วันที่ 1 :: | กรุงเทพฯ - เดลลี (ประเทศอินเดีย) |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 :: | |
01.00 น. | คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 3 เคาน์เตอร์ สายการบิน SPICEJET (SG) โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้ความสะดวกแก่ท่าน กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน (แนะนำให้โหลดของที่ไม่จำเป็นลงใต้ท้องเครื่อง เพราะเจ้าหน้าที่อินเดียตรวจค่อนข้างละเอียด เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา แนะนำให้ถือเฉพาะกระเป๋าถือขนาดเล็กและของมีค่าขึ้นเครื่องเท่านั้น) |
03.50 น. | เหิรฟ้า สู่เมืองเดลลี (New Delhi) ประเทศอินเดีย (India) โดยสายการบิน SPICEJET (SG) เที่ยวบินที่ SG88 (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) **หมายเหตุ** สายการบิน SPICEJET ไม่มีบริการอาหาร เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง |
06.35 น. | ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธีร์ เมืองเดลลี (New Delhi) ตามเวลาท้องถิ่น ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระออกเดินทางเข้าสู่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศเพื่อต่อเครื่องเข้าสู่ เมืองศรีนาคา ( แคชเมียร์ ) |
08.30 น. | นำท่านเช็คอิน เพื่อเดินทางสู่ แคชเมียร์ |
11.15 น. | เหิรฟ้าสู่ เมืองศรีนาคา (Srinagar) เมืองหลวงของแคว้นจามมู (Jammu) และ แคชเมียร์ (Kashmir) โดยสายการบิน SPICEJET (SG) เที่ยวบินที่ SG130 (เครื่องบินแวะจอดเมืองจามูไม่ต้องลงจากเครื่อง) |
13.50 น. | เดินทางถึง สนามบินศรีนาคา (Srinagar) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและพร้อมรับสัมภาระแล้วนำท่านเดินทางสู่ พาฮาลแกม โดยขบวนรถโตโยต้าอีโนว่า (4-5 ท่าน/คัน) |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พาฮาลแกม ออกเดินทางจากศรีนาคาสู่ หมู่บ้านพาฮาแกม (Pahalgam) หรือหุบเขาแกะ แห่งแคชเมียร์เดิมเป็นหมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะ อยู่ห่างจากศรีนาการ์ออกไปอีก 90 กิโลเมตร เป็นสถานที่ที่ภาพยนตร์นิยมมาถ่ายทำกันที่นี่ ได้รับการขนานนามว่าเป็นเหมือน “สวิตเซอร์แลนด์” พาฮาลแกม คือในช่วงฤดูหนาวจะมีแต่หิมะปกคลุม อากาศหนาวเย็น น้ำในลำธารเย็นเฉียบ แม่น้ำสายย่อยๆจะบรรจบรวมกันเป็น “แม่น้ำลิดดาร์” (Liddar) เป็นแม่น้ำสายสำคัญในพาฮาลแกม นอกจากนี้ยังมีร้านค้าต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านขายเสื้อผ้าและสินค้าต่างๆโดยเฉพาะ หญ้าฝรั่น (Saffron) มีสรรพคุณลดโคเลสเตอรอลในร่างกาย มีขายอยู่ทั่วไปทั่วทั้งแคชเมียร์แต่ที่พาฮาลแกมคือแหล่งปลูกหญ้าฝรั่นที่ใหญ่ที่สุด มีคุณภาพดีกว่าที่อื่นนอกจากนี้ยังสามารถทำกิจกรรม ปิกนิก ตกปลา ขี่ม้าชมวิวรอบภูเขาหมู่บ้านที่อยู่บนที่มีความสูง 2,130 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ... ระหว่างทางแวะ ชมสวนแอปเปิ้ล ซึ่งฤดูกาลเก็บเกี่ยวแอปเปิ้ลจะเริมตั้งแต่เดือน กันยายน-พฤศจิกายน ของทุกปี ท่านจะได้สัมผัสกับสวนแอปเปิ้ลที่เต็มไปด้วยลูกแปอเปิ้ลสีแสง พร้อมกับชิมแอปเปิ้นที่ได้ชื่อว่าอร่อยที่สุดแห่งหน่งของโลก อินสระถ่ายรูปพร้อมชิมแอปเปิ้ลตามอัธยาศัย นำท่านอิสระ ชมเมืองพาฮาลแกม (Pahalgam) ที่นี่ คือ ดินแดนสรวงสวรรค์ของแคชเมียร์ นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศต่างยกย่องให้ ดินแดนแห่งนี้เป็นสถานที่ที่สวยที่สุดในโลก ซึ่งหากคุณยังไม่เชื่อก็ต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเองเท่านั้น……คำว่า พาฮาลแกม หมายถึง หมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะ (Village of Shepherds) หรือ หุบเขาแกะ และด้วยทัศนียภาพอันงดงามจนน่าทึ่งของพาฮาลแกม....ดินแดนแห่งนี้ได้รับความสนใจจากนักสร้างภาพยนตร์ จนกลายเป็นสถานที่มีชื่อเสียง ที่สุดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอินเดีย กิจกรรมเด่นพิเศษแนะนำ สุนกสนามกับการขี่ม้าชมหุบเขาพาฮาลแกม (Pahalgam) (ค่าม้าไม่รวมในรายการทัวร์ การขี่ม้าจะใช้เวลาไป-กลับประมาณ 1-2 ชั่วโมง ) หรือเลือกเดินเล่นซื้อสินค้าพื้นเมืองไม่มว่าจะเป็นผ้าพัชมีน่า เปเปอร์มาเช่ ชุดพื้นเมือง เครื่องประดับฯลฯ อิสระตามอัธยาศัย นัดเวลาทานอาหารเย็น |
ค่ำ | บริการอาหารเย็น ณ โรงแรม |
ที่พัก | Hotel Hill top***( หรือเทียบเท่า ) อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย |
วันที่ 2 :: | พาฮาแกม - หุบเขากุลมาร์ค - ศรีนาคา |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 :: | |
07.00 น. | บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมเรือ |
08.00 น. | ออกเดินทางโดยรถจิ๊บมุ่งหน้าสู่ กุลมาร์ค (Gulmarg) สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในแคชเมียร์ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็นภูเขาที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในแคชเมียร์ ในช่วงฤดูร้อนที่นี่จะเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟที่สูงที่สุดในโลก โดยรอบท่านจะได้พบเห็นกระท่อมรูปทรงแบบในเทพนิยาย และมีป่าสนเป็นฉากหลัง ที่นี่ยังสถานเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์อีกด้วย…… ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 -3 ชั่วโมง “กุลมาร์ค”เดิมเรียกเการิมาร์ค ตั้งโดยสุลต่าน ยูซุปชาร์ ในศตวรรษที่ 16 เนื่องจากที่นี่เป็นทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าตามฤดูกาล และในปัจจุบันยังเป็นสถานที่ตั้งของสนามกอล์ฟ 18 หลุมที่สูงที่สุดในโลก (3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล) และมีสถานที่เล่นสกีในฤดูหนาวด้วย ตลอดเส้นทางสู่กุลมาร์คจะผ่านทุ่งนาข้าว หมู่บ้านชาวพื้นเมือง ฝูงแกะตามภูเขา และเทือกเขาหิมะสลับซับซ้อนสวยงาม ชาวแคชเมียร์กล่าวขานว่าทุ่งหญ้าแห่งดอกไม้ เป็นเส้นทางที่มุ่งสู่ชายแดนปากีสถาน กุลมาร์คเป็นแหล่งท่องเที่ยวในฤดูหนาว มีระดับความสูง 2,730 เมตร จากระดับน้ำทะเล |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม |
13.00 น. | ไฮไลท์ของกิจกรรมและการท่องเที่ยวที่กุลมาร์ค นำท่านขึ้น เคเบิลคาร์เฟส 1 (กระเช้าลอยฟ้าหรือกอนโดลา) ขึ้นกระเช้ากอนโดล่าเป็นเคเบิลคาร์ไปเฟส1 ระหว่างทางท่านจะได้เห็นวิวของหิมะที่สวยงามพบเห็นหมู่บ้านยิปซี และหมู่บ้านของคนท้องถิ่น มองลงไปข้างล่างต้นสนระหว่างทางและหิมะที่สวยงามมาก เห็นวิวทิวเขาของเทีอกเขาหิมาลัยเมื่อถึงสถานีลงจากกระเช้าแล้ว ท่านจะพบลานหิมะขนาดใหญ่... อิสระให้ท่าน ถ่ายภาพคู่กับภูเขาหิมะ สวยงามรอบทิศทาง หากฟ้าเปิดสามารถมองเห็นยอดเขา K2 ที่สูงเป็นอันดับสองรองจากยอดเขาเอเวอร์เรส....ถ่ายรูป และเล่นกิจกรรมต่างๆในบริเวณนี้...สนุกสนานกับกิจกรรมนั่งเลื่อนหิมะหรือสกีได้ระหว่างฤดูใบไม้ผลิ มี.ค.-เม.ย. "กุลมาร์ค." เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนุ่งที่คุณไม่ควรพลาด… |
เย็น | บริการอาหารเย็น ณ โรงแรมบ้านเรือ อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย |
ที่พัก | DELUXE HOUSE BOAT ***อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย "บ้านเรือ" แคชเมียร์...วิมานบนดิน นักท่องเที่ยวในช่วงต้น คริสต์ศตวรรษที่ 20 มีบันทึกว่า...ขณะที่ ชีวิตยังมีลมหายใจความสุขบนพื้นพิภพในนี้ 1 ใน 50 อย่างที่ควรทำ คือเดินทางสู่ทะเลสาบดาล (Dal lake) แห่งแคว้นแคชเมียร์....แล้ว พักนอนใน House Boats...!!! อันเป็น วิมานบนดิน เกิดขึ้นในยุค ควีนส์วิคตอเรีย ซึ่งอังกฤษได้เข้ามา ครอบครองอินเดีย จึงพากันเข้ามาปักหลักโกยกอบทรัพยากรจากอาณานิคม โดยรุกจากพื้นที่ส่วนใต้ขึ้นไปจดเหนือ กระทั่งถึง แคว้นจัมมูแคชเมียร์ (JUMMU & KASHMIR) ติดกับเทือกเขาหิมาลัย |
วันที่ 3 :: | (แคชเมียร์) ศรีนาคา - โซนามาร์ค - ศรีนาคา |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 :: | |
07.00 น. | บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมบ้านเรือ |
08.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ โซนามาร์ค (Sonamarg) (ประมาณ 3 ชั่วโมง) อ้อมกอดหิมาลัยที่โซนามาร์ค ท้องทุ่งแห่งทองคำ Meadow of gold แห่งแคชเมียร์ สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,740 เมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันมีวิวทิวทัศน์อันสวยงาม อยู่บนเส้นทางระหว่างเมืองศรีนาคากับเมืองเลห์ ในบริเวณหุบเขาโซนามาร์กนี้มีธารน้ำแข็งสีขาวบริสุทธิ์ที่ปกคลุมอยู่ตามลาดไหล่เขา อีกทั้งเทือกเขาหิมะที่สะท้อนแสงแดดเป็นประกายสีทอง จึงเป็นที่มาของชื่อ โซนามาร์ค และยังมีเทือกเขาหิมาลัยเป็นฉากหลัง ที่เรียกขานตามท้องถิ่นว่า ทาจิวาส ภูเขาซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดปี มีแม่น้ำสินธุ ลดเลี้ยวผ่านหุบเขาในอีกฟากของถนน “โซนามาร์ค” เป็นสถานีเริ่มต้นที่จะมุ่งหน้าไปยังลาดัคห์ หรือเป็นรู้จักกันดีในชื่อว่า “ประตูสู่ลาดัคห์” เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่มีทิวทัศน์สวยงาม ตลอดสองข้างทาง ยังมี “ธารน้ำแข็งกราเซีย” (Thajiwas Glacier) ที่เกิดจากการทับถมของหิมะมายาวนาน ละลายเป็นธารน้ำแข็งตามแนวเขา....ตลอดเส้นทางจึงเป็นเส้นทางที่ให้ขับรถไปถ่ายรูปไป...เลยทีเดียว |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน แบบปิกนิก กลางภูเขาหิมะ ชมวิวที่กว้างไกลชนิดกล้องเก็บไม่หมด |
บ่าย | นำท่านเที่ยว ชม กราเซียน้ำแข็งโซนามาร์ค อิสระเดินชมธรรมชาติสัมผัสอากาศสบายๆ ชมวิวภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะและสองฟากฝั่งถนนที่เต็มไปด้วยธารน้ำแข็ง ถนนบางช่วงต้องตัดผ่านช่องน้ำแข็งขนาดใหญ่ ที่นี่จะมีกิจกรรมแบบแคชเมียร์ให้ท่านได้ลองหาประสบการณ์ โปรแกรมแนะนำ ...ท่านที่หลงใหลในธรรมชาติ สามารถขี่ม้าชมความงามของกลาเซียร์อย่างไกล้ชิดมากขึ้น หรือ สนุกการนั่งค่าขี่ม้า 600-800 รูปี (ไม่รวมในค่าทัวร์ โปรดสอบถามรายละเอียดจากหัวหน้าทัวร์) ได้เวลาพอสมควรเดินทางกลับสู่ ศรีนาคา นำท่านเดินทางไป สวนโมกุล (Mughal Gardens) สวนสวรรค์แห่งดอกไม้ ช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน ดอกไม้เมืองหนาวออกดอกชูช่ออย่างสวยงาม สวนโมกุล ได้แบ่งออกเป็นส่วนๆ 3 ส่วน ซึ่งภายในสวนมีการประดับตกแต่งในแบบสไตล์สวนเปอร์เซีย ซึ่งประกอบไปด้วย สระน้ำ ลำธารและแปลงไม้ดอก |
ค่ำ | บริการอาหารเย็น ณ โรงแรมบ้านเรือ... |
ที่พัก | DELUXE HOUSE BOAT ***อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย |
วันที่ 4 :: | (แคชเมียร์) ศรีนาคา - เดลลี - กรุงเทพ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 :: | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมบ้านเรือ นำท่านชม จามามัสยิด “Jama Masjid” ซึ่งสร้างเป็นครั้งแรกสมัยสุลต่านสิคานเดอร์ และบูรณะต่อมาอีกหลายสมัย เป็นมัสยิดที่สร้างด้วยรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบจีนและเนปาล ด้วยหลังคาทรงสี่เหลี่ยม ภายในมีเสาที่ตัดจากต้นซีดาลทั้งต้นกว่า 300 ต้น ได้เวลาสมควรก่อนกลับที่พัก |
09.00 น. | นำท่านชม จามามัสยิด “Jama Masjid” ซึ่งสร้างเป็นครั้งแรกสมัยสุลต่านสิคานเดอร์ และบูรณะต่อมาอีกหลายสมัย เป็นมัสยิดที่สร้างด้วยรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบจีนและเนปาล ด้วยหลังคาทรงสี่เหลี่ยม ภายในมีเสาที่ตัดจากต้นซีดาลทั้งต้นกว่า 300 ต้น ได้เวลาสมควรก่อนกลับที่พัก |
11.00 น. | บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรมบ้านเรือ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบินภายในประเทศเพื่อเดินทางกลับสู่ เมืองเดลลี |
14.40 น. | เหิรฟ้าสู่เมืองเดลลี (New Delhi) โดยสายการบิน SPICEJET (SG) เที่ยวบินที่ SG144 (เครื่องบินแวะจอดเมืองจามูไม่ต้องลงจากเครื่อง) |
17.15 น. | ถึงเมืองเดลลี (New Delhi) รับกระเป๋าสัมภาระ |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร เมืองเดลลี |
ที่พัก | HOTEL Sarovar Premier ***หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 :: | อัคระ - เดลลี - กรุงเทพ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 :: | |
07.00 น. | บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม |
08.00 น. | นำท่านชม ทัชมาฮาล (Taj Mahal) ทัชมาฮาล เมืองอัคราประเทศอินเดีย สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง สุสานหินอ่อนที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลกสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุลผู้มีรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์ ...ทัชมาฮาลถูกพิจารณาให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ในเมืองอาครา ส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ หลุมศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล ซึ่งถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมราและเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ได้รับคำรับรองว่าสร้างขึ้นด้วยสัดส่วนที่วิจิตรและงดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 100 เมตร สูง 60 เมตร มีผู้สร้างและออกแบบร่วม 20,000 คน การก่อสร้างกินเวลานานถึง 22 ปี ทัชมาฮาลมีเนื้อที่ประมาณ 42 เอเคอร์ เป็นที่ตั้งของมัสยิด มีหออาซาน (หอสูงสำหรับร้องแจ้งเวลาทำนมาซ) และมีสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ นายช่างที่ออกแบบ ชื่อ อุสตาด ไอซา ถูกประหารชีวิตเพื่อมิให้ไปออกแบบสถาปัตยกรรมใด ๆ ที่สวยกว่าได้ ชม พระราชวังอัคราฟอร์ด (Agra Fort) เป็นป้อมปราการประจำเมืองซึ่งสร้างเป็นกำแพงหินทรายสีแดง ตั้งตระหง่านสวยงาม ด้วยสถาปัตยกรรมแบบอัครา พระเจ้าอัคบาร์สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1565 และสร้างต่อเติมกันเรื่อยมาจนถึงรุ่นหลานคือ พระเจ้าชาร์เจฮาน กษัตริย์องค์ที่ 5 ของราชวงศ์โมกุล ซึ่งปรับเปลี่ยนจากป้อมปราการทางทหารมาเป็นพระราชวัง มีกำแพงสูงกว่า 20 เมตร และยาว 2.5 กิโลเมตร ภายในอัคราฟอร์ดมีห้องสวยงามที่สร้างด้วยหินอ่อนแกะสลักฝังโดยรอบ โดยเฉพาะห้องมุขแปดเหลี่ยม ซึ่งเป็นห้องที่มีความสำคัญที่สุดภายในพระราชวังแห่งนี้และภายในห้องนี้ท่านจะได้พบกับสถานที่ที่กษัตริย์ชาร์จาฮาถูกลูกชายจับมาขังไว้จนสิ้นพระชนน์ พระองค์ถูกกักขังอยู่ถึง 8 ปี จนกระทั่งสวรรคตในปี ค.ศ. 1666 ตามตำนานกล่าวว่าให้วันสุดท้ายของชีวิตพระองค์ใช้เวลาทั้งวันในการจ้องมองเศษกระจกที่สะท้อนภาพของทัชมาฮาล และสิ้นพระชนม์ด้วยเศษกระจกในกำมือ พระองค์ถูกฝังในทัชมาฮาล เคียงข้างพระมเหสีซึ่งพระองค์ไม่เคยลืม มีบางคนกล่าวว่าสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮัน มิได้ประสงค์ที่จะถูกฝังร่วมกับประมเหสี แต่พระองค์มีแผนการที่จะสร้างสุสานอีกแห่งด้วยหินอ่อนสีดำ เพื่อเป็นสุสานของพระองค์ แต่ผู้รู้หลายท่านเชื่อว่าพระองค์ประสงค์ที่จะถูกฝังเคียงข้างพระนางมุมตัซ มาฮาล |
12.00 น. | บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
13.00 น. | เดินทางสู่ เมืองเดลลี (ระยะทางประมาณ 203 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง แล้วแต่สภาพการจราจร) จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี ทำการเช็คอินเค้าเตอร์สายการบิน SPICEJET (SG) รับตั๋วเครื่องบิน และผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง เพื่อความสะดวกในการเช็คอินและผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย เพื่อความสะดวกในการเช็คอินและผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง |
21.05 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ ฯ โดย สายการบิน SPICEJET (SG) เที่ยวบินที่ SG87 (ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง ) |
วันที่ 6 :: | เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 :: | |
03.00 น. | ถึง...ท่าอากาศสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ…… |
Address
240/26 (A Tower) Ayothaya Building 16th Floor, Ratchadapisek Soi 18, Huay Kwang, BKK 10320
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel