แคชเมียร์ มงกุฎเพชรแห่งอินเดียที่สวยที่สุดในโลก
ชมความงามของ กุลมาร์ค และ โซนามาร์ค ที่มีทุ่งหญ้าเขียวขจีและเทือกเขาหิมะรายรอบ
ขึ้นกระเช้าลอยฟ้า ชมวิวภูเขาหิมะและหมู่บ้านยิปซี
ล่องเรือซิคาร่า ชมทะเลสาบและวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำ
ทัชมาฮาล อนุสรณ์แห่งรักนิรันดร์ 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ชมศิลปะชั้นเอกของยุคราชวงศ์โมกุล ณ พระราชวังอัคระฟอร์ด
นอนพัก พาฮาลแกม 1 คืน + ใส่ชุดพื้นเมือง ถ่ายรูปฟรี!!
วันที่ 1 | กรุงเทพฯ - เดลลี (ประเทศอินเดีย) |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
01.00 น. | คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 3 เคาน์เตอร์ สายการบิน SPICEJET (SG) โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยให้ความสะดวกแก่ท่าน กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน หมายเหตุ : แนะนำให้โหลดของที่ไม่จำเป็นลงใต้ท้องเครื่อง เพราะเจ้าหน้าที่อินเดียตรวจค่อนข้างละเอียด เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา แนะนำให้ถือเฉพาะกระเป๋าถือขนาดเล็กและของมีค่าขึ้นเครื่องเท่านั้น *****บริการชุดอาหารเช้า ณ สนามบินสุวรรณภูมิ**** |
03.50 น. | เหินฟ้าสู่ เมืองเดลลี (New Delhi) ประเทศอินเดีย โดย สายการบิน SPICEJET (SG) เที่ยวบินที่ SG88 (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) หมายเหตุ : สายการบิน SPICEJET ไม่มีบริการอาหาร |
06.25 น. | ถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธีร์ เมืองเดลลี (New Delhi) ตามเวลาท้องถิ่นผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระ (เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง) นำท่านออกเดินทางเข้าสู่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ เพื่อต่อเครื่องเข้าสู่ เมืองศรีนาคา |
08.30 น. | นำท่านเช็คอิน เพื่อเดินทางสู่ แคชเมียร์ |
11.25 น. | เหินฟ้าสู่ เมืองศรีนาคา (Srinagar) เมืองหลวงของแคว้นจามมู (Jammu) และ แคชเมียร์ (Kashmir) โดย สายการบิน SPICEJET (SG) เที่ยวบินที่ SG130 (เครื่องบินแวะจอดเมืองจามู ไม่ต้องลงจากเครื่อง) |
13.50 น. | เดินทางถึงสนามบินศรีนาคา (Srinagar) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและพร้อมรับสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางสู่ พาฮาลแกม โดยขบวนรถโตโยต้าอีโนว่า (4-5 ท่าน/คัน) |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตาคาร นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านพาฮาแกม (Pahalgam) หรือ หุบเขาแกะ แห่งแคชเมียร์เดิมเป็นหมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะ อยู่ห่างจากศรีนาการ์ออกไปอีก 90 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง เป็นสถานที่ที่ภาพยนตร์นิยมมาถ่ายทำกันที่นี่ ได้รับการขนานนามว่าเป็นเหมือน “สวิตเซอร์แลนด์” พาฮาลแกม คือในช่วงฤดูหนาวจะมีแต่หิมะปกคลุม อากาศหนาวเย็น น้ำในลำธารเย็นเฉียบ แม่น้ำสายย่อยๆจะบรรจบรวมกันเป็น “แม่น้ำลิดดาร์” (Liddar) เป็นแม่น้ำสายสำคัญในพาฮาลแกม นอกจากนี้ยังมีร้านค้าต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านขายเสื้อผ้าและสินค้าต่างๆโดยเฉพาะ หญ้าฝรั่น (Saffron) มีสรรพคุณลดโคเลสเตอรอลในร่างกาย มีขายอยู่ทั่วไปทั่วทั้งแคชเมียร์แต่ที่พาฮาลแกมคือแหล่งปลูกหญ้าฝรั่นที่ใหญ่ที่สุด มีคุณภาพดีกว่าที่อื่นนอกจากนี้ยังสามารถทำกิจกรรม ปิกนิก ตกปลา ขี่ม้าชมวิวรอบภูเขาหมู่บ้านที่อยู่บนที่มีความสูง 2,130 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ระหว่างทางแวะจอดรถถ่ายรูปกับวิวทิวทัศน์ที่งดงาม และสองข้างทางท่านจะผ่านพบวิถีชีวิตของชาวแคชเมียร์ที่หลากหลาย เช่นหมู่บ้านที่ทำ ครกหิน หมู่บ้านที่ทำไม้แบดสำหรับกีฬาคลิกเก็ต ที่เราจะพบเห็นชาวแคชเมียร์เล่นกีฬาประเภทนี้ได้ตามสนามทั่วไปไม้แบดนี้ทำมาจากต้นหลิว (Willow Tree) ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปทั้งในและนอกเมือง แต่จะพบเห็นได้มาก นอกจากนี้จะได้เห็นทุ่งโล่งๆ ซึ่งในฤดูใบไม้ร่วงประมาณเดือนตุลาคม ท้องทุ่งแห่งนี้เป็นแหล่งปลูกหญ้าฝรั้น หรือ Saffron ที่ใหญ่ที่สุด ลักษณะดอกจะเป็นสีม่วง ว่ากันว่าเกสรของหญ้า ฝรั้นมีสรรพคุณในการช่วยลดคลอเรสเตอรอลได้ดีตลอดสองข้างทางชมทิวทัศน์ที่สวยงาม |
บ่าย | นำท่าน อิสระชมเมืองพาฮาลแกม (Pahalgam คำว่า พาฮาลแกม หมายถึง หมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะ (Village of Shepherds) หรือ หุบเขาแกะ และด้วยทัศนียภาพอันงดงามจนน่าทึ่งของพาฮาลแกม ดินแดนแห่งนี้ได้รับความสนใจจากนักสร้างภาพยนตร์ จนกลายเป็นสถานที่มีชื่อเสียง ที่สุดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอินเดีย หรือเลือกเดินเล่นซื้อสินค้าพื้นเมืองไม่ว่าจะเป็น ผ้าพัชมีน่า เปเปอร์มาเช่ ชุดพื้นเมือง เครื่องประดับฯลฯ อิสระตามอัธยาศัย |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม |
ที่พัก | Hotel Hill top หรือเทียบเท่า |
วันที่ 2 | พาฮาแกม - หุบกุลมาร์ค - ศรีนาคา |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
07.00 น. | บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม |
08.00 น. | ออกเดินทางโดยรถโตโยต้าอีโนว่าสู่ กุลมาร์ค (Gulmarg) (คันละ 4-5 ท่าน) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง กุลมาร์ค(Gulmarg) สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในแคชเมียร์ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกเป็นภูเขาที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในแคชเมียร์ “กุลมาร์ค”เดิมเรียกเการิมาร์ค ตั้งโดยสุลต่าน ยูซุปชาร์ ในศตวรรษที่ 16 เนื่องจากที่นี่เป็นทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าตามฤดูกาล และในปัจจุบันยังเป็นสถานที่ตั้งของสนามกอล์ฟ 18 หลุมที่สูงที่สุดในโลก (3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล) และมีสถานที่เล่นสกีในฤดูหนาวด้วย ตลอดเส้นทางสู่กุลมาร์คจะผ่านทุ่งนาข้าว หมู่บ้านชาวพื้นเมือง ฝูงแกะตามภูเขา และเทือกเขาหิมะสลับซับซ้อนสวยงาม ชาวแคชเมียร์กล่าวขานว่าทุ่งหญ้าแห่งดอกไม้ เป็นเส้นทางที่มุ่งสู่ชายแดนปากีสถาน กุลมาร์คเป็นแหล่งท่องเที่ยวในฤดูหนาว มีระดับความสูง 2,730 เมตร จากระดับน้ำทะเลในช่วงฤดูร้อนที่นี่จะเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟที่สูงที่สุดในโลก โดยรอบท่านจะได้พบเห็นกระท่อมรูปทรงแบบในเทพนิยาย และมีป่าสนเป็นฉากหลัง ที่นี่ยังสถานเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์อีกด้วย |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม |
บ่าย | ไฮไลท์ของกิจกรรมและการท่องเที่ยวที่กุลมาร์ค นำท่านขึ้นเคเบิลคาร์เฟส 1 (กระเช้าลอยฟ้าหรือกอนโดลา) ขึ้นกระเช้ากอนโดล่าเป็นเคเบิลคาร์ไปเฟส 1 ระหว่างทางท่านจะได้เห็นวิวของหิมะที่สวยงามพบเห็นหมู่บ้านยิปซี และหมู่บ้านของคนท้องถิ่น มองลงไปข้างล่างต้นสนระหว่างทางและหิมะที่สวยงามมาก เห็นวิวทิวเขาของเทีอกเขาหิมาลัยเมื่อถึงสถานีลงจากกระเช้าแล้ว ท่านจะพบลานหิมะขนาดใหญ่ อิสระให้ท่าน ถ่ายภาพคู่กับภูเขาหิมะ สวยงามรอบทิศทาง หากฟ้าเปิดสามารถมองเห็นยอดเขา K2 ที่สูงเป็นอันดับสองรองจากยอดเขาเอเวอร์เรส ถ่ายรูป และเล่นกิจกรรมต่างๆในบริเวณนี้ สนุกสนานกับกิจกรรมนั่งเลื่อนหิมะหรือสกีได้ระหว่างฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-เม.ย.) รายการเสริม สำหรับบางท่านต้องการไปอีกจุดชมวิวท่านสามารถขึ้นกระเช้าไปยัง เฟสที่ K2 ได้ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และความปลอดภัยเป็นสำคัญ เฟสที่ K2 ไม่เหมาะสำหรับท่านที่มีสุขภาพไม่แข็งแรงหรือมีโรคประจำตัว เนื่องจาก K2 จะมีสภาพอากาศที่เบาบางกว่าปกติ จากนั้นกลับสู่ เมืองศรีนาคา ตามเส้นทางเดิม นำท่าน ล่องเรือซิคาร่า (เรือพายแบบแคชเมียร์) ชมความงดงามทะเลสาบ ให้ท่านได้ชื่นชมทัศนียภาพของเทือกเขาหิมะที่ล้อมรอบ ชมวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำ (ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 1 ชม.) รอบทะเลสาบ นกนานาชนิด พืชดอกไม้น้ำ ทะเลสาบใสสวยงาม สัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในทะเลสาบดาล เป็นชีวิตที่คู่กับสายน้ำอันเงียบสงบ โดยมีเรือเป็นพาหนะสำคัญของการสัญจรในทะเลสาบกว้างใหญ่ แต่งแต้มสีสันด้วยสวนผักลอยน้ำ และตลาดน้ำยามเช้าที่มีชีวิตชีวาพอดู ชีวิตของชาวแคชเมียร์จึงดำเนินไปไม่แตกต่างชาวเอเชียอื่นๆ ที่มีแม่น้ำลำคลอง เป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงชีวิต และท่านจะเพลินเพลินกับการ เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองของชาวแคชเมียร์ที่นำของมาขาย ให้ท่านได้เลือกซื้อในราคาตามอัธยาศัย |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมบ้านเรือ |
ที่พัก | โรงแรมเรือ DELUXE HOUSE BOAT |
วันที่ 3 | ศรีนาคา - โซนามาร์ค - ศรีนาคา |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
07.00 น. | บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมบ้านเรือ พิเศษ!! ใส่ชุดพื้นเมืองถ่ายรูปที่บ้านเรือมอบให้เป็นของที่ระลึกท่านละ 1 รูป |
08.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ โซนามาร์ค (Sonamarg) (ประมาณ 3 ชั่วโมง) อ้อมกอดหิมาลัยที่โซนามาร์คท้องทุ่งแห่งทองคำ Meadow of gold แห่งแคชเมียร์ สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,740 เมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันมีวิวทิวทัศน์อันสวยงาม อยู่บนเส้นทางระหว่างเมืองศรีนาคากับเมืองเลห์ ในบริเวณหุบเขาโซนามาร์กนี้มีธารน้ำแข็งสีขาวบริสุทธิ์ที่ปกคลุมอยู่ตามลาดไหล่เขา อีกทั้งเทือกเขาหิมะที่สะท้อนแสงแดดเป็นประกายสีทอง จึงเป็นที่มาของชื่อ โซนามาร์ค และยังมีเทือกเขาหิมาลัยเป็นฉากหลัง ที่เรียกขานตามท้องถิ่นว่า ทาจิวาส ภูเขาซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดปี มีแม่น้ำสินธ์ อีกฟากของถนน “โซนามาร์ค” เป็นสถานีเริ่มต้นที่จะมุ่งหน้าไปยังลาดัคห์ หรือเป็นรู้จักกันดีในชื่อว่า “ประตูสู่ลาดัคห์” เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่มีทิวทัศน์สวยงาม ตลอดสองข้างทาง ยังมี “ธารน้ำแข็งกราเซีย” (Thajiwas Glacier) ที่เกิดจากการทับถมของหิมะมายาวนาน ละลายเป็นธารน้ำแข็งตามแนวเขาตลอดเส้นทางจึงเป็นเส้นทางที่ให้ขับรถไปถ่ายรูปไปเลยทีเดียว |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน แบบปิกนิก |
บ่าย | นำท่านเที่ยวชม กราเซียน้ำแข็งโซนามาร์ค อิสระเดินชมธรรมชาติสัมผัสอากาศสบายๆ ชมวิวภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะและสองฟากฝั่งถนนที่เต็มไปด้วยธารน้ำแข็ง ถนนบางช่วงต้องตัดผ่านช่องน้ำแข็งขนาดใหญ่ ที่นี่จะมีกิจกรรมแบบแคชเมียร์ให้ท่านได้ลองหาประสบการณ์ (ในช่วงฤดูหนาว ธ.ค. - เม.ย.) โปรแกรมแนะนำ ท่านที่หลงใหลในธรรมชาติ สามารถขี่ม้าชมความงามของกลาเซียร์อย่างไกล้ชิดมากขึ้น หรือ สนุกการนั่งค่าขี่ม้า 600-800 รูปี (ไม่รวมในค่าทัวร์ โปรดสอบถามรายละเอียดจากหัวหน้าทัวร์) ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่ ศรีนาคา นำท่านเดินทางไป สวนโมกุล (Mughal Gardens) สวนสวรรค์แห่งดอกไม้ ช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน ดอกไม้เมืองหนาวออกดอกชูช่ออย่างสวยงาม สวนโมกุล ได้แบ่งออกเป็นส่วนๆ 3 ส่วน ซึ่งภายในสวนมีการประดับตกแต่งในแบบสไตล์สวนเปอร์เซีย ซึ่งประกอบไปด้วย สระน้ำ ลำธารและแปลงไม้ดอก ชม สวนนิชาท (Nishat) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุด มีต้นเมเปิลอายุกว่า 400 ปี ต้นปอปลาร์ ต้นทิวลิป และดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล ตั้งอยู่ริมทะเลสาบดาล มีภูเขา Zabarwan ซึ่งตั้งเป็นฉากหลัง ชม สวนชาลิมาร์ (Shalimar Garden) เป็นสวนดอกไม้ที่สร้างขึ้นสมัยราชวงศ์โมกุล ก่อสร้างโดยจักรพรรดิ JEHANGIR เพื่อภรรยา Nur Jehan และเมืองศรีนาคา แคชเมียร์ เป็นที่มีชื่อเสียงในการจัดสวนตามแบบสมัยของราชวงศ์โมกุล เนื่องจากภูมิอากาศเย็นเหมาะสม ในการเจริญเติบโตของต้นไม้ ดอกไม้เมืองหนาว จึงกลายเป็นที่ประทับพักผ่อนของกษัตริย์ราชวงศ์โมกุลในอดีต ชมต้นเมเปิลอายุกว่า 400 ปี ต้นปอปลาร์ ดอกทิวลิป และดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล นำท่านชม โรงงานพรมเปอร์เซีย ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่ บ้านเรือในทะเลสาบ บ้านเรือนี้ถือกำเนิดจากสมัยที่เจ้าผู้ครองแคว้นแคชเมียร์ยังครองอำนาจกับ อังกฤษที่เข้ามาปกครองอินเดีย และไม่อนุญาตให้อังกฤษมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน คนอังกฤษจึงหาทางออกด้วยการสร้างบ้านเรือลอยลำอยู่ในทะเลสาบแทน |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมบ้านเรือ |
ที่พัก | โรงแรมเรือ DELUXE HOUSE BOAT |
วันที่ 4 | ศรีนาคา - เดลลี - อัคระ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
08.00 น. | บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมบ้านเรือ |
09.00 น. | นำท่านชม จามามัสยิด “Jama Masjid” ซึ่งสร้างเป็นครั้งแรกสมัยสุลต่านสิคานเดอร์ และบูรณะต่อมาอีกหลายสมัย เป็นมัสยิดที่สร้างด้วยรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบจีนและเนปาล ด้วยหลังคาทรงสี่เหลี่ยม ภายในมีเสาที่ตัดจากต้นซีดาลทั้งต้นกว่า 300 ต้น |
11.00 น. | บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรมบ้านเรือ นำท่านเดินทางสู่สนามบินภายในประเทศ เพื่อเดินทางกลับสู่ เมืองเดลลี |
14.40 น. | เหินฟ้าสู่ เมืองเดลลี (New Delhi) โดย สายการบิน SPICEJET (SG) เที่ยวบินที่ SG144 (เครื่องบินแวะจอดเมืองจามู ไม่ต้องลงจากเครื่อง) |
17.15 น. | ถึง เมืองเดลลี (New Delhi) รับกระเป๋าสัมภาระ |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร เมืองเดลลี |
18.30 น. | เดินทางสู่ เมืองอัคระ (ระยะทาง 203 กิโลเมตรเดินทางประมาณ 4 - 5 ชั่วโมง แล้วแต่สภาพการจราจร) อัคระอดีตเมืองหลวงของอินเดียในสมัยที่ยังเรียกว่า "ฮินดูสถาน" (Hindustan) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมนา (Yamuna) ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ถึงอัคระ นำท่านเข้าสู่ที่พัก อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย |
ที่พัก | HOTEL Sarovar Premier หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | อัคระ - เดลลี - กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
07.00 น. | บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม นำท่านชม ทัชมาฮาล (Taj Mahal) สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง สุสานหินอ่อนที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลกสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุลผู้มีรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์ ทัชมาฮาลถูกพิจารณาให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ในเมืองอาครา ส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ หลุมศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล ซึ่งถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมราและเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ได้รับคำรับรองว่าสร้างขึ้นด้วยสัดส่วนที่วิจิตรและงดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 100 เมตร สูง 60 เมตร มีผู้สร้างและออกแบบร่วม 20,000 คน การก่อสร้างกินเวลานานถึง 22 ปี ทัชมาฮาลมีเนื้อที่ประมาณ 42 เอเคอร์ เป็นที่ตั้งของมัสยิด มีหออาซาน (หอสูงสำหรับร้องแจ้งเวลาทำนมาซ) และมีสิ่งก่อสร้างอื่นๆ นายช่างที่ออกแบบ ชื่อ อุสตาด ไอซา ถูกประหารชีวิตเพื่อมิให้ไปออกแบบสถาปัตยกรรมใดๆที่สวยกว่าได้ ชม พระราชวังอัคราฟอร์ด (Agra Fort) เป็นป้อมปราการประจำเมืองซึ่งสร้างเป็นกำแพงหินทรายสีแดง ตั้งตระหง่านสวยงาม ด้วยสถาปัตยกรรมแบบอัครา พระเจ้าอัคบาร์สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1565 และสร้างต่อเติมกันเรื่อยมาจนถึงรุ่นหลานคือ พระเจ้าชาร์เจฮาน กษัตริย์องค์ที่ 5 ของราชวงศ์โมกุล ซึ่งปรับเปลี่ยนจากป้อมปราการทางทหารมาเป็นพระราชวัง มีกำแพงสูงกว่า 20 เมตร และยาว 2.5 กิโลเมตร ภายในอัคราฟอร์ดมีห้องสวยงามที่สร้างด้วยหินอ่อนแกะสลักฝังโดยรอบ โดยเฉพาะห้องมุขแปดเหลี่ยม ซึ่งเป็นห้องที่มีความสำคัญที่สุดภายในพระราชวังแห่งนี้และภายในห้องนี้ท่านจะได้พบกับสถานที่ที่กษัตริย์ชาร์จาฮาถูกลูกชายจับมาขังไว้จนสิ้นพระชนน์ พระองค์ถูกกักขังอยู่ถึง 8 ปี จนกระทั่งสวรรคตในปี ค.ศ. 1666 ตามตำนานกล่าวว่าให้วันสุดท้ายของชีวิตพระองค์ใช้เวลาทั้งวันในการจ้องมองเศษกระจกที่สะท้อนภาพของทัชมาฮาล และสิ้นพระชนม์ด้วยเศษกระจกในกำมือ พระองค์ถูกฝังในทัชมาฮาล เคียงข้างพระมเหสีซึ่งพระองค์ไม่เคยลืม มีบางคนกล่าวว่าสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮัน มิได้ประสงค์ที่จะถูกฝังร่วมกับประมเหสี แต่พระองค์มีแผนการที่จะสร้างสุสานอีกแห่งด้วยหินอ่อนสีดำ เพื่อเป็นสุสานของพระองค์ แต่ผู้รู้หลายท่านเชื่อว่าพระองค์ประสงค์ที่จะถูกฝังเคียงข้างพระนางมุมตัซ มาฮาล นำท่าน ช้อปปิ้งสินค้าหัตถกรรม และงานฝีมือพื้นเมือง อาทิเช่นผ้าไหมอินเดียเครื่องประดับ อัญมณี ไม้จันทร์หอมแกะสลัก ผลิตภัณฑ์จากหินอ่อน ของตกแต่งประดับบ้าน |
12.00 น. | บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
13.00 น. | เดินทางสู่ เมืองเดลลี (ระยะทางประมาณ 203 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 - 5 ชั่วโมง แล้วแต่สภาพการจราจร) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี ทำการเช็คอินเค้าเตอร์สายการบิน SPICEJET (SG) รับตั๋วเครื่องบิน และผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง |
ค่ำ | **อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย ณ สนามบิน เพื่อความสะดวกในการเช็คอินและผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง** |
21.05 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน SPICEJET (SG) เที่ยวบินที่ SG87 (ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง) |
วันที่ 6 | กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
03.00 น. | เดินทางถึง ท่าอากาศสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ |
หมายเหตุ : อนึ่งกรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ทราบถึงการโอนเงินของท่าน ทางโทรศัพท์หรือทางไลน์ เพื่อส่งหลักฐานการโอนเงินของท่านเพื่อเป็นประโยชน์แก่ท่าน
การยกเลิก
ยกเลิกช่วงเทศกาล
Address
240/26 (A Tower) Ayothaya Building 16th Floor, Ratchadapisek Soi 18, Huay Kwang, BKK 10320
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel