ร่วมพิธีตักบาตรข้าวเหนียว ทุกเช้าชาวหลวงพระบางทุกบ้านจะพากันออกมานั่งรอตักบาตรพระสงฆ์
นมัสการ พระบาง พระคู่บ้านคู่เมืองของชาวหลวงพระบาง
วัดเชียงทอง วัดหลวงคู่บ้านคู่เมือง พระธาตุภูษี
ขอพร พระธาตุหลวง ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทสลาว ชม อนุสาวรีย์ประตูชัย
ชมเมืองมรดกโลก นมัสการหอพระบาง วัดเชียงทอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบาง
กุ้ยหลินเมืองลาว ตระการตากับหินงอกหินย้อยใน ถ้ำจัง
เพลิดเพลินกับสีสันยามค่ำคืนบน ถนนคนเดิน walking street หรือ”ถนนโรตี”
เที่ยวชม ถนนข้าวเหนียว หรือ ตลาดมืด ให้ทุกท่านได้เลือกซื้อสิ้นค้าพื้นเมืองมากมาย
พิเศษ !! พิธีบายศรีสู่ขวัญต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองตามประเพณีของชาวหลวงพระบาง
ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น,คนขับรถ,ผู้ช่วยคนขับรถ 600 บาท/ทริป/ลูกทัวร์ 1 ท่าน
วันที่ 1 | กรุงเทพฯ - เวียงจันทน์ - วัดพระธาตุหลวง - ประตูชัย - วังเวียง - ถนนโรตี |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
09.30 น. | พร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง อาคาร 1 ขาออก ชั้น 2 ประตู 1 เคาท์เตอร์สายการบินไทยแอร์เอเชีย Thai Air Asia (FD) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน |
12.05 น. | ออกเดินทางสู่ เมืองมรดกโลกหลวงพระบาง โดยเที่ยวบิน FD 1040 (มีบริการอาหารร้อนบนเครื่อง) |
13.25 น. | เดินทางถึง สนามบิน วัตไต เมืองเวียงจันทน์ ประเทศลาว ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง |
บ่าย | นำท่านไปสักการะ วัดพระธาตุหลวง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประตูชัยเป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติลาว มีความหมายต่อจิตใจของประชาชนชาวลาวอย่างใหญ่หลวงแทนถึงความเป็นเอกราชและอำนาจอธิปไตยของลาวสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 เป็นเจดีย์ที่มีลักษณะโดดเด่นที่สุดในอาณาจักรล้านช้าง เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมในพระพุทธศาสนากับสถาปัตยกรรมของอาณาจักร มีลักษณะคล้ายป้อมปราการ มีการก่อสร้างระเบียงสูงใหญ่ขึ้นโอบล้อมองค์พระธาตุไว้พร้อมกับทำช่องหน้าต่างเล็กๆ เอาไว้โดยตลอด ประตูทางเข้าเป็นบานประตูไม้ใหญ่ลงรักสีแดง รอบๆองค์พระธาตุยังมีเจดีย์บริวารล้อมอยู่โดยรอบ นำท่าน ชมอนุสาวรีย์ประตูชัย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของนครเวียงจันทน์ บนถนนล้านช้างจะไปสิ้นสุดที่บริเวณประตูชัย สร้างเสร็จในปี พ.ศ.2512 เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวที่สละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติพรรคคอมมิวนิสต์ประตูชัยมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า รัยเวย์แนวตั้ง เพราะการก่อสร้างนี้ใช้ปูนซีเมนส์จากประเทศอเมริกาที่ซื้อมาเพื่อสร้างสนามบินใหม่ในเวียงจันทน์ในระหว่างสงครามอินโดจีนแต่พ่ายเสียก่อนจึงได้นำมาสร้างประตูชัยแทน เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะล้านช้างกับฝรั่งเศสเข้าด้วยกันอย่างงดงามและกลลืนอย่างยิ่ง จากนั้นนำท่านเดินทางมุ่งสู่เมืองวังเวียงสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่และธรรมชาติท่ามกลางขุนเขาที่รายล้อมอยู่โดยรอบ จนได้ชื่อว่าเป็น กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว |
ค่ำ | รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารที่วังเวียง และให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัยเพลิดเพลินไปกับสีสันยามค่ำคืนในเมืองวังเวียงบน ถนนคนเดิน( Walking Street ) หรือถนนโรตีซึ่งมีโรตีให้ท่านได้เลือกชิมกันอย่างจุใจ |
ที่พัก | THE GRAND RIVERSIDE HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว |
วันที่ 2 | วังเวียง - ถ้ำจัง - หลวงพระบาง - พระธาตุภูษี - ถนนคนเดิน |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม หลังอาหารพาท่านตระการตากับความงามของหินงอกหินย้อยใน ถ้ำจัง ภายในบรรยากาศเย็นสบายรวมทั้งสูดอากาศแสนบริสุทธิ์บนยอดถ้ำ พร้อมทั้งชม จุดชมวิว สุดยอดถ้ำ ที่ท่านจะสามารถมองเห็นเมืองวังเวียงได้ทั้งเมือง ชม สระมรกต ซึ่งเป็นบ่อน้ำแร่ที่ได้จากภูเขาหินปูน ได้เวลาสมควรพาทุกท่านมุ่งหน้าเมืองหลวงพระบางเมืองมรดกโลก ระหว่างทาง ท่านจะได้ผ่านหมู่บ้านชาวลาวพร้อมทั้งต้นไม้นานาพันธุ์ เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงาม การทำนาขั้นบันได และหมู่บ้านชนเผ่าต่างๆ ของลาว ผ่านเมือง กาสี พูคูณ เชียงเงิน และเส้นทางสายนี้ถือว่าเป็นสันทางที่สวยที่สุด เส้นทางหนึ่งในเอเชียอาคเนย์ ระหว่างทางให้ท่านถ่ายรูปจากมุมสูงของยอดเขาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งบนเส้นทางนี้และพักผ่อนหย่อนใจกับบรรยากาศแสนสบายที่ ภูเพียงฟ้า |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ถึงหลวงพระบางแล้วนำท่านเดินขึ้นบันได 328 ขั้น เพื่อนมัสการ พระธาตุภูษี (Phou Si Mountian) สองข้างทางร่มรื่นด้วยต้นดอกจำปา ภูษีนี้หมายถึง “ภูศรี” คือเป็นศรีของเมืองหลวงพระบางนั่นเอง ตั้งโดดเด่นกลางใจเมืองมีจุดชมวิวก่อนถึงยอดพระธาตุ มองเห็นวัด บ้านเรือน ทอดยาวขนานกับแม่น้ำโขงจรดปากแม่น้ำคานยอดสูงสุดของภูษี อยู่บนพื้นที่ราบแคบๆ ตัวพระธาตุเป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมทาสีทอง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด7 ชั้น สูงประมาณ 21 เมตร จะสวยมากในยามเย็น แบบนี้แสงแดดจะส่ององค์พระธาตุเป็นสีทองสุกปลั่ง มีทางเดินรอบองค์พระธาตุสามารถชมทิวทัศน์ตัวเมืองหลวงพระบางได้เกือบรอบเลยทีเดียว |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (พิศษ!! พิธีบายศรีสู่ขวัญตามประเพณีพื้นบ้านของหลวงพระบาง) หลังทานอาหารสามารถเดินเที่ยว ชม ถนนข้าวเหนียว ของหลวงพระบาง หรือ ตลาดมืด เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองไว้เป็นของฝาก หรือเป็นที่ระลึก อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย |
ที่พัก | ChitchareungMuanglouang Hotel ณ หลวงพระบาง หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว |
วันที่ 3 | ตักบาตรข้าวเหนียว - วัดเชียงทอง - พระราชวัง - หอพระบาง - วัดวิชุนราช - กทม. |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
05.00 น. | ตื่นเช้าไปร่วม ทำบุญ-ตักบาตร กับชาวหลวงพระบางทุกเช้าชาวหลวงพระบางทุกบ้านจะพากันออกมานั่งรอตักบาตรพระสงฆ์ที่เรียงแถวเดินมาตามถนนเป็นร้อย ๆ รูป ซึ่งเป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวาของหลวงพระบางโดยสะท้อนถึงวิถีชีวิตของสังคมอันสงบสุขและความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึกลงในวัฒนธรรมของชาวล้านช้าง และนำท่านแวะเที่ยวชม ตลาดเช้า |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม จากนั้นนำท่านเที่ยวชม วัดเชียงทอง (Xieng Thong Temple) เป็นวัดหลวงคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบางสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปเวียงจันทน์ และยังได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเจ้าชีวิตศรีสว่างวงศ์วัฒนา กษัตริย์สองพระองค์สุดท้ายของลาว บริเวณที่ตั้งของวัดอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมืองหลวงพระบาง ใกล้บริเวณที่แม่น้ำคานไหลมาบรรจบกันกับแม่น้ำโขง มีพระอุโบสถ หรือภาษาลาวเรียกว่า “สิม” เป็นหลังไม่ใหญ่โตนัก หลังคาพระอุโบสถแอ่นโค้งและลาดต่ำลงมาก ซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น เป็นศิลปะแบบหลวงพระบาง ส่วนกลางมี ช่อฟ้า ประกอบด้วย 17 ช่อ ซึ่งเป็นที่สังเกตกันว่า เป็นวัดที่พระมหากษัตริย์สร้างขึ้นจึงมี 17 ขั้น ส่วนสามัญจะสร้างกันแค่ 1-7 ช่อ เชื่อกันว่าจะเก็บของมีค่าไว้ในนั้นด้วย ส่วนหน้าบัน หรือภาษาลาวว่า “โหง่” เป็นรูปเศียรนาคความงามของวัดอยู่ที่ความสงบสง่าสะอาดมีการวางผังออกแบบและบำรุงรักษา จากนั้นนำท่านชม พระราชวังเก่า (Royal Palace Museum) เป็นวังที่ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ทรงประทับอยู่ที่นี่จนสิ้นพระชนม์ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี พ.ศ.2518 พระราชวังก็ได้ถูกเปลี่ยนเป็น พิพิธภัณฑ์ ประกอบด้วยหอฟังธรรมห้องรับแขกของเจ้ามหาชีวิตและพระมเหสี ห้องท้องพระโรง ทางด้านหลังก็เป็นพระตำหนักซึ่งมีเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ จัดเก็บไว้เป็นระเบียบเรียบง่าย นมัสการ หอพระบาง ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบาง เป็นพระพุทธรูปประทับยืนปรางค์ห้ามสมุทรเป็นพระพุทธรูปศิลปะขอมสมัยหลังบายน น้ำหนัก 54 กก. ประกอบด้วยทองคำ 90% และยังมีพระพุทธรูปนาคปรกสลักศิลาศิลปะขอมอีก 4 องค์ประดิษฐานอยู่ |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | หลังอาหารนำท่านเดินทางไป วัดใหม่สุวรรณภูมาราม หรือ ที่ชาวหลวงพระบางเรียกกันสั้นๆว่า "วัดใหม่" เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์สุดท้ายของลาวและยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระพุทธรูปคู่เมืองหลวงพระบางในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินฤทธิ์ จนกระทั่งถึงปีพ.ศ. 2437 จึงได้อัญเชิญพระบางไปประดิษฐานในหอพระบางภายในพระราชวังจวบจนกระทั่งปัจจุบัน เมื่อมาเยือนวัดแห่งนี้สิ่งที่เราจะสังเกตเห็นถึงความแตกต่างจากวัดอื่นๆ คือตัวอุโบสถ(สิม) ลักษณะจะเป็นอาคารทรงโรง หลังคามีขนาดใหญ่ มีชายคาปกคลุมทั้งสี่ด้านสองระดับต่อเนื่องกัน จากนั้นนำท่าน นมัสการ พระธาตุหมากโม เป็นเจดีย์ปทุมหรือพระธาตุดอกบัว แต่ชาวลาวทั่วไปเรียกว่า พระธาตุหมากโม เนื่องจากเห็นว่ามีรูปทรงคล้ายแตงโมผ่าครึ่งหรือทรงโอคว่ำ คล้ายสถูปฟองน้ำที่สาญจี ประเทศอินเดีย ยอดพระธาตุมีลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย บริเวณมุมฐานชั้นกลางและชั้นบนมีเจดย์ทิศทรงดอกบัวตูมทั้งสี่มุม ได้เวลาสมควรนำทุกท่านมุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติหลวงพระบาง |
16.45 น. | ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดย สายการบินไทยแอร์เอเซีย เที่ยวบินที่ FD 1031 |
18.05 น. | เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ |
Address
240/26 (A Tower) Ayothaya Building 16th Floor, Ratchadapisek Soi 18, Huay Kwang, BKK 10320
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel