วันที่ 1 | สนามบินสุวรรณภูมิ |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
22.00น. | พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินไทยแอร์เวย์ประตู 3 เคาน์เตอร์ D Thai Airways โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน |
วันที่ 2 | มิวนิค - อัลลิอันซ์อารีนา - จตุรัสมารีนเพทส - เมืองชวังเกา - ปราสาทนอยชวานชไตน์ - เมืองฟุสเซ่น |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
00.50 น. | ออกเดินทางสู่ มิวนิค (บินตรง) ประเทศเยอรมันเที่ยวบินที่ TG 924 **บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง** (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง) |
06.45 น. | ถึง สนามบินนานาชาติมิวนิค (FlughafenMunchenintl’ Airport)เมืองหลวงแห่งแคว้นบาวาเรียประเทศเยอรมันผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อย(เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชม. ทุกประเทศ) จากนั้นนำท่านเข้าสู่ ตัวเมืองมิวนิค ให้ท่านได้อิสระที่บริเวณจัตุรัสมารีนเพทส (Marienplatz)ซึ่งมีอาคารสำคัญของเมืองมากมายอาทิอนุสาวรีย์ St. Marry ศาลาว่าการเมืองหลังเก่าและศาลาว่าการเมืองหลังใหม่ซึ่งจะมีหอระฆังตุ๊กตากลซึ่งประกอบไปด้วยระฆัง 43 ใบและตุ๊กตา 32 ตัวซึ่งจะมีโชว์ในช่วงเวลา 11.00 และ 12.00 ในทุกๆวันนอกจากนั้นภายในจัตุรัสยังมีร้านค้าต่างๆทั้งแบรนด์เนมและแบรนด์ท้องถิ่นให้ท่านได้เลือกซื้อได้ตามอัธยาศัย |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวันณภัตตาคาร เมนูพิเศษขาหมูเสิร์ฟพร้อมเบียร์เยอรมันขนานแท้ |
บ่าย | ต่อด้วยเดินทางต่อไปยัง เมืองชวังเกา (Schwangau) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชม.) เมืองอันเป็นที่ตั้งของปราสาทที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่างปราสาทนอยชวานชไตน์ (Neuschwanstein Castle) จากนั้น นำท่านขึ้น มินิบัส ชม วิวปราสาท และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกที่สะพานMarienbrucke(มินิบัสจะวิ่งเฉพาะในช่วงที่สภาพอากาศดีหากมีฝนหรือหิมะตกขอสงวนสิทธิ์ในการพาท่านเดินชมวิว) จุดชมวิวไฮไลท์ของปราแห่งนี้ซึ่งจะเห็นตัวปราสาทตั้งเด่นตระหง่านท่ามกลางขุนเขาอย่างสง่างาม จากนั้นพาชม ด้านในปราสาทนอยชวานชไตน์ (Neuschwanstein Castle) มหาปราสาทแห่งยุคกลางถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของแคว้นบาวาเรียเลยทีเดียวโดยถูกสร้างขึ้นจากพระราชดำรัสของพระเจ้าลูทวิชที่ 2 ในปี 1864 ซึ่งปราสาทแห่งนี้นั้นโด่ดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบนิโอโกธิคผสมโรมาเนสส์จนทำให้เป็นต้นแบบของปราสาทในเทพนิยายของดิสนีย์ที่เราเห็นกันโดยคำว่านอยชวานชไตน์แปลว่าปราสาทหงส์ศิลาแห่งใหม่ซึ่งมี Christian Jank นักออกแบบฉากละครเป็นผู้ออกแบบ |
ค่ำ | บริการอาหารเย็นณภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Best Western Plus Hotel Fussen หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | เมืองฟุสเซ่น - เมืองการ์มิชพาร์เทินเคียร์เซิน - นั่งรถไฟCogwheel Train - ยอดเขาซุกชพิตเซ่อ - เมืองซาลบวร์กพระราชวังและสวนมิราเบล - จัตุรัสเรสซิเดนท์ - บ้านเกิดโมซาร์ท - เซ็นท์วูฟกัง |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | บริการอาหารเช้าแบบ Box Set (เนื่องจากต้องออกเดินทางแต่เช้าเพื่อไปยังสถานีรถไฟ) นำท่านเดินทางไปยัง เมืองการ์มิช-พาร์เทินเคียร์เชิน (Garmisch-Partenkirchen) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) แต่เดิมเมืองนี้แบ่งเป็น 2 เมืองคือเมืองการ์มิชและเมืองพาร์เทินเคียร์เชินต่อมาได้รวมกันเมืองเดียวเนื่องจากเยอรมันได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 1936 ระหว่างวันที่ 6 -16 กุมภาพันธ์โดยเมืองแห่งนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการพิชิตยอดเขาซุกชพิตเซ่อ (Zugspitze) ภูเขาที่ได้ชื่อว่าเป็นTop Of Germany พาท่านนั่งรถไฟ Cogwheel Train (รอบ 08.45 Eibsee -Zugspitzplatt) รถไฟรางแบบฟันเฟืองหนึ่งในสุดยอดสิ่งประดิษฐ์ทางวิศวกรรมซึ่งในปัจจุบันมีเพียงแค่ 4 แห่งเท่านั้นที่ยังเปิดดำเนินการในเยอรมันอยู่และถือเป็นวิธีการขึ้นเขาซุกชพิตเซ่อที่คลาสสิคที่สุด |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวันณภัตตาคารจีน |
บ่าย | จากนั้น นำท่านสู่ เมืองหลวง ของสาธารณรัฐเช็กที่ เมืองปราก (Prague)(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.3 ชม.) ชมเสน่ห์ที่หลายคนยกย่องว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดของยุโรปตะวันออกให้ท่านได้ใช้เวลาเต็มที่ที่เมืองแห่งนี้ นำท่านชม สะพานชาร์ล (Charle Bridge)สะพานหลักสุดคลาสสิคที่โด่งดังที่สุดของเมืองเชื่อมฝั่งเมืองเก่าและเมืองใหม่ที่ถูกแบ่งด้วยแม่น้ำวอลตาว่าเข้าด้วยกันสะพานแห่งนี้เริ่มก่อสร้างในปี 1357 ใช้เวลาในการสร้างมากกว่า100 ปีกว่าจะแล้วเสร็จเดิมทีชื่อว่า Stone Bridge หรือ Prague Bridge และมาเปลี่ยนชื่อมาเป็นสะพานชาลส์ในปีค.ศ. 1870 ตัวสะพานมีความยาว 621 เมตรและมีความกว้างเกือบ 10 เมตรเป็น 1 ในมุมถ่ายรูปที่ท่านต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง ไม่ไกลกันจะพบกับ ย่านเมืองเก่า (Old Town Square) ที่มีไฮไลท์สำคัญของย่านนี้นั่นคือการชม นาฬิกาดาราศาสตร์เมืองปราก ซึ่งถือเป็นนาฬิกาดาราศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังทำงานได้อยู่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1410 เท่ากับว่าตอนนี้มีอายุมากกว่า 600 ปีแล้วส่วนประกอบของนาฬิกามีอยู่สามส่วนหลักๆได้แก่หน้าปัดที่แจ้งเกี่ยวกับดาราศาสตร์การอธิบายตำแหน่งการโคจรของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์บนท้องฟ้าและแสดงรายละเอียดอื่นอีกเกี่ยวกับดาราศาสตร์ในทุกๆต้นชั่วโมงนั้นจะมีตุ๊กตากลพระสาวกพระเยซูทั้ง 12 ท่านปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงระฆังตั้งแต่เวลา 09.00 – 21.00 ในทุกวันบริเวณใกล้เคียงยังเป็นที่ตั้งของ Church of Our Lady before Týn ถือเป็นโบสถ์หลักของย่านเขตเมืองเก่าสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมันเนสในตอนต้นก่อนมีการผสมรูปแบบกอธิคในอีก 3 ศตวรรษต่อมาภายในโบสถ์มีไปป์ออร์แกนที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงปรากสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1673 |
ค่ำ | บริการอาหารเย็นณภัตตาคารท้องถิ่น เสิร์ฟเมนู Schnitzel หมูทอดสไตล์ออสเตรียแท้ |
ที่พัก | SCALARAIA หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | เซ็นท์วูฟกัง - ฮัลล์สตัท - เช้สกี้ครุมลอฟ - ปราก - สะพานชาร์ล - ย่านเมืองเก่า - นาฬิกาดาราศาสตร์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้น พาท่านเดินทางต่อไปยัง หมู่บ้านมรดกโลก ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหมู่บ้านมรกดกโลกที่สวยที่สุดในโลก ฮัลล์สตัท (Hallstatt)(ใช้เวลาเดินทางประมาณ1ชม.) เมืองมรดกโลกที่อยู่ท่ามกลางขุนเขาและทะเลสาบตั้งอยู่ในรัฐอัปเปอร์ออสเตรียมีประชากรไม่ถึง 1,000 คนแต่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนกว่า 800,000 คนต่อปีด้วยทัศนียภาพตระการตาที่ธรรมชาติและมนุษย์ร่วมกันประกอบขึ้นทำให้เป็นสถานที่ที่เป็นThe Must ของยุโรปตะวันออกเลยทีเดียวให้ท่านอิสระในการซึมซับบรรยากาศของเมืองมรดกโลก |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวันณภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองปราก (Prague) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐเช็ก เมืองซึ่งได้สมญานามมากมาย เช่น นครแห่งปราสาท และโรมแห่งอุดรทิศ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1992 นำท่าน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ ปราสาทปราก (Prague Castle) ที่สร้างขึ้นอยู่บนเนินเขาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 9 ในสมัยเจ้าชาย Borivoj แห่งราชวงศ์ Premyslids ซึ่งปัจจุบันเป็นทำเนียบประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1918 ผ่านชม มหาวิหารเซนต์วิตัส (St. Vitus Cathedral) อันงามสง่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคในสมัยศตวรรษที่ 14 นับว่าเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งพระเจ้าชาร์ลที่ 4 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1344 ภายในเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์สำคัญในอดีต เช่น พระเจ้าชาร์ลที่ 4 , พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 และ พระเจ้าแมกซิมิเลี่ยนที่ 2 เป็นต้น ผ่านชม พระราชวังหลวง (Royal Palace) ที่เป็นหนึ่งในส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาท ใช้เป็นที่ประทับของเจ้าชายโบฮีเมียนทั้งหลาย นำท่านเดินทางสู่ ย่านช่างทองโบราณ (Golden Lane) ซึ่งปัจจุบันมีร้านขายของที่ระลึก จำหน่ายอยู่มากมาย ผ่านชม สะพานชาร์ล (Charles Bridge) สะพานเก่าแก่ข้ามแม่น้ำวัลตาวา สะพานที่ออกแบบสไตล์โกธิคที่สร้างขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 สมัยพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ชมรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญที่ตั้งอยู่สองข้างราวสะพานกว่า 30 องค์ และเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองที่เรียงรายอยู่ตลอดแนวสะพาน นำท่านเดินทางสู่ ประตูเมืองเก่า (Powder Gate) ขอบเขตเมืองในสมัยโบราณ ผ่านชม ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า (Old Town Hall) ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338 เป็นที่ตั้งของ หอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) ที่สวยงามและยังตีบอกเวลาทุกๆชั่วโมง อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าต่างๆมากมายในย่านประตูเมืองเก่า มีทั้งสินค้าของฝาก ของที่ระลึก รวมทั้งร้านค้าแฟชั่นชั้นนำ แบรนด์เนม อาทิ เช่น Louis Vitton , Gucci , Hermes , Hugo Boss , Burberry , Rimowa Shop , Dio r, Nespresso ฯลฯ |
ค่ำ | บริการอาหารเย็นณภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Astoria Hotel Prague หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | ปราก - ปราสาทปราก - โบสถ์เซ็นท์วีตัส - ถนนGolden Lane - บราทิสลาว่า |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้น นำท่านชม ปราสาทลำดับที่ 1 ของประเทศที่ปราสาทปราก (Prague Castle) มหาปราสาที่สร้างมากว่า 1,200 ปีGuinness World Records ได้บันทึกไว้ว่าเป็นปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลกครอบคลุมพื้นที่ถึง 70,000 ตารางเมตรเคยเป็นที่ประทับของบรรพกษัตริย์ของชาวโบฮิเมียนปัจจุบันใช้เป็นทำเนียบประธานาธิบดีสูงเด่นตระหง่านอยู่บนเขาทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำวอลตาว่าภายในบริเวณปราสาทนั้นมีสิ่งปลูกสร้างมากมายประหนึ่งเมือง ๆ หนึ่งอาทิอาสน์วิหารนักบุญวีตัส (St. Vitus Cathedrals) โบสถ์คริสต์แห่งแรกของปรากสร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 870 สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่นักบุญวีตัสผู้สละชีวิตในช่วงยุคโรมันราวปี 303 ก่อนที่พระเจ้าคอนสแตนตินจะประกาศตนเป็นคริสศาสนิกชนโบสถ์ให้นี้ใช้เวลาในการสร้างกว่า 600 ปีภายในจะประดับด้วยกระจกสีและ Rose Window หน้าต่างที่ออกแบบให้เป็นรูปคล้ายกับดอกกุหลาบ |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวันณภัตตาคารไทย |
บ่าย | จากนั้นนำท่านมุ่งหน้าไปสู่ สาธารณะรัฐสโลวัก (Slovak Republic) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชม.) ที่เมืองหลวงบราทิสลาว่า (Bratislava) เป็น 1 ใน 10 ประเทศที่แม่น้ำดานูบแม่น้ำสายสำคัญของยุโรปไหลผ่านและเป็นเมืองโปรดของพระนางมาเรียเทเรซ่าอีกด้วยให้ท่านแวะถ่ายรูปกับปราสาทบราทิสลาว่า (Bratislava Castle) ด้านนอกปราสาทสำคัญของเมืองในอดีตเคยถูกใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์ฮังการี และ เป็นป้อมปราการด่านสำคัญที่ไว้สำหรับป้องกันข้าศึกที่จะมารุกรานอาณาจักรออสเตรีย-ฮังการีด้วยความได้เปรียบทางด้านยุทธศาสตร์จากการที่ตัวปราสาทตั้งอยู่บนสูงจึงส่งผลให้ท่านจะได้ชมวิวที่สวยงดงามยามเย็นที่แม่น้ำดานูบทอดยาวและหากสภาพอากาศเอื้ออำนวยจะสามารถเห็นพื้นที่ราบของประเทศฮังการีได้อีกด้วยปัจจุบันถูกใช้เป็นที่ทำการของรัฐบาล |
ค่ำ | บริการอาหารเย็นณภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Park Inn by Radisson Danube Bratislava Hotel หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | บราทิสลาว่า - ปูดาเปสต์ - สะพานเชน - คาสเทิลฮัลล์ - จัตุรัสวีรบุรุษ - โรงอุปรากรณ์ฮังการี - มหาวิหารเซ็นท์สตีเฟ่น - ล่องเรือพร้อมดินเนอร์สุดหรูบนแม่น้ำดานูบ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้น นำท่านสู่ เมืองบูดาเปสต์ (Budapest)ประเทศฮังการีอีก 1เมืองงามที่ถูกขนานนามว่าเป็นปารีสแห่งยุโรปตะวันออก(ใช้เวลาเดินทางประมาณ2ชม.)ด้วยประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนานหล่อหลอมศิลปะวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่นและผสมผสานกันอย่างลงตัวแต่เดิมนั้นบูดาเปสต์แบ่งออกเป็น 2 เมืองคือเมืองบูดา (Buda) และเมืองเปสต์ (Pest) โดยมีบูดาเป็นเขตเมืองหลวงต่อมาได้มีการขยายเมืองแต่บูดานั้นมีพื้นที่เขาเป็นส่วนมากทำให้ขยายเขตเมืองได้ยากผิดกับฝั่งเปสต์ที่เป็นพื้นที่ราบกว้างขวางทำให้เกิดการรวมเมืองกันเกิดขึ้นโดยถ้าท่านสังเกตจะพบว่าฝั่งบูดานั้นจะมีสิ่งปลุกสร้างเก่าและเป็นที่พักอาศัยส่วนฝั่งเปสต์จะเป็นย่านอาคารสำนักงานที่ทำการรัฐบาลจะกล่าวคือเป็นเขตเมืองใหม่ก็ไม่ผิดแวะถ่ายรูปกับสะพานเชน (Chain Bridge)1 ใน 4 สะพานใหญ่ จากนั้นพาท่านชมความงามของกลุ่มอาคารบน คาลเทิลฮิลล์ (Castle Hill) เนินเขาริมแม่น้ำดานูบอันเป็นที่ตั้งของพระราชวังบูดาโบสถ์แมนทิอัสและป้อมชาวประมงเรียงกันไปตามแนวเขาปราสาทบูดา (Buda Castle) ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในปี 1265 ในสมัยของพระเจ้าเบล่าที่ 4 ของราชวงศ์อาปาร์ดแต่ถูกสร้างเพิ่มเติมและบูรณะมาเรื่อยๆสำหรับตัวปราสาทที่ท่านจะเห็นนั้นจะเป็นการสร้างแบบบาโรกระหว่างปี 1749 และ 1769 ถือเป็นพระราชวังหลวงของพระราชวงศ์ทั้งหมดของฮังการีปัจจุบันได้ปรับปรุงเป็นหอศิลป์แห่งชาติและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์บูดาเปสต์ถัดไปทางตอนเหนือของเนินเขา พาท่านชมบริเวณโดยรอบของ ป้อมชาวประมง (Fisherman’s Bastian)และโบสถ์แมนทิอัสMantiusChurch)ถือว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างแห่งแรกๆของคาลเทิลฮิลล์แห่งนี้เริ่มจากตัวโบสถ์ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมานเนสส์สร้างตั้งแต่ในปี 1015 และได้รับการบูรณะด้วยศิลปะโกธิคในช่วงศตวรรษที่ 14 ถือเป็น 1 ใน 7 มหาศาสนสถานในยุคกลางของฮังการีสร้างโดยพระเจ้าสตีเฟ่นกษัตริย์พระองค์แรกของฮังการีเดิมชื่อว่าThe Church of Our Ladyก่อนเปลี่ยนตามชื่อของพระเจ้าแมนทิอัสหลังจากได้ทรงสร้างหอคอยของโบสถ์และได้ใช้สถานแห่งนี้ประกอบพระราชพิธีอภิเษกสมรสของพระองค์ถึง 2 ครั้งนอกจากนั้นยังเป็นที่ฝังพระบรมศพของพระเจ้าเบล่าที่ 3 อีกด้วยโดยโบสถ์จะตั้งอยู่ในบริเวณป้อมชาวประมงที่สร้างขึ้นเพื่อฉลองการครบรอบ 1,000 ปีของการก่อตั้งประเทศฮังการีในปี 1896 ลักษณะของป้อมนั้นเป็นทรงสูงแหลมมาจากลักษณะกระโจมซึ่งเป็นที่พักของชาวประมงแม็กย่าร์ในอดีตและยังเป็นที่ตั้งของอนุเสาวรีย์ของเซ้นท์สตีเฟ่นอีกด้วยนอกเหนือจากรูปแบบสถาปัตยธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือนแล้วท่านจะได้ดื่มด่ำกับวิวของแม่น้ำดานูบและอาคารของฝั่งเปสต์ที่มีไฮไลท์สำคัญเด่นตระหง่านกว่าอาคารอื่นๆนั่นคืออาคารรัฐสภาของประเทศฮังการี (Hungarian Parliament)ซึ่งถือว่าเป็น 1 ใน 3 อาคารรัฐสภาที่ใหญ่ที่สุดในโลกคู่กับที่ลอนดอนและวอชิงตันดี.ซี. |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวันณภัตตาคารท้องถิ่นเมนูกูลาร์ชอาหารท้องถิ่นที่ห้ามพลาด *เป็นซุปเนื้อหรือหมูกับมันฝรั่งเติมรสชาติเอกลักษณ์พิเศษด้วยพริกปราปิก้า |
13.30 น. | นำท่านชม จัตุรัสวีรบุรุษ (Hero Square)อันเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ของเหล่าบรรพชนหัวหน้าเผ่าแม็กยาร์ทั้ง 7 ที่ได้รวมกับสร้างอาณาจักรฮังการีภายใต้การนำของเจ้าชายอาปาร์ดในปี 896 รวมไปถึงบุคคสำคัญและกษัตริย์ในอดีตตรงกลางยังมีรูปปั้นเทพแกเบรียล(Gabriel)เทพของกรีกโบราณซึ่งเชื่อกันว่าเป็นอัครทูตสวรรค์ผู้นำสารจากพระเจ้าซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บน Millennium Monument ที่มีความสูงถึง 36 เมตร นำท่านเข้าชมอีก 1 สถานที่ที่น้อยท่านจะทราบว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดนั่นคือ โรงอุปรากรณ์ฮังการี (Hungarian State Opera)ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นโรงโอเปร่าที่สวยงามที่สุดในยุโรปแม้แต่พระเจ้าฟรันโจเซฟที่ 1 ถึงขนาดเสด็จมาเพียงครั้งเดียวในครั้งการแสดงรอบปฐมฤกษ์ในวันที่ 27 กันยายน1884 และไม่โปรดที่จะเสด็จกลับมาอีกเลยเนื่องจากมีความสวยงามมากกว่าโรงโอเปร่าที่เวียนนาซึ่งถือว่าเป็นหลวงของดนตรีคลาสสิคตัวโรงอุปรากรณ์แห่งนี้ถูกสร้างสไตล์นิโอโรเนสซองส์และบาโรกบริเวณอัฒจันทร์จะมีสีทองอร่ามจากทองคำเปลวที่เคลือบไว้ทุกอนูโดยสามารถจุผู้ชมได้ถึง 1,261 คน จากนั้นพาชม มหาวิหารเซ็นท์สตีเฟ่น (St. Stephen's Basilica )มหาวิหารที่ตั้งตามชื่อของกษัตริย์นักบุญผู้เป็นปฐมกษัตริย์แห่งฮังการีเริ่มสร้างในปี 1851 โดยต้องใช้สถาปนิกถึง 2 ท่านคือ JozsefHild และ MiklósYbl ตามลำดับจนแล้วเสร็จในปี 1905 จุดเด่นของโบสถ์แห่งนี้คือหลังคาโดมที่อาคารหลักที่มีความสูงถึง 96 เมตรเท่ากับอาคารรัฐสภาซึ่งถึงว่าเป็นอาคารที่สูงที่สุดของบูดาเปสต์เนื่องจากได้มีกฎหมายว่าห้ามสร้างสิ่งปลูกสร้างที่สุงเกิน 96 เมตรนั่นเอง |
19.00 น. | นำท่านสู่บรรยากาศแสนพิเศษบนเรือ ล่องแม่น้ำดานูบสุดหรู พร้อมรับประทานอาหารเย็นบนเรือโดยตลอดทางท่านจะได้เห็นอาคารต่างๆที่ประดับไฟยามค่ำคืนเคล้ากับเสียงดนตรีเพราะๆซึ่งแม่น้ำดานูบที่บูดาเปสต์นั้นหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า“เป็นวิวริมแม่น้ำดานูบที่สวยที่สุดในยุโรป” |
ที่พัก | Danubius Hotel Flamenco หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว |
วันที่ 7 | ปูดาเปสต์ - Fashion Outlet Prandoft - เวียนนา - พระราชวังและสวนเซินน์บรุน - ถนนคาร์ทเนอร์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | บริการอาหารณห้องอาหารของโรงแรม จากนั้น นำท่านผ่านชม อาคารรัฐสภาของประเทศฮังการี (Hungarian Parliament)อาคารทรงโกธิกผสมโดมแบบโรเนสซองส์ใช้แรงงานกว่าหนึ่งแสนคนอิฐกว่าสี่สิบล้านก้อนหินล้ำค่ากว่าห้าแสนชิ้นและทองคำกว่า 40 กิโลกรัมรังสรรค์ออกมาจนแล้วเสร็จในปี 1904 มีประตู 27 บานบันได 29 จุดและมีห้องมากถึง 691 ห้อง จากนั้น เดินทางกลับสู่ เขตประเทศออสเตรียไปยัง Fashion Outlet Parndorf (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.)พรีเมี่ยมเอ้าท์เลทที่ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมอย่างอิสระไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้านาฬิกาก็มีให้ได้เลือกสรร (เอ้าท์เลทปิดวันอาทิตย์หากโปรแกรมตรงกับวันอาทิตย์ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมเป็น PREMIUM OUTLET BUDAPEST แทน) |
เที่ยง | อิสระรับประทานอาหารกลางวันภายในเอ้าท์เลทเพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน |
บ่าย | นำท่านมุ่งหน้าสู่ กรุงเวียนนา (Vienna)ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. เมืองหลวงของออสเตรียและดนตรีคลาสสิคเป็นเมืองที่โมสาร์ทมาพำนักในยุคที่รุ่งเรืองของชีวิตพาท่านเข้าชมพระราชวังและสวนเชินน์บรุน (Palace and Gardens of Schonbrunn)พระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์ฮับส์บวร์คสร้างแบบบาโรกคำว่าเชินน์บรุนนั้นมีความหมายว่าน้ำพุร้อนอันแสนสวยงามโดยมีการริเริ่มสร้างในช่วงปีค.ศ. 1569 หลังจากที่พระเจ้าแม็กซีเมเลี่ยนที่ 2 ได้ซื้อที่ดินบริเวณนี้แต่ตัวอาคารในปัจจุบันนั้นสร้างและต่อเติมในสมัยของพระนางมาเรียเทเรซ่าโดยมีพระราชประสงค์ให้มีความยิ่งใหญ่และสวยงามทัดเทียมพระราชวังแวร์ซายน์ของราชวงศ์บูร์บงและด้วยพระองค์ทรงโปรดสีเหลืองมากจึงได้มีการใช้สีเหลืองโทนพิเศษตกแต่งด้านนอกของพระราชวังและต่อมาสีเหลืองโทนนี้นั้นจึงได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่าสีเหลืองเทเรซ่า จากนั้น พาท่านสู่ ถนนคนเดิน แห่งแรกๆของยุโรปที่ ถนนคาร์ทเนอร์ (KartnerStreet)ที่มีมาตั้งแต่ในสมัยโรมันเป็น 1 ในถนนที่มุ่งสู่กรงโรมในสมัยนั้นเป็นที่รู้จักกันในชื่อของStrata Carinthianorumก่อนจะถูกพัฒนามาเป็นถนนสายช้อปปิ้งในช่วงศตวรรษที่ 19 แม้อาคารบ้านเรือนส่วนมากจะถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ทางการก็ได้สร้างตึกรามบ้านช่องที่รูปแบบเดิมเพื่อคงเสน่ห์แห่งถนนสายนี้ไว้อย่างสมบูรณ์นอก จากนั้นยังมีศาสนสถานที่สำคัญบนถนนแห่งนี้อีกแห่งหนึ่งคือ อาสนวิหารสเตฟาน (St. Stephen's Cathedral )โบสถ์เก่าแก่ที่อยู่มาตั้งแต่ปี 1160ตัวอาสนวิหารสร้างด้วยหินปูนมีความยาว 107 เมตรกว้าง 70 เมตรและสูง 136.7 เมตรมีระฆังทั้งหมด 23 ใบใบใหญ่ที่สุดชื่อว่าระฆังพุมเมรินที่มีน้ำหนักถึง 20,130 กิโลกรัมถือเป็นระฆังแบบแกว่งที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรียและเป็นอันดับ 2 ของยุโรปรองจากระฆังปีเตอร์ของเยรมันเท่านั้นกล่าวกันว่าบิโทเฟ่นรู้ตัวว่าตนสูญเสียการได้ยินเพราะว่าเมื่อหันมองไปบนอาสนวิหารแห่งนี้แล้วเห็นนกบินออกจากหอระฆังแต่กลับไม่ได้ยินเสียงระฆังเหมือนเคย |
ค่ำ | บริการอาหารเย็นณภัตตาคาร เมนูพิเศษ Apple strudel ของหวานสุดคลาสสิคของเวียนา |
ที่พัก | IntercityHotel Wien หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว |
วันที่ 8 | เวียนนา - ท่าอากาศยานนานาชาติเวียนนา |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 8 | |
เช้า | บริการอาหารณห้องอาหารของโรงแรม ผ่านชม ถนนสายวงแหวน Ringstrasse ถนนที่ตัดผ่านอาคารสำคัญของเวียนนาอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นโรงละครโอเปร่าเวียนนาพิพิธภัณฑ์ต่างๆอาคารรัฐสภาตลอดจนถึงมหาวิทยาลัยเวียนนาอาคารเหล่านี้นั้นได้รับการบูรณะภายหลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่แม้จะสร้างใหม่ขึ้นมาทางการก็ยังคงสถาปัตยกรรมในแบบดั้งเดิมอยู่ สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติเวียนนา (Flughafen Wien) เพื่อให้ท่านได้มีเวลาทำการคืนภาษี (Vat Refund) |
14.35 น. | ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯประเทศไทย โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG937 **บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง **พีเรียดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปจะออกจากสนามบินนานาชาติเวียนนาเวลา13.30น.** |
วันที่ 9 | สุวรรณภูมิกรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 9 | |
05.20 น. | ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ด้วยความประทับใจ |
Address
240/26 (A Tower) Ayothaya Building 16th Floor, Ratchadapisek Soi 18, Huay Kwang, BKK 10320
ทุกวัน : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel