สะพานไม้อูเบ็ง สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก
ชม พระราชวังมัณฑะเลย์ พระราชวังที่สร้างด้วยไม้สักที่สวยงาม
ชมวิวพระอาทิตย์อัสดงที่ ยอดเขามัณฑะเลย์
ร่วมพิธีล้างหน้าพระพักตร์พระมหามัยมุนี
สักการะ เจดีย์ชเวสิกอง 1 ใน 5 มหาสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า
** ค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่นและทิปพนักงานขับรถ 1,500 บาท/ท่าน/ทริป **
วันที่ 1 | กรุงเทพฯ(ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) - มัณฑะเลย์(ท่าอากาศยานนานาชาติมัณฑะเลย์) - พระเวรสนาเจดีย์ (เจดีย์หยก) - พระตำหนักไม้สักชเวนานดอว์ - วัดกุโสดอ - ชมวิวยอดเขามัณฑะเลย์ |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
09.00 น. | พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์ F โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ |
11.50 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงมัณฑะเลย์ โดยสายการบิน บางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG709 (มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) |
13.20 น. | เดินทางถึง เมืองมัณฑะเลย์ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นที่เมียนมาร์ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง) นำท่านเดินทางสู่ ตัวเมืองมัณฑะเลย์ ระหว่างทางนำท่านแวะชม พระเวรสนาเจดีย์ (WeirawsanaZedi) เป็นเจดีย์หยกที่ใหญ่ที่สุดในโลก กว้างด้านละ 40.6 เมตร บนเนื้อที่ 5 เอเคอร์ (12.5 ไร่) ยกพื้นสูงจากระดับถนนเกือบ 3 เมตร ทำให้องค์พระเจดีย์หยกสูงกว่า 20 เมตร ทั้งภายใน และภายนอกประดับประดาด้วยแผ่นหยก กับก้อนหยก รวมเป็นมูลค่าราว 15 ล้านดอลลาร์ (495 ล้านบาท) เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่ง นำท่านชม วัดกุโสดอ (Kuthodaw Pagoda) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ทำการ สังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 5 โดยมีแผ่นศิลาจารึกพระไตรปิฎกทั้งหมด 84,000 พระธรรมขันธ์ นำท่านชม พระตำหนักไม้สักชเวนานดอว์ (Golden Palace Monastry) พระตำหนักนี้สร้างด้วยไม้สักทั้งหลังงดงามตามแบบศิลปะพม่าแท้ๆวิจิตรตระการด้วยลวดลายแกะสลักประณีตอ่อนช้อยทั้งหลังคาบานประตูและหน้าต่าง โดยเน้นรายละเอียดเกี่ยวกับพุทธประวัติและทศชาติของพระพุทธเจ้า สร้างโดยพระเจ้ามินดงในปี พ.ศ. 2400 ซึ่งเป็นปีที่พระองค์ย้ายราชธานีจากอมรปุระมาอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์เพื่อเป็นพระตำหนักยามแปรพระราชฐานแต่หลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์ พระเจ้าธีบอหรือ สีป่อ พระโอรสก็ทรงยกพระตำหนักนี้ถวายเป็นวัดถือได้ว่าเป็นงานฝีมือที่ประณีตของช่างหลวงชาวมัณฑะเลย์อย่างแท้จริง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เขา Mandalay Hill ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวัง เขาลูกนี้สูง 240 เมตรซึ่งเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของเมืองมัณฑะเลย์ซึ่งอยู่บนยอดเขา สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองมัณฑะเลย์เกือบทั้งเมืองชมพระอาทิตย์ลับฟ้าอันสวยงามบนยอดเขามัณฑะเลย์ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก |
ที่พัก | Victoria Palace หรือเทียบเท่า |
วันที่ 2 | มัณฑะเลย์ - มิงกุน - ระฆังยักษ์มิงกุน - เจดีย์พญาเธียรดาน - ชมวิวเจดีย์พร้อมชมพระอาทิตย์ตกดิน - พุกาม |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม ออกเดินทางสู่ ท่าเรือริมแม่น้ำอิรวดี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที นำทุกท่านล่องเรือข้ามฟาก สู่ ราชธานีเก่าของพระเจ้าปดุง เมืองมิงกุน ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากนั้น ชมมหาเจดีย์ยักษ์ มิงกุน ถึงท่าเรือนั่งรถ ชมซากเจดีย์ขนาดใหญ่ ร่องรอยแห่งความทะเยอทยานของพระเจ้าปดุง ที่ใช้แรงงานทาส และนักโทษนับพันคนในการก่อสร้าง โดยตั้งพระทัยว่าจะสร้องให้สูงใหญ่กว่าพระปฐมเจดีย์แห่งสยาม และให้พระองค์สามารถทอดพระเนตร ได้จากเมืองอังวะที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำอิรวดี แต่ด้วยงบประมาณที่บานปลาย ประกอบกับปัญหาขาดแคลนแรงงาน จำทำให้การก่อสร้างล่าช้า และในที่สุดพระองค์ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน ในปี พ.ศ. 2363 หลังพ่ายแพ้ไทยในสงคราม 9 ทัพ เจดีย์องค์นี้ จึงสร้างได้แค่ฐาน หลังจากนั้นองค์เจดีย์ก็ถูกทิ้งร้างเรื่อยมา แต่เพียงฐานก็นับว่าใหญ่โตมาก หากสร้างเสร็จจะมีขนาดใหญ่และสูงที่สุดในโลก นำทุกท่านชม ระฆังยักษ์มิงกุน สร้างเมื่อ พ.ศ.2351 โดยพระเจ้าปดุง สร้างถวายแด่เจดีย์มิงกุน มีน้ำหนัก 90 ตัน สูง 4 เมตร ปากระฆังกว้าง 5 เมตร ในอดีตระฆังองค์นี้ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากระฆังแห่งพระราชวังแครมลิน ในกรุงมอวโก ประเทศรัสเซีย แต่ระฆังเครมลินแตกไปแล้ว ปัจจุบันระฆัง หลังจากนั้นชมเจดีย์สีขาวบริสุทธิ์ ที่สร้างบนฐาน 7 ชั้น รูปเกลียวคลื่นงดงาม เจดีย์พญาเธียรดาน สร้างขึ้นเมืองปี พ.ศ. 2329 เพื่อให้เปรียบเสมืองเจดีย์จุฬามณี ที่ตั้งอยู่เหนือเขาพระสุเมรุ ตามความเชื่อในไตรภูมิพุทธศาสนาที่ว่า คือแกนกลางจักรวาล ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยสัตตบริพันธ์ และมหานทีสีทันดรทั้ง 7 ชั้น พระเจดีย์แห่งนี้ยังถุกสร้างให้เป็นสักขีพยานรักของราชนิกุลอังวะ โดยพระเจ้าบากะยีดอว์ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักที่มีต่อพระมเหสีชินพิวเม ที่สิ้นพระชนม์ไปก่อนที่พระเจ้าบากะยีดอว์จะขึ้นครองราชย์ แม้จะไม่ใช่หินอ่นเหมือนทัชมาฮาล แต่ก็ได้รับสมญานามว่า ทัชมาฮาลแห่งลุ่มอิรวดี |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ออกเดินทางสู่เมือง พุกาม โดยรถบัสปรับอากาศ เมืองพุกาม (Bagan) ดินแดนแห่งเจดีย์หมื่นองค์ที่มีอายุกว่า 2,000ปี ของกษัตริย์อนุรุทมหาราชแห่งอาณาจักรพุกาม นำท่านไปชมวิวเจดีย์เมืองพุกามเหมาะแก่การชมวิวพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น หรือวิวพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าตรู่ หมายเหตุ : หากไม่สามารถนำคณะมาชมวิวพระอาทิตย์ตกดินได้ทันจะนำคณะมาชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นช่วงเช้าตรู่ของอีกวันแทน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Su Thein San Hotel หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | พุกาม - ตลาดยองอู - วัดอนันดา - วิหารธรรมยังยี - เจดีย์ชเวสิกอง - วัดติโลมินโล - มัณฑะเลย์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | บริการอาหารเช้าณห้องอาหารของโรงแรม นำท่านชม ตลาดยองอู ตลาดใหญ่ของเมืองพุกามที่ขายสินค้าทุกชนิดทั้งเครื่องอุปโภค-บริโภค ข้าวปลาอาหาร ผักสด เสื้อผ้า ของที่ระลึกพื้นเมืองเหมาะสำหรับเดินชมและเลือกซื้อของฝากโดยเฉพาะเครื่องเขินที่พุกามถือว่าเป็นหนึ่งเพราะฝีมือปราณีตและออกแบบสวย นำชม วัดอนันดา (Ananda Temple) เป็นวัดสีขาว มองเห็นได้ชัดเจนสร้างเสร็จเมื่อปี 1091 ซึ่งวิหารแห่งนี้นับได้ว่าเป็นวิหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพุกาม มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีมุขเด็จยื่นออกไปทั้ง 4 ด้าน แผนผังเหมือนไม้กางเขนแบบกรีกซึ่งต่อมาเจดีย์แห่งนี้เป็นต้นแบบของสถาปัตย-กรรมพม่าในยุคต้นของพุกาม และสิ่งที่น่าทึ่งของวิหารแห่งนี้ก็คือ ที่ช่องหลังคาเจาะเป็นช่องเล็กๆ ให้แสงสว่างส่องลงมาต้ององค์พระ ทำให้มีแสงสว่างอย่างน่าอัศจรรย์ ชม เจดีย์ติโลมินโล เจดีย์แห่งนี้ได้รับการยกย่องว่ามีความสวยงามมากทั้งภายในและภายนอก วัดนี้สร้างแบบก่ออิฐถือปูน บนฐานกว้างด้านละ 43 เมตร องค์เจดีย์สูง 46 เมตร ภายในวิหารมีช่องบันได เดินขึ้นสู่ระเบียงชั้นบนได้ และวิหารแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นวิหารองค์สุดท้ายที่มีการสร้างในแบบสถาปัตยกรรมพุกาม ภายในวิหารมีพระพุทธรูป 4 องค์ที่ชั้นที่หนึ่งและชั้นที่สอง ภายในมีช่องแสงที่เมื่อส่องกระทบพระพุทธรูปแล้วมีความงดงาม นำชม วิหารธรรมยังยี (Dhammayangyi Temple) สร้างโดยพระเจ้านะระตู่ และพระองค์ก็เชื่อว่าเป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองพุกาม สร้างขึ้นเพื่อล้างบาป ด้วยทรงปริวิตกว่าผลกรรมจากการกระทำปิตุฆาตจะติดตามพระองค์ไปในชาติภพหน้า ตั้งโดดเด่นยิ่งใหญ่ตระหง่านดังตำนานที่โหดร้ายได้เล่าต่อกันมา สักการะ เจดีย์ชเวสิกอง (Shwezigon Pagoda) 1 ใน 5 มหาสถานสิ่งศักดิ์สิทธ์ของพม่าซึ่งเป็นสถูปดั้งเดิมของพม่าโดยแท้สร้างขึ้นหลังพระเจ้าอโนรธาขึ้นครองราชย์ เพื่อใช้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุจากพระสรีระหลายส่วนมีลักษณะเป็นสีทองขนาดใหญ่ ใช้เป็นทั้งที่ประชุมสวดมนต์และศูนย์กลางของพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทในพุกาม |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ออกเดินทางสู่เมือง มัณฑะเลย์ โดยรถบัสปรับอากาศ (ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก |
ที่พัก | Victoria Palace หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | มัณฑะเลย์ - ร่วมพิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุณี - สะพานไม้สักอูเบ็ง - พระราชวังมัณฑะเลย์มัณฑะเลย์ - ท่าอากาศยานนานาชาติมัณฑะเลย์ - กรุงเทพฯ(ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้าตรู่ | นำท่านร่วมพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ใน พิธีกรรมล้างหน้าพระพักตร์พระมหามัยมุนี (1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า)ถือเป็นต้นแบบพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ทรงเครื่องกษัตริย์ที่ได้รับการขนานนามว่า “พระพุทธรูปทองคำเนื้อนิ่ม” ที่พระเจ้ากรุงยะไข่ทรงหล่อขึ้นที่เมืองธรรมวดี เมื่อปี พ.ศ. 689 สูง 12 ฟุต 7 นิ้ว หุ้มด้วยทองคำเปลวหนา 2 นิ้ว ทรงเครื่องประดับทองปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 9 ฟุต ในปี พ.ศ. 2327 พระเจ้าปดุงได้สร้างวัดมหามุนี หรือวัดยะไข่ (วัดอาระกัน หรือวัดพยาจี) เพื่อประดิษฐานพระมหามัยมุนี และในปี พ.ศ.2422 สมัยพระเจ้า สีปอ ก่อนจะเสียเมืองพม่าให้อังกฤษได้เกิดไฟไหม้วัดทองคำ จึงทำให้ทองคำเปลวที่ปิดพระละลายเก็บเนื้อทองได้น้ำหนักถึง 700 บาท ต่อมาในปี พ.ศ.2426 ชาวพม่าได้เรี่ยไรเงินเพื่อบูรณะวัดขึ้นใหม่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมโดยสายการออกแบบของช่างชาวอิตาลีจึงนับได้ว่าเป็นวัดที่สร้างใหม่ที่สุดแต่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ที่สุดในเมืองพม่าโดยรอบๆระเบียงเจดีย์ยังมีโบราณวัตถุที่นำไปจากกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งกรุงแตกครั้งที่ 1 |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม ชม สะพานไม้อูเบ็ง (U-Ben) สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลกโดยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ชื่อว่าเสาอู เสาของสะพานใช้ไม้สักถึง 1,208 ต้นซึ่งมีอายุกว่า 200 ปีทอดข้าม ทะเลสาบตองตามัน (Toungthamon) จากนั้นนำท่านร่วมทำบุญถวายปัจจัย ณ วัดมหากันดายงค์ (MahaGandayon Monastery) ซึ่งเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของพม่าที่เมืองอมรปุระซึ่งในช่วงเพลจะมีภิกษุสงฆ์นับร้อยรูปเดินเรียงแถวด้วยอาการสำรวมเพื่อรับถวายภัตตาหารเพล จากนั้นนำท่านชม พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace) พระราชวังที่ส่วนใหญ่ก่อสร้างด้วยไม้สักที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียในสมัยสงครามมหา-เอเชียบูรพา หรือสงครามโลกครั้งที่ 2 วันที่ 20 มีนาคม 2488 เครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรโดยกองทัพอังกฤษได้ทิ้งระเบิดจำนวนมากมายถล่มพระราชวัง-มัณฑะเลย์ของพม่าด้วยเหตุผลว่าพระราชวังนี้เป็นแหล่งซ่องสุมกำลังของกองทัพญี่ปุ่นพระราชวังมัณฑะเลย์ซึ่งเป็นพระราชวังไม้สักก็ถูกไฟไหม้ เผาราบเป็นหน้ากลองหลงเหลือก็แต่ป้อมปราการและคูน้ำรอบพระราชวัง ที่ยังเป็นของดั้งเดิมอยู่ปัจจุบันพระราชวังที่เห็นอยู่เป็นพระราชวังที่รัฐบาลพม่าได้จำลองรูปแบบของพระราชวังของเก่าขึ้นมา สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินมัณฑะเลย์ |
14.05 น. | ออกเดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน บางกอกแอร์แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG710 (มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) |
16.30 น. | คณะเดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ |
** ลูกค้าท่านใดสนใจ ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ **
โปรดส่งเอกสารก่อนการเดินทางอย่างน้อย 10 วันทำการ
** ในกรณีที่มีพาสปอร์ตเล่มเก่าและซอง(ปก)ไม่ต้องแนบมาเพื่อป้องกันการสูญหาย หากแนบมาแล้วเกิดการสูญหายทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบในทุกกรณี **
** บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการโดยมิต้องแจ้งล่วงหน้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ การเมืองสายการบิน และราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม **
Address
300/50 Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
ทุกวัน : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel