ทัวร์ภูฏาน พาโร ทิมพู พูนาคา เที่ยวภูฏาน

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE435 : ทัวร์ภูฏาน พาโร ทิมพู พูนาคา 5 วัน 4 คืน (B3)

DE435 : ทัวร์ภูฏาน พาโร ทิมพู พูนาคา 5 วัน 4 คืน (B3)
Bhutan Airline (B3)

Gakyil
Kichu Resort

ขอนำท่านเดินทางไปยังประเทศภูฏาน เที่ยวครบไฮไลท์ โดยสายการบิน Bhutan Airline 
เยี่ยมชมเมืองทั้ง 3 เมืองหลัก  พาโร-ทิมพู-พูนาคา เข้าชมวัดถ้ำเสือซึ่งเป็นสถานที่แสวงบุญที่ชาวภูฏานเลื่อมใสศรัทธากันมากที่สุด 
เยี่ยมชมสถานอนุรักษ์สัตว์ประจําชาติของภูฏาน และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์พื้นบ้าน
นำท่านสักการะหลวงพ่อสัจธรรมซึ่งเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดของภูฏาน 
เข้าชมป้อมปราการ “ทิมพู ซอง” ซึ่งอยู่ติดกับที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีโปรแกรมจัดโดยผู้ชำนานประเทศภูฏานโดยเฉพาะ!!
**ฟรี ผ้าขาวต้อนรับตามธรรมเนียมของคนภูฏาน พิเศษโรงระบำพื้นบ้านและระบำหน้ากากจัดแสดงแบบส่วนตัว
บริการพิเศษใส่ชุดประจำชาติเดินเที่ยว ไม่ใช่ใส่ถ่ายรูปแล้วถอด ไม่เปลี่ยนโรงแรมบ่อย ไม่ต้องแพ็คของทุกวันเหมือนที่อื่น
โรงแรมได้มาตฐานรับรองโดยรัฐบาลภูฏานและยังอยู่ใจกลางเมืองสามารถเดินเที่ยวได้ทุกวัน
ราคารวมค่าขี่ม้าขึ้นเขาทักซัง รวมค่าวีซ่าคนละ US $40 และค่า Loyalty Fee เข้าประเทศภูฏานวันละ US $65 แล้ว
หากเวลาเหลือเราพาเที่ยวเพิ่มไม่มีลด แต่ขึ้นอยู่กับความเห็นลูกทัวร์เป็นสำคัญ

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1 ::กรุงเทพฯ - พาโร - พาโรริงปุงซอง - ตาซอง - ด่านชูซอม - ที่ทำการไปรษณีย์ภูฏาน - โรงเรียนสอนงานศิลปะ - ทิมพูซอง
04.00 น.

คณะเดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก สายการบิน ภูฏานแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ B3701 ออกเดินทางเวลา 6:30 เค้าเตอร์ K ประตู 5 พบกับเจ้าหน้าที่จากบริษัทฯให้การต้อนรับพร้อมบริการกระเป๋าเข้าเช็คอิน พร้อมหัวหน้าทัวร์คอยให้บริการ

06.30 น.

ออกเดินทางสู่ ประเททศภูฎาน เดินทางสู่ เมืองพาโร เมืองหน้าด่านสำคัญก่อนเดินทางสู่ดินแดนอื่น ๆในประเทศภูฏาน โดยสายการบิน ภูฏานแอร์ไลน์ (มีอาหารบริการบนเครื่อง)

เครื่องจะทำการลงจอดที่ประเทศอินเดียเพื่อทำความสะอาดและเติมน้ำมันเป็นเวลา 45 นาทีโดยไม่ต้องลงจากเครื่องบินและเดินทางต่อไปยังประเทศภูฎาน

09.55 น.เดินทางถึง สนามบินพาโร (เวลาท้องถิ่นที่ปะเทศภูฏานช้ากว่าประทศไทย 1 ชม.)
เช้า

เดินทางสู่ตัวเมือง พาโร เยี่ยมชม พิพิธภัณท์สถานแห่งชาติ หรือ ตาซอง (National Museum of Bhutan , Ta Dzong) พิพิธภัณฑ์ มีทั้งหมด 6 ชั้น โดยเป็นสถานที่เก็บรวบรวม ภาพพระบฏ อาวุธ เหรียญกษาปณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ สัตว์ป่าแถบเทือกเขาหิมาลัย ตลอดจน ดวงตราไปรษณีย์ แต่เนื่องด้วยเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ทำให้ตัวอาคารเสียหายอย่างหนักและเป็นอันตรายต่อการเข้าชมภายในตัวอาคาร นักท่องเที่ยวสามารถชมอาคารภายนอกได้และรัฐบาลภูฏานได้สร้างอาคารหลังใหม่เพื่อจัดแสดงแทน โดยที่อาคารหลังใหม่มี 2 ชั้นและจัดแสดงเพียง 4 ห้องเท่านั้น จากจุดนี้ท่านสามารถเห็นวิวสวยๆของสนามบินพาโรและตัวเมืองได้อย่างชัดเจน 

จากนั้นพาท่านเดินทางต่อเพื่อเยี่ยมชม พาโรริงปุงซอง (Paro Ringpung Dzong)

พาโรริงปุงซอง (Paro Ringpung Dzong)  ป้อมปราการยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองพาโร ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1645 ในสมัยของท่าน Shabdrung Ngwang Namgyel ผู้เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่รวมประเทศภูฎานให้เป็นหนึ่งเดียวในช่วง คริสต์ศตวรรษที่ 17  ตั้งตระหง่านโดนเด่นอยู่ท่ามกลางหุบเขา ซึ่งตอนนี้สถานที่นี้มีไว้สำหรับส่วนบริหาร ศูนย์กลางทางการปกครองของเมืองพาโร และเป็นที่ตั้งของพระอารามหลวง มีพระสงฆ์จำวัดกว่า 200 รูป

จากนั้นพาท่านแวะพัก ณ จุดชมวิว Paro airport bird's eye view point ซึ่งเป็นจุดที่สามารถเห็นสนามบินพาโรได้ทั้งสนามบิน

ออกเดินทางสู่เมืองเมืองหลวงของประเทศภูฏาน เมืองทิมพู (Thimphu) ระยะทางห่างจากเมืองพาโรประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง ในระหว่างการเดินทางสู่เมืองเมืองทิมพู ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพอันสวยงาม โดยมีภูเขาล้อมรอบอีกทั้งท่านยังจะได้เห็นสภาพการอยู่อาศัยของคนพื้นเมืองอีกทั้งยังจะได้ตื่นตาตื่นใจกับสถาปัตยกรรมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศภูฏานตลอดระยะทาง

ระหว่างทางเราจะแวะถ่ายรูป ณ จุดชมวิว ด่านชูซอม ซึ่งเป็นหน้าด่านก่อนเข้าเมืองทิมพู และเป็นบริเวณที่แม่น้ำจากพาโรและทิมพูมาบรรจบกัน ทิมพูเป็นเมืองที่อยู่ในระดับความสูง 2,400 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นเมืองหลวงที่เล็กที่สุดของเอเชียและไม่มีสัญญาณไฟจราจร ผู้คนที่นี่ยิ้มแย้มแจ่มใส ใจดีและมักจะแต่งกายด้วยชุดประจำชาติ ชุดผู้ชายจะเรียกว่า โค (Kho) ส่วนชุดของผู้หญิงจะเรียกว่า คีร่า (Kira)

เราจะนำท่านไปยังโรงแรมเพื่อ Check-in และเก็บสัมภาระ

เที่ยง

พักรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร


หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน เราจะพาท่านชม ที่ทำการไปรษณีย์ภูฏาน (General Post Office) ซึ่งท่านสามารถเลือกซื้อดวงตราไปรษณียากรที่งดงามของภูฏาน และความพิเศษที่ไปรษณีย์ภูฏานคือท่านสามารถถ่ายรูปตัวเองลงบนตราไปรษณีย์ซึ่งสามารถใช้ได้อย่างถูกกฎหมายและสามารถติดบนโปสการ์ดหรือจดหมายส่งกลับมาประเทศไทยและทั่วโลกได้อีกด้วย

จากนั้นพาท่านชม โรงเรียนสอนงานศิลปะ Zorig Chusum (The School of Arts and Crafts or the Painting School) เป็นสถาบันที่สอนงานศิลปะและงานช่างของภูฏาน 13 แขนง โดยใช้เวลา 4-6 ปี ในก่อตั้งขึ้นและแล้วเสร็จในปี 1972 ซึ่งท่านจะเห็นเด็กนักเรียนประดิษฐ์ งานศิลปะแขนงต่าง ๆ เช่น งานแกะสลักไม้ งานวาดภาพพระบฏ หรือภาพทังก้า (Tanka) โดยท่านสามารถถ่ายรูปได้และสามารถอัดวีดีโอขณะที่นักเรียนเรียนอยู่ได้

จากนั้นเราจะพาท่านั่งรถต่อไปยังอีกหนึ่งสถานที่สำคัญนั่นคือป้อมปราการ “ทิมพู ซอง” Thimphu Dzong หรือมีชื่อเป็นทางการว่า “ตาชิโช ซอง” (Tashicho Dzong) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองหลวงแห่งนี้ ป้อมปราการแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในปี1907 ซึ่งนอกจากเป็นป้อมปราการแล้วยังเป็นอารามหลวงสำหรับพระอีกด้วย โดยตอนนี้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ทำงานของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีและทำเนียบรัฐบาล ที่นี่เราจะเห็น ที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี สามารถมอเข้าไปได้แต่ไม่สามารถถ่ายรูปได้

เย็นรับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พักGakyil ***โรงแรมระดับ 3 ดาวหรือเทียบเท่า (ท่านสามารถเดินเล่นชมเมืองยามค่ำคืนได้สบายเพราะโรงแรมอยู่ใจกลางเมือง)
วันที่ 2 ::ทิมพู - ปูนาคา - ดอร์ ชูลา - วัดชิมิลาคัง - ปูนาคาซอง - ทิมพู
เช้า

รับประทานอาหารเช้า – โรงแรม Gakyil เมืองทิมพู

ออกเดินทางสู่เมือง Punakha พูนาคา ระยะทางประมาณ 75 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เนื่องจากถนนระหว่างการเดินทางนั้นกำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงและทางจะเป็นเขาคดไปมา ระหว่างทางท่านสามารถชมทิวทัศน์ของภูเขาสูงสลับกับแม่น้ำลําธารน้อยใหญ่ (โปรดเตรียมเสื้อหนาวมาด้วย เพราะจุดที่เราจะผ่านจะอยู่สูงกว่าเมืองทิมพูอยู่ราว ๆ 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนเมื่อถึงเมืองพูนาคาอากาศจะอบอุ่นกว่าเมืองทิมพู เนื่องจากเมืองพูนาคาจะอยู่ที่ระดับความสูงที่ 1,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล)

แวะพักยังจุดที่สูงที่สุดบนเส้นทางนี้อยู่ที่ 3,150 เมตรจากระดับน้ำทะเล (เป็นจุดที่สูงที่สุดของเมืองทิมพูและพูนาคา) ซึ่งเรียกว่า ดอร์ ชูลา (Dorchula Plass) และพาท่านชม สถูป “ดรุค วังเกล” (Druk Wangle Chorten) 108 องค์ (สถูปแห่งความเป็นสิริมงคล และสันติสุขของแผ่นดิน 108 องค์) ณ จุดนี้เราจะแวะพักถ่ายรูปและดื่มชา เข้าห้องน้ำ และออกเดินทางต่อไปยังเมืองพูนาคา

ดรุค วังเกล สร้างขึ้นมาเพื่อถวายแกพระโพธิสัตว์ของชาววัชรยาน จุดนี้เป็นจุดที่สามารถยืนชมเทือกเขาหิมาลัยได้แบบกระจ่างตาที่สุด โดยเฉพาะในวันที่อากาศสดใสและฟ้าเปิด รวมถึง ยอดเขากังคาพูนซัม(Gangkhar Puensum) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศภูฏานซึ่งอยู่ในระดับความสูงที่ 7,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล 

เที่ยง

พักรับประทานอาหารกลางวัน - ภัตตาคาร ที่ เมืองพูนาคา

จากร้านอาหารเราจะพาท่านเดินผ่านหมู่บ้านเล็ก ๆ มีทุ่งนาล้อมรอบ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพื่อดูวิถีชีวิตของคนที่นี่และทุ่งนาขั้นบันได

พาท่านเดินไปยัง วัดชิมิลาคัง (Chimi Lhakhang)

วัดชิมิลาคัง (Chimi Lhakhang)  วัดนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในปี 1499 โดยพระงาหวัง ชอคเยล โดย ชาวภูฏานนิยมมาไหว้ขอพรในเรื่องครอบครัว อาทิ ขอลูก ขอพรให้ประสบความสำเร็จในเรื่องความรัก ขอพรให้ลูกหรือมาให้พระตั้งชื่อให้ลูก นอกจากนี้ยังเชื่อว่า สามารถขอพรให้ลูกเกิดมาหน้าตาดีได้ในขณะที่ตั้งครรภ์ ชื่อที่เป็นที่นิยมที่หากมาตั้งชื่อที่วัดนี้คือ คินเลย์ (ชื่อสถานที่) และ ชิมิ (ชื่อวัด)

นำท่านเที่ยวชม พูนาคาซอง (Punakha Dzong)

พูนาคาซอง (Punakha Dzong) ป้อมปราการประจำเมืองปูนาคา ปัจจุบันเป็นพระราชวังฤดูหนาวของพระสังฆราช ป้อมปราการแห่งถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1637 และถูกทําลายหลายครั้ง จากไฟไหม้และภัยธรรมชาติแต่ได้รับการบูรณะอย่างต่อเนื่อง ป้อมปราการแห่งนี้สวยงามมากเพราะอยู่ตรงกลางระหว่าง แม่น้ำโพ (Po Chu)ซึ่งหมายถึงแม่น้ำพ่อ และแม่น้ำโม (Mo Chu) หมายถึงแม่น้ำแม่ไหลมาบรรจบกัน  

หลังจากนั้นนำท่านชม สะพานเหล็กที่ยาวที่สุดในภูฏาน พาดผ่านแม่น้ำ แม่น้ำพ่อ และแม่น้ำโม (Mo Chu) ซึ่งประชาชนใช้สัญจรเพื่อข้ามข้ามมายังพูนาคา ซอง

หลังจากนั้นนำท่านชม วัดภิกษุณีหรือ Nunnery Temple ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขา สามารถมองเห็นวิวของตัวเมืองพูนาคาได้โดยรอบ  ให้ท่านได้ถ่ายรูป  เก็บบรรยากาศ

เดินทางกลับสู่เมือง ทิมพู (Thimphu)

เย็นรับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พักGakyil ***หรือเทียบเท่า (ท่านสามารถเดินเล่นชมเมืองยามค่ำคืนได้สบายเพราะโรงแรมอยู่ใจกลางเมือง)
วันที่ 3 ::ทิมพู - เมมโมเรียลโชเตน - หลวงพ่อสัจธรรม - ซิมโทกาซอง - วัดชังกังคา - สถานอนุรักษ์สัตว์ประจําชาติของภูฏาน - ตลาดทิมพู   
เช้า

รับประทานอาหารเช้า – โรงแรม Gakyil เมืองทิมพู

หลังอาหารเช้า เราจะให้ลูกค้าทุกท่าน แต่งชุดประจำชาติของประเทศภูฏาน ชุดผู้ชายจะเรียกว่า โค (Kho) ส่วนชุดของผู้หญิงจะเรียกว่า คีร่า (Kira) จะมีเจ้าหน้าที่ของโรงแรมและทางไกด์ท้องถิ่นมาช่วยแต่งตัวให้ เราจะใส่ชุดประจำชาติตั้งแต่เช้าเพื่อแสดงความเคารพต่อสถานที่และถ่ายรูปจะได้สวยงาม (ท่านสามารถเลือกได้ว่าจะใส่หรือไม่ เราไม่ได้บังคับ)

พาท่านเยี่ยมชม เมมโมเรียลโชเตน (Memorial Chorten)

เมมโมเรียลโชเตน (Memorial Chorten) มหาสถูปประดิษฐ์ฐานพระบรมอัฐิของอดีตกษัติริย์ จิกมี่ ดอร์จี วังชุก พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์องค์ที่ 3 ที่ปกครองประเทศภูฏานในช่วง ค.ศ. 1952-1972 และทรงได้รับพระฉายาว่า "พระบิดาแห่งภูฏานนยุคใหม่" สถานที่แห่งนี้ท่านจะเห็นคนเฒ่าคนแก่จำนวนหนึ่งมานั่งนับลูกปัดและเดินวนรอบสถูป

จากนั้นพาท่านขึ้นเขาไป สักการะหลวงพ่อสัจธรรม Buddha Dordenma statue (Buddha Point)พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดของภูฏาน หล่อสัมฤทธิ์ ประดิษฐานอยู่บริเวณเชิงเขาในเมืองทิมพู ทําหน้าที่ปกปักรักษาชาวเมืองทิมพู จากจุดนี้ท่านจะได้เห็นเมืองทิมพูได้โดยรอบ

จากนั้นนำท่านชม ซิมโทกาซอง (Samtokha Dzong) เป็นหนึ่งในป้อมปราการเก่าแก่ที่สุดของประเทศ สร้างในปี ค.ศ. 1629 โดยท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล เป็นต้อนแบบของป้อมปราการหลายแห่งในประเทศภูฏาน

เที่ยง

พักรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ที่เมืองทิมพู

นำท่านชม วัดชันกังคา (Changangkha Lhakhang Temple)

วัดชันกังคา (Changangkha Lhakhang Temple) เป็นวัดที่อยู่บนสันเขาเหนือเมืองทิมพู กำแพงสีขาวของวัดเป็นจุดเด่นที่มองเห็นได้แต่ไกล พระลามะจากทิเบตเป็นผู้สร้างวัดขึ้นในศตวรรษที่ 12  ในสมัยก่อน วัดทำหน้าที่เป็นทั้งอารามและป้อมปราการที่มีไว้สำหรับป้องกันการบุกรุกของข้าศึกศัตรูที่มารุกรานภูฏาน ลานอเนกประสงค์ของวัดเป็นจุดชมวิวทิมพูได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้แล้ววัดซันกังคา ยังมีความสำคัญต่อชาวภูฏานเนื่องจากเมื่อครอบครัวไหนมีเด็กแรกเกิดต้องการตั้งชื่อลูกจะมาขอชื่อกับวัดซันกังคาแห่งนี้  

จากนั้นพาท่านชม “ทาคิน” ในสถานอนุรักษ์สัตว์ประจําชาติของภูฏาน  (Takin Preservation Center) ซึ่งเป็นสัตว์ประจำชาติของภูฏาน ปัจจุบันหาดูได้ยากมากเนื่องจากเป็นสัตย์ที่อยู่ในป่าลึกและมีอยู่ที่เฉพาะบนภูเขาในแทบเทือกเขาหิมาลัย

จากนั้นนำเดินเล่นที่ตลาดสุดสัปดาห์ (Weekend Market) ซึ่งจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรและของที่ระลึก (ที่ประเทศภูฏานผลผลิตทางการเกษตรทุกอย่างนั้นปลอดสารพิษ)

เดินทางสู่ เมืองพาโร ใช้เวลาประมาณ 1:30 ชั่วโมง

เย็น

รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

หลังรับประทานอาหารเย็นจะมีการแสดงพื้นบ้านและระบำหน้ากากซึ่งเป็นการแสดงที่สำคัญในประเทศภูฏาน ใช้เวลาประมาณ 45 นาที

ที่พักKichu Resort หรือ Drukchen หรือ โรงแรม Tashi Namgay เมืองพาโร
วันที่ 4 ::ทิมพู - วัดทักซัง - คิชูลาคัง - พาโร
เช้า

รับประทานอาหารเช้า – โรงแรม Gakyil เมืองทิมพู

เดินทางสู่ เมืองพาโร ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง

นำท่านเดินทางขึ้นสู่ หมู่บ้านซัทซัม เพื่อขึ้นสู่เขาทักซังเพื่อไปยัง วัดทักซัง (Taktshang Goemba Monastery)  ชื่อทักซังมีความหมายว่ารังเสือหรือ (Tiger Nest) 

ท่านสามารถเลือกว่าจะ ขี่ม้า หรือจะ เดิน ขึ้นไปก็ได้
การขี่ม้า จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งขึ้นไปได้จนถึงจุดจอดม้า และขึ้นม้าได้เฉพาะขาขึ้นเท่านั้น เพราะว่าขาลงนั้นหากนั่งม้าจะอันตรายมาก 
การเดินทางขึ้นเขาทักซัง จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 -6 ชั่วโมง ไป-กลับ ขึ้นอยู่กับความเร็วในการเดิน โดยระหว่างทางจะมีจุดแวะพักซึ่งจะเป็น Café ซึ่งเราจะพักดื่มชา และเข้าห้องน้ำ เดินขึ้นต่อเพื่อที่จะถึงช่วงสุดท้ายที่จะต้องขึ้นลงบันไดกว่า 350 ขึ้น เพื่อที่จะขึ้นไปที่ตัว วัดทักซัง เมื่อถึงตัววัดจะต้องฝากอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคทุกชนิด

(ลูกค้าหลายท่านจะถามว่าจะเดินไหวไหม ต้องตอบเลยว่าทริปเราไม่รีบร้อนในการเดินขึ้นเพื่อที่แสวงบุญบนหุบเขาอันศักดิ์สิทธิ์นี้ เดินเรื่อย ๆชมบรรยากาศอันสวยงามบนเทือกเขา พักได้ตลอดทาง การขี่ม้าจะช่วยให้เดินขึ้นง่ายขึ้นมากเพราะว่าเมื่อถึงจุดจอดม้าจะเดินอีกไม่นานมาก หากลูกค้าท่านไดไม่สะดวกที่จะขึ้นเขาทักซังเราสามารถพาท่านไปเดินเที่ยวในเมืองพาโรแทนได้)

วัดทักซัง เป็นวัดพุทธที่มีความเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูฏาน โดยถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1962 จุดเด่นอยู่ที่ตัววัดนั้นตั้งอยู่ริมผาซึ่งมีความสูงกว่า 900 เมตร ในเขตพาโร ด้วยความสูงเทียมฟ้าเช่นนี้เอง ทำให้วัดนั้นอยู่ท่ามกลางเมฆหมอกสีขาวที่ล้อมรอบวัด อีกทั้งยังสามารถชมวิวสวย ๆ ด้านล่างได้อย่างชัดเจนในวันที่ท้องฟ้าโปร่ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่หมู่มวลดอกไม้ต่างพากันชูช่อสวยงาม ด้านประวัติความเป็นมานั้น มีตำนานเล่าว่า ก่อนพื้นที่บริเวณนี้จะถูกสร้างเป็นวัดนั้นมี คุรุรินโปเซ (Guru Rinpoche) ซึ่งสามารถจำแลงกายเป็นเสือได้มาอาศัยอยู่ในถ้ำแห่งนี้ ครั้นจะเทศนาสั่งสอนผู้คนท่านจะกลายร่างเป็นมนุษย์เช่นเดิม และเมื่อคำสอนได้ผล ผู้คนต่างพากันเสื่อมใสในพระพุทธศาสนา จึงทำให้สถานที่นี้กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาจึงได้มีการสร้างวิหารขึ้นเพื่อแสดงถึงความนิยมด้านพระพุทธศาสนา และเมื่อเวลาผ่านไปเนิ่นนานทำให้ตัววิหารชำรุดทรุดโทรม จนท้ายที่สุดในปี ค.ศ. 1962 จึงมีการสร้างวัดทักซังหรือวัดรังเสือขึ้นมา และได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1998 จากเหตุเพลิงไหม้

เที่ยง

บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคารเมืองพาโร หรือ ถ้าล่วงเวลาอาจจะทางอาหารที่ Café  ระหว่างทางลงจากเขาทักซัง

นำท่านเที่ยวชม คิชู ลาคัง (Kyichu Lhakhang) หรือ วัดคิชู

วัดคิชูcเป็นวัดโบราณเก่าแก่ที่สุดของภูฏาน ตั้งอยู่ใจกลางหุบเขา พระเจ้าซองต์เซน กัมโป กษัตริย์ทิเบต ทรงสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 659 โดยที่ในเวลานั้นพื้นที่ของวัดยังเป็นของทิเบต  ตำนานการสร้างวัดแห่งนี้น่าสนใจมาก เล่าสืบต่อกันมาว่า มีนางยักษ์ตนหนึ่งที่มีร่างกายใหญ่โตได้เข้ามาเหยียดแขนเหยียดขานอนทับอยู่บนพื้นที่ของทิเบตและเทือกเขาหิมาลัย เพื่อปิดกั้นไม่ให้ผู้คนที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาพุทธเข้ามายังพื้นที่นี้ พระเจ้าซองต์เซน กัมโป จึงทรงดำริสร้างวัดพุทธ 108 แห่ง ภายในวันเดียว เพื่อตรึงร่างนางยักษ์เอาไว้ โดยวัดคิชูในเมืองพาโรนั้นเป็น 1 ใน 108 แห่งดังกล่าว และเป็นพื้นที่ส่วนที่เท้าซ้ายของนางมารเหยียบอยู่ ส่วนอีกวัดหนึ่งในภูฏานอยู่ที่เมืองบุมทัง สร้างตรงเท้าขวาของยักษ์

**กรณีที่มีเวลาเหลือ   เราจะนำท่านมาอาบ น้ำร้อน Hot Stone Bath ถือเป็นออนเซนที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวภูฏาน สมุนไพรและแร่ธาตุต่างๆที่ดีต่อสุขภาพจะอยู่ในหิน ชาวภูฏานจะนำมาเผาไฟจนระอุและใส่ลงในน้ำสมุนไพรเอกลักษณ์ของชาวภูฏาน การแช่ออนเซนจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพื่อให้สมุนไพรซึมเข้าสู่ร่างกาย ออนเซนจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายอีกทั้งยังช่วยไม่ให้ปวดขาในวันรุ่งขึ้นอีกด้วย

หากท่านใดเป็นความดัน กรุณาแจ้งทีมงาน เนื่องจากการแช่น้ำร้อนนานเพราะการแช่น้ำร้อนจะทำให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น อาจมีผลให้หน้ามืด หรือเป็นลมได้ หรือหากท่านไดไม่อยากลงแช่สามารถเดินเล่นในบริเวณนั้นได้

(กรุณาเตรียมเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นสำหรับใส่แช่ออนเซนไปด้วย)

เย็นรับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร 
ที่พักKichu Resort หรือ Drukchen หรือ โรงแรม Tashi Namgay เมืองพาโร
วันที่ 5 ::พาโร - กรุงเทพ
เช้าเดินทางกลับสู่ กรุงเทพ – สนามบินสุวรรณภูมิ
10:15 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ B3700 (บริการอาหารบนเครื่อง) 
16:05 น. ถึง กรุงเทพ โดยความปลอดภัยและประทับใจ

เงื่อนไขในการจอง

  • ตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพฯ-พาโร-กรุงเทพฯ ชั้น Economy และ ค่าภาษีสนามบินโดยสายการบินภูฎานแอร์ไลน์
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุในรายการ
  • ค่ายานพาหนะและค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆตามที่ระบุไว้ในโปรแกรม
  • ค่าที่พักโรงแรม (พักห้องละ 2 ท่าน) โดยใช้โรงแรมที่ผ่านการรับรองจากรัฐบาลภูฏาน  (3 ดาวและสูงกว่า)
  • ค่าขี่ม้าขึ้นเขาทักซัง
  • น้ำดื่มวันละ 1 ขวดต่อท่าน
  • ค่าวีซ่าเพื่อเข้าประเทศ USD $40
  • ค่า Development Fee USD $65 ต่อคน/ต่อวัน ที่ทางรัฐบาลภูฏาน เรียกเก็บกับนักท่องเที่ยว
  • ค่าพาหนะในการนำเที่ยวและค่าเข้าชมสถานที่ตามระบุไว้ในโปรแกรม
  • ค่ามัคคุเทศก์ท้องถิ่น(พูดภาษาอังกฤษ)ที่คอยบริการและดูแลตลอดการเดินทาง
  • ค่าขนมและชาหรือกาแฟ ระหว่างวัน
  • ค่าประกันอุบัติเหตุวงเงินท่านละ 1,000,000.-บาท
  • ค่าหัวหน้าทัวร์ไทยที่คอยบริการและดูแลตลอดการเดินทาง สำหรับคณะเดินทางตั้งแต่ 15ท่านขึ้นไป
    ** ลูกค้าท่านใดสนใจ...ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล 
    เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ ** 
    - เบี้ยประกันเริ่มต้น 370 บาท [ระยะเวลา 5-7 วัน]
      - เบี้ยประกันเริ่มต้น 430 บาท [ระยะเวลา 8-10 วัน] 
  • ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุมากกว่า 16 หรือน้อยกว่า 75 ปี  [รักษาพยาบาล 2 ล้าน, รักษาต่อเนื่อง 2 แสน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 3 ล้านบาท]
  • ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุน้อยกว่า 16 หรือมากกว่า 75 ปี  
     [รักษาพยาบาล 2 ล้าน, รักษาต่อเนื่อง 2 แสน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]
  • ราคาทัวร์นี้ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และ ค่าบริการหัก ณ ที่จ่าย 3 % (สำหรับท่านที่ต้องการใบกำกับ)
  • ค่าทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถภูฏาน (รวม $5 USD/คน/วัน) ทั้งหมด 5 วัน = USD $25
  • ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย  (รวม $3 USD/คน/วัน) ทั้งหมด 5 วัน = USD $15
  • ค่าบริการอาบน้ำแร่ Hot Stone Bath (20 USD)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ , ค่าโทรศัพท์ , ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 30 ก.ก.และมากกว่า 1 ชิ้น,  ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
  • ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
  • กรุณาทำการจองก่อนการเดินทาง อย่างน้อย 45 วันทำการ (60 วันทำการสำหรับ แพคเกจ ราคาโปรโมชั่นและการเดินทางช่วงเทศกาล) หรือก่อนหน้านั้น โดยแฟกซ์หรืออีเมลล์หน้าพาสปอร์ตผู้เดินทาง พร้อมชื่อ-นามสกุล อีเมล์ เบอร์โทรศัพท์และจำนวนผู้จอง เราจะออกใบจองทัวร์ การจองจะสมบูรณ์ต่อเมื่อชำระมัดจำแล้วเท่านั้น
  • กรุณาชำระเงินมัดจำ ทันทีหลังจากทำการจอง ท่านละ 25,000 บาท ของราคาทัวร์ทั้งหมด
  • สำหรับการเดินทางช่วงเทศกาล หรือวันหยุดต่อเนื่อง กรุณาชำระมัดจำ 30,000 บาท ของราคาทัวร์ทั้งหมด
  • ค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ บริษัทฯ จะขอเก็บค่าทัวร์ทั้งหมดก่อนการเดินทาง อย่างน้อย 20 วันก่อนการเดินทางทำการ มิเช่นนั้นบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางของท่าน และการคืนเงินทั้งหมดหรือบางส่วนตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
  • การเดินทางในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวหรือวันหยุดต่อเนื่อง อาจจะมีการเรียกเก็บค่าทัวร์เร็วกว่าที่กำหนดไว้ข้างต้น
  • กรุณาโอนเงินมัดจำเพื่อยืนยันการเดินทางและทางเราจะดำเนินการจองตั๋วเครื่องบิน และ ชำระเงินที่เหลืออย่างน้อย 20 วันก่อนการเดินทางโดยสามารถโอนเงินมาที่บัญชี
  • หลังจากท่านชำระเงินเรียบร้อยแล้วกรุณาส่งหลักฐานการโอน พร้อมระบุ ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และรหัสทัวร์ให้กับเจ้าหน้าที่
  • แจ้งยกเลิกก่อนเดินทาง 30 วัน คืนค่าใช้จ่ายทั้งหมด 
  • แจ้งยกเลิกก่อนเดินทาง 15 วัน เก็บค่าใช้จ่าย ท่านละ 25,000 บาท
  • แจ้งยกเลิกน้อยกว่า 15 วันก่อนเดินทาง ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เก็บค่าใช้จ่าย ทั้งหมด
  • สำหรับผู้โดยสารที่ไม่ได้ถือหนังสือเดินทางไทย หรือทางบริษัทฯเป็นผู้ยื่นวีซ่าให้ เมื่อผลวีซ่าผ่านแล้วมีการยกเลิกการเดินทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่ามัดจำทั้งหมด
  • บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมดกรณีท่านยกเลิกการเดินทางและมีผลทำให้คณะเดินทางไม่ครบตามจำนวนที่บริษัทฯกำหนดไว้(15ท่านขึ้นไป) เนื่องจากเกิดความเสียหายต่อทางบริษัทและผู้เดินทางอื่นที่เดินทางในคณะเดียวกัน บริษัทต้องนำไปชำระค่าเสียหายต่างๆที่เกิดจากการยกเลิกของท่าน 
  • กรณีเจ็บป่วยจนไม่สามารถเดินทางได้ซึ่งจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง บริษัทฯจะทำการเลื่อนการเดินทางของท่านไปยังคณะต่อไปแต่ทั้งนี้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกคืนได้คือ ค่าธรรมเนียมในการมัดจำตั๋ว  ในกรณีที่ไม่สามารถเดินทางได้
  • กรณีท่านได้ชำระค่าทัวร์หรือมัดจำมาแล้ว ทางบริษัทฯ คืนค่าทัวร์หรือมัดจำให้ แต่ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการหักค่าใช้จ่ายบางส่วนที่เกิดขึ้นจริงเป็นกรณีไป (อาทิ กรณีออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว หรือได้ชำระค่าบริการในส่วนของทางเมืองนอก เช่น โรงแรม ฯลฯ ไปแล้ว) ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการหักเก็บค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นแล้วกับท่านเป็นกรณีไป
  • กรณีผู้เดินทางไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากเอกสารปลอมหรือการห้ามของเจ้าหน้าที่ไม่ว่าเหตุผลใดๆ ก็ตามทางบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
  • วีซ่าภูฏานนั้นต้องขอที่ประเทศภูฏานเท่านั้นและเนื่องจากรัฐบาลภูฏานเก็บค่าเข้าประเทศวันละ 65 USD ต่อคน ต่อวัน ดังนั้นทางบริษัทจะออกวีซ่าเป็นกรุ๊ปเพราะมีผลต่อราคาค่าทัวร์ โดยบริษัทจะทำการยื่นวีซ่าให้หลังจากลูกค้าในกรุ๊ปชำระเงินทั้งหมดแล้วเท่านั้น (วีซ่าภูฏานใช้เวลาอนุมัติภายใน 7วันทำการ)
    ลูกค้าทุกท่านต้องทำการส่งเอกสารดังนี้ทาง
  • ภาพถ่ายสำเนาหนังสือเดินทาง ต้องมีอายุใช้งานไม่ต่ำกว่า 6 เดือน นับจากวันเดินทาง (กรุณานำหนังสือเดินทางฉบับเก่าที่มีวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐฯมาแสดงด้วย ถ้ามี)
  • รูปถ่ายหน้าตรงสี 2 นิ้ว 
    ถ่ายไม่เกิน 3 เดือน รูปถ่ายจะต้องเป็นพื้นหลังสีขาวหรือฟ้า เปิดหู, 
    ห้ามสวมแว่นตาดำหรือหมวก สัดส่วนใบหน้าต้องเกิน 80 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่รูปถ่าย
    เราจะไม่เก็บ Passport ตัวจริงของลูกค้าเพราะเอกสารทุกอย่างจะทำที่ประเทศภูฏานโดยพนักงานของบริษัทเราที่อยู่ที่ประเทศภูฏาน

Address

53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240

จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566099-191-9288 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy