วันที่ 1 | กรุงเทพฯ - กัลกัตตา |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
13.00 น. | คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 5 เคาน์เตอร์ สายการบิน INDIGO AITLINES (6E) โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้ความสะดวกแก่ท่าน |
15.45 น. | ออกเดินทางสู่ เมืองกัลกัตตา KOLKATA โดยสายการบิน INDIGO AITLINES เที่ยวบินที่ 6E76 |
16.55 น. | ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติกัลกัตตา KOLKATA INTERNATIONAL AIRPORT (เวลาท้องถิ่น) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้วนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก เมืองกัลกัตตา KOLKATA เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของอินเดีย ที่พรั่งพร้อมไปด้วยเวียงวังในยุคอังกฤษและเป็นศูนย์กลางทาง วัฒธรรมที่มีชีวิตชีวามากมีชาวยุโรปเดินทางเข้ามาสู่อินเดียมากมายทำให้เมืองเจริญรุ่งเรืองมากและที่นี่จึงกลายเป็นบ้านอีกแห่งที่อยู่ไกลแสนไกลจากอังกฤษเพราะมีพร้อมทั้งจัตุรัสเอสปลานาดกับถนนสแตรนย์ ก่อนจะมีการย้ายเมืองหลวงไปที่เดลลีหลังจากอินเดียได้รับเอกราชในปี1911 |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตคารโรงแรม |
ที่พัก | VICEROY HOTEL (KOLKATA) หรือเทียเท่า |
วันที่ 2 | กัลกัตตา - สีลิกูรี (บักโดกรา) - เมืองดาร์จีลิ่ง |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานภายในประเทศ เมืองกัลกัตตา เพื่อมุ่งหน้าสู่ ท่าอากาศยานบักโดกรา BAGDOGRA AIRPORT นำคณะเข้าเชคอินเคาวน์เตอร์ |
10.45 น. | ออกเดินทางสู่ เมืองสีลิกูรีบักโดกรา (BAGDOGRA) โดย สายการบิน INDIGO AIRLINES เที่ยวบินที่ 6E797 |
11.50 น. | ถึง เมืองบักโดกรา หลังตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ภัตตาคารท้องถิ่น |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองดาร์จีลิ่ง DARJEELING (โดยรถจิ๊บปรับอากาศ) เมืองดาร์จีลิ่ง DARJEELING ซึ่งเมืองนี้สูงเหนือระดับน้ำทะเล 2,134 ม. ตัวเมืองหันหน้าเข้าหาเทือกเขาหิมาลัย ประชากรของดาร์จีลิ่งมีทั้งชาวเนปาล เลปชา ทิเบตและภูเตีย ที่นี่อังกฤษเข้ามาพัฒนาให้เป็นเมืองพักตากอากาศบนภูเขาได้อย่างสวยงามเป็น เมืองราชินีแห่งภูเขา หรือ เมืองพักตากอากาศบนภูเขา ถึงเมืองดาร์จีลิ่ง นำท่านชม วัดทิเบตกูม กอมปา “GHOOM GOMPA” เป็นวัดโบราณแต่ได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมใหม่ เพื่อบอกว่า “ เมืองนี้เป็นศูนย์รวมของความแตกต่างทางความเชื่อหลากหลาย ทั้งพุทธ อิสลาม ฮินดู แม้กระทั่งคริสต์ก็ตาม ” ที่แห่งนี้จึงดูกลมกลืนงดงามและทรงเสน่ห์อย่างมิอาจลืมเลือน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม |
ที่พัก | SUMMIT HERMON (DARJEELING) หรือเทียเท่า |
วันที่ 3 | เมืองดาร์จีลิ่ง |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้ามืด | จุดชมวิวไทเกอร์ฮิลล์ : เป็นจุดชมวิวเทือกเขาหิมาลัยยามเช้า ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของเมืองดาร์จีลลิ่งที่ระดับ 2590 เมตรจากระดับทะเล จึงเหมาะแก่การชมวิวหากฟ้าเปิดเราจะได้เห็นยอดเขาคันเชงจุงก้า ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก |
08.00 น. | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม นำท่านชม โรงงานผลิตชา ไร่ชาแฮปปี้วัลเล่ย์ (Happy Valley) ชมขั้นตอนการผลิตชาที่มีชื่อเสียงของเมืองดาร์จีลิ่ง ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อครั้งอังกฤษเข้ามาปกครองอินเดีย |
12.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านขึ้นชม ทรอยเทรน (Toy Train ) สถานีรถไฟนี้มีชื่อเต็มๆว่า Darjeeling Himalayan Railway ทรอยเทรน (Toy Train )สร้างในปี ค.ศ. 1879 -1881 ใช้ระบบเครื่องจักรไอน้ำ ยังได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้ทางรถไฟสายนี้เป็นมรดกโลกด้วยนั่งรถไฟชมรอบเมือง จะมีการจอดให้ลงถ่ายรูปในแต่ละสถานที่ที่น่าสนใจ แวะชม สถานีบาตาเซียลูป (Batasia Loop) สถานีบาตาเซียลูป (Batasia Loop) เป็นรางรถไฟที่สร้างขึ้นให้มีลักษณะเป็นวง ใช้เป็นจุดเลี้ยวกลับของรถไฟที่มาจากสถานีดาร์จิลลิง ส่วน War emorial สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1994 ในบริเวณบาตาเซียลูป เป็นอนุสาวรีย์ที่มีลักษณะสามเหลี่ยม สูง 30 ฟุต สร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารหาญชาวดาร์จิลิงที่เสียชีวิตจากสงคราม รอบๆตกแต่งด้วยดอกไม้นานาชนิด และมีกล้องส่องทางไกลให้ได้ส่องชมเมืองดาร์จิลิงอีกด้วย ลงจากรถไฟแวะชม พิพิธภัณฑ์กูม ด้านในแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างทางรถไฟเส้นนี้ ตั้งแต่อุปกรณ์ต่างๆ ภาพถ่ายเหตุการ์สำคัญ ป้ายประจำสถานี ประกาศนียบัตรจาก องค์การยูเนสโก จากนั้นนำท่านเดินช้อปปิ้ง ตลาดพื้นเมืองย่าน ชอร์รัสต้า แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง อาทิ ชาดาร์จีลิ่ง จากนั้นนำท่านเดินช้อปปิ้ง ย่านช้อปปิ้งชอร์ราสตา (Chawrasta) ตลาดพื้นเมืองชอร์รัสต้าแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง เป็นย่านที่ถนนสี่สายมาบรรจบกัน เพราะฉะนั้นที่นี่จึงมีถนนแยกไปได้หลายสาย โดยเฉพาะย่านถนน The Mall ซึ่งเป็นถนนที่สวยงาม มีสินค้าพื้นเมือง ของฝาก ของที่ระลึกมากมายให้เลือกช้อปปิ้งกัน |
เย็น | รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม |
ที่พัก | SUMMIT HERMON (DARJEELING) หรือเทียเท่า |
วันที่ 4 | เมืองดาร์จีลิ่ง - เมืองกังต๊อก |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม นำท่านเดินทาง เมืองหลวงสู่กังต็อก ( Gangtok ) เมืองหลวงสู่กังต็อก ( Gangtok ) เมืองหลวงแห่งรัฐสิกขิม (ประเทศอินเดีย) เมืองสายหมอก รัฐสิกขิม (Sikkim) เป็นรัฐทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย มีภูมิประเทศแบบที่ราบสูงบนเทือกเขาหิมาลัย มีพรมแดนติดกับหลายประเทศ อาทิ เขตปกครองตนเองทิเบต, เนปาล และภูฏาน แต่เดิมสิกขิมเป็นรัฐเอกราช มีขนาดใหญ่กว่ากรุงเดลี เมืองหลวงของอินเดียเล็กน้อย ปกครองโดยราชวงศ์นัมเยล ด้วยความเป็นรัฐเอกราชเล็กๆ อาจถูกบั่นทอนจากจีนซึ่งยึดทิเบตได้แล้วขณะนั้น เมื่ออินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ รัฐสิกขิม จึงยอมอยู่ใต้เอกราชเดียวกับอินเดีย ชมวิวทัศน์ระหว่างสองข้างอย่างสวยงาม (ประมาณ 3 - 4 ชม.) นำท่านชม ความงามแห่งดงดอกไม้นานาพันธ์ ณ FLOWER SHOW HALL ซึ่งภายในจะจัดแสดงพันธุ์ไม้เมืองสิกขิมหลากหลายพันธุ์และท่านช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกจากเมืองมากมายที่ตลาดกังต็อก |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านชม วัดรุมเต็ก (Rumtek Monastery) วัดรุมเต็ก (Rumtek Monastery) อยู่ในเมืองกังต๊อก รู้จักกันในนามของศูนย์ธรรมจักร (Dharmachakra Centre) สร้างโดย การ์มาปา วังชุก ดอร์เจ ที่ 9 ในศตวรรษที่ 16 สำหรับใช้เป็นที่พักอาศัยของผู้สืบเชื้อสาย Karma Kagyu ในสิกขิม แต่เมื่อวัดถูกทำลาย พื้นที่ถูกปล่อยร้างจนพระสังฆราชการ์มาปาที่ 16 ซึ่งเป็นชาวทิเบตได้ลี้ภัยมายังสิกขิม ในปี ค.ศ. 1959 เนื่องจากกองทัพจีนบุกไปยืดทิเบต พระองค์ได้สร้างวัดรุมเต็กอีกครั้ง เพื่อใช้เป็นที่ลี้ภัย จากกองทัพจีนโดยได้รับความช่วยเหลือจากราชวงศ์สิกขิมและรัฐบาลอินดีย ที่ตรงนี้มีลักษณะภูมิประเทศที่ดี มีลำธาร ภูเขาอยู่ด้านหลัง ภูเขาหิมะอยู่ด้านหน้าและมีแม่น้ำอยู่ด้านล่างใช้เวลาสร้างนาน 4 ปี มีสถาปัตยกรรมแบบทิเบตปัจจุบันเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในสิกขิม จากนั้นไม่นานพระสังฆราชการ์มาปาที่ 16 ได้สถาปนาวัดนี้เป็น ศูนย์ธรรมจักร สถานที่ใช้เรียน ฝึกฝนและปฏิบัติตนของชาวพุทธรวมทั้งเผยแผ่คำสอนของพระพุทธเจ้าในวันขึ้นปีใหม่ของทิเบต ในปี ค.ศ. 1966 |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม |
ที่พัก | SUMMIT DENAONG (Gangtok) หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | เมืองกังต๊อก - ทะเลสาบฌางโก - คเณศต็อก |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบฌางโก (Tsomgo Lake) (ระยะทาง 34 กม.ประมาณ 2 ชม.) ทะเลสาบฌางโก (Tsomgo Lake) ทะเลสาบฌางโก สูงประมาณ 3,774 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของสิกขิม มีลักษณะคล้ายรูปไข่ยาว 1 กิโลเมตร ลึก 15 เมตร เป็นทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูและชาวพุทธ ในช่วงหน้าหนาวน้ำจะกลายเป็นน้ำแข็ง และละลายในช่วงเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม รอบๆจะมีกุหลาบพันธ์ปี ดอกไอริส และดอกป็อปปี้ รวมถึงสัตว์ป่าหายากเช่น แพนด้าแดง เป็ด Brahmini และนกอพยพต่างๆ รวมถึง แย็ก (Yak หรือจามรี) มีรูปทรงสัณฐานเป็นวงรีลึกประมาณ 15 เมตร เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำลุงเฌ่ชูไหลไปบรรจบกับแม่น้ำรังโปและถือกันว่าเป็นแหล่งต้นน้ำธรรมชาติที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่ง ในสมัยอดีตพระลามะหลวงจะทำนายดวงชะตาเมืองจากการเพ่งกสิณ ณ ทะเลสาบแห่งนี้ สนุกสนานกับกิจกรรม ขี่จามรี สัตว์ภูเขาที่ได้รับการแต่งตัวด้วยสีสันสดใส พักผ่อน ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก กันตามอัธยาศัย จนถึงเวลานัดหมาย ได้เวลาอันสมควรกลับสู่ เมืองกังต็อก |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ระหว่างทาง นำท่านแวะชม คเณศต็อก (Ganesh Tok) คเณศต็อก (Ganesh Tok) เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู ชาวบ้านนิยมมาสวดมนต์ ด้านบนสามารถชมวิวเมืองกังต็อกได้ 180 องศา ถ้าอากาศดีจะมองเห็นวิวยอดเขาคันเช็งฌองกาได้ด้วย ภายนอกประดับธงแบบทิเบต วัดนี้ตั้งอยู่บนความสูง 6,100 ฟุต ติดกับทีวีทาวเวอร์ เป็นวัดเล็กๆ สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับลอร์ดกาเนชซึ่งเป็นวัดสำคัญของศาสนาฮินดู ประดิษฐานพระพิคเณศเทพเจ้าแห่งการขจัดอุปสรรคและเป็นเทพแห่งศิลปะทุกแขนง ชมหนุมานต็อก เป็นวัดในศาสนาฮินดู ที่สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่หมุมานทหารกล้าของพระรามในวรรณคดีก้องโลกรามเกียรต์ชาวสิกขิมบูชาและเคารพท่านในฐานะเทพผู้กล้าหาญ และจงรักภักดีต่อพระราม หนุมานจึงเป็นเสมือนหนึ่งเทพเจ้าองค์หนึ่งที่ชาวสิกขิมนับถือเป็นอย่างมากหากต้องการความกล้าหาญและความหึกเหิมใจต้องมาบูชาท่านและที่วัดหนุมานนี้ยังเป็นจุดชมวิวยอดเขาคังซังจังก้า ยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกและเทือกเขาหิมาลัยอีกด้วย ในวันที่ฟ้าสดใส อิสระช้อปปิ้ง ถนนมหาตมคานธี มาร์ก หรือ ถนนเอ็มจีมาร์ก (Mahatma Gandhi Road) M.G. Marg ถนนมหาตมคานธีเป็นถนนช้อปปิ้งสายหลักของสิกขิมที่มีร้านค้าจำนวนมาก โดยถนนเส้นนี้ในช่วงเย็นจะกลายเป็นถนนคนเดิน ห้ามรถวิ่งผ่านไปมา ถือเป็นถนนที่น่าเดินเล่น |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม |
ที่พัก | SUMMIT DENAONG (Gangtok) หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | เมืองกังต๊อก - หมู่บ้านลาชุง |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม นำท่านเดินทางออกจาก เมืองกังต๊อกเพื่อไป หมู่บ้านลาชุง นำท่านชมวัดเอนเซย์ (Enchey Monastery) หมู่บ้านลาชุง วัดเอนเซย์ (Enchey Monastery) ขึ้นมาในปี ค.ศ. 1840 กังต็อกจึงกลายเป็นศูนย์กลางของการแสวงบุญไปโดยปริยาย ต่อมาในปี ค.ศ. 1894 ธูทอบ นัมเกล (Thutob Namgyall) กษัตริย์ผู้ปกครองสิกขิมซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษอีกที ได้ย้ายเมืองหลวงจากเมืองทุมลอง (Tumlong) มาอยู่ที่เมืองกังต็อก (Gangtok) แทน นับแต่นั้นมา กังต็อกซึ่งมีบทบาทมากในฐานะเมืองหลวงแห่งสิกขิม (แม้ว่าภายหลังสิกขิมจะกลายเป็นรัฐที่ 22 ภายใต้การปกครองของอินเดีย กังต็อกก็ยังเป็นเมืองหลวงเช่นเดิม) กังต็อกประกอบด้วยชาวเนปาล ภูฏาน และชาวอินเดียเป็นส่วนใหญ่ แวะจุดชมวิว ทาชิ (Tashi View Point) ซึ่งเป็นจุดชมความงดงาม ยอดเขาคันชังจุงก้า ยอดที่สูงเป็นอันดับสามของโลก ที่ดีที่สุดในเมืองกังต็อก ถ้าอากาศดี ฟ้าเปิดจะมองเห็น ยอดเขาชิโนชู (Siniolchu)กลางเมืองกังต็อก ที่ท่านจะสามารถมองเห็นความสลับซับซ้อนของเทือกเขาทางภาคเหนือได้ดีที่สุด ขึ้นชมทิวทัศน์ของเมืองกังต๊อก เมืองหลวงของอาณาจักรสิกขิม นำท่านออกเดินทางสู่ หมู่บ้านลาชุง (Lachung) หมู่บ้านลาชุง (Lachung)ในอดีตเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างสิกขิมและทิเบต ที่นี่มีหุบเขายุมถัง หรือสวิตเซอร์แลนด์แห่งดินแดนตะวันออกและวัดลาชุง (ช่วงเดือน ธันวาคม - กุมภาพันธ์ อาจขึ้นมาที่หมู่บ้านนี้ไม่ได้เนื่องจากหิมะตกหนัก) มีอาณาเขตติดต่อกับจีน คำว่าลาชุง แปลว่า ภูเขาขนาดเล็ก จากเมืองกังต็อกใช้เวลานั่งรถจีปประมาณ 6-7 ชั่วโมงคะ ท่านจะได้สัมผัสกับภูมิทัศน์และบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติหมู่บ้านนี้โอบล้อมด้วยเทือกเขาหิมาลัย และวิวทิวทัศน์อันสวยงามตลอดเส้นทาง |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง |
บ่าย | นำท่านเดินทางต่อ ในระหว่างทางไปลาชุง เราจะได้แวะ น้ำตกเจ็ดสาวน้อย เป็นน้ำตกขนาดเล็กไม่ใหญ่มาก และแวะชมน้ำตกอันสวยงามตลอดเส้นทาง ท่านจะได้เห็นและสัมผัสกับน้ำตกที่สวยงามและแปลกตา บางช่วงปรากฏสายน้ำทิ้งตัวพุ่งดิ่งผ่านผาสูงลิบลิ่ว (จุดหมายไม่ใช่ปลายทางแต่ในระหว่างทางเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด) ถึง หมู่บ้านลาชุง หมู่บ้านที่โอบล้อมด้วยเทือกเขาหิมาลัย ท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดโรแมนติกและยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดนำท่านเข้าสู่ที่พัก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม |
ที่พัก | SNOWLION MOUNTAIN RESORT (Lachung) หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | หมู่บ้านลาชุง - หุบเขายุมถัง หุบเขาแห่งดอกไม้ - เมืองกังต๊อก |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม นำท่านเดินทางสู่ หุบเขายุมถังหรือทุ่งหญ้าลอยฟ้า (Yumthang Valley) หุบเขายุมถังหรือทุ่งหญ้าลอยฟ้า (Yumthang Valley) สวิสเซอร์แลนด์แห่งสิกขิม สถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามที่สุดของสิกขิมและยังเป็นดินแดนแห่งตำนานและความฝันเป็นเหมือนสวนสวรรค์สุขาวดีที่งดงามราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์ยุมถังเป็นหุบเขาแสนสวยสองข้างทางมียอดเขาหิมะของเทือกหิมาลัยตั้งตระหง่านผ่านธารน้ำแข็งน้อยใหญ่และป่าสนกับยอดเขาสูงเสียดฟ้าถ้ามาช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคม ซึ่งเป็นฤดูใบไม้ผลิจะเห็นป่ากุหลาบพันปีมากกว่า 36 สายพันธุ์ ผลิดอกบานสะพรั่งทั้งหุบเขาหรือถ้ามาเดือนพฤศจิกายน - เดือนมกราคม จะเห็นเทือกเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะสวยงามแบบสวิสเซอร์แลนด์ ยุมถัง ดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า “สวิสแห่งเอเชีย” ที่นี่นอกจากจะเป็นดินแดนแห่งดอกไม้ และดอกกุหลาบพันปีหลากหลายสายพันธุ์แล้ว ยังมีน้ำพุร้อน และที่ปลายสุดของยอดเขาสูง “Zero Point” หุบเขาหิมะแห่งสิกขิมดินแดนสวยงามที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะมีความสูงถึง4,800เมตรจากระดับน้ำทะเล.......ช่วงที่เหมาะที่จะเที่ยวที่หุบเขายุมถังคือช่วงเดือนเมษายน–กลางเดือนมิถุนายนซึ่งจะเป็นช่วงที่ดอกไม้บานสวยงามมากแต่ถ้าหากอยากเห็นตอนภูเขาปกคลุมไปด้วยหิมะและท้องฟ้าสดใสเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงเดือนพฤศจิกาย– เดือนมกราคม ยกเว้นถ้ามีหิมะตกหนัก ก็ไม่สามารถขึ้นไปได้ ระหว่างการเดินทางผ่านความงดงามของธรรมชาติ ที่ได้สรรสร้างท้องฟ้าสีน้ำเงินสดโอบล้อมหุบเขา ที่เต็มไปด้วยหิมะในช่วงฤดูใบไม้ผลิระหว่างเดือนเมษายน ถึงพฤษภาคม ทั่วทั้งอาณาบริเวณของยุมถังจะเต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้นานาพันธุ์จนได้รับสมญานามว่า “หุบเขาแห่งดอกไม้” และเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลนไปตลอดทั้งปีและมีหิมะมากยิ่งขึ้นในฤดูหนาว อิสระถ่ายภาพความกับทรงจำอันสวยงามที่ไม่รู้ลืม จนได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่ หมู่บ้านลาชุง ระหว่างทางแวะจิบน้ำชากาแฟและของว่าท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงามของพุ่มดอกกุหลาบพันปีและพิมมูล่าแมคโนเลียระหว่างเส้นทางของหุบเขายุมถัง |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางสู่ เมืองกังต็อก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 - 6 ชั่วโมง) ชมแสงอาทิตย์ที่ทอแสงผ่านสายหมอกที่พาดพันขุนเขาสูงเปลี่ยนเป็นลำแสงพราวพรรณตกลงต้องหุบเขาและแม่น้ำทิสต้า “TESTA” ที่อยู่เบื้องล่างอิสระชมทิวทัศน์ระหว่างสองข้างทางที่สวยงาม ตลอดเส้นทางชมแสงอาทิตย์ที่ทอแสงผ่านสายหมอกที่พาดพันขุนเขาสูงเปลี่ยนเป็นลำแสงสีทองตกลงต้องกับหุบเขาและแม่น้ำทิสต้าที่อยู่เบื้องล่างอิสระชมทิวทัศน์ระหว่างสองข้างทางที่สวยงามตลอดเส้นทาง |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม |
ที่พัก | SUMMIT DENAONG (Gangtok) หรือเทียบเท่า |
วันที่ 8 | เมืองกังต๊อก - สิริกูรี (บักโดกรา) - กัลกัตต้า - กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 8 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานบักโดกรา เมืองสีลิกูรี (บักโดกรา BAGDOGRA) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 4 ชั่วโมง) |
10.30 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
12.15 น. | ออกเดินทางสู่ เมืองกัลกัตตา โดยสายการบิน INDIGO AITLINES เที่ยวบินที่ 6E958 |
13.40 น. | ถึง เมืองกัลกัตตา KOLKATA เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของอินเดีย หลังตรวจรับสัมภาระแล้ว นำท่านเข้าสู่ตัว เมืองกัลกัตต้า นำท่านชม (ด้านนอก) เมืองกัลกัตต้า สถาปัตยกรรมอันงดงามของ VICTORIA MEMORIAL HALL ที่มียอดโดมใหญ่สูงถึง 62 เมตร และบนยอดสุดมีรูปนางฟ้า กางปีกแสดงท่าบิน เวลาลดพัดหมุนรอบตัวเองได้ ซึ่งสร้างขึ้นเมืองปี 2449 ด้วยหินอ่อนสีขาวทั้งหลัง (ปีเดียวกับที่มีการก่อสร้างพระที่นั่งอนันตสมาคม) ภายในจัดแสดงประวัติศาสตร์ยุควิคตอเรียกับข้าวของที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์เบงกอล อิสระช้อปปิ้ง ย่าน New Market สิ้นค้าพื้นเมืองทั้งราคาส่ง - ปลีก ให้เลือกมาเป็นของฝากมากมาย อาทิ ผ้าพันคอแบบอินเดีย กำไล หลากหลายแบบราคาแบบเป็นของฝากเพื่อนที่บ้านได้สบายของอินเดียแท้ๆๆ จนถึงเวลานัดหมาย |
16.30 น. | นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเมืองกัลกัตต้า เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ อาหารค่ำแบบกล่อง ณ สนามบินเพื่อเพิ่มเวลาช้อปปิ้ง |
20.50 น. | เหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน INDIGO AITLINES เที่ยวบินที่ 6E77 (2050-0105+1) |
วันที่ 9 | กรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา เที่ยงคืน ) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 9 | |
01.05 น. | เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ |
ข้อแนะนำบางประการและต้องแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบก่อนการเดินทาง
ในส่วนของเวลา
โปรแกรมสิกขิม - ดาร์จีลิ่ง 9 วัน 7 คืน เนื่องจากเป็นตั๋วราคาพิเศษจึงไม่สามารถ REFUND ได้
*ผู้ใหญ่ (12 ปี ขึ้นไป) เด็ก (ต่ำกว่า 12 ปี) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการออกทัวร์กรณีมีผู้เดินทางไม่ถึง 16+ ท่าน ราคานี้สงวนสิทธิ์เฉพาะลูกค้าชาวไทยเท่านั้น
** รายการนี้เป็นเส้นทางกึ่งผจญภัย เหมาะสำหรับผู้เดินทางที่รักและหลงใหลในธรรมชาติอย่างแท้จริง และเส้นทางท่องเที่ยวบางครั้งขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและความปลอดภัยเป็นสำคัญ ***
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel