ชม "วัดสตสหัสสาราม" วัดแห่งแรกในนครเวียงจันทน์
"วังเวียง" เมืองที่นักท่องเที่ยวขนานนามว่า "กุ้ยหลินเมืองลาว"
ชมสัมผัสธรรมชาติ สัมผัสอากาศดีๆ โดยการ "ล่องเรือแม่น้ำซอง"
ขึ้นบัน 328 ขั้น นมัสการ "พระธาตุพูสี" เจดีย์ธาตุคู่เมืองของชาวหลวงพระบาง
ชม "ตลาดเช้าหลวงพระบาง" อิสระซื้อสินค้าพื้นเมือง ณ "ตลาดค่ำ"
** พักโรงแรมระดับ 4 ดาว **
วันที่ 1 | กรุงเทพฯ(สนามบินดอนเมือง) - เวียงจันทน์ - วัดสีสะเกด - พระธาตุหลวง - ประตูชัย - วังเวียง |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
10.10 น. | คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง อาคาร 1 ออกชั้น 2-3 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน แอร์เอเชีย (Air Asia) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกจัดเตรียมเอกสารการเดินทางและสัมภาระให้กับท่าน หมายเหตุ |
12.50 น. | บินลัดฟ้าสู่ เมืองเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยสายการบิน แอร์เอเชีย (Air Asia) เที่ยวบินที่ FD1040 (ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง) |
14.00 น. | เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติวัตไต เมืองเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว นําท่านเดินทางสู่ วัดสีสะเกด หรือ วัดสตสหัสสาราม พระราชวังหลวงของกษัตริย์ลาวสมัยก่อน วัดสีสะเกดสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2094 โดยพระเจ้าโพธิสารราช พระบิดาของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ในพุทธศตวรรษที่ 16 สาเหตุที่ได้ชื่อว่าวัดสีสะเกดเพราะอยู่ใกล้กับพระราชวังหลวง พระเจ้าแผ่นดินลาวทุกพระองค์นับแต่พระเจ้าโพธิสารราชผู้สร้างนครหลวงเวียงจันทน์ ทรงบรรทมหันศีรษะมาทางวัดนี้เพื่อแสดงความเคารพต่อพระรัตนตรัย เพราะมีพระพุทธรูปสำคัญของล้านช้างประดิษฐานอยู่หลายองค์ รวมทั้งพระแก้วมรกตที่ทรงอัญเชิญไปจากเชียงใหม่ ดังนั้นวัดนี้จึงถูกเรียกว่า "วัดสีสะเกด" คือวัดที่พระเจ้าแผ่นดินทรงบรรทมหันพระเศียร(ศีรษะ)ไปยังที่ตั้งวัด จากนั้นนำท่านชม พระธาตุหลาง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประตูชัยเป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติลาวมีความหมายต่อจิตใจของประชาชนชาวลาวอย่างใหญ่หลวงแทนถึงความเป็นเอกราชและอำนาจอธิปไตยของลาวสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 เป็นเจดีย์ที่มีลักษณะโดดเด่นที่สุดในอาณาจักรล้านช้างเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมในพระพุทธศาสนากับสถาปัตยกรรมของอาณาจักรมีลักษณะคล้ายป้อมปราการมีการก่อสร้างระเบียงสูงใหญ่ขึ้นโอบล้อมองค์พระธาตุไว้พร้อมกับทำช่องหน้าต่างเล็กๆเอาไว้โดยตลอด ประตูทางเข้าเป็นบานประตูไม้ใหญ่ลงรักสีแดงรอบๆองค์พระธาตุยังมีเจดีย์บริวารล้อมอยู่โดยรอบ นำท่านชม ประตูชัย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของนครเวียงจันทน์บนถนนล้านช้างจะไปสิ้นสุดที่บริเวณประตูชัย สร้างเสร็จในปี พ.ศ.2512เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวที่สละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติพรรคคอมมิวนิสต์ประตูชัยมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า รัยเวย์แนวตั้งเพราะการก่อสร้างนี้ใช้ปูนซีเมนส์จากประเทศอเมริกาที่ซื้อมาเพื่อสร้างสนามบินใหม่ในเวียงจันทน์ในระหว่างสงครามอินโดจีนแต่พ่ายเสียก่อนจึงได้นำมาสร้างประตูชัยแทนเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะล้านช้างกับฝรั่งเศสเข้าด้วยกันอย่างงดงามและกลมกลืนอย่างยิ่ง สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางต่อไปยัง วังเวียง อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวใน แขวงเวียงจันทน์ ห่างจากเวียงจันทน์ประมาณ 160 ก.ม. วังเวียง เมืองในลุ่มน้ำซองที่เงียบสงบโอบล้อมไปด้วยขุนเขากับสายหมอกยามเช้าที่สวยที่สุด ดังคำล่ำลือที่นักท่องเที่ยวขนานนามว่า "กุ้ยหลินเมืองลาว" |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | THE GRAND RIVERSIDE HOTEL ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า |
วันที่ 2 | ล่องแม่น้ำซอง - หลวงพระบาง - พระธาตุพูสี - ตลาดไนท์บาร์ซ่า |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่าน ล่องเรือแม่น้ำซอง ชมธรรมชาติและเก็บภาพบรรยากาศตลอดสองข้างทาง จากนั้นเดินทางไปยัง เมืองหลวงพระบาง ระหว่างทางจะเห็นวิถีชีวิตของชาวลาวสองข้างถนนที่ตั้งบ้านเรือนแตกต่างกันออกไป การเดินทางจะไต่ระดับขึ้นสู่ที่สูงสลับที่ลาดเชิงเขา ท่านจะได้พบเห็นป่าไม้และทิวทัศน์ที่สวยงามประกอบกับภูเขาหินปูนที่มีรูปร่างต่างๆ แปลกตาสวยงามและยังคงสามารถรักษาธรรมชาติไว้ได้อย่างดีและสร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางต่อไปยัง หลวงพระบาง อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยว ห่างจากวังเวียงประมาณ 182 ก.ม. หลวงพระบางเป็นเมืองที่ขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งมรดกโลก |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | จากนั้นนำท่านขึ้นสู่ เขาพูสี ขึ้นบันได 328 ขั้น นมัสการ พระธาตุพูสี เจดีย์ธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวหลวงพระบาง ตลอดทางขึ้นท่านจะได้รับความกลิ่นหอมจากดอกจำปาลาว (ดอกลีลาวดี) ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติลาว |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารค่ำอิสระเดินเที่ยวชม ตลาดค่ำ (NIGHT MARKET) บนถนนศรีสว่างวงศ์ ตั้งแต่หน้าพระราชวังจนสุดถนน ให้ท่านได้เลือกชมเลือกซื้อสินค้าในบรรยากาศแบบหลวงพระบางยามราตรี มีทั้งเสื้อยืดสกรีนเป็นภาษาลาว, ผ้าคลุมไหล่, กระเป๋าถือ, เครื่องประดับ, โลหะเกะสลัก, ภาพเขียน ฯลฯ จุดเด่นคือ สินค้าแทบทุกชิ้นเป็นสินค้าแฮนด์เมดของชาวบ้านแท้ๆ วางจำหน่ายในราคาที่ต่อรองกันได้ อีกทั้งยังมีเบเกอรี่ต่างๆ เพื่อให้ท่านได้ลิ้มลอง และขนมเค้กอันแสนอร่อยนานาชนิด หากท่านใดจะเลือกซื้อของใส่บาตรในเช้าวันรุ่งขึ้นก็สามารถจัดแจงหาซื้อได้เช่นกัน |
ที่พัก | CHICHAREUNE MOUANGLUANG HOTEL ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | ตักบาตรข้าวเหนียว - ตลาดเช้า - วัดใหม่สุวรรณภูมาราม - พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง - ศูนย์เครื่องเงิน - วัดเชียงทอง - วัดวิชุนราช - หลวงพระบาง - กรุงเทพฯ(สนามบินดอนเมือง) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้าตรู่ | นำท่าน ใส่บาตรข้าวเหนียว พร้อมกับประชาชนชาวหลวพระบาง ซึ่งพระสงฆ์และสามเณรจากวัดต่างๆทั่วเมืองหลวงพระบางจะออกบิณฑบาตเป็นแถวนับร้อยรูป ซึ่งเป็นภาพอันน่าประทับใจและสื่อถึงความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของชาวเมืองหลวงพระบาง (ค่าทำบุญ ไม่รวมในรายการ) จากนั้นให้ท่านเดินชม ตลาดเช้าของชาวหลวงพระบาง ซึ่งเป็นตลาดสดให้ท่านเลือกซื้ออาหารพื้นเมืองและชมของป่า ซึ่งของป่าบางชนิดก็แปลกตาและเป็นที่สนใจของเหล่านักท่องเที่ยวผู้มาเยือน |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านชม วัดใหม่สุวรรณภูมาราม เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์สุดท้ายของลาวและยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระพุทธรูปคู่เมืองหลวงพระบางในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินฤทธิ์ จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2437 จึงได้อัญเชิญพระบางไปประดิษฐานในหอพระบางภายในพระราชวังจวบจนกระทั่งปัจจุบัน เมื่อมาเยือนวัดแห่งนี้สิ่งที่เราจะสังเกตเห็นถึงความแตกต่างจากวัดอื่นๆ คือ ตัวอุโบสถ (สิม) ลักษณะจะเป็นอาคารทรงโรง หลังคามีขนาดใหญ่ มีชายคาปกคลุมทั้งสี่ด้านสองระดับต่อเนื่องกัน ผนังด้านหน้าพระอุโบสถตกแต่งด้วยภาพลงรักปิดทองดูเหลืองอร่ามงามตายาวตลอดผนัง เล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดก โดยฝีมือช่างหลวงประจำรัชกาลเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ จากนั้นนำท่านเดินชม พระราชวังหลวงพระบาง (พิพิธภัณฑ์) ลักษณะอาคารเก่าที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส สถาปัตยกรรมฝรั่งเศสผสมผสานวัฒนธรรมลาว ด้านนอกอาคารเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ พระราชวังแห่งนี้อดีตนั้นเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2518 พระราชวังหลวงพระบาง ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในเป็นที่ประดิษฐานของ “พระบาง” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
นำท่านเข้าสู่ ศูนย์เครื่องเงิน ให้ท่านได้ชมงานฝีมือการทำเครื่องเงิน และเครื่องประดับของใช้ต่างๆ ที่มีการออกแบบไว้อย่างสวยงามเป็นสินค้าส่งออกที่มีชื่อเสียงของลาว จากนั้นนำท่านสู่ วัดเชียงทอง ซึ่งเป็นวัดที่สำคัญและมีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งจนได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็นดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว วัดเชียงทองถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ผนังภายในปิดทองฉลุบนพื้นรักสีดำ เล่าเรื่องพุทธประวัติพระสุธน-มโนราห์ ทศชาติชาดกและภาพนิทานเพื่อนบ้าน พระประธานมีชื่อว่า “พระองค์หลวง”นอกจากวัดเชียงทองจะมีพระอุโบสถที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านช้างแล้ว การตกแต่งลวดลายตามผนังภายในมีการตบแต่งด้วยการนำกระจกสีมาตัดต่อกันเป็นรูปต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ ด้านข้างก็ติดเป็นรูปสัตว์ในวรรคดี ยามบ่ายที่แสงแดดส่องสะท้อนลงมาดูสวยงาม นำท่านเดินทางสู่ วัดวิชุนราช ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าวิชุนราช (พ.ศ. 2046) นับเป็นอีกหนึ่งพระธาตุที่ชาวหลวงพระบางให้ความนับถือ ซึ่งเป็นพระธาตุที่มีรูปทรงคล้ายกับลูกแตงโมผ่าครึ่ง ชาวหลวงพระบางจึงเรียกชื่อ พระธาตุหมากโมนี้มาจนถึงปัจจุบัน เดินทางสู่ สนามบินนานาชาติหลวงพระบาง เพื่อนำท่านเดินทางกลับสู่ประเทศไทย | |
15.50 น. | บินลัดฟ้าสู่ กรุงเทพฯ(สนามบินดอนเมือง) โดยสายการบิน แอร์เอเชีย (Air Asia) เที่ยวบินที่ FD1031 (ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง) |
17.20 น | เดินทางถึง สนามบินนานาชาติดอนเมือง ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ |
Address
240/26 (A Tower) Ayothaya Building 16th Floor, Ratchadapisek Soi 18, Huay Kwang, BKK 10320
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel