วันแรก | กรุงเทพฯ – สิงคโปร์ – เคปทาวน์ (ประเทศแอฟริกาใต้) |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันแรก | |
18.00 น. | คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็กอิน K ประตูทางเข้าที่ 5 อาคารผู้โดยสาร เคาน์เตอร์ สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส (SQ) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ |
21.00 น. | ออกเดินทางสู่ สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ โดยเที่ยวบิน SQ 981 (ใช้เวลาบินประมาณ 2.25 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ มีบริการอาหารค่ำระหว่างเที่ยวบินสู่สิงคโปร์ |
วันที่สอง | เคปทาวน์ – ไร่องุ่น – ลิ้มลองไวน์ – ภูเขาโต๊ะ – วอเตอร์ฟร้อนท์ – ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดิน |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่สอง | |
00.25 น. | เดินทางถึง สนามบนชางงี ประเทศสิงคโปร์ แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน |
01.25 น. | ออกเดินทางสู่ เมืองเคปทาวน์ โดย สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน SQ 478 (ใช้เวลาบินประมาณ 14 ชั่วโมง) |
09.25 น. | เดินทางถึง สนามบิน เมืองเคปทาวน์ (Cape Town) ประเทศ สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร |
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเคปทาวน์ เมืองซึ่งตั้งอยู่ในแหลมทางใต้สุดของประเทศ เมืองเคปทาวน์ เป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศ และยังมีแหลมต่างๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ แหลมกู๊ดโฮป และแหลมอากุลฮาส ซึ่งตั้งอยู่ปลายใต้สุดของทวีปแอฟริกา และยังเป็นจุดที่มหาสมุทรแอตแลนติคและมหาสมุทรอินเดียมาบรรจบกัน บริเวณเมืองริมฝั่งทะเลของเคปทาวน์นี้เป็นเส้นทางที่น่าเที่ยวที่สุด และมีวิวทิวทัศน์ที่งดงามน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง นำท่านเดินทาง เมืองสเตลเลนบอช (Stllenbosch) (ระยะทาง 50 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เมืองสเตลเลนบอช เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างหุบเขาและธรรมชาติ แต่ก็มีเพชรเม็ดงามด้านสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์และความงดงามทางธรรมชาติให้ได้สัมผัส เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1679 โดยเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่เป็นอันดับสองของแอฟริกาใต้ ประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ถ่ายทอดออกมาผ่าน Cape Dutch และสถาปัตยกรรมแบบจอร์เจียนและวิคตอเรียนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ Stellenbosch เป็นคำที่มีความหมายเดียวกับคำว่าไวน์ และเป็นเมืองเจ้าของเส้นทางสายไวน์ที่เก่าแก่มากที่สุดในแอฟริกาใต้ ซึ่งเส้นทางนี้มีโรงไวน์รวมมากกว่า 130 แห่ง นำท่านเดินทางสู่ โรงงานผลิตไวน์และไร่องุ่น อันเลื่องชื่อของแอฟริกาใต้ ให้ท่านได้ลิ้มลองชิมไวน์ (Wine Testing) จากไร่แห่งนี้ | |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารภายในไร่ |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เทเบิ้ลเม้าท์เท่น (Table Mountain) หรือภูเขาโต๊ะ นำท่าน นั่งกระเช้าไฟฟ้า ขึ้นสู่ เทเบิ้ลเม้าท์เท่น (Table Mountain) (***ทั้งนี้การให้บริการของกระเช้า ขึ้นกับสภาพอากาศในวันนั้นๆเพื่อความปลอดภัยของผู้มาเยือน) เทเบิ้ลเม้าท์เท่น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ หนึ่งในมรดกโลกซึ่งรับรองโดยองค์การยูเนสโก้เมื่อปี ค.ศ.2000 เป็นภูเขาสูงยอดตัดตรงเหมือนกับโต๊ะ ขึ้นมาด้านบนมีเส้นทางเดินลัดเลาะไปตามแนวขอบเขา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวรอบด้านได้อย่างชัดเจน ไกลไปจนถึงตัวเมืองเคปทาวน์ นำท่านถ่ายรูปกับ ไลอ้อนเฮด (Lion head) ภูเขาที่มองดูแล้วใครๆ ก็ต้องพูดว่าคล้ายหัวสิงโตในเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าภูเขาลูกนี้จะมีสีแดงสวยงามยิ่งนัก จากนั้นเดินทางสู่ วิคตอเรียแอนด์อัลเฟรด วอเตอร์ฟร้อนท์ (Victory & Alfred Waterfront) เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ อัดแน่นด้วยร้านค้าแบรนด์เนมและเอ้าท์เลทกว่า 450 ร้านค้า อาทิเช่น ARMANI, GUCCI, GUESS, LOUIS VUITTON, MANGO, TAG HEUER, TIMBERLAND, ZARA, ETC อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย ได้เวลานำท่าน ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดิน ในอ่าวเทเบิ้ลเบย์ (Table Bay) พร้อมจิบไวน์ ดื่มด่ำกับธรรมชาติแห่งเมืองเคปทาวน์ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพยามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าอันเป็นอีกหนึ่งทัศนียภาพที่สวยงามยิ่งแห่งแอฟริกาใต้ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | The Commodore Hotel Cape Town **** หรือเทียบเท่า (พักค้าง 2 คืน) |
วันที่สาม | แหลมกู๊ดโฮป – ฟาร์มนกกระจอกเทศ – เกาะแมวน้ำ – นกเพนกวิน |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่สาม | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางชมความงามของแนวชายฝั่งบริเวณ เคปเพนนินซูล่า (Cape Peninsular) ลัดเลาะแนวชายหาดบนเส้นทางโรแมนติก และข้ามยอดเขาอันสวยงามที่มีชื่อเสียงก้องโลกอย่างแชปแมนพีค (Chapman’s peak) ซึ่งท่านจะได้สัมผัสทัศนียภาพอันแปลกตา จากนั้นนำท่านผ่านชม หมู่บ้านชาวประมง ณ ฮูทเบย์ (Hout Bay) เพื่อนำท่าน นั่งเรือเฟอร์รี่ไปยัง เกาะแมวน้ำ (Seal Island) บริเวณอ่าวฮูทเบย์ ริมมหาสมุทรแอตแลนติก เพื่อชมแมวน้ำแอฟริกาใต้หรือพันธุ์เคปเฟอร์ซีล ซึ่งสายพันธุ์นี้จะอาศัยอยู่แค่สองแห่งบนโลก คือที่แอฟริกาใต้และทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย ตื่นตาตื่นใจกับฝูงแมวน้ำมากมายบริเวณรอบเกาะแห่งนี้ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ ชายหาดโบลเดอร์ (Boulder Beach) ชมอาณาจักรของ เพนกวินพันธุ์ แอฟริกัน ที่มีอยู่อย่างมากมายและสีสันที่เราคุ้นตา ด้วยขนาดตัวสูงเกือบหนึ่งเมตร โดยตัวผู้จะมีสีสันมากกว่าตัวเมีย โดยเฉพาะบริเวณขอบตาจะมีสีชมพู คล้ายแต้มสีอายแชโดว์ไว้อย่างนั้น ส่วนตัวเมียจะไม่มีลำตัวมีสีดำขาวตัดกัน แต่ตัวเมียมีสีน้ำตาล และมีขนาดใหญ่กว่า อิสระให้ท่านถ่ายรูปและชมความน่ารักของเหล่าเพนกวินที่เป็นเจ้าของอาณาจักรแห่งนี้ นำท่านเดินทางสู่ แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) อยู่ในเขตสงวนธรรมชาติ Cape of Good Hope National Reserve ปลายสุดแหลมมีประภาคารขนาดใหญ่จะเห็นรอยตะเข็บที่มหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแอตแลนติกมาบรรจบกันได้ชัดเจนบนผิวน้ำ ซึ่งเป็นเหตุให้บริเวณนี้ท้องทะเลมักมีหมอกลงจัดอากาศแปรปรวน ทั้งนี้เพราะกระแสน้ำอุ่นและกระแสน้ำเย็นมาปะทะกันทำให้ยากต่อการเดินทางโดยทางเรือทั้งในสมัยโบราณ อิสระให้ท่านเก็บภาพบรรยากาศ ณ จุดชมวิวที่สวยที่สุดที่ Cape Point ให้ท่านได้เก็บภาพปลายสุดของทวีปแอฟริกาตามอัธยาศัย ได้เวลานำท่านออกเดินทางสู่ ฟาร์มนกกระจอกเทศกู๊ดโฮป แหล่งรวมของนกกระจอกเทศหลายสายพันธุ์อีกแห่งหนึ่งของเมืองเคปทาวน์ และรวมไปถึงนกสายพันธุ์อื่นๆ ชมการเลี้ยงนกกระจอกเทศที่ทันสมัย สัมผัสวงจรชีวิตของนกกระจอกเทศอย่างใกล้ชิด สนุกกับการป้อนอาหารนกกระจอกเทศ อิสระให้ท่านถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับสัตว์ปีกขนาดใหญ่ที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก และอิสระให้ท่านได้ซื้อสินค้าที่ผลิตจากไข่นกกระจอกเทศ และของฝากท้องถิ่นอื่นๆอีกมากมาย |
ค่ำ | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (เมนูกุ้งมังกร) |
ที่พัก | The Commodore Hotel Cape Town**** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2) |
วันที่สี่ | เคปทาวน์ – โจฮันเนสเบิร์ก – ซันซิตี้ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่สี่ | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม |
07.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเคปทาวน์ เพื่อเชคอิน |
08.50 น. | ออกเดินทางจากสนามบินเคปทาวน์ สู่ สนามบินโจฮันเนสเบิร์ก โดยเที่ยวบิน SA316 (ใช้เวลาบินประมาณ 2 ช.ม.) |
10.45 น. | เดินทางถึง สนามบินโจฮันเนสเบิร์ก |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ ซันซิตี้ (Sun City) หรือ (The Lost City) เมืองลับแลแห่งหุบเขาแสงตะวัน ซันซิตี้ เป็นเมืองที่ถูกเนรมิตขึ้นจากความคิดของอภิมหาเศรษฐีที่ชื่อว่า ซอล เคิร์ซเนอร์ (Sol Keznner) ที่ลงทุนด้วยเงินจำนวนมหาศาลถึง 28,000 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างนาน 18 ปี และความพยายามอีกล้นเหลือในการเนรมิตผืนดินอันว่างเปล่าและแห้งแล้งในแคว้นกลางอัฟริกาใต้ ให้กลายเป็นเมืองแห่งความสำราญและความบันเทิงทุกรูปแบบ โดยการเริ่มสร้างโรงแรมไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ โรงแรมเดอะซันซิตี้ (Sun City Hotel) โรงแรมเดอะคาบานาส (The Cabanas) โรงแรมเดอะคาสเคทส์ (The Cascades) จนในปี ค.ศ. 1992 เขาก็ได้สร้างโรงแรมที่หรูราคาแพงที่สุดในบรรดาโรงแรมทั้งหลายที่ได้กล่าวมานามว่า เดอะพาเลซ (The Palace) ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียนผสมแอฟริกัน และตกแต่งภายในในสไตล์แอฟริกัน (ข้อแนะนำ : หากท่านต้องการเที่ยวชมอาณาจักรแห่งนี้ อย่าลืมพกบัตรผ่าน (กุญแจห้องพัก) ไปด้วย เพราะบางสถานที่และกิจกรรมบางประเภทถูกสงวนไว้สำหรับแขกที่มาพัก The Palace เท่านั้น) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรม |
ที่พัก | THE PALACE HOTEL ***** |
วันที่ห้า | ซันซิตี้ – มาบูลาลอดจ์ – Game Drive ส่อง Big 5 |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ห้า | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านชม สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งจำลองทะเลน้ำจืดเข้ามาไว้ในโรงแรมเดอะพาเลซ ที่รู้จักกันในนาม Valley of Wave (หากท่านต้องการลงเล่นน้ำในทะเลเทียม รบกวนเตรียมชุดว่ายน้ำไปด้วย ซึ่งสระแห่งนี้สงวนสิทธิ์ให้ผู้เข้าพักเดอะพาเลซเท่านั้น) ทะเลน้ำจืดแห่งนี้มีลักษณะเหมือนทะเลจริงๆ แวดล้อมด้วยขุนเขาและต้นไม้ที่จัดตกแต่งอย่างเป็นระเบียบสวยงาม รวมไปถึงคลื่นยักษ์เทียมที่คอยโถมกระหน่ำสร้างความตื่นเต้นให้กับเราได้ไม่รู้เบื่อ จากนั้นนำท่านชม สะพานแห่งกาลเวลา Bridge of Time ซึ่งสองฟากฝั่งของสะพานจะมีรูปปั้นช้างขนาดใหญ่เรียงราย สะพานนี้เชื่อมต่อกับกองหินมหึมา ที่เชื่อว่าเป็น The Lost City ที่สูญหายไป และเพื่อเป็นการตอกย้ำระลึกถึงความทรงจำจึงได้สร้างสะพานแห่งนี้ขึ้น ทุกๆ หนึ่งชั่วโมงสะพานจะถูกเขย่าเสมือนแผ่นดินไหว ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ มาบูลาเกมลอดจ์ (Mabula Game Lodge) |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารในลอดจ์ |
บ่าย | นำท่านสู่ Mabula Game Reserve อาณาเขตทุ่งหญ้าสงวนพันธุ์สัตว์ป่าในเขตจังหวัดลิมโปโป (Limpopo Province) นำท่านสัมผัสประสบการณ์นั่ง รถขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD (Game Drive) เพื่อชมชีวิตสัตว์ป่าแอฟริกาบิ๊กไฟว์ (BIG 5) ประกอบด้วย ช้างแอฟริกา, สิงโต, เสือดาว, แรดแอฟริกัน และควายป่า นอกจากนี้ยังมีสัตว์ป่าหายากอื่นๆให้ท่านได้ตื่นตาตื่นใจตลอดระยะการชมซาฟารี อาทิเช่น แอนทีโลป ม้าลาย ไฮยีน่า ซึ่งจะทำให้ท่านได้รับความประทับใจและตื่นเต้นกับประสบการณ์ครั้งนี้ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ภายในลอดจ์ |
ที่พัก | Mabula Game Lodge **** หรือเทียบเท่า |
วันที่หก | Game Drive – พริทอเรีย – โจฮันเนสเบิร์ก |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่หก | |
เช้าตรู่ | นำท่านออกชม สัตว์และสัมผัสบรรยากาศของอุทยานมาบูลา ในช่วงเช้าตรู่ (Early Morning Game Drive) ให้ท่านสัมผัสทั้งบรรยากาศ พฤติกรรมของสัตว์บางชนิดที่ออกหากินในตอนเช้าตรู่ และสัตว์ที่กลับจากการล่าเหยื่อในตอนกลางคืน พร้อมชมบรรยากาศยามพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางธรรมชาติ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองพริทอเรีย (Pretoria) หรือที่รู้จักกันในนาม เมืองแห่งดอกไม้สีม่วง เนื่องจากเต็มไปด้วยต้นแจ็กการันดา (Jacaranda) ที่มีดอกสีม่วงสดบานสะพรั่ง ซึ่งจะออกดอกบานสะพรั่งอวดโฉมให้ผู้เดินทางมาเยือนเมืองนี้ได้เห็นกันในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี เมืองพรีทอเรียนับเป็นเมืองหลวงด้านการบริหารของแอฟริกาใต้ เป็นที่ตั้งของสถานทูตนานาชาติ ธนาคาร ทำเนียบประธานาธิบดี ฯลฯ ภายในเมืองมีการจัดวางผังเมืองอย่างดีและสวยงามเป็นระเบียบ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น ลิ้มลองเมนู Carnivore |
บ่าย | นำท่านผ่านชม ศาลาเทศบาลเมือง (City Hall) ที่มีหอนาฬิกาและมีระฆัง 32 ใบ และออร์แกนลม 6,800 ท่อ ด้านหน้าอาคารมีอนุสาวรีย์แอนดรีส์ พรีทอรัส และลูกชาย ผู้ก่อตั้งเมืองพริทอเรีย นำท่านแวะถ่ายรูปกับ ทำเนียบประธานาธิบดี (Union Building) สถานที่ทำการของรัฐบาลที่ใหญ่โตมโหฬารราวกับพระราชวัง จนติดอันดับว่าเป็นทำเนียบประธานาธิบดีที่สวยที่สุดในโลก นำท่านเดินทางสู่ เมืองโจฮันเนสเบิร์ก (Johannesburg) หรือที่ชาวแอฟริกาใต้เรียกกันสั้นๆว่า “โจเบิร์ก” เป็นเมืองธุรกิจมาตั้งแต่เมื่อร้อยกว่าปีก่อน และได้รับฉายาว่า The Gold City ในช่วงศตวรรษที่ 20 มีการแบ่งแยกสีผิว ทำให้เกิดชุมชน ต่างผิวขึ้นคนละมุมเมือง โดยแยกเป็นเมืองคนขาว คือ SANDTON และเมืองคนดำคือ SOWETO ในปัจจุบันโจเบิร์กเต็มไปด้วยผู้คนและอาคารสูงทันสมัย ตัวเมืองโจฮันเนสเบิร์กทุกวันนี้มีลักษณะไม่ต่างกับเมืองใหญ่ทั่วโลก เพราะพลุกพล่านไปด้วยผู้คนและตึกสูงระฟ้า |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Park Inn Santon Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่เจ็ด | โจฮันเนสเบิร์ก ซิตี้ทัวร์ – สิงคโปร์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่เจ็ด | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเที่ยวชม เมืองโจฮันเนสเบิร์ก (Johannesburg) เมืองโจฮันเนสเบิร์ก เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศแอฟริกาใต้ และเป็นเมืองหลวงของจังหวัดเกาเทง (Gauteng) อันเป็นเขตที่มั่งคั่งและเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่ใหญ่สุดของแอฟริกาใต้ เป็นเขตเมืองใหญ่ติดอันดับ 40 ของโลกและเป็นหนึ่งในสองเมืองระดับโลกของแอฟริกาที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก นอกจากนี้โจฮันเนสเบิร์กยังเป็นเมืองใหญ่ที่สุดที่ตั้งอยู่บนดินแดนที่ไม่ถูกแวดล้อมด้วยทะเลสาบ แม่น้ำ และแหล่งน้ำอื่นๆ นำท่านผ่านชมย่านฮิลโบลว์ ซึ่งเป็นที่ตั้งขอหอโทรคมนาคมซี่งสูงเด่นเห็นมาแต่ไกล ผ่านชมตึก คาร์ลตัน เซ็นเตอร์ (Carlton Center), ผ่านชมศาลสูงแห่งแอฟริกาใต้ และ ศูนย์บัญชาการ Anglo American จากนั้นนำท่านผ่านชม Constitution Hill ซึ่งอดีตเคยเป็นที่คุมขังนักโทษในแอฟริกาใต้ นำท่านผ่านชม สะพานเนลสัน สะพานแขวนที่มีทัศนียภาพสวยงาม |
11.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ สนามบินโจฮันเนสเบิร์ก เพื่อเชคอิน |
13.45 น. | ออกเดินทางจากสนามบินโจฮันเนสเบิร์ก สู่ สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ โดยเที่ยวบิน SQ479 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.25 ชั่วโมง) สายการบินบริการอาหารค่ำ และ อาหารเช้าระหว่างเที่ยวบิน |
วันที่แปด | สิงคโปร์ – กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่แปด | |
06.10 น. | เดินทางมาถึง สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ แวะเปลี่ยนเครื่อง |
07.10 น. | ออกเดินทางสู่ ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ SQ 970 (ใช้เวลาบินประมาณ 2.25 ชั่วโมง) สายการบินฯ มีบริการอาหารเช้าระหว่างเที่ยวบิน |
08.35 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE) |
Address
240/26 (A Tower) Ayothaya Building 16th Floor, Ratchadapisek Soi 18, Huay Kwang, BKK 10320
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel