ร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์ล้างพระพักตร์ พระมหามัยมุณี สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด 1 ใน 5 มหาบูชาสถาน
ชม สะพานไม้อูเบ็ง สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก ชมพระราชวังไม้สักชเวนานจอง
ชมความงดงาม พระราชวังมัณฑะเลย์ ชมวิวที่เขา มัณฑะเลย์ฮิลล์
ชม เจดีย์ชเวสิกอง เมืองพุกาม 1 ใน 5 มหาบูชาสถาน
ล่องแม่น้ำอิระวดีชม เมืองมิงกุน ระฆังมิงกุน เจดีย์มิงกุน และทัชมาฮาลพม่า
ชมโชว์หุ่นเชิด พุกาม และชม วัดกุโสดอ
วันที่ 1 :: | กรุงเทพฯ - มัณฑะเลย์ - นั่งรถสู่พุกาม - โชว์พื้นเมืองหุ่นเชิดพุกาม |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 :: | |
09.30 น. | พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 4 เคาท์เตอร์ F สายการบินบางกอกแอร์เวย์ Bangkok Airway (PG) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน |
12.05 น. | ออกเดินทางสู่ เมืองมัณฑะเลย์ โดยเที่ยวบิน PG 709 ** บริการอาหารบนเครื่อง** |
13.25 น. | เดินทางถึง สนามบินมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ เมืองพุกาม เมืองแห่งประวัติศาสตร์ของประเทศเมียนม่าร์ โดยรถบัสปรับอากาศ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) พักผ่อนบนรถตามอัธยาศัย |
ค่ำ | บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พร้อมชมโชว์เชิดหุ่นกระบอก ท่านจะได้ชมการ เชิดหุ่นที่ดูเหมือนมีชีวิตจริง พร้อมลิ้มรสอาหารพื้นเมือง |
ที่พัก | SU TIEN SAN HOTEL 4 STAR หรือเทียบเท่า |
วันที่ 2 :: | พุกาม - ทะเลเจดีย์ - เจดีย์ชเวซานดอว์ - วัดเจดีย์ชเวสิกอง - วัดอนันดา - วัดมนุหา - วัดกุบยางกี - วัดติโลมินโล - วัดสัญพัญญู - วิหารธรรมยันจี - นั่งรถกลับสู่มัณฑะเลย์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 :: | |
07.00 น. | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม จากนั้น นำท่านชม เมืองทะเลเจดีย์ ที่สวยงามและหมู่บ้านเก่าแก่เมืองพุกามที่ยังคงวิถีที่ชีวิตที่เรียบง่าย ณ จุดชมวิวทะเลเจดีย์ |
08.25 น. | นำท่านชม พระเจดีย์ชเวสิกอง (Shwezigon Pagoda) ซึ่งเป็นสถูปดั้งเดิมของพม่า โดยแท้ มีลักษณะเป็นสีทองขนาดใหญ่ สร้างขึ้นหลังพระเจ้าอโนรธาขึ้นครองราชย์ เพื่อใช้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จากพระสรีระหลายส่วน มีลักษณะเป็นสีทองขนาดใหญ่ ใช้เป็นทั้งที่ประชุมสวดมนต์ และศูนย์กลางของพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทในพุกาม ชม วัดอนันดา (Ananda Temple) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของกำแพงเมือง เป็นวัดสีขาว มองเห็นได้ชัดเจนสร้างเสร็จเมื่อปี 1091 ซึ่งวิหารแห่งนี้นับได้ว่าเป็นวิหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพุกาม มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีมุขเด็จยื่นออกไปทั้ง 4 ด้านซึ่งต่อมาเจดีย์แห่งนี้เป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมพม่าในยุคต้นของพุกาม และสิ่งที่น่าทึ่งของวิหารแห่งนี้ก็คือ ที่ช่องหลังคาเจาะเป็นช่องเล็กๆ ให้แสงสว่างส่องลงมาต้ององค์พระ ให้มีแสงสว่างอย่างน่าอัศจรรย์ จากนั้นพาท่านชม วัดมนุหา (Manuha Temple) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของหมู่บ้านมยินกะบา สร้างเมื่อปี 1059 โดยพระเจ้ามนูหะกษัตริย์แห่งมอญ เพื่อสั่งสมบุญไว้สำหรับชาติหน้า จึงได้นำอัญมณีบางส่วนไปขายมาสร้างวัดนี้ โครงสร้างวิหารค่อนข้างแคบ มีพระนอนหนึ่งองค์ กับ พระพุทธรูปอีกสามองค์นั่งเบียดเสียดอยู่ภายใน สะท้อนถึงความคับแค้นพระทัยของกษัตริย์เชลยพระองค์นี้เป็นอย่างดี |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านแวะชมสิ่งของขึ้นชื่อของพุกามก็คือ เครื่องเขิน (Lacquer Ware) ซึ่งยอมรับกันว่ามีชื่อเสียงที่สุดในพม่า เช่น ถ้วยน้ำ จานรอง โถใส่ของตั้งแต่ขนาดเล็กถึงใหญ่ หีบใส่ของต่างๆ สิ่งที่กำลังเป็นที่นิยมก็คือ โถใส่ของทำจากขนหางม้าสานกับโครงไม้ไผ่ มีขนาดเบาบางและบีบให้ยุบ แล้วกับไปคืนรูปได้ดังเดิม จากนั้นพาท่านเที่ยว วัดกุบยางกี (Gubyaukkyi Tempel) สร้างโดยพระโอรสของพระเจ้าจันสิทธะ สิ่งที่โดดเด่นคือ ภาพจิตกรรมฝาผนังที่งดงามที่สุดในพุกาม ที่ยังคงเหลืออยู่ จากนั้นเข้าชม วัดติโลมินโล (Htilominlo Temple) สร้างขึ้นเมื่อปี 1211 โดยพระบัญชาของพระเจ้านันต่าว-มยา เป็นพระโอรสในพระเจ้านรปติสิทธู ซึ่งเกิดกับนางห้ามผู้หนึ่ง และได้เสี่ยงทางเลือกให้เป็นราชทายาท เป็นวัดสูง 46 เมตร ยาว 43 เมตร เท่ากันทั้ง 4 ด้านมีพระพุทธรูปประดิษฐ์ฐานอยู่ทั้ง 4 ทิศ ทั้งสองชั้น มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันเก่าแก่กับลวดลายปูนปั้น อันประณีตสวยงาม สร้างโดยพระติโลมินโล เมื่อปี พ.ศ.1761 ซึ่งได้รับการยกย่องว่ามีความสวยงามมากทั้งภายในและภายนอก นมัสการ เจดีย์สัพพัญญู ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในเมืองพุกาม ชม วิหารธรรมยันจี (Dhammayangyt) สร้างโดยพระเจ้านะระตู่ และพระองค์ก็เชื่อว่าเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองพุกาม สร้างขึ้นเพื่อล้างบาป ด้วยทรงปริวิตกว่าผลกรรมจากการกระทำปิตุฆาตจะติดตามพระองค์ไปในชาติภพหน้า ตั้งโดดเด่นยิ่งใหญ่ตระหง่านดังตำนานที่โหดร้ายได้เล่าต่อกันมา ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองมัณฑะเลย์ โดยรถบัสปรับอากาศ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) |
ค่ำ | บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | โรงแรมระดับ 3 ดาว HOTEL YI LINK MANDALAY หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 :: | มัณฑะเลย์ - เมืองมิงกุน - หมู่บ้านมิงกุน - เจดีย์มิงกุน - ล่องแม่น้ำอิระวดี - ระฆังมิงกุน - พระราชวังมัณฑะเลย์ - พระราชวังไม้สักชเวนานจอง |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 :: | |
07.00 น. | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
08.05 น. | นำท่านสู่ เมืองมิงกุน โดยการล่องเรือไปตามแม่น้ำอิระวดีสู่มิงกุน จากท่าเรือใกล้เจดีย์ชเวไจยัต เขตเมืองอมรปุระ ทวนน้ำไปหมู่บ้านมิงกุน ซึ้งเป็นส่วนหนึ่งของอมรปุระ แต่อยู่บนเกาะกลางลำน้ำอิรวดีและไปได้ด้วยเส้นทางเรือเท่านั้นทว่ามีอนุสรณ์สถานที่แสดงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าปดุง ระหว่างทางจะได้เห็นหมู่บ้านอิรวดีที่มีลักษณะเป็น “กึ่งบ้านกึ่งแพ” เนื่องจากระดับน้ำอิรวดีในแต่ละฤดูกาลจะมีความแตกต่างกันมาก โดยเฉพาะฤดูน้ำหลาก ระดับน้ำจะขึ้นสูงกว่าฤดูแล้วกว่า 10 เมตร ชาวพม่าจึงนิยมสร้างบ้านกึ่งแพ คือถ้าน้ำขึ้นสูงก็ร่วมแรงกันยกบ้านขึ้นที่ดอนครั้นน้ำลงมากก็ยกบ้านมาตั้งใกล้น้ำเพื่อความสะดวกสบายในการใช้แม่น้ำในชีวิตประจำวัน นำท่านชม เจดีย์มิงกุน เจดีย์มิงกุน ร่องรอยแห่งความทะเยอทะยานของพระเจ้าปดุง ด้วยภายหลังทรงเคลื่อนทัพไปตียะไข่ แล้วสามารถชะลอพระมหามัยมุนีมาประดิษฐานที่มัณฑะเลย์เป็นผลสำเร็จ จึงทรงฮึกเหิมที่จะกระทำการใหญ่ขึ้นและยากขึ้น ด้วยการทำสงครามแผ่ขยายไปรอบด้าน พร้อมกับเกณฑ์แรงงานข้าทาสจำนวนมากก่อสร้างเจดีย์มิงกุนหรือเจดีย์จักรพรรดิเพื่อประดิษฐานพระทันตธาตุที่ได้จากพระเจ้ากรุงจีนโดยทรงมุ่งหวังให้ยิ่งใหญ่เทียบเท่ามหาเจดีย์ในสมัยพุกาม และใหญ่โตโอฬารยิ่งกว่าพระปฐมเจดีย์ในสยาม ซึ่งในเวลานั้นถือเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในสุวรรณภูมิ ส่งผลให้ข้าทาสชาวยะไข่หรืออาระกันจำนวน 50,000 คนหลบหนีการขดขี่แรงงานไปอยู่ในเขตเบงกอล เป็นดินแดนในอาณัติของอังกฤษแล้วทำการซ่องสุมกำลังเป็นกองโจรลอบโจมตีกองทัพพม่าอยู่เนืองๆโดยพม่ากล่าวหาว่าอังกฤษหนุนหลังกลายเป็นฉนวนให้เกิดสงครามอังกฤษ-พม่าอันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พม่าเสียเมืองในที่สุดอย่างไรก็ตามงานก่อสร้างเจดีย์มิงกุนดำเนินไปได้เพียง 7 ปี พระเจ้าปดุงเสด็จสวรรคต ภายหลังทรงพ่ายแพ้ไทยในสงครามเก้าทัพ มหาเจดีย์อันยิ่งใหญ่ในพระราชหฤทัยของพระองค์จึงปรากฏเพียงแค่ฐานทว่าใหญ่โตมหึมาดั่งภูเขาอิฐที่มีความมั่นคงถึง 50 เมตร ซึ่งหากสร้างเสร็จตามแผนจะเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดในโลก เพราะสูงถึง 152 เมตร ส่วนรอยแตกร้าวตรงกลางฐานเกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ระฆังมิงกุน ไม่ไกลจากฐานเจดีย์มิงกุนคือระฆังมิงกุนพระเจ้าปดุงโปรดฯให้สร้างโดยสำเร็จ เพื่ออุทิศทวายแด่มหาเจดีย์มิงกุน จึงต้องมีขนาดใหญ่คู่ควรกัน คือเป็นระฆังยักษ์ที่มีเส้นรอบวงถึง 10เมตร สูง 3.70 เมตร น้ำหนัก87ตัน เล่าขานกันว่า พระเจ้าปดุงทรงไม่ต้องการให้มีใครสร้างระฆังเลียนแบบจึงรับสั่งให้ประหารชีวิตนายช่างทันทีที่สร้างเสร็จ ปัจจุบันถือเป็นระฆังยักษ์ที่มีขนาดเล็กกว่าระฆังแห่งหนึ่งแห่งพระราชวังเครมลินในกรุงมอสโกเพียงใบเดียวทว่าระฆังเครมลินแตกร้าวไปแล้วชาวพม่าจึงภาคภูมิใจว่าระฆังมิงกุนเป็นระฆังยักษ์ที่ยังคงส่งเสียงก้องกังวานทั้งนี้เคยมีการทดสอบความกว้างใหญ่ของระฆังใบนี้ โดยให้เด็กตัวเล็กๆไปยืนรวมกันอยู่ใต้ระฆังได้ถึง 100 คน เจดีย์ชินพิวมิน (เมียะเต็งดาน) ประดิษฐานอยู่เหนือระฆังมิงกุนไม่ไกล ได้ชื่อว่าเป็นเจดีย์ที่สวยสง่ามากแห่งหนึ่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2359 โดยพระเจ้าบากะยีดอว์ พระราชนัดดาในพระเจ้าปดุง เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่พระองค์มีต่อพระมหาเทวีชินพิวมิน ซึ่งถึงแก่พิราลัยก่อนเวลาอันควร จึงได้รับสมญานามว่า “ทัชมาฮาลแห่งลุ่มอิรวดี” เจดีย์องค์นี้เป็นพุทธศิลป์ที่สร้างขึ้นด้วยภูมิจักรวาลคือมีองค์เจดีย์สถิตอยู่ตรงกลางณยอดเขาพระสุเมรุอันเชื่อกันว่าเป็นศูนย์กลางและโลกและจักรวาล ล้อมรอบด้วยขุนเขาและมหาสมุทรตามหลักไตรภูมิ หลังจากนั้นเดินทางกลับมายังมัณฑะเลย์ |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านชม พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace) พระราชวังที่ส่วนใหญ่ก่อสร้างด้วย ไม้สักที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย ในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพาหรือสงครามโลกครั้งที่ 2 วันที่ 20 มีนาคม 2488 เครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรโดยกองทัพอังกฤษได้ทิ้งระเบิดจำนวนมากมายถล่มพระราชวังมัณฑะเลย์ของพม่าด้วยเหตุผลว่าพระราชวังนี้เป็นแหล่งซ่องสุมกำลังของกองทัพญี่ปุ่นพระราชวังมัณฑะเลย์ซึ่งเป็นพระราชวังไม้สักก็ถูกไฟไหม้เผาราบเป็นหน้ากลองหลงเหลือก็แต่ป้อมปราการและคูนํ้ารอบพระราชวังที่ยังเป็นของดั่งเดิมอยู่ปัจจุปัน พระราชวังที่เห็นอยู่เป็นพระราชวังที่รัฐบาลพม่าได้จำลองรูปแบบของพระราชวังของเก่าขึ้นมา จากนั้น นำท่านไป พระราชวังไม้สักชเวนานจอง (Golden Palace Monastry) วังที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง งดงามตามแบบศิลปะพม่าแท้ๆ วิจิตรตระการด้วยลวดลายแกะสลักประณีตอ่อนช้อย ทั้งหลังคา บานประตูและหน้าต่าง โดยเน้นรายละเอียดเกี่ยวกับพุทธประวัติและทศชาติของพระพุทธเจ้า สร้างโดยพระเจ้ามินดงในปี พ.ศ. 2400 ซึ่งเป็นปีที่พระองค์ย้ายราชธานีจากอมรปุระมาอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์เพื่อเป็นตำหนักยามแปรพระราชฐาน แต่หลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์ พระเจ้าธีบอ หรือ สีป่อ พระโอรสก็ทรงยกวังนี้ถวายเป็นวัด ถือได้ว่าเป็นงานฝีมือที่ประณีตของช่างหลวงชาวมัณฑะเลย์อย่างแท้จริง |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ เมนูพิเศษ กุ้งเผา |
ที่พัก | โรงแรมระดับ 3 ดาว HOTEL YI LINK MANDALAY หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 :: | ร่วมพิธีล้างหน้าพระพักตร์พระมหามัยมุณี - อมรปุระ - สะพานไม้อูเบ็ง - มัณฑะเลย์ - กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 :: | |
04.00 น. | นำท่านนมัสการ พระมหามัยมุนี อันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด 1 ใน 5 แห่งของพม่า ถือเป็นต้นแบบพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ทรงเครื่องกษัตริย์ที่ได้รับการขนานนามว่า “พระพุทธรูปทองคำเนื้อนิ่ม” ที่พระเจ้ากรุงยะไข่ทรงหล่อขึ้นที่เมืองธรรมวดี เมื่อปี พ.ศ. 689 สูง 12 ฟุต 7 นิ้ว หุ้มด้วยทองคำเปลวหนา 2 นิ้ว ทรงเครื่องประดับทองปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 9 ฟุต ในปี พ.ศ. 2327 พระเจ้าปดุงได้สร้าง วัดมหามุนี หรือวัดยะไข่ (วัดอาระกัน หรือวัดพยาจี) เพื่อประดิษฐานพระมหามัยมุนี และในปี พ.ศ.2422 สมัยพระเจ้า สีปอ ก่อน จะเสียเมืองพม่าให้อังกฤษได้เกิดไฟไหม้วัดทองคำ จึงทำให้ทองคำเปลวที่ปิดพระละลายเก็บเนื้อทองได้นํ้าหนักถึง 700 บาท ต่อมาในปี พ.ศ.2426 ชาวพม่าได้เรี่ยไรเงินเพื่อบูรณะวัดขึ้นใหม่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมโดยสายการออกแบบของช่างชาวอิตาลีจึงนับได้ว่าเป็นวัดที่สร้างใหม่ที่สุดแต่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ที่สุดในเมืองพม่า โดยรอบ ๆ ระเบียงเจดีย์ยังมีโบราณวัตถุที่นำไปจากกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งกรุงแตกครั้งที่ 1 พร้อมทั้ง เชิญทุกท่านร่วมทำบุญบูรณวัดกุสินารา ซึ่งมีอายุหลายร้อยปี ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ สวยงามมาก จากนั้นกลับโรงแรม |
07.00 น. | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง อมรปุระ (Amrapura) เมืองแห่งผู้เป็นอมตะซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองมัณฑะเลย์ซึ่งเป็นราชธานีเพียง 76 ปี แห่งหนึ่งของพม่าก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ในปี พ.ศ.2400 จากนั้น นำท่านผ่านชมภูเขาสกายศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนาที่สำคัญ ท่านจะได้ชมทัศนียภาพของเมืองสกาย ลุ่มแม่นํ้าอิระวดี เจดีย์จำนวนมากมายที่ตั้งเรียงรายอยู่บนภูเขา และริมฝั่งแม่นํ้า ชม สะพานไม้อูเบ็ง (U-Ben) สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลกโดยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ชื่อว่าเสาอู เสาของสะพานใช้ไม้สักถึง 1,208 ต้นซึ่งมีอายุกว่า 200 ปีทอดข้าม ทะเลสาบคองตามัน ไปสู่วัดจอกตอจี ซึ่งมีเจดีย์ที่สร้างตามแบบวัดอนันดาแห่งพุกาม |
10.30 น. | นำชม "วัดมหากันดายงค์"(Mahagandaryon Monastry) ซึ่งเป็นวัดใหญ่ที่สุดของพม่าที่เมืองอมรปุระ ซึ่งในช่วงเพลจะมีภิกษุสงฆ์นับร้อยรูปเดินเรียงแถวด้วยอาการสำรวมเพื่อรับอาหาร วิทยาลัยสงฆ์แห่งนี้เป็นสถานที่ศึกษาพระธรรมและรักษาพระธรรมวินัยมากที่สุด ด้วยวัตรปฏิบัติอันงดงามของภิกษุสงฆ์ในวัดมหากันดายงค์ ทำให้มีชาวพม่าจำนวนมากส่งบุตรหลานมาศึกษาพุทธศาสนากันที่นี่ |
14.15 น. | ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG 710 ** บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง ** |
16.40 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ |
** ก่อนตัดสินใจจองทัวร์ควรอ่านเงื่อนไขการเดินทางอย่างถ่องแท้แล้วจึงมัดจำเพื่อประโยชน์ของท่านเอง **
Address
300/50 Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
ทุกวัน : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel