แพ็คเกจทัวร์ส่วนตัว 6-8 ท่าน
อุดร เวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง 4 วัน 3 คืน
ออกเดินทางได้ทุกวัน ก.ค. - ก.ย. 65
ราคาเพียง 12,500 บาท
* ไกด์ลาวพูดไทย รอรับท่านที่สนามบินอุดร พร้อมพาเที่ยวตลอดทริป
* ราคานี้ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน (บริการจองตั๋วให้ฟรี)
* ฟรีประกันการเดินทาง
สนามบินอุดรธานี - สะพานมิตรภาพไทย-ลาว - นครหลวงเวียงจันทน์ - วัดศรีเมือง - ชมพิพิธภัณฑ์หอพระแก้ว - ประตูชัย - นั่งรถไฟความเร็วสูง - หลวงพระบาง - ตลาดมืดหลวงพระบาง
ตักบาตรข้าวเหนียว - ตลาดเช้า - วัดเชียงทอง - หมู่บ้านซ่างไห - ถํ้าติ่ง - น้ำตาดกวางสี - เขาพระธาตุพูสี
หลวงพระบาง - วัดวิชุนราช - หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง - นั่งรถไฟความเร็วสูง - เมืองวังเวียง - ถ้ำนางฟ้า - ล่องเรือแม่น้ำซอง
วังเวียง - นครหลวงเวียงจันทน์ - พระธาตุหลวง - สะพานมิตรภาพไทย-ลาว - สนามบินอุดรธานี
วันแรก | สนามบินอุดรธานี - สะพานมิตรภาพไทย-ลาว - นครหลวงเวียงจันทน์ - วัดศรีเมือง - ชมพิพิธภัณฑ์หอพระแก้ว - ประตูชัย - นั่งรถไฟความเร็วสูง - หลวงพระบาง - ตลาดมืดหลวงพระบาง |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันแรก | |
08.00 น. | คณะเดินทางถึง สนามบินอุดรธานี รับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับคณะที่จุดนัดหมาย รับประทานอาหารเช้า แบบ SET BOX (มื้อที่ 1) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว จังหวัดหนองคาย |
09.30 น. | เดินทางถึง สะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ตม.ไทย เพื่อเดินทางออกจากประเทศไทย เอกสารที่ต้องเตรียม *หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) มีอายุเดินทางมากกว่า 6 เดือน *ใบรับรองการฉีดวัคซีน (วัคซีนพาสปอร์ต หรือ เอกสารจากหมอพร้อม 2 เข็มขึ้นไป) เดินทางเข้าด่านข้าม สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ถึงด่านลาว ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ตม. สปป.ลาว จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตัวเมือง นครหลวงเวียงจันทน์ นำท่านชม วัดศรีเมือง หรือ วัดสีเมือง ในภาษาลาว แห่งนครเวียงจันทน์ ประเทศลาว ที่วัดศรีเมืองแห่งนี้จัดเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวลาวมานานแสนนาน วัดศรีเมืองหรือวัดเจ้าแม่ศรีเมืองเป็นสถานที่ตั้งของศาลหลักเมืองเวียงจันทน์ จากนั้นนำท่านชม พิพิธภัณฑ์หอพระแก้ว เป็นสถานที่ที่พระแก้วมรกตเคยประดิษฐาน และภายในพิพิธภัณฑ์หอพระแก้วยังได้รวบรวมของเก่ามีค่าต่าง ๆ ไว้ จากนั้นนำท่านชม ประตูชัย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะและอธิปไตยของลาว |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารเฝอแซ่บ (มื้อที่ 2) |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง ขบวนล้านช้าง EMU จากนครหลวงเวียงจันทร์สู่เมืองหลวงพระบาง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 55 นาที) โดยใช้ความเร็วมากกว่า 120- 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง |
เย็น | รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารท้องถิ่น อาหารพื้นเมืองของหลวงพระบาง (มื้อที่ 3) หลังอาหารอิสระเดินเที่ยวชมสินค้า ตลาดมืดหลวงพระบาง มีสินค้าพื้นเมือง และของที่ระลึกต่าง ๆ ที่วางขายเต็มท้องถนนเมืองหลวงพระบาง อิสระตามอัธยาศัย |
ที่พัก | โรงแรม The Grand Luang Prabang Hotel ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันที่สอง | ตักบาตรข้าวเหนียว - ตลาดเช้า - วัดเชียงทอง - หมู่บ้านซ่างไห - ถํ้าติ่ง - น้ำตาดกวางสี - เขาพระธาตุพูสี |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่สอง | |
05.30 น. | เชิญท่านร่วม ทำบุญใส่บาตรข้าวเหนียว พร้อมกับประชาชนชาวหลวงพระบางในตอนเช้า พระสงฆ์และสามเณรจากวัดต่างๆจะเดินออกบิณฑบาตเป็นแถวนับร้อยรูป ซึ่งเป็นภาพอันน่าประทับใจและสื่อถึงความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของชาวหลวงพระบาง นำท่านชม ตลาดเช้าเมืองหลวงพระบาง ซึ่งเป็นตลาดจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองท่านสามารถเลือกซื้อเลือกชมเช่นของป่าแบบฉบับชาวลาว ซึ่งยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ แวะทานปาท่องโก๋ + กาแฟโบราณ ร้านประชานิยม สัมผัสรสชาติดั้งเดิม จากนั้นกลับสู่โรงแรม |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 4) นำท่านชม วัดเชียงทอง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2101-2103 ในสมัยของ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ผู้เคยปกครองทั้งล้านนาและล้านช้าง โดยวัดแห่งนี้สร้างขึ้นก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่ เวียงจันทน์ วัดแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนเป็น วัดประตูเมือง และเป็นท่าเทียบเรือทางเหนือของตัวเมือง เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำโขงนั่นเอง จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2430 วัดแห่งนี้ก็ได้รอดพ้นจากภัยอัคคีในสงครามปราบฮ่อ เมื่อครั้งฮ่อบุกเผาทำลายตัวเมืองมาได้ และยังสามารถอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมแห่งนี้เอาไว้ได้มาจนถึงปัจจุบัน ไฮไลท์ วัดเชียงทอง สิม หรือ อุโบสถของวัดเชียงทองถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสิมที่สะท้อนศิลปะล้านช้างออกมาได้อย่างชัดเจน เห็นได้จาก หลังคาแอ่นโค้ง ลาดต่ำลงมาซ้อนกันอยู่สามชั้น ส่วนกลางของหลังคามีเครื่องยอดสีทองชาวลาวเรียกว่าช่อฟ้า ประกอบด้วย 17 ช่อ แสดงให้เห็นว่าเป็นวัดที่พระมหากษัตริย์สร้าง เพราะหากเป็นวัดสามัญทั่วไปแล้วจะมีช่อฟ้าเพียง 1-7 ช่อเท่านั้น ส่วนหน้าบัน หรือที่ชาวลาวเรียกว่า โหง่ ประดับตกแต่งด้วยเศียรนาคและลวดลายเกี่ยวกับศาสนาพุทธ อีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ก็คือ หอพระม่าน ที่ประดิษฐาน พระม่าน 1 ใน 3 พระพุทธรูปสำคัญของเมืองหลวงพระบางนั่นเอง นอกจากนี้ก็ยังมี หอพระพุทธไสยาสน์ ผนังด้านนอกทาพื้นเป็นสีชมพูกุหลาบ ตกแต่งด้วยกระจกสีเป็นลวดลายสวยงาม บอกเล่าถึงนิทานพื้นบ้านที่มีคำสอนเกี่ยวกับธรรมะไว้เตือนสติผู้คน เป็นผลงานที่ทรงคุณค่าไม่แพ้กับจุดอื่น ๆ ในวัดเลย ใครที่มีโอกาสได้มาเที่ยวหลวงพระบาง วัดเชียงทอง ถือเป็นสถานที่สำคัญที่ควรมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลสักครั้งในชีวิต นำท่านเดินทางไป หมู่บ้านซ่างไห เป็นชุมชมที่ขึ้นชื่อเรื่องการกลั่นเหล้าแบบดั้งเดิมของชาวลาว มีรสชาติร้อนแรง สีเหล้าใสบริสุทธิ์ ไร้มลทิน แบบที่เรียกว่า “ใสเป็นตาตั๊กแตน” เพื่อลงเรือเดินทางชมวิวทิวทัศน์ สองฝั่งแม่นํ้าโขง นำท่านชม ถํ้าติ่ง ซึ่งเป็นถํ้าอยู่บนหน้าผาริมแม่นํ้าโขงมีอยู่ 2 ถํ้า คือ ถํ้าล่างและถํ้าบน ถํ้าติ่งลุ่ม หรือ ถํ้าล่างสูง 60 เมตรจากพื้นนํ้า มีลักษณะเป็นโพรงนํ้าตื้น ๆ มีหินงอกหินย้อย มีพระพุทธรูปไม้จำนวน 2,500 องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ถํ้าติ่งบน จะไปทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น ปากถํ้าไม่ลึกมากมีพระพุทธรูปอยู่ในถํ้าแต่ไม่มากเท่าถํ้าล่างสมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ต่อมาพระเจ้าโพธิสารทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนาเป็นผู้นำพระพุทธรูปเข้ามา และจึงทรงใช้ถํ้าติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 5) |
บ่าย | นำท่านชม นํ้าตกตาดกวางสี ห่างจากเมืองหลวงพระบางประมาณ 30 กม.ผ่านหมู่บ้านชนบทริมสองข้างทาง ชมความงดงามของนํ้าตก ซึ่งเป็นนํ้าตกที่สูงราว 70-80 เมตร ถือเป็นนํ้าตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง โดยมีสายนํ้าที่ลดหลั่นผ่านชั้นหินปูนลงสู่แอ่งนํ้าที่สดใส มีทางเดินลัดเลาะขึ้นไปสู่ชั้นบนเพื่อชมความงามอีกมุมหนึ่งของนํ้าตก อิสระให้ท่านดื่มดํ่ากับธรรมชาติ เล่นนํ้า บันทึกภาพอันประทับใจ นำท่านขึ้นสู่ เขาพระธาตุพูสี ขึ้นบันได 328 ขั้น เชิญนมัสการธาตุพูสี เจดีย์ธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวหลวงพระบาง ตลอดทางขึ้นท่านจะได้รับกลิ่นหอมจากดอกจำปาลาว ดอกไม้ประจำชาติลาว เมื่อท่านถึงยอดให้ท่านนมัสการองค์พระธาตุ ซึ่งสร้างในสมัยพระเจ้าอนุรุท เมื่อปี พ.ศ.2337 พระธาตุเป็นรูปทรงดอกบัว อยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด 7 ชั้น สูงประมาณ 21 เมตร ชมพระอาทิตย์ยามอัสดง วิวทิวทัศน์รอบเมืองหลวงพระบางยามเย็น |
เย็น | รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารท้องถิ่น อาหารพื้นเมืองของหลวงพระบาง (มื้อที่ 6) |
ที่พัก | โรงแรม The Grand Luang Prabang Hotel ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันที่สาม | หลวงพระบาง - วัดวิชุนราช - หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง - นั่งรถไฟความเร็วสูง - เมืองวังเวียง - ถ้ำนางฟ้า - ล่องเรือแม่น้ำซอง |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่สาม | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 7) นำท่านชม วัดวิชุนราช สร้างในสมัยพระเจ้าวิชุนราช (พ.ศ. 2046) นับเป็นอีกหนึ่งพระธาตุที่ชาวหลวงพระบางให้ความนับถือ ซึ่งเป็นพระธาตุที่มีรูปทรงคล้ายกับลูกแตงโมผ่าครึ่ง นำท่านชม หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง หรือ หอคำ เดิมคือพระราชวังของเจ้ามหาชีวิตหลวงพระบาง จึงเรียกอีกชื่อว่า วังเจ้ามหาชีวิต สร้างเมื่อ พ.ศ. 2447 ในสมัยสมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ สืบทอดต่อมาถึงสมัยสมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวัฒนา พระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของลาว ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส แต่เป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นฝรั่งเศสและลาวในตัวพระราชวัง ต่อมาปรับให้เป็นหอพิพิธภัณฑ์หลวง เมื่อ พ.ศ. 2519 โดยใช้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงโบราณวัตถุและของมีค่า เช่น บัลลังก์ ธรรมาสน์ เครื่องสูงและราชูปโภคของเจ้าชีวิต พระพุทธรูป และวัตถุโบราณ รวมถึงของขวัญจากต่างประเทศ นำท่านกราบสักการะ พระบาง ณ หอพระบาง เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของเมืองหลวงพระบาง เป็นพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร ตามศิลปะแบบเขมรแบบบายน สูงประมาณ 1.14 เมตร หล่อด้วยทองสำริด อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าไว้ในองค์พระ 5 แห่ง คือ พระศอ พระนลาฏ พระชานุ พระอุระ ข้อพระกรทั้งสองข้าง |
11.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 8) นำท่านเดินทางออกจาก หลวงพระบางด้วยรถไฟความเร็วสูง สู่ เมืองวังเวียง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) นำท่านเที่ยวชม ถ้ำนางฟ้า ให้ท่านถ่ายรูปกับ สะพานแขวนสีฟ้า ที่พาดข้ามแม่น้ำซอง ชมหินงอกหินย้อยที่ถ้ำนางฟ้า ถ้ำแห่งนี้ถือเป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่สว่างไสวด้วยสปอตไลต์ เจลซึ่งเต็มไปด้วยหินปูนขนาดใหญ่และมีหินย้อยตระการตาในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่เหมือนใคร บริเวณนี้มีกิจกรรมนั่งห่วงยางเข้าถ้ำนอน นำท่าน ล่องเรือแม่น้ำซอง เป็นแม่น้ำสายเล็ก ๆ ของประเทศลาวที่ไหลผ่านเมืองวังเวียง ที่ได้ฉายาว่า “กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว” มีเสน่ห์ไม่มีเหมือนใครกับสภาพทางภูมิศาสตร์เป็นที่ราบระหว่างภูเขาหินปูน มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ มองไปรอบด้านจะเห็นสีเขียวชอุ่มจากธรรมชาติ ดื่มด่ำบรรยากาศแห่งความเงียบสงบ ไม่ได้มีผู้คนพลุกพล่าน เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติหากได้มาเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำท่านเดินทางสู่ที่พัก โรงแรมวังเวียง ริเวอร์ไซค์ (ชมวิวพาโนรามาคุ้งน้ำซองที่สวยสุดจากระเบียงห้องพัก) หรือเทียบเท่า ระดับ 4 ดาว โรงแรมที่สามารถดื่มด่ำบรรยากาศความสงบและสบาย พร้อมกับทิวทัศน์ธรรมชาติที่ได้รับฉายาว่า “กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว” |
เย็น | รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารโรงแรมที่พัก (มื้อที่ 9) |
ที่พัก | โรงแรมวังเวียง ริเวอร์ไซค์ หรือเทียบเท่า ระดับ 4 ดาว |
วันที่สี่ | วังเวียง - นครหลวงเวียงจันทน์ - พระธาตุหลวง - สะพานมิตรภาพไทย-ลาว - สนามบินอุดรธานี |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่สี่ | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 10) นำท่านออกเดินทางกลับสู่ นครหลวงเวียงจันทน์ โดยทางรถยนต์ใช้เส้นทางด่วนพิเศษ รัฐบาลจีนสร้างมอบให้ สปป.ลาว (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที) |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 11) |
บ่าย | นำท่านชม อนุสาวรีย์พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช นมัสการ พระธาตุหลวง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเวียงจันทร์ ชมศิลปะแบบล้านช้าง เลือกชมของพื้นบ้านแม่ค้าชาวลาวนำมาจำหน่าย จากนั้นอำลานครหลวงเวียงจันทน์เดินทางสู่หน้าด่านมิตรภาพ สปป.ลาว ให้เวลาท่าน ช้อปปิ้งต่อที่ Duty Free หน้าด่าน และผ่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้า-ออกเมือง สปป.ลาว |
16.00 น. | นำท่านเดินทางข้าม สะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองไทย จ.หนองคาย
********ขอบคุณทุกท่านที่ใช้บริการ******** |
Address
240/26 (A Tower) Ayothaya Building 16th Floor, Ratchadapisek Soi 18, Huay Kwang, BKK 10320
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel