วันที่ 1 | กรุงเทพฯ |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
18.30 น. | คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เชคอิน U (แถว U 14-18) ประตูทางเข้าที่ 9 หรือ 10 อาคารผู้โดยสาร เคาน์เตอร์ สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ |
21.45 น. | ออกเดินทางสู่ นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบิน TK 65 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.25 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำและอาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี |
วันที่ 2 | อิสตันบูล - วิลนิอุส (ประเทศลิทัวเนีย พักค้าง 2 คืน) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
04.00 น. | เดินทางถึง กรุงอิสตันบูลแวะเปลี่ยนเครื่อง เที่ยวบิน TK1409 อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีภายในสนามบินอิสตันบูล |
08.10 น. | ออกเดินทางจาก สนามบินอิสตันบูล (IST) สู่ สนามบินวิลนิอุส (VNO)โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส สายการบินมีบริการอาหารเช้าบนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 3 ช.ม.) |
11.00 น. | เดินทางถึง สนามบินวิลนิอุส ประเทศลิทัวเนีย นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านเที่ยวชม เมืองวิลนิอุส (Vilnius) เมืองหลวงของประเทศลิทัวเนีย เมืองใหญ่และสวยงามที่สุดของประเทศ ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ บริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำวิลเนีย และแม่น้ำเนริ โดยวิลนิอุสมีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ มีโบสถ์และวิหารมากมาย จึงได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของยุโรปในปี ค.ศ. 2009 นำท่านเข้าชมโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ แอนด์ พอล (St. Peter and Paul Church) โบสถ์ในคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิค ซึ่งถือเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกในแบบลิทัวเนียบาร๊อค ของศตวรรษที่ 17 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี โดยตัวโบสถ์ดั้งเดิมเป็นโบสถ์ไม้ แต่ได้ถูกทำลายในช่วงสงคราม โบสถ์ที่เห็นในปัจจุบันคือโบสถ์ที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ นำท่านชมภายในตัวโบสถ์ที่ได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม จากนั้นนำท่านเข้าชม โบสถ์รัสเซี่ยนออโธดอกซ์ (Russian Orthodox Church) สถานที่ซึ่งฝังร่างนักบุญทั้งสาม ST.Anthony, ST.John, ST.Eustathius ซึ่งเสียชีวิตลงในปีค.ศ.1347 และได้รับเกียรติให้ฝังร่างไว้ ณ โบสถ์แห่งนี้ นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์ Cathedral Basilica โบสถ์สีขาวใจกลางเมือง สถานที่ซึ่งเป็นที่สักการะของชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิค และเป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งเนื่องจากเป็นที่ฝังร่างของดยุควิเทาทัส (Duke Vytautas) ดยุคผู้ยิ่งใหญ่ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | ระดับ 4 ดาว Radisson Blu Hotel **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 1) |
วันที่ 3 | วิลนิอุส (ลิทัวเนีย) - ทราไก - ปราสาททราไก |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองทราไก (Trakai) ระยะทาง 30 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที นำท่านเข้าชม ปราสาททราไก (Trakai Castle) ปราสาทสวยบนเกาะในทะเลสาบเกรฟ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เป็นปราสาทที่ท่านแกรนด์ดุ๊ก วีเทาทัส ประสงค์ใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลาย ก่อนที่จะกลายเป็นคุกในช่วงศตวรรษที่ 17 อีกด้านหนึ่งเป็นโบสถ์และสำนักสงฆ์ในนิกายเบเนดิกทีน ถึงแม้ว่าตัวปราสาทจะตั้งอยู่บนเกาะ แต่การเดินทางมายังตัวปราสาทนั้นค่อนข้างง่าย เนื่องจากมีสะพานเชื่อมติดต่อกันระหว่างชายฝั่งกับปราสาท นอกจากท่านจะได้ชมความงดงามของตัวปราสาทแล้วท่านยังจะได้ชมความงดงามของทะเลสาบเกรฟที่สวยงามไม่แพ้ที่ใดเช่นกัน อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงาม หรือจะเลือกจิบชา กาแฟริมทะเลสาบตามอัธยาศัย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงวิลนิอุส นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ KGB (KGB Museum) ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1992 โดยกระทรวงวัฒนธรรมแห่งลิทัวเนีย วัตถุประสงค์ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือสถานที่เก็บรวบรวมและนำเสนอประวัติศาสตร์เกี่ยวกับองค์กรเคจีบี หรืออดีตหน่วยงานกลาง ดูแลการข่าว ความมั่นคง ตำรวจสันติบาล และ กิจการชายแดนของสหภาพโซเวียต ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1954-1991 โดยเคจีบีถูกยุบไปหลังปีดังกล่าว สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่อดีตหัวหน้าเคจีบีได้ร่วมก่อกบฏต่อรัฐบาลซึ่งมีประธานาธิบดีกอร์บาชอฟดำรงตำแหน่งอยู่แต่ไม่สำเร็จ จากนั้นนำท่านสู่ห้างสรรพสินค้าแอคโครโปลิส (Akropolis Shopping Center) ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ประจำเมืองวิลนิอุส อิสระให้ท่านช้อปปิ้งซื้อของฝากหรือสินค้าแบรนด์เนม อาทิเช่น GEOX, GUESS, H&M, MANGO, PULLS&BEAR, ZARA และแบรนด์ท้องถิ่น อื่นๆมากมาย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | ระดับ 4 ดาว Radisson Blu Hotel **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2) |
วันที่ 4 | วิลนิอุส - โชว์เล่ย์ (ลิทัวเนีย) - เนินไม้กางเขน - บอสก้า (ลัตเวีย) - พระราชวังรุนดาเล่ - ริก้า (พักค้าง 2 คืน) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองโชว์เล่ย์ (Siauliai) (ระยะทาง 220 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.40 ชม.) เมืองที่เป็นศูนย์กลางทั้งทางด้านวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมที่สำคัญ รวมทั้งยังเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งของลิทัวเนีย โดยเมืองชัวเลย์ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1236 ซึ่งในอดีตตัวเมืองถูกเผาทำลายมากถึง 7 ครั้ง แต่ในปัจจุบันได้รับการฟื้นฟูดูแลจนกลายเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรือง และยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย นำท่านชม เนินไม้กางเขน (Hill of Crosses) สถานที่สำคัญทางศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิค ที่คริสต์ศาสนิกชนให้ความเคารพนับถือ โดยสุสานแห่งนี้กำเนิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 14 ซึ่งในอดีตไม้กางเขนจะถูกนำมาวางที่สุสานแห่งนี้ เวลาที่มีการต่อสู้กับผู้บุกรุก หรือเวลาที่มีการเรียกร้องอิสรภาพให้กับชาวลิทัวเนีย ซึ่งในปัจจุบันภายในสุสานแห่งนี้มีไม้กางเกงเขนจำนวนมากกว่าหนึ่งแสนอัน ซึ่งมีทั้งขนาดเล็กและใหญ่แตกต่างกันออกไป ทำให้สุสานไม้กางเขนแห่งนี้มีลักษณะเหมือนกับเนินเขาไม้กางเขน |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองบอสก้า (Bauska) ระยะทาง 94 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง นำท่านเข้าชม พระราชวังรุนดาเล่ (Rundale Palace) หนึ่งในงานสถาปัตยกรรมสไตล์บาร๊อค ออกแบบโดยสถาปนิกชาวรัสเซีย ซึ่งเคยเป็นสถานที่ประทับในช่วงฤดูร้อนของท่านดยุค Ernst Johann Biron และ Russian Empress Anna Ioannovna ปัจจุบันได้เปิดให้บริการเป็นพิพิธภัณฑ์ ซึ่งภายในยังคงการตกแต่งแบบโบราณ รวมถึงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์และเครื่องตกแต่งคฤหาสถ์ไว้อย่างวิจิตรและประณีต นอกจากนี้ท่านจะยังได้ชมสวนสไตล์ฝรั่งเศส ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามอันเต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้นานาพันธุ์ (ช่วงเวลาที่ดอกไม้บาน ขึ้นกับฤดูกาลในช่วงของเวลาเดินทาง) ได้เวลานำท่านเดินทางสู่กรุงริก้า เมืองหลวงของประเทศลัตเวีย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | ระดับ 4 ดาว Radisson Blu Daugava Riga Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) |
วันที่ 5 | ริก้า - ซิกุลด้า - ปราสาทซิกุลด้า - ปราสาททูไรด้า |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมือง ซิกุลด้า (Sigulda) (ระยะทาง 55 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เมืองเล็กๆซึ่งมีประชากรไม่ถึงสองหมื่นคนและไม่ห่างไกลจากนครริก้า มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องความสดใสงดงามของต้นเชอรี่ยามผลิใบในฤดูใบไม้ผลิช่วงเดือนพฤษภาคม นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโปรดปรานของชาวลัตเวียในยามฤดูหิมะ นำท่านเข้าชม ปราสาทซิกุลด้า (Sigulda Castle) คฤหาสน์สไตล์โกธิค สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1878 เพื่อใช้เป็นบ้านพักอาศัยของตระกูล Kropotkin และถูกผลัดเปลี่ยนเจ้าของมาหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งถูกใช้เป็นสถานที่ทำการของสภาปกครองแคว้นซิกุลด้าในปี ค.ศ.1993 ได้เวลา นำท่านเข้าชม ปราสาททูไรด้า (Turaida Castle) สร้างขึ้นในปีค.ศ.1214 โดยอาร์คบิช็อปแห่งริก้า เป็นปราสาทก่ออิฐแบบโกธิค ซึ่งถูกสร้างต่อเติมและบูรณะมาหลายสมัยจนเป็นลักษณะของป้อมปราสาทที่สวยงาม แต่ในปี ค.ศ.1776 ปราสาทได้เสียหายอย่างหนักจากเหตุการณ์ไฟไหม้ และไม่ได้รับการบูรณะจนกระทั่งในช่วงทศวรรษที่ 1970 ได้รับการซ่อมแซมและเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองริก้า (Riga) นําท่านชม ย่านเมืองเก่าแห่งเมืองริก้า (Riga) ชมร่องรอยกําแพงเมืองโบราณ และ โบสถ์เซนส์ปีเตอร์ ที่งดงาม จากนั้นนำท่านชม อนุสาวรีย์อิสรภาพ (Freedom Monument) ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมืองริก้า สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1935 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงเหล่าทหารกล้าผู้เสียสละชีพในสงครามเรียกร้องอิสรภาพของลัตเวียระหว่างปี ค.ศ. 1918 – 1940 โดยอนุสาวรีย์แห่งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการประกาศอิสรภาพ และเสรีภาพของลัตเวีย มีความสูงถึง 42 เมตรด้านบนประดับด้วยรูปปั้นของหญิงสาวถือดาว 3 ดวงเชื่อมติดกัน ซึ่งสื่อความหมายถึงการรวมกันของภูมิภาคทั้ง 3 ของประเทศลัตเวียนำท่านชม เขตเมืองเก่าของเมืองริก้า นำชม โบสถ์เซนต์จาคอบ (St. Jacob Church) เป็นโบสถ์คาทอลิกที่โดดเด่นที่สุดในย่านเมืองเก่า นำท่านชม โดมสแควร์ (Dome Square) มีโบสถ์ประจำเมืองริก้า อยู่ริมจัตุรัส สร้างเมื่อปี 1211 ข้างในมี ออร์แกนขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป โบสถ์แห่งนี้มาซ่อมแซมอีกครั้ง แล้วเสร็จตอนปี 1999 เพื่อให้ทันฉลองพร้อมกับรัสเซียที่ครบรอบก่อตั้งกรุงมอสโกมา 850 ปี นำท่านชมโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ที่มีลิฟท์บริการให้นักท่องเที่ยวขึ้นชมวิวเมืองริก้าแบบพาโนรามา |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น พร้อมชมการแสดงพื้นเมือง |
ที่พัก | ระดับ 4 ดาว Radisson Blu Daugava Riga Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2) |
วันที่ 6 | พาร์นู (เอสโตเนีย) - ทานลินน์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองพาร์นู (Parnu) (ระยะทาง 168 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ช.ม.) เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองรีสอร์ทตากอากาศริมทะเลที่มีชื่อเสียงเมืองหนึ่งของเอสโตเนีย มีรีสอร์ต โรงแรม ร้านอาหาร และชายหาดหลายแห่ง ตั้งเป็นเมืองราวปี 1251 และได้ถูกโปแลนด์เข้ายึดครองตั้งแต่ ค.ศ. 1561 ต่อจากนั้นสวีเดนได้ยึดครองตั้งแต่ ค.ศ. 1629 และรัสเซียเข้ายึดครองระหว่าง ค.ศ. 1710-1918 เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองรีสอร์ทตากอากาศริมทะเลที่มีชื่อเสียงเมืองหนึ่งของเอสโตเนีย ในช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อน เมืองพาร์นูจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว นำท่านชม บ้านไม้ (Wooden House) สไตล์อาร์ตนูโว และแบบแอสโทเนียนดั้งเดิมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนกลายเป็นต้นแบบบ้านเรือนที่นำไปสร้างในสไตน์บอลติค นำท่านแวะถ่ายรูปกับ ศาลาว่าการเมือง (Parnu City Hall) จากนั้นนำท่านเดินเล่นภายในตัวเมืองพาร์นู บริเวณพาร์นูเมนสตรีท (Parnu Main Street) |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองทาลลินน์ (Tallinn) (ระยะทาง 127 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ช.ม.) เมืองหลวงและเมืองท่าหลักของประเทศเอสโตเนีย ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลบอลติกทางด้านเหนือของประเทศ ถือเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามในช่วงยุคกลางรวมทั้งบริเวณเชิงเขาในเมืองยังคงมีกำแพงเมืองโบราณหลงเหลืออยู่ นอกจากนี้บริเวณโดยรอบเมืองยังเต็มไปด้วยสวนสาธารณะที่มีหญ้าเขียวขจี มีดอกไม้นานาพันธุ์ ที่ช่วยแต่งแต้มสีสันให้กับเมืองเล็กๆแห่งนี้ให้ดูสดใส นำท่านเข้าชม พระราชวังแคทเดอริค พระราชวังที่สร้างขึ้นโดยซาร์ปีเตอร์ที่ 1 แห่งรัสเซียในศตวรรษที่ 18 สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักของจักรพรรดิแคทเธอรีน ออกแบบโดยสถาปนิกอิตาเลียนชื่อ NICCOLO MICHETTI จากกรุงโรม ในปี 1930 พระราชวังแห่งนี้ได้กลางเป็นสำนักงานใหญ่แห่งรัฐของประเทศเอสโตเนีย เป็นพระราชวังที่ออกแบบในสไตล์แบบบาร็อค ล้อมรอบด้วยสวนอันงดงาม |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตาคารจีน |
ที่พัก | ระดับ 4 ดาว Radisson Blu Hotel Olumpia **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | ทาลลินน์ (เอสโตเนีย) - ช้อปปิ้ง - อิสตันบูล |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเที่ยวชม จัตุรัสเมืองเก่าของทาลลินน์ (Tallinn Old Town Square) ย่านศูนย์กลางของเมืองที่ได้รับการรับรอง จากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1997 ใน อดีตเป็นสถานที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า ใช้เป็นที่เฉลิมฉลอง เทศกาลต่างๆ ของเมือง รวมทั้งเป็นที่ประหารชีวิตนักโทษอีก นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์อเล็กซานเดอร์เนฟสกี้ โบสถ์ใหญ่และมียอดโดมกลมที่ใหญ่ที่สุดในทาลลินน์ นำท่านเข้าชม โบสถ์ ST.Mary Church หรือ Dome Church สร้างขึ้นโดยชาวเดนมาร์ก เป็นโบสถ์สไตล์โกธิคภายใต้พื้นหน้าประตูโบสถ์บรรจุ โลงศพของ Orro Johann Thuve |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านสู่ ย่านช้อปปิ้ง อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองหรือสินค้าแบรนด์เนมต่างๆที่ ย่านถนนวิรู (Viru Street) ให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากก่อนเดินทางกลับ |
15.30 น. | นำท่านสู่ สนามบินทานลินน์ เพื่อเชคอินและทำคืนภาษี (Tax Refund) |
18.15 น. | ออกเดินทางสู่ สนามบินอิสตันบูล โดยเที่ยวบิน TK1422 |
21.35 น. | เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้ง หรือ เลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีตามอัธยาศัย |
วันที่ 8 | กรุงเทพมหานคร |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 8 | |
01.25 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ เที่ยวบินที่ TK68 (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง) |
15.00 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE) |
Address
240/26 (A Tower) Ayothaya Building 16th Floor, Ratchadapisek Soi 18, Huay Kwang, BKK 10320
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel