วันที่ 1 | กรุงเทพฯ - ดูไบ |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
19.00 น. | พร้อมกันที ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์ สายการบินเอมิเรตส์ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตูที่ 9 เคาน์เตอร์เช็คอินแถว T เจ้าหน้าทีรอต้อนรับอำนวยความสะดวก |
21.05 น. | ออกเดินทางสู่ ดูไบ **เพื่อเปลี่ยนเครื่อง** โดย สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK373 บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง (ใช้เวลาบินประมาณ 06.45 ชั่วโมง) |
วันที่ 2 | ดูไบ - โจฮันเนสเบิร์ก - พริทอเรีย - จัตุรัสกลางเมือง - พิพิธภัณฑ์วูร์เทรคเกอร์ - อิสระช้อปปิ้ง |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
00.50 น. | เดินทางถึง สนามบินดูไบ (DXB) **รอเปลี่ยนเครื่อง 03.10 ชั่วโมง** |
04.05 น. | ได้เวลานำท่านออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติ O.R. Tambo โจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ โดย สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK761 บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง (ใช้ระยะเวลาประมาณ 8.10 ชั่วโมง) |
10.15 น. | ถึง สนามบิน O.R. Tambo โจฮันเนสเบิร์ก ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง (นักท่องเที่ยวชาวไทยได้รับการยกเว้นการขอวีซ่าสามารถพำนักในแอฟริกาใต้ได้ 30วัน) จากนั้นนำคณะออกเดินทางสู่ เมืองพริทอเรียเมืองแห่งดอกไม้สีม่วง (Pretoria) เมืองหลวงด้านการบริหารของแอฟริกาใต้เมืองนี้ ตั้งตามชื่อของแอนดีส์ พรีทอรีอัส (Andries Pretorius) วีรบุรุษของการต่อสู้รบระหว่างพวกบัวร์ (Boer) กับชนพื้นเมืองผิวดำ พริทอเรีย จึงเป็นเมืองหลวงของชาวบัวร์ที่พยายามต่อสู้กับพวกอังกฤษเพื่อให้ได้อิสรภาพ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานทูตนานาชาติ ธนาคาร ทำเนียบประธานาธิบดีและที่ทำการรัฐบาล วุฒิสภาจะจัดประชุมขึ้นที่เมืองพริทอเรีย สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นและอาจถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของเมืองคือ ต้นแจ๊กการันดา (Jacaranda) ที่มี ดอกสีม่วงสดบานสะพรั่งดั่งเช่น ซากุระของชาวญี่ปุ่น เมืองนี้ได้สมญานามว่า "City of Jacarandas" ซึ่งจะออกดอกบานสะพรั่งให้ได้เห็นกันในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี |
เที่ยง | รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคารอาหารจีน (มื้อที่ 1) |
บ่าย | นำท่านเที่ยวชมสถานที่สำคัญของเมือง บริเวณจัตุรัสกลางเมือง (CHURCH SQUARE) ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์พอล ครูเกอร์ (Paul Kruger Monument) ประธานาธิบดีของรัฐอิสระชาวบัวร์ จัตุรัสแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ชาวบัวร์มาชุมนุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการปกครองและรับรู้ข่าวสารบ้านเมืองกัน ผ่านชม ทำเนียบประธานาธิบดี (UNION BUILDING) ที่ทำการของรัฐบาลที่ใหญ่โตมโหฬารราวกับพระราชวัง จนติดอันดับว่าเป็นทำเนียบประธานาธิบดีที่สวยที่สุดในโลก ให้ท่านได้อิสระถ่ายรูปคู่กับรูปปั้น อดีตประธานาธิปดีเนลสัน แมนเดลา (Nelson Mandala) ที่ยืนตระหง่านอยู่เหนือสวน แมนเดลา เข้ารับตำแหน่งที่นี่เมื่อปี 1994 เป็นประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกตามระบอบประชาธิปไตยคนแรกของแอฟริกาใต้ เข้าชม พิพิธภัณฑ์วูร์เทรคเกอร์ (Voortrekker Monument & Museum) ศูนย์รวมจิตใจของชนผิวขาวเชื้อสายดั้งเดิมของชาวบัวร์ อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงการเดินทางอพยพของพวกบัวร์จากปลายแหลมของทวีป เข้าสู่ใจกลางประเทศแอฟริกาใต้และร่วมฉลองครบรอบ 100 ปีของการสู้รบกับชาวพื้นเมือง นำท่านเดินทางกลับสู่ โจฮันเนสเบิร์ก เพื่อรับประทานอาหารเย็น |
เย็น | รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารไทย (มื้อที่ 2) หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ นำท่าน อิสระช้อปปิ้งย่าน Sandton City |
ที่พัก | โรงแรม Park Inn Sandton ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | โจฮันเนสเบิร์ก - อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก (มื้อที่ 3) |
08.00 น. | นำคณะถึง สนามบิน O.R. Tambo เพื่อเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ |
10.00 น. | เหินฟ้าสู่ สนามบิน MQP Nelspruit |
10.50 น. | เดินทางถึง สนามบิน MQP Nelspruit จากนั้นนำคณะเดินทางสู่ โรงแรมที่พักเพื่อวางสัมภาระและทานอาหารกลางวัน |
เที่ยง | รับประทานอาหารเที่ยง ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 4) |
บ่าย | นำท่านขึ้นรถเปิดหลังคาเพื่อชมความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณนานาชนิดภายในอุทยานแห่งนี้และเมื่อดวงอาทิตย์ตก ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์ส่องสัตว์ในช่วงพลบค่ำ อาจจะเจอนักล่าที่กำลังล่าเหยื่อในช่วงเวลานี้ก็เป็นได้ |
ที่พัก | โรงแรม Sabi River Sun ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ - ตามล่าหา Big 5 |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าแบบกล่อง (มื้อที่ 6) วันนี้เราจะใช้เวลาทั้งวันใน อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ เพื่อส่องสัตว์และหา สิงโต, เสือดาว, ควายป่า, แรด และ ช้างแอฟริกา (Big 5) |
เที่ยง | รับประทานอาหารเที่ยงแบบบุฟเฟ่ต์ (มื้อที่ 7) |
บ่าย | ใช้เวลา ตามล่าหา Big 5 และดูวิถีชีวิตของสัตว์ต่าง ๆ กันต่อ |
เย็น | รับประทานอาหารเย็นแบบบุฟเฟ่ต์ (มื้อที่ 8) |
ที่พัก | โรงแรม Sabi River Sun ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ - เคปทาวน์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | ตื่นเช้าเพื่อไปดู วิถีชีวิตของเหล่าสัตว์ป่ายามเช้า รับประทานอาหารเช้าแบบกล่อง (มื้อที่ 9) |
11.00 น. | นำคณะเดินทางถึง สนามบิน MQP Nelspruit เพื่อเดินทางสู่ เคปทาวน์ |
เที่ยง | บริการอาหารเที่ยงแบบ Lunch Box (มื้อที่ 10) |
13.15 น. | เหินฟ้าสู่ สนามบินเคปทาวน์ |
15.45 น. | เดินทางถึง สนามบินเคปทาวน์ จากนั้นนำคณะเดินทางสู่ โรงแรมที่พักเพื่อเชคอินและวางสัมภาระ |
เย็น | รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารจีน (มื้อที่ 11) |
ที่พัก | โรงแรม The Commodore Hotel ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | เคปทาวน์ - Cape Peninsula - เกาะดุยเกอร์ - หาดโบว์เดอร์ - แหลมกู๊ดโฮป - สวนพฤกษศาสตร์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก (มื้อที่ 12) ชมความงามของชายฝั่งบริเวณ Cape Peninsula ลัดเลาะสู่ชายหาดที่สวยสะดุดตา ข้ามยอดเขาอันสวยงามที่มีชื่อเสียงก้องโลก Chapman’s Peak ท่านจะได้ชมภูมิประเทศที่แปลกตาอันน่าประทับใจ ซึ่งในปัจจุบันเป็นสถานทีตั้งของที่พักตากอากาศอันหรูหรา จากนั้นนำท่านสู่ หมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ที่ Hout Bay เพื่อนำท่าน นั่งเรือชมฝูงแมวน้ำ ที่แสนน่ารักนอนอาบแดดอุ่นนับพันตัวที่ เกาะดุยเกอร์ (Duiker Island) ** ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ** |
เที่ยง | รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคารแบบตะวันตก ด้วยเมนูซีฟู๊ดกุ้งมังกร (มื้อที่ 13) |
บ่าย | จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ บริเวณ Simon’s Town ซึ่งเป็นอาณานิคมของฝูงนกเพนกวินพันธุ์แอฟริกัน Jackass ขนาดเล็กแสนน่ารักนับพันตัวที่ หาดโบว์เดอร์ (Boulder Beach) มีลักษณะเท้าเป็นสีดำ เปลือกตาสีชมพู เป็น 1 ใน 15 ชนิดในโลกที่ใกล้จะสูญพันธุ์ จากนั้นนำท่านเที่ยวชม แหลมแห่งความหวัง หรือ แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) อยู่ในเขตสงวน Cape of Good Hope Nature Reserve ปลายสุดแหลมมีประภาคารขนาดใหญ่ จะเห็นรอยตะเข็บที่มหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแอตแลนติกมาบรรจบกันได้ชัดเจน บนผิวน้ำซึ่งเป็นเหตุให้บริเวณนี้ ท้องทะเลมักมีหมอกลงจัดอากาศแปรปรวน ทั้งนี้เพราะกระแสน้ำอุ่นและกระ แสน้ำเย็นมาปะทะกัน ทำให้ยากต่อการเดินทางโดยทางเรือทั้งในสมัยโบราณและปัจจุบัน ทัศนะวิสัยไม่ดีนักทำให้เรือชนหินโสโครกหรือชนกันเองเสมอๆ จนก่อให้เกิดเรื่องราวของภาพหลอน มิติอันลี้ลับและเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับฟลายอิ้งดัตช์แมน Flying Dutchman ซึ่งเป็นชื่อเรือที่นักเดินทางเรือชาวดัตช์ ที่พยายามจะเดินทางอ้อมผ่านแหลมกู๊ดโฮป ให้ได้แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ทำให้เรือสูญหายไปในทะเลท่ามกลางหมกหนาทึบจนทุกวันนี้ และจุดชมวิวที่สวยที่สุดคือ Cape Point เคปพอยท์ นำท่านเดินทางสู่ Kirstenbosch Botanic Garden เป็นหนึ่งในสวนพฤกษศาสตร์ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ที่เชิงเขา Table Mountain เริ่มต้นก่อตั้งในปี ค.ศ. 1913 โดยที่ครบรอบ 100 ปี ในปี ค.ศ. 2013 ที่ผ่านนี่เอง เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่จึงสร้างสะพานลอยฟ้าในปี ค.ศ. 2013-2014 และเปิดให้บริการแบบสาธารณะเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ปี ค.ศ. 2014 โดยมีวัตถุประสงค์ในการอนุรักษ์ไม้ดอกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นของอเมริกาใต้ ถือเป็น 1 ใน 7 ของสวนพฤกษศาสตร์ดีที่สุดในโลก สวนแห่งนี้ยังมีต้นไม้ที่ปลูกเป็นแนวรั้วที่โด่งดังที่สุดในโลก โดยในปี 1660 มีการปลูกพุ่มไม้หนามเพื่อปกป้องอาณาเขตของอาณานิคมของชาวดัชท์ และแนวรั้วต้นไม้นี้ก็ยังคงอยู่ตราบเท่าทุกวันนี้ และเป็นมรดกของเมือง (Provincial Heritage Site) อีกด้วย นำท่านชมการจัดแสดงพันธุ์ไม้จากเขตต่าง ๆ ของแอฟริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากเขตแห้งแล้งทางตอนบน และทางฝั่งตะวันตกของประเทศซึ่งติดกับประเทศนามีเบีย เชิญชมความงามของหมู่มวลไม้ดอกอันสวยสดในเนื้อที่ 1,380 เอเคอร์ และเพลิดเพลินกับพันธุ์ไม้ที่อวดโฉมความงดงามตามอัธยาศัย จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร |
เย็น | รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารแบบตะวันตก (มื้อที่ 14) |
ที่พัก | โรงแรม The Commodore Hotel ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | เคปทาวน์ - Groot Constantia - ฟาร์มนกกระจอกเทศ - ดูไบ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก (มื้อที่ 15) นำท่านเดินทางสู่ แหล่งผลิตไวน์เก่าแก่ที่สุดใน Cape Town นามว่า Groot Constantia ไวน์เอสเตทที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบดัชต์ ที่นี่เป็นที่แรกที่เริ่มการปลูกองุ่น Groot Constantia ได้ผลิตไวน์และกวาดรางวัลต่าง ๆ มาแล้วมากมาย เป็นแหล่งผลิตผลิตไวน์ชั้นดี มีห้อง Tasting ไว้ให้สำหรับนักท่องเทียวที่ต้องการทดลองชิมไวน์ รสชาติ ต่าง ๆ เช่น ไวน์แดง ไวน์ขาว และมีบริการให้ซื้อกลับในราคาย่อมเยาอีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางไป สัมผัสชีวิตสัตว์อันป็นเอกลักษณ์อีกอย่างของเมือง คือ นกกระจอกเทศ ณ ฟาร์มเลี้ยงนกกระจอกเทศ ที่มีชื่อเสียงของเมือง West Coast Ostrich Farm เรียนรู้เรื่องราวอันน่าสนใจยิ่งของนกกระจอกเทศ ที่มีจุดเด่นคือ เป็นสัตว์ปีกขนาดใหญ่แต่แทนที่จะใช้ปีกบินกลับมีความชำนาญในการใช้ขาวิ่งได้อย่างรวดเร็วที่สุดในโลกเลยเลยทีเดียว แถมปัจจุบันยังเป็นสัตว์เศรษฐกิจสำคัญของประเทศอีกด้วย |
เที่ยง | รับประทานอาหารเที่ยงอาหารพื้นเมือง เมนูจากเนื้อและไข่ของนกกระจอกเทศ (มื้อที่ 16) |
15.00 น. | นำคณะถึง สนามบินนานาชาติเคปทาวน์ |
18.20 น. | ออกเดินทางสู่ ดูไบ **เพื่อเปลี่ยนเครื่อง** โดย สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK771 บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง (ใช้เวลาบินประมาณ 09.25 ชั่วโมง) |
วันที่ 8 | ดูไบ - กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 8 | |
05.45 น. | เดินทางถึง สนามบินดูไบ (DXB) **รอเปลี่ยนเครื่อง 03.00 ชั่วโมง** |
08.45 น. | ได้เวลานำท่านออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดย สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK370 บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง (ใช้ระยะเวลาประมาณ 6.30 ชั่วโมง) |
18.15 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ |
Address
240/26 (A Tower) Ayothaya Building 16th Floor, Ratchadapisek Soi 18, Huay Kwang, BKK 10320
ทุกวัน : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel