจริง 1 ชุด และสำเนา 1 ชุด
ในวันยื่นวีซ่าหนังสือเดินทางต้องนำส่งเข้าสถานทูต 

และระหว่างรอผลการอนุมัติวีซ่า ไม่สามารถดึงหนังสือเดินทางออกมาได้

**ลูกค้ากรุณาอย่ายึดติดกับการยื่นขอวีซ่าในอดีตเพราะสถานทูตมีการเปลี่ยนแปลงกฎและเอกสารการยื่นอยู่เรื่อย ๆ**

หมายเหตุ:การยื่นวีซ่าแต่ละครั้งกับบริษัททัวร์ จะต้องทำการยื่นวีซ่า ประเภทหมู่คณะ เท่านั้น โดยการยื่นเป็นหมู่คณะ ต้องมีจำนวน 15 คน ขึ้นไป โดยทางศูนย์รับยื่น จะเป็นผู้กำหนดวันยื่นวีซ่าเท่านั้น ถ้าหากผู้เดินทางไม่สามารถไปยื่นวีซ่าในวันที่กำหนดได้ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (Premium) ดังนี้ 

  • ในกรณีที่เหลือระยะเวลายื่นวีซ่าน้อยกว่า 11 วันทำการ นับจากวันเดินทาง  มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม  ท่านละ 2,200 บาท  
  • ในกรณีที่เหลือเวลายื่นวีซ่าเหลือน้อยกว่า 5 วันทำการ จะมีค่า Fast Track เพิ่มเติมอีก ท่านละ 400 บาท รวมเป็น 2,600 บาท

    **ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ผู้เดินทางต้องชำระกับทางศูนย์รับยื่นโดยตรง**

    1. หนังสือเดินทางประเทศไทย (Thailand Passport) หนังสือเดินทาง ต้องมีหน้าเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้า อายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันเดินทางกลับและหนังสือเดินทางจะต้องไม่ชำรุด (หนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาประกอบการยื่นวีซ่าด้วย)

    ***ในกรณีที่ถือพาสปอร์ต สัญชาติไทย แต่พำนักอยู่ต่างประเทศ, ทำงานอยู่ต่างประเทศ หรือนักเรียน นักศึกษาศึกษาอยู่ต่างประเทศ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทให้ทราบทันที เพราะการยื่นขอวีซ่าจะมีเงื่อนไข และ ข้อกำหนดของทางสถานทูตต้องการเพิ่มเติม และ บางสถานทูตอาจไม่สามารถยื่นขอวีซ่าในประเทศไทยได้ ข้อกำหนดนี้รวมไปถึงผู้เดินทางที่ถือพาสปอร์ตต่างชาติด้วย***

    2. รูปถ่าย รูปถ่ายสีหน้าตรงขนาด 1.5 x 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ (พื้นหลังขาวเท่านั้น ถ่ายไม่เกิน 6 เดือนห้ามสวมแว่นตาหรือเครื่องประดับ ไม่ใส่คอนแทคเลนส์ รูปไม่เลอะหมึก)

    3. หลักฐานการเงิน
    3.1 กรณีผู้เดินทาง ออกค่าใช้จ่ายเอง สำเนาสมุดบัญชี หรือ Statement บัญชีออมทรัพย์ธรรมดาของธนาคารทั่วไป ส่วนตัวของผู้เดินทาง ย้อนหลัง 3 เดือน (รบกวนลูกค้าทำรายการเดินบัญชี โดยการ ฝากหรือถอน ก่อน แล้วค่อยปรับยอดเงินในบัญชีไม่เกิน 7 วันก่อนวันยื่นวีซ่า และหากบัญชีกระโดดเดือนต้องขอเป็น Statement เท่านั้น)
    3.2 กรณีผู้เดินทางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง (บุคคลที่สามารถรับรองค่าใช้จ่ายได้ ต้องเป็น พ่อ แม่ พี่น้องที่มีสายเลือดเดียวกัน หรือสามีภรรยา เท่านั้น)
    3.2.1. ต้องทำเป็นหนังสือรับรองค่าใช้จ่ายในการเดินทาง  (Sponsor Letter) พร้อมเอกสารแสดงความสัมพันธ์ เช่น สูติบัตร ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส เป็นต้น
    3.2.2. ถ่ายสำเนาสมุดบัญชี หรือ Statementย้อนหลัง 3 เดือนของบุคคลที่ออกค่าใช้จ่าย
    3.2.3. เอกสารแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ที่ออกให้ และผู้ที่ถูกรับรองค่าใช้จ่ายให้ เช่น สำเนาทะเบียนสมรส สูติบัตร ทะเบียนบ้าน
    **สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีติดลบ บัญชีฝากประจำ, บัญชีกระแสรายวัน
    บัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ พันธบัตร ตราสารหนี้ กองทุน และสลากออมสิน**

    4. หลักฐานการทำงาน  
    - เจ้าของกิจการ หนังสือรับรองการจดทะเบียน(DBD)ที่มีชื่อของผู้เดินทางเป็นกรรมการหรือหุ้นส่วน อายุไม่เกิน 3 เดือน หรือ สำเนาใบทะเบียนการค้า(พค.0403)
    - เป็นพนักงาน    หนังสือรับรองการทำงาน จากบริษัทฯ ระบุตำแหน่ง, เงินเดือน, วันเริ่มทำงาน 
    (ขอเป็นภาษาอังกฤษมีอายุ 1 เดือน ชื่อ-สกุลต้องตรงตามหน้าพาสปอร์ต ใช้คำว่า “TO WHOM IT MAY CONCERN” แทนชื่อสถานทูตที่ยื่น)
    - นักเรียนหรือนักศึกษา ใช้หนังสือรับรองการเรียนที่ออกจากสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่ 
    (ขอเป็นภาษาอังกฤษมีอายุ 1 เดือน ชื่อ-สกุลต้องตรงตามหน้าพาสปอร์ต ใช้คำว่า “TO WHOM IT MAY CONCERN” แทนชื่อสถานทูตที่ยื่น)

    5. เอกสารส่วนตัว
    - สำเนาทะเบียนบ้าน
    - สูติบัตร(กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี)
    - ทะเบียนสมรส/ทะเบียนหย่า/มรณะบัตร(ถ้ามี)
    - ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล(ถ้ามีการเปลี่ยน)

    6. กรณีเด็กอายุไม่ถึง 18 ปี ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศพร้อมบิดา มารดา
    6.1 บิดาหรือมารดา ต้องทำหนังสือชี้แจงเป็นภาษาอังกฤษว่าให้เด็กเดินทางไปต่างประเทศกับใคร มีความสัมพันธ์เป็นอะไรกันกับเด็ก คนละ 1 ชุด (ลูกค้าเขียนหรือพิมพ์ขึ้นเอง)
    6.2 บิดาหรือมารดา ต้องขอหนังสือยินยอมให้เด็กเดินทางไปต่างประเทศจากเขตหรืออำเภอ (1 ใบ ต่อ เด็ก 1 ท่าน เท่านั้น)
    6.3 ในกรณีพ่อหรือแม่ปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว ให้ขอหนังสือปกครองบุตรจากเขตหรืออำเภอและจะต้องเป็นหนังสือที่มีการสืบพยานและหลักฐานเสร็จเรียบร้อยแล้วเท่านั้น
    6.4ท่านจะต้องนำหนังสือยินยอมให้เด็กเดินทางไปต่างประเทศตัวจริง จากข้อ 6.2 หรือ หนังสือปกครองบุตรเป็นสำเนาจากข้อ 6.3ไปแปลประทับตรากับกรมการกงสุลให้เสร็จเรียบร้อยก่อนนำมายื่นมิเช่นนั้นทางศูนย์รับยื่น vfs จะไม่รับยื่นเอกสารของบุตรท่านโดยเด็ดขาด
    6.5 เนื่องจากการประทับตรากงสุล จะมีการเสียค่าใช้จ่ายหากท่านไม่แน่ใจว่าเอกสารใช้ได้หรือไม่ รบกวนสอบถามบริษัททัวร์ก่อนนำไปประทับตรากงสุล มิเช่นนั้นท่านอาจจะต้องไปเสียเงินและเสียเวลาอันมีค่าของท่านเพื่อไปทำเอกสารใหม่อีกรอบ หากเอกสารที่ท่านทำมาแล้วนั้นกลายเป็นเอกสารที่ใช้ยื่นไม่ได้

    ***โปรดอ่าน ก่อนที่ท่านจะไปทำหนังสือยินยอมจากเขตหรืออำเภอให้บุตรของท่าน

    - หากเด็กเดินทางไปกับบิดา จะต้องมีหนังสือยินยอมจากมารดา จากอำเภอต้นสังกัด(โดยมารดาจะต้องคัดหนังสือยินยอม และระบุว่าให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับบิดา) พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตมารดามาด้วย
    - หากเด็กเดินทางกับมารดา จะต้องมีหนังสือยินยอมจากบิดา จากอำเภอต้นสังกัด(โดยบิดาจะต้องคัดหนังสือยินยอม และระบุว่าให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดา)พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดามาด้วย
    - หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อมกับบิดาและมารดา ทั้งบิดาและมารดาจะต้องคัดหนังสือระบุยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับใคร มีความสัมพันธ์เป็นอะไรกันกับเด็ก จากอำเภอต้นสังกัด พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดาและมารดา
    - กรณีเด็กที่บิดา-มารดาหย่าร้าง จะต้องแนบสำเนาใบหย่า และมีการสลักหลังโดยมีรายละเอียดว่าฝ่ายใดเป็นผู้มีอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว

    *** กรณีที่บิดาหรือมารดาไม่มี passport แล้วใช้ ID Card แทนต้องทำจดหมายชี้แจงว่าทำไมไม่มี passport ***
    - กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี บิดา-มารดาลงชื่อรับรองในแบบฟอร์มสมัครวีซ่า พร้อมเดินทางมาสัมภาษณ์กับบุตรที่สถานทูตด้วยทั้งสองท่าน(เฉพาะคิวเดี่ยวเท่านั้น)
    7. หากพ่อหรือแม่มีวีซ่าเชงเก้นอยุ่แล้วและไม่ได้ยื่นวีซ่าพร้อมลูก ให้ทำจดหมายชี้แจงภาษาอังกฤษ อธิบายว่ามีวีซ่าเชงเก้นของประเทศอะไร ระบุวันเริ่มและวันหมดอายุวีซ่า พร้อมทั้งถ่ายสำเนาหน้าพาสปอร์ตและหน้าวีซ่านั้นมาแนบด้วย
    8. ท่านไม่จำเป็นต้องเซ็น รับรองสำเนาถูกต้อง ให้ท่านเซ็นเฉพาะ แบบฟอร์มใบคำร้องขอวีซ่าเท่านั้น
    เอกสารยื่นวีซ่าอาจมีการปรับเปลี่ยนและขออัพเดทเพิ่มเติมได้ทุกเวลา หากทางสถานทูตแจ้งขอเพิ่มเติม

Address

53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240

จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566099-191-9288 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy