ทัชมาฮาล อนุสรณ์สถานแห่งความรัก 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
เยือน เมืองชัยปุระ เมืองที่ได้รับการขนานนามว่า “นครสีชมพู”
ชม ป้อมปราการแอมเบอร์ ฟอร์ด ที่ตั้งอยู่บนผาหินเหนือทะเลสาบ
** พักโรงแรมระดับ 3-4 ดาว **
** ค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่นและคนขับรถ ท่านละ 1,500 บาท/ทริป **
วันที่ 1 | สนามบินดอนเมือง(กรุงเทพฯ) - สนามบินชัยปุระ - เมืองชัยปุระ |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
16.30 น. | นัดหมายคณะพร้อมกัน ณ สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ อาคาร 1 ชั้น 3 ประตูทางเข้าหมายเลข 1-2 เคาน์เตอร์หมายเลข 1-2 โดยสายการบินแอร์เอเชีย (Air Asia) ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและบริการช่วยเหลือเรื่องของกระเป๋าเดินทาง พร้อมทั้งเช็คอินรับบัตรที่นั่งบนเครื่องบิน |
19.30 น. | บินลัดฟ้าสู่ สนามบินชัยปุระ ประเทศอินเดีย โดย สายการบินแอร์เอเชีย (Air Asia) เที่ยวบินที่ FD130 ใช้เวลาบินประมาณ 4 ชั่วโมง (ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม) |
22.23 น. | เดินทางถึง สนามบินชัยปุระ ประเทศอินเดีย นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง 30 นาที) นำท่านเดินทางสู่ เมืองชัยปุระ (Jaipur) หรือ “นครแห่งชัยชนะ” ได้รับการกล่าวขนานนามว่า “นครสีชมพู” โดยมีที่มาอันเกิดมาจากเมื่อในปี ค.ศ. 1876 มหาราช ซาราม ซิงห์ (Maharaja Ram Singh) มีรับสั่งให้ประชาชนทาสีชมพูทับบนสีปูนเดิมของบ้านเรือนตนเอง เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงไมตรีจิตในการต้อนรับการมาเยือนของเจ้าชายแห่งเวลส์ (Prince of Waies) มงกุฏราชกุมารของประเทศอังกฤษ ต่อมาภายหลังในยุคของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7 (King Edward VII) แห่งสหราชอาณาจักร รัฐบาลอินเดียได้มีการออกกฏหมายควบคุมสิ่งก่อสร้างภายในเขตกำแพงเมืองเก่าให้มีการทาสีชมพูทั้งหมด เพราะเหตุนี้จึงทำให้สิ่งก่อสร้างภายในเมืองต่างๆ กลายเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนยังเมืองชัยปุระ |
ที่พัก | Park Ocean Hotel หรือเทียบเท่า |
วันที่ 2 | เมืองชัยปุระ - แชนด์เบารี - ฟเตหปุระสีกรี - เมืองอัครา |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ แชนด์เบารี (Chand Baori) หรือ แชนด์โบริ ตั้งอยู่ที่ รัฐ Rajasthan ทางตะวันตกของ ประเทศอินเดีย ใกล้กับหมู่บ้านอะบาห์เนรี ในเขตดาอุษา ที่มาที่ไปของ บ่อน้ำขั้นบันไดโบราณ แห่งนี้ เกิดจากปัญหาการขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ ในช่วงศตวรรษที่ 9 กษัตริย์ Chanda จึงรวบรวมชาวเมืองมาร่วมด้วยช่วยกันสร้างบ่อน้ำขึ้น เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติน้ำ โดยขุดบ่อลึกถึง 100 ฟุต ขนาดสูง 13 ชั้น มีจำนวนขั้นบันไดทั้งหมด 3,500 ขั้น บ่อน้ำ แชนด์ เบารี ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงถึงการวางแผนและการจัดการที่ดีของคนในยุคโบราณ |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ ฟเตหปุระสีกรี (Fatehpur Sikri) ตั้งอยู่ในเขตอำเภออัคระ รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย โบราณสถานแห่งนี้สร้างขึ้นโดย สมเด็จพระจักรพรรดิอักบัร และยังใช้เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิโมกุลระหว่างปี ค.ศ. 1571-1585 ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1569 โดยได้ใช้เวลาออกแบบผังเมืองและสร้างถึง 15 ปี ซึ่งรวมถึงกำแพงเมืองรอบด้าน พระราชวัง ตำหนัก ฮาเร็ม ศาล มัสยิด และอาคารสาธารณูปโภคต่างๆ เดิมมีชื่อว่า "ฟะเตฮาบาด" (Fatehabad) มาจากคำภาษาอาหรับว่า "ฟัตห์" แปลว่า "ชัยชนะ" และต่อมากลายเป็น "ฟเตหปุระสีกรี" (Fatehpur Sikri) ฟเตหปุระสีกรีนั้นตั้งอยู่บนบริเวณสันเขา ที่มีขนาดความยาว 3 กิโลเมตร (1.9 ไมล์) และกว้าง 1 กิโลเมตร (0.62 ไมล์) อาคารภายในนั้นถูกล้อมรอบด้วยกำแพงเมืองยาว 6 กิโลเมตร (3.7 ไมล์) อีกด้านหนึ่งเป็นทะเลสาบธรรมชาติ (ในสมัยนั้น) วัตถุดิบหลักที่ใช้สร้างได้แก่หินทรายสีแดง ที่ขุดได้ในบริเวณใกล้เคียง จึงเรียกกันว่า "หินทรายสีกรี" ตัวกำแพงเมืองนั้นประกอบด้วยประตูหลักทั้งหมด 9 แห่ง ได้แก่ ประตูเดลี ประตูลาล ประตูอัคระ ประตูบีร์บาล ประตูชันดันปาล ประตูกวาลิออร์ ประตูเทห์รา ประตูคอร์ และประตูอัชเมียร์ นำทุกท่านเดินทางไปยัง เมืองอัครา (Agra) อดีตเมืองหลวงของประเทศอินเดีย มีชื่อเรียกว่า “ฮินดูสถาน” อัครา เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมนา ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ในรัฐอุตตรประเทศ มีประชากรหนาแน่นที่สุดในรัฐอุตตรประเทศ อันดับที่ 19 ในประเทศอินเดีย และที่สำคัญเมืองอัคราถือว่าเป็นสถานที่ตั้ง “อนุสรณ์สถานแห่งความรัก” หรือ “ทัชมาฮาล” |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Howard The Fern Hotel หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | ทัชมาฮาล - ชมพระอาทิตย์ขึ้น - อัครา ฟอร์ท - เมืองชัยปุระ - วัดพระพิฆเณศ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้าตรู่ | นำท่านเดินทางสู่ ทัชมาฮาล (Taj Mahal) หรืออนุสรณ์สถานแห่งความรัก สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคปัจจุบัน ที่ถือได้ว่าเป็นแหล่งก่อเกิดพลังแห่งความรัก ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคน ทัชมาฮาล ถือเป็นสุสานหินอ่อนที่ผู้คนต่างยกย่องให้เป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่งดงาม และยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ปัจจุบัน ทัชมาฮาล ถือว่าเป็นแหล่งมรดกโลก 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่สำคัญ ที่บอกเล่าเกี่ยวกับความรักที่เป็นอมตะของพระเจ้าชาห์จาฮันที่มีต่อพระนางมุมตัช สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1631 จากนั้นหัวหน้าทัวร์ นำทุกท่านเดินสู่ประตูสุสานที่สลักตัวหนังสือภาษาอาระบิคที่เป็นถ้อยคำอุทิศ และไว้อาลัยต่อบุคคลอันเป็นที่รักที่จากไป พร้อมกับนำทุกท่านถ่ายรูปภาพกับลานน้ำพุที่มีอาคารทัชมาฮาลอยู่เบื้องหลัง พาทุกท่านเยี่ยมชมภายในอาคารที่มีการสร้างมาจากหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์จากเมืองมกรานะ มีการประดับลวดลายด้วยเทคนิคฝังหินสีต่างๆ ลงไปในเนื้อหินถือได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลกที่ออกแบบโดยช่างจากเปอร์เซีย อาคารตรงกลางเป็นรูปโดมที่มีหอคอยสี่เสาล้อมรอบ ตรงกลางด้านในเป็นที่ฝังพระศพของพระนางมุมตัช มาฮาล และพระเจ้าชาห์จาฮัน ที่ได้อยู่คู่เคียงกันตลอดชั่วนิรันดร์ |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ อัครา ฟอร์ท (Agra Fort) อีกหนึ่งสถานที่แหล่งมรดกโลกที่ควรค่าแก่การมาเยือน อัครา ฟอร์ท พระราชวังที่ถือว่ายิ่งใหญ่ เพราะใช้เวลาในการสร้างยาวนานถึงสามยุคด้วยกัน ของกษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุล เป็นกำแพงสองชั้นและป้อมอาคารทางเข้าสี่ทิศ ภายในประกอบด้วยพระราชวัง มัสยิด สวนดอกไม้ สถาปัตยกรรมตัวอาคารสร้างด้วยหินทรายสีแดง โดยกษัตริย์อัคบาร์ และที่แห่งนี้ยังเป็นที่คุมขังกษัตริย์ซาจาร์ฮาล พระองค์ใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิต โดยการมองผ่านแม่น้ำยุมนาไปยังทัชมาฮาลที่ซึ่งมเหสีสุดที่รักของพระองค์ประทับอยู่อย่างนิรันดร์ |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองชัยปุระ (Jaipur) หรือ “นครแห่งชัยชนะ” ได้รับการกล่าวขนานนามว่า “นครสีชมพู” โดยมีที่มาอันเกิดมาจากเมื่อในปี ค.ศ. 1876 มหาราช ซาราม ซิงห์ (Maharaja Ram Singh) มีรับสั่งให้ประชาชนทาสีชมพูทับบนสีปูนเดิมของบ้านเรือนตนเอง เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงไมตรีจิตในการต้อนรับการมาเยือนของเจ้าชายแห่งเวลส์ (Prince of Waies) มงกุฏราชกุมารของประเทศอังกฤษ ต่อมาภายหลังในยุคของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7 (King Edward VII) แห่งสหราชอาณาจักร รัฐบาลอินเดียได้มีการออกกฏหมายควบคุมสิ่งก่อสร้างภายในเขตกำแพงเมืองเก่าให้มีการทาสีชมพูทั้งหมด เพราะเหตุนี้จึงทำให้สิ่งก่อสร้างภายในเมืองต่างๆ กลายเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนยังเมืองชัยปุระ นำท่านเดินทางสู่ วัดพระพิฆเณศ (Ganesh temple) สร้างขึ้นโดย เสธอึ๊ง รามปาลีวาล ในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงด้วยความเป็นมงคลขององค์พระพิฆเนศวร นับเป็นไฮไลท์สำคัญที่มีผู้คนทั้งใน และนอกเมืองชัยปุระต่างนิยมเข้าชมเคารพบูชา เพื่อเป็นมงคลในชีวิตประจำวัน และเพื่อค้นหาของความสุขนิรันดร์ พระพิฆเนศช้างหัวเทพในศาสนาฮินดูถือว่าเป็นพระเจ้าแห่งความเป็นมงคล ภูมิปัญญาความรู้และความมั่งคั่ง |
ต่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Park Ocean Hotel หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | ฮาวา มาฮาล - ซิตี้ พาเลซ - ป้อมปราการแอมเบอร์ ฟอร์ด - พระราชวังแอมเบอร์ ฟอร์ด - ถ่ายรูปคู่พระราชวังกลางน้ำ - สนามบินชัยปุระ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ ฮาวา มาฮาล (Hawa Mahal) หรือรู้จักกันในนาม “พระราชวังแห่งสายลม” ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญอีกหนึ่งแห่ง ของประเทศอินเดียที่จักต้องมาเยือน พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตเมืองชัยปุระ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1799 โดยมหาราชาสะหวาย ประธาป สิงห์ (Maharaja Sawai Pratap Singh) และได้รับการออกแบบขึ้นมาโดยสถาปนิกที่ชื่อว่า ชันด์ อุสถัด (Lal Chand Ustad) ซึ่งสถาปัตยกรรมของฮาวา มาฮาล ถอดแบบมาจากรูปทรงมงกุฏของพระนารายณ์ บริเวณด้านหน้าอาคารมีหน้าบันสูงห้าชั้น และมีลักษณะคล้ายรังผึ้ง ที่สร้างมาจากหินทรายสีแดงสด อีกทั้งยังมีการฉลุหินทำให้เป็นช่องหน้าต่างมีลวดลายเล็กๆละเอียดยิบ จึงทำให้พระราชวังแห่งนี้มีช่องหน้าต่างถึง 953 บาน แต่หน้าต่างของพระราชวังจะถูกสร้างปิดไว้ด้วยหินทรายฉลุ ทำให้นางในฮาเร็มพระสนมที่อยู่ด้านในสามารถมองผ่านข้างในมาด้านนอกได้ แต่คนจากทางด้านนอกจะไม่สามารถมองผ่านเข้ามาด้านในได้ และที่สำคัญด้วยลักษณะการสร้างแบบนี้ทำให้เกิดช่องแสงและช่องลม ซึ่งเป็นที่มาของ “พระราชวังแห่งสายลม” นำท่านเดินทางสู่ ซิตี้ พาเลซ (City Palace) หรือที่รู้จักกันในนาม “พระราชวังหลวง” ตั้งอยู่บริเวณถนน ฮาวา มาฮาลบาซ่าร์ (Hawa Mahal Bazar) สร้างขึ้นในสมัยมหาราชสะหวายจัย ซิงห์ที่ 2 เดิมพระราชวังนี้เป็นพระราชวังของ มหาราชใจสิงห์ แต่ปัจจุบันนี้พระราชวังแห่งนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ Sawai Man Singh Museum ภายในพิพิธภัณฑ์มีหลายจุดที่น่าสนใจ ประกอบไปด้วย 4 จุดด้วยกัน ได้แก่ จุดที่หนึ่งคือในส่วนพระราชวัง จุดที่สองในส่วนของพิพิธภัณฑ์ (ที่จัดแสดงเกี่ยวกับฉลองพระองค์ของกษัตริย์ และมเหสี ที่แสดงให้เห็นถึงความปราณีต การตัดเย็บได้อย่างสวยงาม) จุดที่สามในส่วนของจำพวกอาวุธ และชุดศึกสงคราม และในจุดที่สี่ จะแสดงในส่วนของศิลปะของภาพวาด ภาพถ่าย ราชรถ และพรมโบราณ ที่ได้รับการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ และอีกหนึ่งไฮท์ไลท์คือหม้อน้ำขนาดใหญ่มหึมา จำนวน 2 ใบ ทำจากโลหะเงิน สูง 1.50 เมตร ถือได้ว่าใหญ่ที่สุดในโลก |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ ป้อมปราการแอมเบอร์ ฟอร์ด (Amber Fort) ตั้งอยู่ที่ เมืองอาเมร์ ห่างจากเมือง ชัยปุระไปทางทิศเหนือประมาณ 11 กิโลเมตร สร้างในสมัยศตวรรษที่ 16 โดยมหาราชา มาน สิงห์ที่ 1 (Raja Ma Singh 1) ทรงรับสั่งให้มีการสร้างป้อมปราการขึ้นในปี ค.ศ. 1592 และได้มีการบูรณะมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ สถานที่แห่งนี้มีความโดดเด่น สวยงามเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่หากมีโอกาสได้มาเยือนอินเดียแล้วไม่ควรพลาด เนื่องจากตั้งอยู่บนผาหินเหนือทะเลสาบ อีกทั้งป้อมปราการแอมเบอร์ ฟอร์ดยังมีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมที่มีการผสมผสานกันระหว่างศิลปะทางฮินดู และศิลปะราชปุตอันซึ่งทำให้ที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งทุกท่าน ยังสามารถมองเห็นป้อมปราการได้จากระยะทางไกล ด้วยขนาดของกำแพงปราการขนาดใหญ่และมีความแน่นหนา พร้อมประตูทางเข้าหลายแห่ง ถนนที่ปูด้วยหินหลายสาย และพิเศษสุดๆ ทุกท่านสามารถมองเห็นทะเลสาบเมาตา ได้อย่างชัดเจน เมื่อมองจากบนป้อมปราการ พิเศษ!! นำทุกท่านนั่งรถจิ๊บเพื่อขึ้นไปยังส่วนของพระราชวัง ความสวยงามของ พระราชวังแอมเบอร์ ฟอร์ด ภายในแบ่งเป็นทั้งหมดได้ 4 ชั้น แต่ละชั้นจะคั่นด้วยทางเดิน ภายในเป็นหมู่พระที่นั่ง สร้างจากหินทรายสีแดงและหินอ่อน หมู่พระที่นั่งภายในป้อม ประกอบด้วยท้องพระโรง ท้องพระโรงส่วนพระองค์ พระตำหนักซึ่งเป็นห้องทรงประดับกระจกสำหรับมหาราชา ตำหนักอยู่บนชั้นสอง สวนสวยจัดเป็นรูปดาวแฉกแบบโมกุลคั่นระหว่างอาคาร และพระตำหนักที่ใช้การปรับอากาศภายในพระตำหนักให้เย็นลงด้วยการทำให้ลมเป่าผ่านรางน้ำตกที่มีอยู่โดยรอบ เพราะเหตุนี้จึงทำให้ภายในตำหนักนี้มีอากาศเย็นอยู่เสมอ นำท่านแวะเก็บภาพประทับใจคู่ พระราชวังกลางน้ำ (Jal Mahal) เป็นพระราชวังขนาดใหญ่ ออกแบบโดยใช้สถาปัตยกรรมและรูปวาดศิลปะวัฒนธรรมแบบอินเดีย สร้างขึ้นเมื่อไม่กี่ศตวรรษที่ผ่านมา ตั้งอยู่ใจกลางทะเลสาบแมนซาการ์ ที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาอราวัลลี เป็นทำเลที่ดีที่สุดในเมือง เพราะสามารถเห็นวิวได้โดยรอบพระราชวัง และตัวพระราชวังก็จะสะท้อนกับผืนน้ำเพิ่มความงดงามให้มากขึ้น โดยเฉพาะในเวลากลางคืนที่จะมีแสงสะท้อนอย่างเห็นได้ชัด ในส่วนของพระราชวังนั้นมองภายนอกจะเห็นเพียงแค่สองชั้น แต่ความจริงแล้วที่นี่มีชั้นซ่อนอยู่ด้านล่างใต้น้ำอีกด้วย พระราชวังถูกสร้างครั้งแรกเพื่อจุดประสงค์เป็นที่พักผ่อนตากอากาศของพระราชา เพื่อเสด็จล่าสัตว์ ในบริเวณดังกล่าว แต่ในช่วงศตวรรษที่ 18 กษัตริย์แห่งอาร์เมอร์ได้ตัดสินใจสร้างเขื่อนล้อมรอบระหว่างภูเขาเพื่อป้องกันน้ำท่วม และตอนนั้นเองที่ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนท่วมส่วนหนึ่งของพระราชวัง ปัจจุบันที่นี่อนุญาตให้ผู้คนเข้าชมได้โดยทางเรือเท่านั้น และภายในวังยังมีภาพวาดที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี สถาปัตยกรรมภายนอกและภายในรวมถึงระเบียง มีการก่อสร้างอย่างวิจิตรงดงาม เป็นพระราชวังกลางน้ำอันสุดตา และถือเป็นสมบัติที่สมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งในประเทศ |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินชัยปุระ |
23.15 น. | บินลัดฟ้าสู่ สนามบินดอนเมือง โดย สายการบินแอร์เอเชีย (Air Asia) เที่ยวบินที่ FD131 ใช้เวลาบินประมาณ 4 ชั่วโมง (ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม) |
วันที่ 5 | สนามบินชัยปุระ - สนามบินดอนเมือง(กรุงเทพฯ) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
04.30 น. | เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ |
หมายเหตุ : ทางด่านตรวจคนเข้าเมืองประเทศปลายทาง อาจขอรายละเอียดเพิ่มเติม จากที่ได้แจ้งไว้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ และเอกสาร ของแต่ละท่าน (เป็นการพิจารณาแบบรายบุคคล) การอนุมัติวีซ่าเป็นดุลพินิจของทางสถานทูต ทางบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้บริษัทเป็นเพียงตัวกลางและคอยบริการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เดินทางเท่านั้น อัตราค่าธรรมเนียมวีซ่าทางสถานทูตเป็นผู้เรียกเก็บ หากท่านโดนปฏิเสธการขออนุมัติวีซ่า ทางสถานทูตไม่คืนอัตราค่าธรรมเนียมในการยื่นวีซ่า และมีสิทธิ์ไม่แจ้งสาเหตุการปฏิเสธวีซ่า
Address
240/26 (A Tower) Ayothaya Building 16th Floor, Ratchadapisek Soi 18, Huay Kwang, BKK 10320
ทุกวัน : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel