โปรแกรมทัวร์อินเดีย มุมไบ ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า ... ชมเมืองมุมไบ | ชมมรดกโลก สถานีรถไฟวิคตอเรียเทอมินาส | ชมประตูสู่อินเดีย | ชมถ้ำเกาะช้าง | ชมภาพพระศิวะปราบอันธกาสูธ | ชมวัดสิทธิวินัยยัค | ชมถ้ำอะชันต้า | ชมถ้ำเอลโลร่า | ชมป้อมเดาลาตาบัด
รหัสทัวร์ | วันที่เดินทาง | เดินทางโดย | ราคา | สถานะ |
---|---|---|---|---|
DE670-002 | 22-27 ต.ค. 66 | Thai Airways (TG) | 41,900 | จองด่วน |
DE670-003 | 22-27 พ.ย. 66 | Thai Airways (TG) | 41,900 | จองด่วน |
DE670-004 | 10-15 ธ.ค. 66 | Thai Airways (TG) | 41,900 | จองด่วน |
DE670-005 | 29 ธ.ค. 66-05 ม.ค. 67 | Thai Airways (TG) | 43,900 | จองด่วน |
วันที่ 1 | กรุงเทพฯ –มุมไบ (ประเทศอินเดีย) |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
19.30 น. | คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น4 ประตู 4 เคาน์เตอร์สายการบินไทย เจ้าหน้าที่บริษัทต้อนรับและอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน |
22.30 น. | ออกเดินทางจากสู่ มุมไบ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 351 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) |
วันที่ 2 | (ต่อบินภายในประเทศ) มุมไบ - ออรังกาบัด - ถ้ำเอลโรล่า - ออรังกาบัด |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
01.30 น. | เดินทางถึง สนามบินฉัตราปตีศิวะจิ (Chhatrapati Shivaji) ท่าอากาศยานมุมไบ ตามเวลาท้องถิ่นผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าสัมภาระ..รอต่อเครื่องบินในประเทศ (เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง) |
05.35 น. | ออกเดินทางสู่ ออรังกาบัด โดยสายการบิน Indigo เที่ยวบิน 6E 5012 |
06.35 น. | เดินทางถึง สนามบินออรังกาบัด (Aurangabad) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองมุมไบ เป็นเมืองที่เป็นที่ตั้งของ ถ้ำอจันตาและ ถ้ำเอลโลราซึ่งเป็นศาสนสถานที่ขุดเขาไปในหินบาซอลต์ (แกรนิตแข็ง) โดยขุดจากหินก้อนเดียวจนเป็นวิหาร ขนาดใหญ่ ตั้งขึ้นเมื่อปี 2153แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการจดทะเบียนโดย UNESCO |
08.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ถ้ำเอลโลร่า (ระยะทาง 30 กิโลเมตร ประมาณ 1 ชม.) ถ้ำเป็นถ้ำหินที่ถูกเจาะแกะสลักภูเขาหินทั้งลูก เพื่อที่จะสร้างเป็นวัดทางพุทธศาสนา เทวสถานของศาสนาฮินดู และวัดในศาสนาเชน โดยเป็นวัดในพระพุทธศาสนา 12 ถ้ำ เป็นเทวสถานของศาสนาฮินดู 17 ถ้ำและวัดของศาสนาเชน 5 ถ้ำ รวมแล้วทั้งหมด 34 ถ้ำ ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน เป็นอีกหนึ่งกลุ่มถ้ำที่ได้รับการ ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 2526 เยี่ยมชมมรดกโลก ถ้ำเอลโลร่า (ELLORA CAVES) ชมความงามที่ยิ่งใหญ่ของหมู่ถ้ำที่เกิดจากการเจาะแกะสลักภูเขาหินทั้งลูกด้วยฝีมือสาวก 3 ศาสนาที่แข่งขันกันคือ ศาสนาฮินดู พุทธ และเชนถ้ำเอลโลร่ามีทั้งหมด 34 ถ้ำ โดยมีการแบ่งออกเป็น ถ้ำทางพุทธศาสนา 12 ถ้ำ ถัดมา 17 ถ้ำคือ เทวาลัยของชาวฮินดู และ วิหารถ้ำลัทธิ เชน 5 ถ้ำ สถานที่ แห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก ในปี 1983 ถือเป็นถ้ำที่เกิดจากการแกะสลักภูเขาทั้งลูกออกเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับศาสนา นำท่านกราบนมัสการ พระพุทธรูปที่มีอายุมากกว่า 1,200 ปี ภายในถ้ำยังมีภาพแกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงอีกมากมาย อาทิ องค์พระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ พระพิฆเนศ ช้างเอราวัณ อีกทั้งภาพของนางอัปสร เป็นต้น ถ้ำที่ 16 ถือเป็นถ้ำที่อลังการที่สุด เป็นที่ที่มีศิวลึงค์เป็นจุดศูนย์ |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
จากนั้น | นำท่านเดินทางกลับสู่ออรังกาบัด นำท่านชม บีบี กา มักบารา (BiBiKa Maqbara) “ทัชมาฮาลน้อย” สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรัก สร้างโดยพระโอรสของออรังเซบทรงสร้างเพื่อรำลึกถึงพระมารดา พระนาง บีกัมราเบีย อุเด ดาราณี สถาปัตยกรรมลักษณะคล้ายทัชมาฮาล (Tomb of the Lady) สุสานแห่งนี้ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักแบบชายหนุ่มอย่างทัชมาฮาล แต่สร้างขึ้นจากความรักเหมือนกัน โดยสร้างขึ้นในปีค.ศ.1651 ถึง 1661...แวะให้ท่านช้อปปิ้ง ซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย อาทิ เช่น เครื่องทองเหลือง ผ้าปักลายโบราณที่จำลองมาจากผนังถ้ำ และเครื่องประดับลวดลายแปลกตา |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม พักผ่อนตามอัธยาศัย |
ที่พัก | Lemon Tree Hotel Aurangabad หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | ออรังกาบัด - ถ้ำอจันต้า - ออรังกาบัด |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม |
จากนั้น | นำท่านเดินทางสู่ ถ้ำอชันตามรดกโลก (AJANTA CAVE) สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นหนึ่งใน 38 แหล่งมรดกโลกของอินเดีย ถือเป็นวัดถ้ำในพุทธศาสนาที่งดงามและเก่าแก่ที่สุดในโลกสร้างเมื่อ พ.ศ. 350โดยพระภิกษุในสมัยนั้นได้ค้นพบสถานที่แห่งนี้ เห็นว่าเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรม กรรมฐานเป็นอย่างยิ่ง จึงได้เจาะภูเขาเพื่อสร้างเป็นกุฏิ โบสถ์ วิหาร ฯลฯ เพื่ออาศัยอยู่อย่างสันโดษ เนื่องจากเป็นสถานที่ห่างไกลผู้คน ทำให้ประวัติศาสตร์หน้าต่อมาของ ศาสนาพุทธในอินเดีย ได้ปรากฏขึ้นในหมู่ถ้ำบริเวณฝั่งตะวันตกของที่ราบสูง เมืองออรังกาบาด รัฐมหาราษฎร์ แห่งนี้ |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (ร้านอาหารใกล้บริเวณถ้ำ) |
บ่าย | นำท่านเข้าชม หมู่ถ้ำอชันตา ชมสถาปัตยกรรมของถ้ำ ในครั้งนั้นทำให้โลกต้องตื่นตะลึงกับความมหัศจรรย์ของศิลปะภายในวัดถ้ำ ทำให้นักประวัติศาสตร์ นักโบราณคดี สามารถปะติดปะต่อเรื่องราวของ ศาสนาพุทธ ในอินเดียได้อย่างชัดเจนเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น จากภาพแกะสลักหินภายในถ้ำ ที่ยังคงอยู่อย่างสมบูรณ์ ไม่ผุกร่อนพังทลายไปเหมือนพุทธสถานอื่นๆ เพราะทุกอย่างที่นี่ สลักขึ้นจากภูเขาทั้งลูก นับเป็นสิ่งแปลกประหลาดมหัศจรรย์ที่สุดในโลกก็ว่าได้ เข้าชมถ้ำ 1, 2, 9, 10, 16, 17, 19 ที่มีความงดงามลือเลื่อง และพลาดไม่ได้กับถ้ำ 26 ถ้ำเบอร์1เป็นวัดถ้ำสร้างถวายพระโพธิสัตว์ ถือเป็นถ้ำที่สมบูรณ์ที่สุดถ้ำหนึ่งของกลุ่มวัดถ้ำอชันตา แกะสลักภายในถ้ำจะมีเรื่องราวพุทธประวัติ เทพเจ้า สถูป สัตว์ พระโพธิสัตว์วัชรปาณี รูปแกะสลักตอนพระพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนาที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน สารนาถ ใกล้เมืองพาราณสี ภาพจิตกรรมมีภาพพระโพธิสัตว์ ภาพพิชิตมารก่อนตรัสรู้ ภาพมเหสีของนันดะกำลังเศร้าโศกที่ท่านกำลังจะออกบวชพระนันทเถรศากยะ เป็นพระภิกษุสาวก ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับเมืองออรังกาบาดเส้นทางเดิม... |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม พักผ่อนตามอัธยาศัย |
ที่พัก | Lemon Tree Hotel Aurangabad หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | ออรังกาบัด - มุมไบ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | บริการอาหารแบบกล่อง...จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบินออรังกาบัด |
07.05 น. | ออกเดินทางสู่ มุมไบ โดยสายการบิน Indigo เที่ยวบินที่ 6E 5669 |
08.55 น. | เดินทางถึง สนามบินมุมไบ เป็นเมืองหลวงของรัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดียสหประชาชาติระบุไว้ในปี 2018 ว่ามุมไบเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศอินเดียเป็นอันดับสองรองจากเดลี |
จากนั้น | นำท่านชม “มุมไบ” เสน่ห์เมืองใหญ่หลายมุมมอง นำท่านชม โดบิกาต Dhobi Ghat ลานซักผ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก แหล่งซักผ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกกลางนครมุมไบ ใช้ลูกจ้างซักผ้ามากกว่าห้าพันคนต่อวัน ไม่ใช่แค่ Slum Dog Millionaire เท่านั้นที่ใช้ฉากหลังจากชุมชนแห่งนี้ ภาพยนตร์เรื่อง Dhobi Ghat เองก็บอกเล่าเรื่องราวความแออัดจากฉากในสลัมเช่นกัน โดยโดบิกาต (Dhobi Ghat) มีชื่อเสียงขึ้นมาจากการเป็นลานซักผ้าเปิดโล่งที่ใหญ่ที่สุดในมุมไบและใหญ่ที่สุดในโลก จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดสิทธิวินัยยัค (Siddhivinayak Temple) ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ ในศาสนาฮินดู สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1801 ภายในเป็นที่ประดิษฐานองค์ “พระพิฆเนศ” เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ซึ่งตั้งอยู่ในองค์มณฑปศักดิ์สิทธิ์ ที่ท่านจะสามารถสัมผัสได้ถึงพลังศรัทธา ทันทีที่ท่านก้าวเข้าสู่ภายในวัด แนะนำให้ท่านได้กระซิบคำอธิษฐานต่อรูปปั้นหนู 2 ตน ที่ถือเป็นพระสหายขององค์ท่านด้วย และให้ท่านได้มีเวลาบูชาเครื่องราง,รูปบูชาขององค์ท่านตามอัธยาศัย |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (อาหารจีน) |
บ่าย | จากนั้น นำท่าน ผ่านชม พานทรา วารลี ซีลิงก์ (Bandra-Worli Sea Link; BWSL) หรือ บานดรา วารลี สะพานข้ามแม่น้ำแสนโรแมนติก ในมุมไบ สะพานบานดรา-วารลี ซีลิงก์ถือเป็นสะพานต้นแบบที่มีความสมบูรณ์แบบโดยการใช้หลักการทางด้านวิศวกรรม.. แวะถ่ายรูปสถานีรถไฟวิคตอเรียเทอมินาส สถานีฉัตรปตี ศิวาจี Chhatrapati Shivaji Terminus หรือในชื่ออินเดียใหม่ว่า “ฉัตรปตี ศิวาจีเทอมินาส” ที่ได้รับการตั้งชื่อตามพระนามพระราชินีวิคตอเรีย ก่อสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบวิคตอเรียโกธิค ผสมผสานกับงานศิลปะแบบอินเดียอันทรงคุณค่าเป็นสถานีรถไฟหลักของเมืองมุมไบ จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเมื่อ พ.ศ. 2547 ใกล้ๆ กันก็ยังมีตึกสวยๆ ให้ได้ชม อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ตึกบริษัทเทศบาลมุมไบ อาคารที่ทำการรัฐบาล มหาวิทยาลัยมุมไบ อาคารร้านค้าต่างๆ และโบสถ์ในศาสนาคริสต์ |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม / ภัตตาคาร |
ที่พัก | Hotel Mirador Mumbai หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | “มุมไบ” เสน่ห์เมืองใหญ่หลายมุมมอง |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | บริการอาหาร ณ โรงแรม |
จากนั้น | นำท่านเดินทางไปนำชม ประตูสู่อินเดีย (Gateway of India) สัญลักษณ์ของเมืองมุมไบ ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอาหรับ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการเสด็จมาเยือนเมืองมุมไบของพระเจ้าจอร์จที่ 5 และสมเด็จพระราชินีแมรี่ ในปี ค.ศ.1911 ความงดงามของสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะของท้องถิ่นกับแบบมุสลิมของรัฐคุชราต ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่เดินทางมาสู่มุมไบ ถ่ายรูปคู่กับ “ประตูชัย” ประตูแห่งนี้มีความสูง 26 เมตร ความสำคัญของที่นี่อีกอย่างคือ เมื่ออินเดียได้รับเอกราช ทหารของอังกฤษหน่วยสุดท้ายได้เดินทางออกจากอินเดียที่ประตูนี้เมื่อ ค.ศ.1948 ปัจจุบันใช้เป็นสัญลักษณ์สำหรับพิธีต้อนรับรัฐมนตรีใหม่ของนครมุมไบ รวมถึงต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองด้วย….บริเวณประตูสู่อินเดีย ยังเป็นท่าเรือโดยสารสำหรับเดินทางไปยัง “Elephanta Caves” อีกหนึ่งแหล่งมรดกโลกของอินเดีย จากนั้นนำท่านลงเรือ(ส่วนตัว)สู่ถ้ำเอลิฟันตา (Elephanta Cave) มรดกโลกแห่งอินเดีย ตั้งอยู่บนเกาะเอเลแฟนต้า ห่างจากฝั่งราว 10 กิโลเมตร ใช้เวลานั่งเรือเกือบๆ 1 ชั่วโมง พอขึ้นมาถึงเกาะ นำท่านเดินสู่ด้านใน หรือ นั่งรถไฟรางก็ได้ พอมาถึงตีนเขา ก็ต้องเดินขึ้นบันไดไปด้านบน ..หรือ สามารถเช่าเสลื่ยงได้ (ไม่รวมในราคาทัวร์) ผ่านร้านค้าสองข้างทางขึ้นไป ใครอยากแวะซื้ออะไรแนะนำให้เล็งไว้ก่อน เดี๋ยวขากลับค่อยลงมาซื้อ.. นำท่านชม Elephanta Caves ด้านบนเป็นถ้ำที่สร้างโดยการเจาะภูเขาหินเข้าไป มีทั้งหมด 7 ถ้ำ พุทธสถาน 2 ถ้ำ และเทวสถานในศาสนาฮินดู 5 ถ้ำ ด้านในมีการแกะสลักเป็นภาพเทพเจ้า ลักษณะศิลปะราวศตวรรษที่ 5-8 ส่วนถ้ำหลักที่เป็นไฮไลต์จะเป็นเทวาลัยในศาสนาฮินดูได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ.1987 ชมด้านในถ้ำ เสาค้ำยัน 24 ต้น จำหลักลวดลายหัวเสาอย่างสวยงาม มีคูหาประดิษฐานศิวลึงค์ อันเป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระศิวะโดยมีทวารบาลจำหลักทั้ง 4 ด้านของผนังรวม 8 องค์ ชมภาพสลักมเหศวรมูรติ ที่สำคัญที่สุดคือ “มเหศวรมูรติ” เป็นการรวมภาคทั้งสามของพระศิวะเข้าไว้ด้วยกันในร่างเดียว (คนละอย่างกับพระตรีมูรติ ที่เป็นการรวมของพระพรหม พระศิวะ และพระวิษณุ) ได้แก่ ภาคผู้สร้าง (จันทรเศขรมูรติ) ภาคผู้ปกป้องรักษา (อุมาภควดี) และภาคผู้ทำลาย (ไภรวะมูรติ) นอกจากนี้ ยังมีภาพแกะสลักเทพในศาสนาฮินดูที่น่าสวยงามปรากฏภายในถ้ำอีก เช่น ภาพพิธีสยุมพรพระศิวะและพระนางปารตี, ภาพพระศิวะปราบอันธกาสูร, ภาพพระศิวะในภาคที่ครึ่งหนึ่งเป็นบุรุษครึ่งหนึ่งเป็นสตรี เป็นต้น..จากนั้นให้ท่านได้อิสระหามุมสวยๆ เก็บภาพเป็นที่ระลึก...จนถึงเวลานัดหมาย จากนั้นนำท่านเดินทางลงเรือ เข้าฝั่ง ....อย่างที่เล่าว่ามุมไบนั้นเป็นเมืองท่าที่สำคัญมาอย่างยาวนาน มีการค้าขายกับชนชาติต่างๆ อยู่เสมอ รวมไปถึงการที่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เมืองนี้ได้รับอิทธิพลจากชาติตะวันตกอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในด้านสถาปัตยกรรม นำชมเมือง ชมตึกสวยๆๆ จากนั้นแวะถ่ายรูป คู่ โรงแรมที่ชื่อ “Taj Mahal Palace Hotel” สร้างเมื่อ พ.ศ. 2466 โดยทายาทตระกูลทาทา เป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างฮินดูกับมุสลิม โรงแรมให้บริการที่พักระดับ 5 ดาว สุดหรูในมุมไบในปัจจุบัน |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำชมพิพิธภัณฑ์ฉัตรปาตีศิวะจีมหาราช วาสตูสังกราหาลายา (Chhatrapati Shivaji Maharaj Vastu Sangrahalaya) พิพิธภัณฑ์ที่มีความสวยอลังมากๆ ตัวอาคารถูกออกแบบในสไตล์อินโดซาราเซนิค โดยสถาปนิกชื่อดังชาวอังกฤษ เป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างอังกฤษ ฮินดู และอิสลาม นอกจากความงดงามแล้ว ที่นี่คือแหล่งจัดแสดงประวัติศาสตร์ โบราณคดี และศิลปะชั้นดีของอินเดียรวมถึงทั่วเอเชีย มีสิ่งของจัดแสดงถึง 50,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็นงานประติมากรรม งานเซรามิกโบราณ ผลงานศิลปะ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่เดิมแล้วพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดให้เข้าชมครั้งแรกในปี ค.ศ. 1922 ในชื่อ Prince of Wales Museum of Western India แต่ต่อมาได้รับการเปลี่ยนชื่อใหม่เพื่อระลึกถึงกษัตริย์ศิวะจี ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิมราฐาในช่วงศตวรรษที่ 16 จากนั้นนำท่านไป อิสระช้อปปิ้ง โคลาบาคอสเวย์ (causeway market Mumbai) หนึ่งในสถานที่ที่น่าตื่นเต้นและหลากหลายที่สุดในมุมไบในฐานะสวรรค์ของนักช้อป สัญลักษณ์ที่ดีที่สุด Colaba Causewayเป็นหัวใจของมุมไบและเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาที่สุด...จนถึงเวลานัดหมาย |
19.00 น. | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร...นำท่านเดินทางสู่สนามบิน |
20.00 น. | นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ |
23.35 น. | ออกเดินทางไป กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG352 |
วันที่ 6 | กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
05.35 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ... |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 41,900 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 7,500 บาท |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 41,900 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 7,500 บาท |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 41,900 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 7,500 บาท |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 403,900 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 8,500 บาท |
Address
240/26 (A Tower) Ayothaya Building 16th Floor, Ratchadapisek Soi 18, Huay Kwang, BKK 10320
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel