สักการะ 9 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นสิริมงคล
1.เจดีย์ไจ๊เข้า | 2.พระเจดีย์เยเลพญา | 3.เจดีย์โบตาทาวน์
4.เจดีย์สุเล | 5.พระมหาเจดีย์ชเวดากอง | 6.เจดีย์กาบาเอ
7.เจดีย์ไจ๊กะส่าน | 8.เจดีย์เอ่งต่อหย่า | 9.เจดีย์เมียตซอนินเนือง
วันที่ 1 | กรุงเทพฯ - ย่างกุ้ง - เจดีย์ไจ๊เข้า - เทพทันใจไจ๊เข้า - สิเรียม - เจดีย์เยเลพญา - เจดีย์โบตาทาวน์ - เทพทันใจ - เทพกระซิบ - เจดีย์สุเล - พระมหาเจดีย์ชเวดกอง - ย่างกุ้ง | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |||||||||||||||||||
04.30 น. | พร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง อาคาร 1 ขาออก ชั้น 2 เคาน์เตอร์สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ประตู 6 Thai Lion Air (SL) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน | ||||||||||||||||||
07.35 น. | ออกเดินทางสู่กรุงย่างกุ้ง โดยเที่ยวบิน SL200 **ตั้งแต่ 27 ตุลาคม 62 ถึง 28 มีนาคม 63 ทางสายการบินมีการปรับเปลี่ยนเวลาเดินทางขาไป โดยออกจากสนามบินดอนเมือง กรุงทพฯ เวลา 06.45น. และถึงสนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง พม่า เวลา 07.35 น.** หมายเหตุ : เนื่องจากตั๋วเครื่องบินของคณะ เป็นตั๋วกรุ๊ประบบ Random ไม่สามารถล็อคที่นั่งได้ ที่นั่งอาจจะไม่ติดกันและไม่สามารถเลือกช่วงที่นั่งบนเครื่องบินได้ในคณะ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขสายการบิน | ||||||||||||||||||
08.25 น. | เดินทางถึง สนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นที่เมียนม่าร์ ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง) นำท่านแวะสักการะ เจดีย์ไจ๊เข้า (Kyaik Khauk Pagoda) ซึ่งเป็นเจดีย์ที่เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของพม่าถือเป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองสิเรียม พิเศษสุด!! ขอพรเทพทันใจไจ๊เข้า ซึ่งเป็นหัวหน้าของเทพทันใจในย่างกุ้งที่ไหนที่สร้างเทพทันใจต้องมาบรวงสรางขออนุญาตที่นี้ก่อนที่สำคัญ ใครอยากได้งานใหญ่เงินใหญ่คนพม่าจะมาขอที่นี้ ทั้งเรื่องงาน เงินและความสำเร็จ ถ้าจะนับแล้วองค์นี้เป็นเทพทันใจที่ใหญ่ที่สุดในย่างกุ้ง เดินทางสู่ เมืองสิเรียม (Thanlyin) ซึ่งอยู่ห่างจากย่างกุ้งประมาณ45 กิโลเมตรเมื่อเดินทางถึงสิเรียม ชมความสวยงามแปลกตาของเมือง ซึ่งเมืองนี้เคยเป็นเมืองท่าของโปรตุเกสในสมัยโบราณ ตั้งแต่ในสมัย นายพลฟิลิป เดอ บริโต ยี นิโคเต จนมาสิ้นสุดเมื่อปีพ.ศ.2156 ร่วมสมัยพระเจ้าทรงธรรมกรุงศรีอยุธยาท่านจะเห็นเศษซากกำแพงสไตล์ลูซิตาเนียนบาโรก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำย่างกุ้งที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำอิระวดี นำท่านนั่งเรือแจวชม พระเจดีย์เยเลพญา (Kyaik Hwaw Wun Pagoda) พระปางมารวิชัยอันงดงามบนเกาะกลางน้ำอายุนับพันปี เป็นที่สักการะของชาวสิเรียม เกาะนี้ไม่ว่าน้ำจะขึ้นสักเท่าไหร่ก็ไม่มีวันน้ำท่วมได้ ที่บริเวณท่าเทียบเรือบนเกาะ นำท่านไหว้สักการะเพื่อขอพร พระจกบาตร หรือ พระอุปคุป ที่เป็นที่นับถือของชาวพม่าสามารถซื้ออาหารเลี้ยงปลาดุกตัว ขนาดใหญ่นับร้อยๆ ตัวที่ว่ายวนเวียนให้เห็นครีบหลังที่โผล่เหนือผิวน้ำ ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางกลับ ย่างกุ้ง | ||||||||||||||||||
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร | ||||||||||||||||||
บ่าย | ชมเจดีย์โบตาทาวน์ สร้างโดยทหารพันนายเพื่อบรรจุพระบรมธาตุที่พระสงฆ์อินเดีย 8 รูป ได้นำมาเมื่อ 2,000 ปีก่อน ในปี 2486 เจดีย์แห่งนี้ถูกระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ากลางองค์จึงพบโกศทองคำบรรจุพระเกศาธาตุและพระบรมธาตุอีก 2 องค์ และพบพระพุทธรูปทองเงินสำริด 700 องค์ และจารึกดินเผาภาษาบาลี และตัวหนังสือพราหมณ์อินเดียทางใต้ ต้นแบบภาษาพม่า ภายในเจดีย์ที่ประดับด้วยกระเบื้องสีสันงดงาม และมีมุมสำหรับฝึกสมาธิ นำท่านขอพร นัตโบโบยี หรือ พระเทพทันใจ เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่าและชาวไทย วิธีการสักการะรูปปั้นเทพทันใจ (นัตโบโบยี) เพื่อขอสิ่งใดแล้วสมตามความปราถนาก็ ให้เอาดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วยหรือผลไม้อื่นๆมาสักการะ นัตโบโบยี จะชอบมาก จากนั้นก็ให้เอาเงินจะเป็นดอลล่า บาทหรือจ๊าด ก็ได้ (แต่แนะนำให้เอาเงินบาทดีกว่าเพราะเราเป็นคนไทย) แล้วเอาไปใส่มือของนัตโบโบยีสัก 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึงกลับมา 1 ใบ เอามาเก็บรักษาไว้จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของนัตโบโบยีแค่นี้ท่านก็จะสมตามความปรารถนาที่ขอไว้ จากนั้นนำท่านข้ามฝั่งไปอีกฟากหนึ่งของถนนเพื่อสักการะ เทพกระซิบ หรือ อะมาดอว์เมี๊ยะ ตามตำนานกล่าวว่านางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้ารักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัตซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้วซึ่งการขอพรเทพกระซิบต้องไปกระซิบเบาๆ ห้ามคนอื่นได้ยิน ชาวพม่านิยมขอพรจากเทพองค์นี้กันมากเช่นกันการบูชาเทพกระซิบ บูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้ นำท่านเข้าชม เจดีย์สุเล (Sule Pagoda) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่างกุ้ง เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม สีเหลืองทองอร่าม ภายในองค์เจดีย์บรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าเอาไว้ ณ เจดีย์แห่งนี้ ยังมีเทพทันใจองค์ที่โตที่สุด ที่ชาวพม่านับถือมากที่สุด และเชื่อกันว่าขออะไรจากท่าน ท่านจะประทานให้อย่างรวดเร็ว นำท่านชมและนมัสการ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagod) พระเจดีย์ทองคำคู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่าอายุกว่าสองพันห้าร้อยกว่าปีเจดีย์ทองแห่งเมืองดากอง หรือ ตะเกิง ชื่อเดิมของเมืองย่างกุ้ง มหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในพม่าสถานที่แห่งนี้มี ลานอธิษฐาน จุดที่บุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบท่านสามารถนำดอกไม้ธูปเทียน ไปไหว้ เพื่อขอพรจากองค์เจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและสิรมงคลนอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศรวม 8 องค์ หากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดตน จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตพระเจดีย์นี้ได้รับการบูรณะและต่อเติมโดยกษัตริย์หลายรัชกาลองค์เจดีย์ห่อหุ้มด้วยแผ่นทองคำทั้งหมดน้ำหนักยี่สิบสามตันภายในประดิษฐานเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวนแปดเส้นและเครื่องอัฐะบริขารของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนทั้งสามพระองค์บนยอดประดับด้วยเพชรพลอย และอัญมณีต่างๆจำนวนมากและยังมีเพชรขนาดใหญ่ประดับอยู่บนยอดบริเวณเจดีย์จะได้ชมความงามของวิหารสี่ทิศซึ่งทำเป็นศาลาโถงครอบด้วยหลังคาทรงปราสาทซ้อนเป็นชั้นๆงานศิลปะและสถาปัตยกรรมทุกชิ้นที่รวมกันขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของพุทธเจดีย์ล้วนมีตำนานและภูมิหลังความเป็นมาทั้งสิ้นชมระฆังใบใหญ่ที่อังกฤษพยายามจะเอาไปแต่เกิดพลัดตกแม่น้ำย่างกุ้งเสียก่อนอังกฤษกู้เท่าไหร่ก็ไม่ขึ้นภายหลังชาวพม่า ช่วยกันกู้ขึ้นมาแขวนไว้ที่เดิมได้จึงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีซึ่งชาวพม่าถือว่าเป็นระฆังศักดิ์สิทธิ์ให้ตีระฆัง 3 ครั้งแล้วอธิษฐานขออะไรก็จะได้ดั่งต้องการจากนั้นให้ท่านชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตรโดยจุดชมแต่ละจุดท่านจะได้เห็นแสงสีต่างกันออกไป
คำไหว้พระมหาเจดีย์ชเวดากอง | ||||||||||||||||||
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารชาบูชิ บุฟเฟ่ต์ เต็มอิ่มกับชาชูชิ สุกี้หม้อไฟและซูชิ สารพัดหน้าในเครือโออิชิ | ||||||||||||||||||
ที่พัก | PARK ROYALYANGON HOTEL หรือเทียบเท่า | ||||||||||||||||||
วันที่ 2 | ย่างกุ้ง - เจดีย์กาบาเอ - ทำพิธีครอบเศียร - เจดีย์ไจ้กะส่าน - เจดีย์เอ่งต่อหย่า - เจดีย์เมียตซอนินเนือง - ตลาดสก็อต | ||||||||||||||||||
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |||||||||||||||||||
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นเดินทางสู่ เจดีย์กาบาเอ (World Peace Pagoda) สร้างครั้งเมื่อปีพ.ศ. 2493-2495 โดยนายอูนุนายกรัฐมนตรีคนแรกของพม่า เพื่อใช้เป็นสถานที่ชำระพระไตรปิฎกครั้งที่ 6ในช่วงระหว่างปี พ.ศ.2497 - พ.ศ.2499 และเพื่อให้บังเกิดสันติสุขแก่โลก ล่าสุดใช้เป็นสถานที่ใช้ในการประชุมสงฆ์โลกเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2547 ที่ผ่านมาที่สำคัญเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมทั้งพระธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคลานะ โดยนำพระธาตุมาจากประเทศอินเดีย ร่วมทำพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ครอบเศียร ครอบเกล้า ด้วยพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งมีความเชื่อว่า “หากท่านใดได้ทำพิธีมงคลบูชารับพระธาตุ ท่านนั้นจะหมดเคราะห์ ตัดกรรม และมีโชคดีตลอดไป นอกจากนั้นยังมีพระมหามุนีจำลอง (สิ่งศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 5 ของพม่าองค์จริงอยู่ที่มัณฑะเลย์) เดินทางสู่ เจดีย์ไจ๊กะส่าน (kyaikkasan pagoda) ตั้งอยู่เมืองย่างกุ้ง สร้างขึ้นเมื่อพุทธศักราช 218 โดยกษัตริย์ ตีรี่ตำมาดอก้า แห่งอินเดีย ภายในบรรจุพระเกศา 16 เส้นและพระธาตุส่วนอื่นๆ 32 องค์เป็นชื่อภาษามอญว่า “ไจ๊ อะแส่น” ไจ๊ แปลว่า พระธาตุอะแส่น แปลว่า พระอรหันต์แปลรวม“พระธาตุสร้างในการนำของพระอรหันต์” ส่วนเส้นเกศาธาตุและพระธาตุที่เหลือ เลยแบ่งไปสร้างพระธาตุอีก 10 สถานที่ประจุบัน พม่าเลยมาเรียกออกเสียงสำเนียงพม่าว่า “ไจ๊กะสาน”จากชื่อมอญ“ไจ๊อะแส่น” พระธาตุอายุตั้งแต่สร้างมาถึงประจุบัน มีสองฟันกว่าปีแล้ว ตอนย่างกุ้งกลายเป็นเมืองร้างไม่มีใครอยู่ ยักษ์สองพี่น้อง ชื่อ “นองดอ องค์พี่ และ “นยีดอ”องค์น้อง รับหน้าที่ เฝ้าเกศาธาตุและพระธาตุ ที่บรรจุในพระธาตุไว้ เผื่อไม่ให้มีการขโมยแล้วเอาไปที่อื่นแล้วจะมีเจ้าที่ที่เฝ้าดูแลสถานที่ไว้ เพื่อไม่ให้มีการโกง ตามประวัติแล้วคนพม่าเลยมีความเชื่อว่า ถ้ามีคดีต่างๆที่ต้องประสพ ส่วนมากจะมาขอจากเทพไจ๊กะส่าน เพื่อความยุติธรรมและชนะคดีแล้ว กับยักษ์สองพี่น้องให้มาดูแล และอย่าให้สิ่งไม่ดีต่างๆ เข้ามาขวางในการยุติธรรมของคดี ชาวพม่านิยมมาไหว้สักการะขอพรในเรื่องคดีความต่างๆ นำท่านไปยัง เจดีย์เอ่งต่อหย่า (Eain taw Yar pagoda) สร้างโดยกษัตริย์ กงบาว ผู้มีชื่อเสียงและอำนาจในยุคกงบาว ท่านมีความศรัทธามาก โดยสร้างมากว่า 170 ปี Eain Taw แปลว่า บ้าน ที่พัก Yar แปลว่า ร่องรอยแปลรวมกัน (ร่องรอยของบ้านที่พัก)ตามประวัติแล้ว คนพม่ามีความเชื่อว่า สถานที่ พื้นที่ ถ้าคู่ควรกับคนไหน คนนั้นซึ้งจะได้เป็นเจ้าของ เลยมาขอเรื่องบ้าน ที่ดิน ที่จะคู่ควรกับตนเอง และในบริเวณพระธาตุ จะมีเทพ ที่ดูแลปกป้องรักษาสถานที่ด้วย สามารถไปกลับท่าน ให้ท่านประทานที่อยู่อาศัยที่คู่ควรกับตนขอในเรื่องที่อยู่ ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ | ||||||||||||||||||
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร | ||||||||||||||||||
บ่าย | เดินทางสู่ เจดีย์เมียตซอนินเนือง (Myat Saw Nyi Naung) ตามประวัติเล่าว่าพ่อค้า ตุมะนะ สองพี่น้อง มาทำการค้าขายที่ท่าเรือ จี้หมิ่นด่าย แล้วศรัทธาที่จะสร้างวัดให้แก่พระสงฆ์ในสมัยยุคอังกฤษครองพม่า สองพี่น้องเอาเงินกำไล มาสร้างวัด สร้างเจดีย์สององค์ สร้างศาลาให้ พระพุทธรูปมานอ่องหมื่นสะจ่าชิ่นซึ่งมีการกราบไหว้มาตั้งแต่กษัตริย์พม่า พระพุทธรูปดังกล่าวมีความเชื่อว่า พ่อค้าที่มาจากหลากหลายสถานที่จะมากราบไหว้ เพื่อที่จะชนะทุกๆอย่างในการดำเนินธุรกิจ ปัจจุบัน พ่อค้าและคนพม่ารวมทั้งผู้มีอำนาจในพม่า จะมาทำบุญขอพรจากพระพุทธรูป และขอพรเทพที่เฝ้าดูแล ย่านธุรกิจ ท่าเรือ ใกล้กับบริเวณ พระเจดีย์แม็ดซอนยีหน่องวัดแห่งนี้ อายุประมาณ 160 ปีแล้ว แต่ก็ยังมีการงทำบุญ สร้างวัดเพิ่ม ดูแลไว้ถึงปัจจุบันกันจากการบริจาคของประชาชนคนพม่า ขอพรในเรื่องชนะในเรื่องภยันตรายต่างๆ นำท่านสู่ ตลาดโบโจ๊ก อองซาน (Bogyoke Aung San) หรือ ตลาดสก๊อต (Scot Market) ตลาดเก่าแก่ของชาวพม่า สร้างขึ้นโดยชาวสก๊อตในสมัยที่ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เป็นลักษณะอาคารเรียงต่อกันหลายหลังสินค้าที่จำหน่ายในตลาดแห่งนี้มีหลากหลายชนิด เช่น เครื่องเงิน ที่มีศิลปะผสมระหว่างมอญกับพม่าภาพวาด งานแกะสลักจากไม้ อัญมณี หยก เสื้อผ้าสำเร็จรูป แป้งทานาคา (หากซื้อสิ้นค้าหรืออัญมณีที่มีราคาสูงควรขอใบเสร็จรับเงินด้วย ทุกครั้ง เนื่องจากจะต้องแสดงให้ศุลกากรตรวจ) สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติมิงกาลาดง | ||||||||||||||||||
20.45 น. | ออกเดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL207 | ||||||||||||||||||
22.45 น. | เดินทางถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม **ตั้งแต่ 27 ตุลาคม 62 ถึง 28 มีนาคม 63 ทางสายการบินมีการปรับเปลี่ยนเวลาเดินทางขากลับ ออกจากสนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง พม่า เวลา 19.35 น. และถึงสนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ เวลา 21.25 น.** |
**ขณะนี้รัฐบาลไทยและเมียนมาร์ได้ลงนามความตกลง ยกเว้นการตรวจลงตราผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา ผ่านท่าอากาศยานนานาชาติ และจะมีสิทธิพำนักในดินแดนของอีกฝ่ายหนึ่ง เป็นระยะเวลาไม่เกิน 14 วัน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2558 ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงจะต้องกลับมายื่นวีซ่าปกติอีก ทางทัวร์จะต้องเรียกเก็บค่าวีซ่าเพิ่มอีกท่านละ 1,000 บาท**
การจองทัวร์
กรณียกเลิก
กรณีเจ็บป่วย
เงื่อนไขอื่นๆ
**ก่อนตัดสินใจจองทัวร์ควรอ่านเงื่อนไขการเดินทางอย่างถ่องแท้แล้วจึงมัดจำเพื่อประโยชน์ของท่านเอง**
Address
300/50 Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
ทุกวัน : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel