โปรแกรมทัวร์อินเดีย มุมไบ ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า ... ชมเมืองมุมไบ | ชมมรดกโลก สถานีรถไฟวิคตอเรียเทอมินาส | ชมประตูสู่อินเดีย | ชมถ้ำเกาะช้าง | ชมภาพพระศิวะปราบอันธกาสูธ | ชมวัดสิทธิวินัยยัค | ชมถ้ำอะชันต้า | ชมถ้ำเอลโลร่า | ชมป้อมเดาลาตาบัด
วันที่ 1 | กรุงเทพฯ - มุมไบ/บอมเบย์ รัฐมหาราษ (ประเทศอินเดีย) |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
04.00 น. | คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางเข้าที่ 7 สายการบิน Jet Airways (9W) โดยเจ้าหน้าที่บริษัท คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้กับทุกท่าน กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นเครื่องบิน |
05.55 น. | ออกเดินทางสู่ มุมไบ (บอมเบย์) ประเทศอินเดีย โดยสายการบิน เจ็ท แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W 061 สายการบินจะบริการเครื่องดื่มและเสริฟ์อาหารเช้าบนเครื่อง |
08.50 น. | เดินทางถึง (ตามเวลาท้องถิ่น) สายการบินถึงท่าอากาศยาน สนามบินฉัตรปตีศิวะจิ ( CHHATRAPATI SHIVAJI ) เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ผ่านพิธีการตรวจสอบคนเข้าเมืองและ ผ่านด่านศุลกากรหลังจากเสร็จสิ้นพิธีการต่างๆนำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง มุมไบ (เวลาในประเทศอินเดียช้ากว่าประเทศไทยอยู่1.30 ชั่วโมง) มุมไบ กลิ่นอายตะวันตกในฉบับอินเดีย”มุมไบ (Mumbai) หรือ บอมเบย์ (Bombay) ในอดีต มีฐานะเป็นเมืองหลวงของรัฐมหาราษฏระ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศอินเดีย ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นหมู่เกาะ 7 เกาะ ที่แยกออกจากแผ่นดิน ก่อนจะเชื่อมต่อกันเมื่อร่องน้ำลำคลองตื้นเขินและกลายเป็นแหลมยื่นออกไปใน ทะเลยาว 22 กิโลเมตร อย่างในปัจจุบันแม้ผ่านพ้นช่วงเวลา ของการตกเป็นอาณานิคมมานานแล้ว แต่เสน่ห์ของความเป็นตะวันตกยังคงหลงเหลือให้เราได้สัมผัสอยู่ตลอดเส้นทางใน เมืองมุมไบ ตึกรามบ้านช่อง และอาคารสำคัญๆ ขนาดใหญ่ ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคยังมีให้เห็นมากมาย.. จากนั้น ท่านชมทัศนียภาพเมือง “มุมไบ” หรือ นครลอนดอนแห่งอินเดีย มุมไบ เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามครั้งเมื่ออังกฤษยังปกครองอยู่ มีทั้งแบบอังกฤษโกธิค แบบอินเดียผสมอาหรับ เช่น สถานีรถไฟ The Prince of Wales Museum of Western India หรือ “พิพิธภัณฑ์แห่งเวลล์” และ “มหาวิทยาลัยบอมเบย์” (University of Bombay) ซึ่งเป็นอาคารที่มี สถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่สวยงาม วิคทอเรียเทอร์มินัส ที่ทำการรัฐบาลและอาคารมหาวิทยาลัยมุมไบ ที่สร้างเลียนแบบกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ยังมี “อาคารที่ทำการรัฐบาล” ที่สวยงาม “มหาวิทยาลัยมุมไบที่มีหอนาฬิกาขนาดใหญ่ละม้ายคล้ายหอนาฬิกาบิ๊กเบนในประเทศ อังกฤษ” สูงสง่าอวดสายตาแขกต่างเมือง รวมถึงอาคารร้านค้า และโบสถ์ในคริสต์ศาสนา มุมไบ หรือ บอมเบย์ ยังมีชื่อเสียงโด่งดัง ในฐานะ “ศูนย์กลางของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์ของประเทศ รวมทั้งยังเป็นเมืองที่ผลิตภาพยนตร์มากที่สุดในโลก ประมาณ 800 เรื่องต่อปี” จนได้เรียกขานกันว่า “บอลลีวู้ด” เยี่ยมชม มรดกโลก แห่งแรก “สถานีรถไฟวิคตอเรียเทอมินาส” หรือในชื่ออินเดียใหม่ว่า “ฉัตรปตี ศิวาจีเทอมินาส” ที่ได้รับการตั้งชื่อตามพระนามพระราชินีวิคตอเรีย ก่อสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบวิคตอเรียโกธิค ผสมผสานกับงานศิลปะแบบอินเดียอันทรงคุณค่าจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | สถานที่แห่งสำคัญที่พลาดไม่ได้ก็คือ “ประตูสู่อินเดีย” (Gateway of India) ริมฝั่งทะเลอาระเบียน ซึ่งถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมุมไบ สร้างขึ้นเพื่อเป็น “อนุสรณ์ในการเสด็จมาเยือนมุมไบของพระเจ้าจอร์จที่ 5 และสมเด็จพระราชินีแมรี่” ในปี ค.ศ.1911 เพื่อทรงร่วมงานเดลีดารบัร ความงดงามของสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะของท้องถิ่น กับแบบมุสลิมของรัฐคุชราต ประกอบกับความสูงกว่า 80 ฟุต ของประตูสู่อินเดีย ทำให้ที่นี่เป็นที่หมายสำคัญแห่งแรกๆ ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางมาสู่มุมไบ... นำท่านเดินไปยังท่าน้ำตรง GATEWAY OF INDIA เพื่อทำการขึ้นเรือโดยสารมุ่งหน้าไปยัง ถ้ำเกาะช้าง (เรือไม้ขนาดไซด์บรรจุผู้โดยสารได้ถึง 50 ท่านจะออกจากท่าประมาณทุกๆครึ่งชั่วโมงออกจากเกาะไปประมาณ 45 นาที) ภายหลังที่เรือแล่นออกจากท่าน้ำท่านสามารถเก็บบันทึกภาพประตูชัยที่อยู่ติดกับโรงแรมสุดหรูทัชมาฮาล จะได้ชมภาพทิวทัศน์ของท่าเมืองมุมไบตลอดเส้นทางเดินทางท่านจะสามารถเห็นฐานทัพเรือของอินเดียระหว่างทางสู่เกาะด้วย เยี่ยมชม มรดกโลก แห่งที่สอง ...นำท่านล่องเรือกลางมหาสมุทรอินเดีย สู่ “เกาะช้าง” (Elephant Island) หรือ “ฆรบุรี” ถ้ำช้าง ตั้งอยู่บนเกาะกลางอ่าวหน้าเมืองมุมไบประมาณ 1500 กว่าปี มาแล้ว กษัตริย์ราชวงศ์ไตรกูฏกะปกครองดินแดนที่ราบสูงเผ่าเดคข่านตะวันตกของอินเดียได้มีรับสั่งให้ทำการสร้างถ้ำนี้ขึ้นเพื่ออุทิศถวายเป็นเทวสถานแด่องค์พระศิวะเทพ จากนั้นนำท่านเคลื่อนย้ายต่อโดยเปลี่ยนเป็นนั่ง “รถไฟจิ๋ว” ( วิ่งโดยไม่มีคนขับเนื่องมาจากใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการควบคุม) ระยะทางไม่ถึงกิโลเมตรก็ถึงที่หมายรถไฟจะทำการจอดให้ลงพร้อมเดินขึ้นเขาเพื่อไปเยี่ยมชม ถ้ำช้าง ตลอดทางขึ้นจะมีพ่อค้าแม่ค้านำสินของมาวางขายอยู่เกลื่อนกลาด ถ้ำช้าง ผนังถ้ำส่วนแรกจะเป็นภาพสลักตอน “ศิวนาฎราช” ลักษณะพระศิวะเจ้าทรงแสดงการฟ้อนรำโดยกระบวนท่านาฏยศาสตร์ 108 ท่าเพื่อให้อัฎจักรทุกสิ่งในจักวาลเคลื่อนที่ไปอย่างสมดุล (คล้ายกับปราสาทพนมรุ้ง) กลางถ้ำมีประติมากรรมรูปมเหศวรตรีมูรติ“ หรือพระศิว3หน้าหรือรูปปั้น3เศียรมีความสูงเกือบ 20 ฟีด (TRIMURTI ) พระพักตร์ตรงกลางเป็นพระศิวะผู้เมตตากรุณาหรือเรียกว่า“ จันทรเศษมูรติ“ พระพักตร์ทางด้านซ้าย จะเป็นพระศิวะปางดุร้ายเรียกว่า“ไภรวะ” พระพักตร์ทางด้านขวา จะเป็นใบหน้าสตรี ซึ่งหมายถึง “ พระอุมาภควดี” ซึ่งเป็นอัครมเหสีของพระองค์) ถัดมานำท่านชมความงดงามของภาพ “ROYAL WEDDING “ ระหว่างพระศิวะกับพระอุมา (มีเรื่องเล่ากันว่าก่อนชาติพระอุมาพระนางได้เกิดมาในนามอื่นนั่นคือพระสตี พ่อตาเกิดรังเกียจลูกเขยอีกทั้งพูดจาถากถางดูถูก พระนางสตีจึงทำการโดดเข้ากองไฟเพื่อปกป้องเกียรติของพระสวามี ต่อมาเมื่อพระศิวะทราบจึงแผลงฤทธิ์ทำการสังหารคนที่ทำให้หญิงคนรักต้องจากไป จากนั้นพระองค์ก็แบกศพของนางสตีวิ่งร่ำไห้ไปรอบจักรวาล ประดุจจะขาดใจเมื่อสิ้นนางและพระองค์ก็ไม่ทำการชายตามองหญิงอื่นใดเลยจนกระทั่งพระสตีกลับชาติมาเกิดใหม่ เป็นเทพธิดาแห่งภูเขาหิมาลัยนามว่าพระอุมา“) ชมภาพพระศิวะปราบอันธกาสูธ ( หมายถึงปราบปีศาจแห่งความมืด) ถัดมาด้านข้างตัวถ้ำมีโพรงใหญ่ใต้พื้นเป็นแอ่งน้ำธรรมชาติเขียวใสคนอินเดียถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์เพราะอยู่ใต้ถ้ำ... ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางกลับเข้าฝั่ง จากนั้นอิสระ ถ่ายรูปคู่กับ “ประตูชัย” (Gateway of India) ตามอัธยาศัย |
ที่พัก | Hotel holidays Inn (เมืองมุมไบ) หรือเทียบเท่า |
วันที่ 2 | บอมเบย์ - ออรังกาบัด (บินภายในประเทศ) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม นำท่านเดินทางสู่ “วัดสิทธิวินัยยัค” (Siddhivinayak Temple) ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ ในศาสนาฮินดู ให้ท่านได้บูชาเครื่องราง,รูปบูชาขององค์ท่านตามอัธยาศัย วัดสิทธิวินัยยัค สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1801 ภายในเป็นที่ประดิษฐานองค์ “พระพิฆเนศ” เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ซึ่งตั้งอยู่ในองค์มณฑปศักดิ์สิทธิ์ ที่ท่านจะสามารถสัมผัสได้ถึงพลังศรัทธา ทันทีที่ท่านก้าวเข้าสู่ภายในวัดที่คลาคล่ำไปด้วยฝูงชนที่มาเคารพสักการะ หลังจากที่ท่านได้สักการะองค์ท่านแล้ว จะมีพิธีกรรมที่ประหลาดอีกอย่างที่จำเป็นต้องทำคือ ให้ท่านได้กระซิบคำอธิษฐานต่อรูปปั้นหนู 2 ตน ที่ถือเป็นพระสหายขององค์ท่านด้วย นำท่านชม โดบิกาต (Dhobi Ghat) เป็นสถานที่ซักผ้า (Washing Place) ที่มีชื่อเสียงของเมืองมุมไบในฐานะลานซักผ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะที่นี่ต้องใช้ลูกจ้างในการซักผ้ามากถึงห้าพันคนโดบิกาตมีลักษณะเป็นลานที่ทำเป็นช่องๆ วางแปลนอย่างเป็นระเบียบ คนงานซักผ้าต่างก็ขมีขมันซักผ้าในช่องของตนโดยการทุบๆ สิ่งสกปรกออกจากผ้า ซึ่งผ้าที่นำมาซักจะถูกส่งมาจากโรงแรมต่างๆ ทั่วเมืองมุมไบแม้ว่าโดบิกาตจะเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย และเสียงอึกทึก แต่ก็เป็นสถานที่มีเสน่ห์ เป็นสีสัน และเป็นเอกลักษณ์ของมุมไบที่หาดูไม่ได้ในที่อื่นๆ โดยเฉพาะการสะท้อนภาพวิถีชีวิตในเมืองที่แออัดหนาแน่นอย่างมุมไบ เราจะพบเห็น โดบิกาต กลายเป็นฉากประกอบในภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Slum Dog Millionaire, Hisss รวมทั้งหนังที่ชื่อ Dhobi Ghat อีกด้วย |
12.30 น. | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านชมบ้านท่านมหาตมะ คานธี “คานธี” มหาบุรุษแห่งสันติภาพสู่ทะเลอาหรับ ซึ่งตอนนี้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ท่านจะได้เห็นห้องทำงานห้องนอน และของใช้ของท่าน แม้แต่ภาพวันที่ท่านสิ้นลมหายใจสุดท้ายจากกระสุนปืน จากนั้น นำท่านช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองมุมไบ...ก่อนเดินทางสู่ สนามบินภายในประเทศเพื่อเดินทางสู่ เมืองออรังกาบาด |
14.30 น. | นำท่านเดินทางสู่ สนามบินภายในประเทศเพื่อเดินทางสู่ ออรังกาบาด |
16.40 น. | ออกเดินทางสู่ เมืองออรังกาบัด โดย สายการบินเจ็ท แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W 7148 |
17.50 น. | เดินทางถึง ท่าอากาศยานเมืองออรังกาบัด ตรวจรับสำภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก |
19.00 น. | บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร ของโรงแรมอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย |
ที่พัก | HOTEL AMBASSADOR HOTEL หรือเทียบเท่า (เมืองออรังกาบัด) |
วันที่ 3 | เมืองออรังกาบาด( AURANGABAD ) - อะชันต้า ( AJANTA CAVES ) “ ถ้ำมรดกโลก “ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม นำท่านเดินทางสู่.. ถ้ำอชันต้า ( ระยะทาง 110 กม. ใช้เวลา 2.30 ชม. ) มรดกโลกแห่งที่สาม ถ้ำอะชันต้า ( AJAMTA CAVE ) ตั้งห่างจากเมืองออรังกาบาดไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 110 กิโลเมตร ถือเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอินเดีย (ถ้ำจะทำการปิดให้บริการทุกวันจันทร์) ถ้ำอะชันต้า “ ถ้ำมรดกโลก” แบ่งออกเป็น 2 ยุคโดยในยุคแรกประมาณศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตศักราช ได้ถูกสร้างออกมาในรูปลักษณะของ” วิหาร” ( วัตถุประสงค์เพื่อปฏิบัติสมาธิ–ของเหล่าพระภิกษุ) และ “เจดีย์“ (เพื่ออุทิศแด่องค์พระพุทธเจ้า) มีหลักฐานเป็นภาพเขียนสีน้ำบนผนังที่ถ่ายทอดถึงเรื่องราวชาดกเข้าใจถึงพุทธประวัติเพราะมีการใช้ดอกบัวเป็นสัญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้าโดยตามความเชื่อของชาวเถรวาทยุคที่สองประมาณคริสศตวรรษที่ 5-6 ได้มีการเพิ่มเติมโดยแกะสลักพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์หลายพระองค์บนเจดีย์และบนผนังวิหารในแบบความเชื่อแบบใหม่หรือตามแบบของชาวมหายานถ้ำอะชันต้า( AJANTA CAVES ) ถือเป็นถ้ำที่มีการเจาะเป็นปราสาทที่มีขนาดใหญ่จนได้รับเป็น สิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลกที่มีอายุมากกว่า 2000 ปี และภายในถ้ำก็มีถ้ำมหึมาขนาดใหญ่อีกกว่า30ถ้ำ โดยผนังถ้ำมีภาพจิตกรรมฝาผนังที่มีอายุนับกว่า 1200 ปี |
13.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น บริเวณใกล้ ถ้ำอะชันต้า |
บ่าย | นำท่านเข้าชมสถาปัตยกรรมของ ถ้ำอะชันต้า ตั้งแต่ถ้ำแรก เกร็ดย่อของถ้ำต่าง ๆ ถ้ำเบอร์ 2 เป็นถ้ำของฝ่ายมหายานมีชื่อเสียงด้านภาพวาด ส่วนใหญ่เป็นภาพดอกบัวถ้ำเบอร์3เป็นถ้ำเล็กๆไม่มีค่อยมีอะไรน่าสนใจ ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทาง กลับเมืองออรังกาบาด เส้นทางเดิม โดยทางรถ ( ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง ) อิสระ ช้อปปิ้ง สิ้นค้าพื้นเมืองของออรังกาบาด |
19.00 น. | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตคาร หรือเทียบเท่า |
ที่พัก | HOTEL AMBASSADOR HOTEL หรือเทียบเท่า (เมืองออรังกาบัด) |
วันที่ 4 | เมืองออรังกาบาด( AURANGABAD ) - ถ้ำเอลโลร่า (ELLORA CAVES ) - ป้อมดาลาตาบาด - ออรังกาบาด |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม นำท่านเดินทางสู่ ถ้ำเอลโลร่า (ถ้ำปิดวันอังคาร) (ระยะทาง30กม.ประมาณ1ชม.) “ถ้ำของ 3 ศาสนา อินดู พุทธ และ เชน ที่อยู่รวมกัน” เป็นอีกหนึ่งกลุ่มถ้ำที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ในปี 2526 ตั้งอยู่ในเทือกเขาจรนันทรี ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างพุทธศตวรรษที่ 12 ถึง15 โดยการเจาะเข้าไปในภูเขาเช่นเดียวกับกลุ่มถ้ำอะจันต้าที่เรียงตัวจากเหนือไปใต้เป็นระยะทางรวมกันประมาณ 2 กิโลเมตร ภายในมีภาพแกะสลักของเหล่าทวยเทพที่มีความวิจิตรงดงามหาชมได้ยาก ระหว่างทางผ่านชม “ป้อมเดาลาตาบัด” ป้อมปราการโบราณรอบภูเขาดัลคีรี ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ยารวะและถูกกษัตริย์อลาอุดดินคัลจิ ชาวมุสลิมยึดได้ใน พ.ศ. 1839 กลายเป็นเมืองหลวงอินเดียภายใต้การปกครองของกษัตริย์มุสลิมอยู่พักหนึ่ง ก่อนถูกทิ้งร้างย้ายไปสร้างเมืองออรังกาบัด ชมซากมัสยิดที่ยังเหลือซากเสาจำนวน 106 ต้น ชมป้อมปราการ พระราชวังบนเสาอายุกว่า 700 ปี สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบินออรังกาบัด จากนั้น เยี่ยมชมมรดกโลกแห่งที่สี่ ถ้ำเอลโลร่า (ELLORA CAVES ) (ถ้ำจะปิดให้บริการทุกวันอังคาร ) ชมความงามที่ยิ่งใหญ่ของหมู่ถ้ำที่เกิดจากการเจาะแกะสลักภูเขาหินทั้งลูกด้วยฝีมือสาวก 3 ศาสนา ที่แข่งขันกันคือ ศาสนาฮินดู พุทธ และ เชน ถ้ำเอลโลร่ามีทั้งหมด 34 ถ้ำ โดยมีการแบ่งออกเป็น ถ้ำทางพุทธศาสนา 12 ถ้ำ ถัดมา 17 ถ้ำคือ เทวาลัยของชาวฮินดู และ วิหารถ้ำลักธิ เชน 5 ถ้ำ สถานที่ แห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก ในปี 1983 ถือเป็นถ้ำที่เกิดจากการแกะสลักภูเขาทั้งลูกออกเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับ ศาสนา นำท่านกราบนมัสการ พระพุทธรูป ที่มีอายุมากกว่า 1200 ปี ภายในถ้ำยังมีภาพแกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงอีกมากมาย อาทิ องค์พระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ พระพิฆเนศ ช้างเอราวัณ อีกทั้งภาพของนางอัปสร เป็นต้น ถ้ำที่ 16 ถือเป็นถ้ำที่อลังการที่สุด เป็นที่ที่มีศิวลึงค์เป็นจุดศูนย์กลาง |
12.30 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางกลับสู่ ออรังกาบัด ชม บีบี กา มักบารา (BiBiKa Maqbara) สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรัก สร้างโดยพระโอรสของออรังเซบ ทรงสร้างเพื่อรำลึกถึงพระมารดา พระนาง บีกัมราเบีย อุเด ดาราณี สถาปัตยกรรมลักษณะคล้ายทัชมาฮาล จากนั้นแวะให้ท่านช้อปปิ้ง ซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย อาทิ เช่น เครื่องทองเหลือง ผ้าปักลายโบราณที่จำลอง มาจากผนังถ้ำ อายุ 1,200 ปี และเครื่องประดับลวดลายแปลกตา ได้เวลาพอสมควรนำท่านกลับสู่ สนามบินเมืองออรังกาบัด |
18.20 น. | เหิรฟ้าสู่ เมืองมุมไบ โดยสายการบิน เจท แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W 7149 |
19.10 น. | ถึง สนามบิน ฉัตราปตีศิวะจิ (Chhatrapati Shivaji) ท่าอากาศยานมุมไบ อิสระอาหารเย็นภายในสนามบินโดยมี Cash Back กลับให้ท่านคนละ 500 รูปี |
วันที่ 5 | เมืองออรังกาบาด - สนามบินมุมไบ - สนามบินสุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
01.05 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินเจ็ท แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W 062 |
06.50 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ |
Address
240/26 (A Tower) Ayothaya Building 16th Floor, Ratchadapisek Soi 18, Huay Kwang, BKK 10320
ทุกวัน : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel